|
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
29 สิงหาคม 2553 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
คนอื่นรื่นรมณ์เขียนบล๊อคกันแต่ความสุข.เราซีกลับจมในห้วงทุกข์โถมทวี
ก็อย่างที่จั่วหัวแหละ ไซเบอร์เค้ามีมาให้คนใช้ได้ทำอะไรๆได้เยอะแยะตาแป๊ะยิ้ม คิดนึกอะไรได้ก็พิมพ์ พิมพ์ พิมพ์ จิ้มมันได้ไม่กี่นิ้วกันเนี่ยเรา เรียนก็ไม่สูงถึงขนาดจะพิมพ์สัมผัสตรัสรู้ไม่เคยมี เลยต้องนิ้งมันสอง-สามนิ้ว..กว่าจะได้แต่ละประโยคงี้..เมื่อยนัยตา
ก็ไม่ใช่จะอะไรกับความเป็นไปของชีวิต เกิดมาแล้วตั้ง"ห้าสิบหก"ชะตาฟ้าไม่ได้ลิขิต ก็ชีวิตเราที่พ่อแม่รักกัน"ฉันก็เกิดมา"นั่นแล มาแบบธรรมชาติ ติดดิน กินนอนเล่นกับโคลนแต่อ้อนแต่ออก ก็ไม่เห็นจะอับอายที่จะบอกจะเล่าเรื่องเราแก่ใครๆ
อันชีวิตแต่ละสาขานานาบรรดามีบนผืนโลก บ้างก็มีสุข,มีโศกปนเศร้า,ทุกข์หนักเบาตามกาลเวลา แต่ช่วงนาทีนี้หนากำลังจะบอกเล่าว่าเรานั้นกำลังโดน"กรรมตามสนอง" อันว่า"กรรม"แปลว่า"การกระทำ"ไม่ต้องตอกย้ำก็รู้ว่า"กรรมใครก็กรรมมัน" จะมีใครที่ไหนกันที่ทำกรรมอะไรๆแล้วจะมีใครมาแก้ไขให้ไฉไลเลี่ยมเร้
พอจะเล่าเรื่อง"เลวร้าย"ให้ใครต่อใครยินยล จะมีใครสักกี่คนจะบ่น"น่าเบื่อ"ไร้สาระบ้างนะ..อยากรู้ เพาะเห็นสังคม"ไซเบอร์"มักมีแต่เรื่อง"สวย-เชิด-เริด-หรูอลังการ"กันทั้งเพ แต่เราจะแหลกแนว..เอา"ชีวิตบัดซบ"มาแถไถเปิดความนัยกันจะจะ
ก็บ้านที่เกิดอยู่บ้านนอกแต่ไม่ถึงกะทำนาทำไร่ เกิดชนบทแต่เสือกสบาย..ตื่นเช้าสะพายกระเป๋าไปเนียน"ตัวอำเภอ"โน่น ต้องขึ้นรถไปไกลๆไขว่หาความรู้..โรงเรียนใกล้บ้านไม่หรูไม่เอาไม่เข้าที เรียนก็โง่ๆเซ่อๆเอออห่อหมกไปเรื่อยเฉื่อยแฉะ จบมอ.ศอ.สามเท่านั้นแหละ ไปแวะเรียนครูอยู่พิษณุโลก จบสองปีออกสู่โลกภายนอกไม่ต้องบอก"ครูบ้านนอก"ดั่งที่ร่ำเรียน
เป็นครูก็เป็นไปงั้นๆวันๆให้เด็กคัดเขียนไทยไปตามเรื่อง ตกเย็นก็หาเรื่องเปลืองร่างกาย..เมามายสติเสีย พอแต่งงานมีเมียมีลูก ก็ยังไม่ฟื้นสติริอ่านเกเร เสียงานราชการเสียครอบครัวแตกแยกสาแหรกขาดสะบั้น ออกจากบ้านซัดเซพเนจรร่อนเร่ทำงานไปตามยถากรรม นึกแล้ว นั่นแหละ"กรรมชั่ว"ที่เมามัวหลงอบายหลงอวัยวะสาวนตน
พอออกสังคมใหญ๋ในเมืองกรุง ใครจะมายุ่งใครจะสน มันแค่"คนไร้ค่า"สัปดน..คนไม่มีหัวนอน ยังดีที่พอมีสติ..ริรักเรียนวิชา"ดนตรี" เฝ้าแอบฝึกปรือตั้งหลายที่หลายทางที่ผ่านพบ แต่กับ"ความมึนเมา"มันเหมือนถูกสาบมีบาปเป็นเพื่อนนรก เกลือกกลั้วกับความสกปรกรกรุงรังสังคังกับสังคมกลางคืน
เหมือนไม่มีจุดหมายปลายทางที่จะมองเห็น เรื่องเจ้าชู้ก็ไม่วายเว้นระยะที่ผ่านมันสนุกสนาน คนนั้นทีคนนี้ทีมันเหมือนท้าทายชีวิตลูกผู้ชายอวตาร ท่องไปแบบ"ลืมสังขาร"ไม่เจียมตัวและหัวใจ
ทิ้งลูกทิ้งเมียไม่รู้เท่าไรเป็นเท่าไร มีกี่คนจำแทบไม่ได้ก็สมองมันเป็นไปเสียหมด ใส้มีกี่ขดไม่อยากจะดึงออกมาหมดให้มันขดแอบซ่อน กว่าจะหยุดร่อนเร่พเนจร..ก็เกือบถึง"อายุอ่อนโรยรา"
แต่ก๋ยังแอบปลื้มตัวเองที่ยังบรรเลงเพลงได้อยู่ บังเอิญมีสติที่รับรู้มีสำนึกอยู่บ้างในครั้งนี้ อายุ"40"หยุดพฟติกรรม"ชั่วลงได้เยอะไม่เปลอะไปกว่าเดิม เลิกความคิดเหิมเกริมท้าทายนรกหมกไหม้ พอลืมตาอ้อปากออก..เลยมาบอกใครๆ ว่า"คนชั่ว"มันก็มีหัวใจที่"อยากเห็นฟ้าสดใสก่อนตายก็จะดี
Create Date : 29 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 29 สิงหาคม 2553 14:53:22 น. |
|
4 comments
|
Counter : 4256 Pageviews. |
|
|
|
โดย: คนชอบสังขยา IP: 110.49.59.237 วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:15:17:11 น. |
|
|
|
โดย: หน่อยอิง วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:21:44:08 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|