ยินดีต้องรับเข้าสู้ "ห้องพระ" ห้องที่รวบรวมข้อมูลวัตถุมงคล เพื่อประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการเสริมดวงชะตา ลดเคราะห์กรรม เพิ่มบารมี เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม ทุกรุ่น ทุกแบบ ล้วนมีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ต่อบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย
Group Blog
 
<<
เมษายน 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
1 เมษายน 2557
 
All Blogs
 
ประวัตุิการสร้างสมเด็จองค์ปฐม รุ่น ๕ ที่ระลึกฉลองสมณศักดิ์พระภาวนากิจวิมล

หลังจาก หลวงพ่อพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูปลัดสุวัฒนสมาธิคุณ เป็นที่คาดการณ์กันภายในว่าตำแหน่งนี้พระผู้ใหญ่ท่านน่าจะมอบให้เพื่อรองรับการเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ทางคณะสงฆ์วัดท่าซุงจึงได้หารือกันและได้มีมติให้จัดสร้างพระเพื่อเป็นที่ระลึกในการรับสมณศักดิ์ครั้งนี้ โดยสร้างเป็นรูปจำลองสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐม และได้ให้ช่างแกะพิมพ์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔ แล้วเสร็จเดือนกันยายนปีเดียวกัน

จากนั้นนำมาให้ช่างหล่อทำการถอดพิมพ์และหล่อเป็นเนื้อเงินออกมาจำนวนประมาณ ๔๐ องค์ เพื่อนำมาคัดเลือกหาองค์ที่มีความสมบูรณ์ไม่มีตำหนิ ได้ประมาณ ๑๐ องค์ นำมายิงเรเซอร์ตัวหนังสือ ยันต์และอักขระต่างๆ ที่ฐานด้านหน้า ด้านหลังและใต้ฐาน แล้วจึงคัดองค์ที่งามที่สุด ๒-๓ องค์ มาเป็นแม่พิมพ์สุดท้าย ขั้นตอนนี้ในสถานการณ์ปกติจะใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ทำให้งานล่าช้าไปมาก กว่าจะตั้งเครื่องเริ่มทำงานได้ก็ราวปลายเดือนธันวาคม แต่เนื่องจากองค์พระและเส้นยันต์มีลายละเอียดมากทำให้เกิดปัญหาหล่อติดบ้างไม่ติดบ้าง

ทางวัดจึงขอให้ช่างทำให้สมบูรณ์ที่สุด ทางช่างเองก็พยายามแก้ปัญหาโดยสั่งซื้อเครื่องใหม่มาลง ก็พอแก้กันไปได้ทีละส่วน งานก็พอเดินไปได้ ปัญหาตรงนี้แตกต่างจากการสร้างสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๔ ครั้งนั้นหล่ออย่างไรก็ไม่ติด(ช่างเจ้าเดียวกัน) จนต้องนำบายศรีไปกราบขออนุญาตสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมที่วิหารอย่างเป็นทางการ ปรากฏว่าหล่อติดทุกองค์รวมถึงองค์ที่ทำพิมพ์สำรองไว้ก็ติดสมบูรณ์ทั้งหมด พอมารุ่นนี้หล่อได้ แต่จำนวนไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ค่อยๆขยับไปได้ทีละนิด จนช่างต้องขอให้ทางวัดลองหาโรงงานอื่นเผื่อไว้ เพราะมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้จำนวนตามที่ต้องการ

