It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
24 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 
ธรรมะสวัสดียามเช้าที่ 24/11/2558


อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 200

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้ เหมือนถูกนำมาโยนลงในนรก ธรรม ๔ ประการ คือ บุคคลผู้มีกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต และเป็นมิจฉาทิฏฐิ ผู้ที่ประพฤติธรรม ๔ ประการนี้เหมือนถูกโยนลงในนรก"
ทิฏฐิสูตร

นรกเป็นอบายภูมิสำหรับคนทำบาป เมื่อละโลกไปแล้วจะต้องไปทนทุกข์ทรมาน เสวยวิบากกรรมที่ตัวเองทำเอาไว้ นรกที่อยู่ลึกที่สุด คืออเวจีมหานรก ไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่มหาตาปนนรก ตาปนนรก มหาโรรุวนรก โรรุวนรก สังฆาตนรก กาฬสุตตนรก สัญชีวนรก แต่ละขุมนี่ใหญ่มาก เป็นภพๆ หนึ่งที่กักขังสัตว์นรกเอาไว้เหมือนเป็นเมืองนรก แต่เขาเรียกว่า ขุมนรก มีทั้งหมด 456 ขุม การถูกทรมานของมหานรกแต่ละขุม ก็แตกต่างกันไป ตามแต่กรรมชั่วที่เคยทำเอาไว้ในสมัยที่เป็นมนุษย์

อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 201

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนพาลนั่นแล ประพฤติทุจริตทางกาย ทางวาจา ทางใจแล้ว เมื่อแตกกายทำลายขันธ์ ตายไปแล้วย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก "
พาลบัณฑิตสูตร

ชีวิตในสังสารวัฏนี้ เป็นชีวิตที่เสี่ยงภัยมาก เพราะเมื่อเราเกิดมาแล้ว หากต้องอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการสร้างบุญบารมี เราอาจจะพลั้งพลาดไปทำบาปอกุศล และเมื่อต้องละโลกแรงกรรมก็จะส่งผลให้ไปสู่อบายภูมิ ซึ่งเป็นภพภูมิที่ปราศจากความสุขความเจริญ เจอแต่ความทุกข์ทรมาน กว่าจะได้กลับมาสู่เส้นทางที่ดีเหมือนเดิมก็ต้องใช้เวลายาวนานมาก เพราะแม้สัตว์นรกสิ้นกรรมแล้ว โอกาสที่จะไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉานก็มีมาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสอุปมาไว้ว่า โอกาสที่สัตว์นรกจะกลับมาเกิดในภพภูมิที่ดีมีน้อย เหมือนฝุ่นในเล็บมือเมื่อเทียบกับฝุ่นในมหาปฐพี แต่โอกาสที่จะไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉานมีมากกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้เลย

อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 203

"นรชนผู้มีอันจะต้องตายเป็นสภาพ ระลึกถึงความดีที่ตนได้ทำแล้วนี้ ย่อมตั้งอยู่ในอริยธรรมในปัจจุบันนี้เอง บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญนรชนนั้น นรชนนั้นละโลกนี้ไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสุคติโลกสวรรค์"
ปัตถกัมมสูตร

ก่อนที่เราจะหลับตาลาโลก กายมนุษย์ละเอียดจะถอดออกจากร่าง เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของเรา เพราะเป็นเหมือนการเลือกเส้นทางชีวิตใหม่และสรุปชีวิตว่า เกิดมาในภพชาตินี้เป็นบุคคลผู้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงหรือไม่ ศึกชิงภพงบดุลชีวิต จะเปิดบัญชีบุญหรือบัญชีบาปก็อยู่ตรงนี้ บางคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองตาย ก็กลายเป็นสัมภเวสีที่ล่องลอยไปมาหาที่เกิด แต่อย่างไรก็ตามถ้านึกถึงบุญได้ บุญก็นำไปสุคติ หากบาปอกุศลตามมาทัน ก็ต้องถูกยมทูตพาเอาตัวไปให้พญายมราชตัดสินคดีความ

ดังนั้นเราควรเร่งสั่งสมบุญให้ปลื้มๆให้ใจใสๆกันดีกว่า อย่าได้ไปเจอพญายมราชเลย

อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 209

“คนโกรธมีผิวพรรณทราม ย่อมนอนเป็นทุกข์ ถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์แล้ว กลับปฏิบัติสิ่งอันไม่เป็นประโยชน์ ทำปาณาติบาตด้วยกาย และวาจา ย่อมถึงความเสื่อมทรัพย์ ผู้มัวเมาเพราะความโกรธ ย่อมถึงความไม่มียศ ญาติมิตรและสหาย ย่อมเว้นคนโกรธเสียห่างไกล คนผู้โกรธย่อมไม่รู้จักความเจริญ ทำจิตให้กำเริบ ภัยที่เกิดมาจากภายในนั้น คนผู้โกรธย่อมไม่รู้สึก คนโกรธย่อมไม่รู้อรรถ ไม่เห็นธรรม ความโกรธย่อมครอบงำนรชนในขณะใด ความมืดตื้อย่อมมีในขณะนั้น คนผู้โกรธย่อมก่อกรรมที่ทำได้ยากเหมือนทำได้ง่าย ภายหลังเมื่อหายโกรธแล้ว เขาย่อมเดือดร้อนเหมือนถูกไฟไหม้”

