เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน และมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว จัดเสวนา "จับตา พ.ร.บ.กองสลากฉบับใหม่ ปล่อยเสือเข้าบ้าน หวยบานเต็มเมือง" ชี้ประเทศไทยอยู่ในภาวะเสี่ยง...
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ในการเสวนา "จับตา พ.ร.บ.กองสลาก ฉบับใหม่ ปล่อยเสือเข้าบ้าน หวยบานเต็มเมือง" จัดโดยเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน และมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว นายมณเฑียร บุญตัน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการปฏิรูประบบการบริหารจัดการสลากในประเทศไทย วุฒิสภา กล่าวถึงการออก พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลฉบับที่
พ.ศ.2517 ขึ้นใหม่ ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรกลางเดือนหน้าว่า จะเป็นการเปิดโอกาสให้กองสลากเพิ่มรูปแบบผลิตภัณฑ์การพนันใหม่ๆ เช่น หวยตู้ หวยขูด หวยกีฬา ฯลฯ กลายเป็นเจ้ามือพนันรายใหญ่ของสังคมไทยเป็นช่องทางหาเงินของรัฐ ที่ได้มาจากการหลอกล่อคนจน ขณะเดียวกันโครงสร้างการบริหารจัดการของกองสลากยังกระจุกตัว ขาดธรรมาภิบาล เพราะมีกรรมการเพียง 1 ชุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายการเมือง สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดข้อสงสัยตามมา ทั้งนี้ประเทศไทยอยู่ในภาวะเสี่ยงอย่างมากในการกระโจนลงหลุมดำ ทำให้ประเทศชาติหายนะได้ จึงต้องปลดล็อกความคิดเรื่องนี้
ขณะที่ ดร.วิเชียร ตันศิริคงคล ประธานหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า การแก้ พ.ร.บ.สำนักงานสลาก 2517 เอื้อประโยชน์ทำให้กองสลากสามารถออกผลิตภัณฑ์ หรือหวยรูปแบบอื่นๆ ได้มากขึ้น รู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลคำนึงเฉพาะผลประโยชน์ว่าเงินจะเข้ารัฐเท่าไหร่ มีผลิตภัณฑ์ตอบสนองต่อลูกค้าเท่าไหร่ โดยไม่มองถึงปัญหาที่จะตามมา ซึ่งแทนที่รัฐจะหันมาปราบการพนันข้างนอกให้น้อยลงเรื่อยๆ แต่กลับปล่อยเสืออีกตัว คือ พ.ร.บ.สลากใหม่ ที่เป็นเสือหิว อันตราย ทำให้คนไทยตกเป็นเหยื่อของเสือที่มีกฎหมายรองรับ
ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ กรรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก กล่าวว่า พ.ร.บ.สลากฉบับใหม่ดีไซน์แบบคนถังแตก โดยนำคนกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ ซึ่งเป็นคนของรัฐบาลเข้าไปนั่งทั้งที่ไม่สันทัด ขณะที่องค์ประกอบของกรรมการก็มีจุดตาย คือได้รับแต่งตั้งให้นั่งไปเรื่อยๆ กันจนรากงอก ที่น่าห่วงคือให้อำนาจในการออกสลากทุกรูปแบบได้ จึงอยากเสนอให้มีกรรมการระดับนโยบายอีกชุดคอยกำกับตรวจสอบบอร์ด นอกจากนี้องค์ประกอบกรรมการต้องมีวาระ 2 ปี และอยู่ไม่เกิน 2 วาระ ส่วนการควบคุมไม่ให้มอมเมาเยาวชน ก็ควรนำหลักเกณฑ์ผู้ซื้อ อายุ ขอบเขตเวลา เทียบเคียงจาก พ.ร.บ.สุรา มากำหนดเกณฑ์ห้ามจำหน่ายเยาวชนต่ำว่า 18 ปี และมีบทลงโทษผู้จำหน่ายอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวถือว่าส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก จึงต้องคัดค้าน เพื่อให้มีการนำไปสู่การทำประชาพิจารณ์ รับฟังความคิดเห็นที่รอบด้าน.