กิเลสทั้ง 3 ตระกูล เป็นทางมาแห่งมลทินในจิตใจ เพราะให้สร้างบาปอกุศล มีแต่ความเดือดร้อนวุ่นวายอยู่เป็นนิตย์ บุคคลผู้ต้องการพ้นจากอกุศลธรรม ต้องบำเพ็ญเพียรสร้างความดี ประพฤติปฏิบัติธรรม ลดละเลิกกิเลสทั้งหลายเหล่านี้ให้ได้ ด้วยการปฏิบัติธรรม เป็นหนทางหลุดพ้น
หากบุคคลใดมีจิตใจที่มืดมน ตกอยู่ในกระแสของกิเลสอาสวะ ไม่ประพฤติธรรม ยังละอกุศลธรรมไม่ได้ บุคคลนั้นย่อมมีแต่ความทุกข์และความลำบากในการดำเนินชีวิต แม้ละโลกไปแล้วก็ต้องทุกข์ต่อในอบายภูมิ


อรุณสว่างยามเช้า กับ พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 210

“ ใครทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่วก็ตาม ตนจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น”

หลักของกรรมมีอยู่ว่า
"เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ" แปลว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม ฉะนั้น" ถ้าไม่มีเจตนาก็ไม่เรียกว่าเป็นกรรม หรือถ้าเป็นกรรม ก็ไม่ส่งผลรุนแรงเท่ากับการกระทำที่มีเจตนาแรงกล้า
เหมือนตัวอย่างที่เด็กทารกไร้เดียงสา มีพ่อแม่เป็นสัมมาทิฏฐิ จึงปรารถนาจะปลูกฝังสิ่งที่ดีงามเช่นนี้ให้กับลูก เวลาทำบุญตักบาตร ก็จับมือทารกที่ยังไม่รู้อะไรเลย ให้ถวายทานแก่พระสงฆ์ หรือเวลาเห็นพระผ่านมา ก็สอนให้พนมมือไหว้ ทั้งๆ ที่ใจของลูกนั้นก็ยังไม่รู้อะไรเลย แต่ว่ากุศลกรรมที่ทำลงไปนั้น ย่อมให้ผล แม้จะทำแบบไม่รู้เรื่องเลยก็ตาม กุศลกรรมที่สักแต่ว่าทำนั้น เป็นกรรมที่มีกำลังอ่อน แม้อกุศลก็เช่นกัน ถึงจะไม่ตั้งใจทำแต่ก็ให้ผล แต่ว่ามีกำลังอ่อน ขึ้นอยู่ที่เจตนาเป็นหลัก

Cr: https://goo.gl/Gs1tiR
ขอบคุณ แต่งบล็อก ภาพแต่งบล็อกจาก คุณ กุ๊กไก่...


Create Date : 24 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2558 5:16:37 น. 7 comments
Counter : 1794 Pageviews.

 
เตยจ๋า Dharma Blog ดู Blog
อนุโมทนาบุญใหญ่ในวันพรุ่งนี้ด้วยจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 24 พฤศจิกายน 2558 เวลา:7:19:28 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เตยจ๋า Dharma Blog ดู Blog

-------------------------

ธรรมะสวัสดีค่า
ได้อ่านธรรมะเตือนสติทุกวัน
ขอบคุณมากเลยค่ะ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 24 พฤศจิกายน 2558 เวลา:9:58:54 น.  

 
พุทธพจน์เตือนใจ ตอนที่ 200-203 ... น่ากลัวเหมือนกันนะคะ

ละอาย เกรงกลัวต่อบาป ไม่กล้าทำบาป โลกเราคงน่าอยู่มากขึ้น

ยังเชื่อว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" ค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เตยจ๋า Dharma Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 24 พฤศจิกายน 2558 เวลา:14:54:47 น.  

 
สวัสดีค่าคุณเตย
ธรรมมะสวัสดียามเช้า
น่าสนใจตอนมนุษย์ถอดร่างก่อนไป
หาภพภูมิใหม่ ความรู้หลายอย่างเลย
กลับมาอัพงานแล้วดีใจจัง ฝันดีนะค่ะ
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เตยจ๋า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: mastana วันที่: 24 พฤศจิกายน 2558 เวลา:21:05:42 น.  

 
สุขสันต์วันลอยกระทงค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
เตยจ๋า Dharma Blog ดู Blog


โดย: ALDI วันที่: 25 พฤศจิกายน 2558 เวลา:5:00:02 น.  

 
ขอบคุณโหวตจากบล็อกแสตมป์ค่ะ คุณเตยจ๋า


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2558 เวลา:16:30:56 น.  

 
สวัสดีคุณเตย

ป่าแถบที่เราอยู่ไม่มีอะไรมากไปกว่าต้นไม้คันๆประเภท
poison ivy poison oak อ่ะค่ะ
ไม่ถึงกับเป็นพิษมากมาย อย่างมากก็คันคะเยอประหนึ่งโดนตำแยแบบบ้านเราน่ะ

คิคิคิ

ปล..เทศกาลมาแล้ว เราจะหายไปหลายวันเลยค่าแล้วคุยกันใหม่นะคะ


โดย: anigia วันที่: 25 พฤศจิกายน 2558 เวลา:22:41:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.