ทางวัดได้ติดต่อช่างที่มีชื่อเสียงอีก ๒ แห่ง หนึ่งในนั้นเป็นช่างที่วงการสร้างพระให้การยอมรับว่าเป็นมือ ๑ ในการสร้างพระกริ่งระดับประเทศ ได้ทำการทดลองหล่อพระตัวอย่างมาดูทั้ง ๒ แห่ง ปรากฏว่าสู้ช่างที่หล่อเจ้าแรกไม่ได้จึงเป็นอันล้มเลิกไป เดินหน้าหล่อเจ้าเดียวให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่จะว่าเจ้าเดียวก็ไม่เชิง เพราะระหว่างที่หาช่างเสริม ทางวัดได้ลองให้โรงงานเอเชียไฟน์อาร์ทที่หล่อพระพุทธไสยาสน์ให้กับทางวัด ลองหล่อตัวอย่างดู ปรากฏว่าช่างที่ทำแต่งานใหญ่ๆ มาตลอด สามารถหล่อพระองค์เล็กๆ ได้ละเอียดงดงามไม่แพ้ใคร และดูเหมือนจะหล่อได้ดีกว่าช่างเจ้าแรกด้วยซ้ำ แต่ติดปัญหาตรงที่ว่าไม่สามารถเร่งปริมาณได้ จึงทำให้มีเนื้อสัมฤทธิ์นอกมาแค่เพียงส่วนหนึ่ง สำหรับ โรงงานเอเชียไฟน์อาร์ท นั้นนอกจากจะหล่อเนื้อสัมฤทธิ์นอกแล้ว ทางวัดยังได้มอบหมายให้สร้างด้วยเนื้อโลหะพิเศษขึ้นมาจำนวนหนึ่ง 

โดย คุณพงศ์พิชญ์ วงศ์โสภณศิริ เป็นผู้รวบรวมโลหะต่างๆมูลค่ากว่า ๕ แสนบาท ถวายวัดสำหรับใช้ในการจัดสร้าง ได้พระจำนวนประมาณ ๑,๐๐๐ องค์ และเหลือเนื้อโลหะที่เป็นชนวนอีกส่วนหนึ่ง

โลหะต่างๆ นั้น คุณพงศ์พิชญ์ ได้เก็บรวบรวมมาเป็นระยะเวลาหลายปี โดยแรกเริ่มตั้งใจสร้างเป็นเนื้อนวโลหะซึ่งประกอบด้วยโลหะ ๙ ชนิดประกอบกัน แต่ภายหลังมีโอกาสได้เก็บโบราณวัตถุต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนพระพุทธรูปสมัยโบราณ เงินสัมฤทธิ์โบราณ และโบราณวัตถุที่มีคุณค่าอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อหล่อเป็นองค์พระออกมาแล้ว ทำให้มีสีสันที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แต่มีปัญหาอย่างหนึ่งคือ พระส่วนใหญ่จะหล่อได้ไม่ค่อยสมบูรณ์นัก ถึงแม้จะหล่อแบบสุญญากาศแล้วก็ตาม เนื่องจากส่วนผสมของโลหะมีความหนืดกว่าปกติทั่วไปมาก และเนื้อพิเศษนี้อุดใต้ฐานองค์พระด้วยมวลสารที่เจ้าภาพถวายมาโดยเฉพาะ อาทิเช่น ผงชิ้นส่วนพระเบญจภาคี ครบ ๕ วัด เป็นต้น จำนวน ๒ กระปุก โดยใช้มวลสารของหลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นมวลสารหลัก 

ในส่วนเงินสัมฤทธิ์โบราณที่นำมาหลอมสร้างพระในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเงินโบราณของประเทศจีนที่มีอายุนับพันปี หลากหลายราชวงศ์ แต่ที่มากเป็นพิเศษได้แก่ ราชวงศ์โจว (ยุคหลัง) อายุประมาณ ๑ พันปีเนื่องจากมีประวัติความเป็นมาแตกต่างจากเงินของราชวงศ์อื่นๆ กล่าวคือ ช่วงระยะเวลาที่ราชวงศ์นี้ขึ้นปกครองประเทศจีนนั้น มีศึกสงครามต่อเนื่อง ฮ่องเต้จึงคิดวิธีหาเงินใช้จ่ายในการรบ โดยนำพระพุทธรูปตามวัดต่างๆมาหลอมเป็นเงิน ท่ามกลางการทัดทานของเหล่าขุนนาง แต่ฮ่องเต้ก็สามารถยกเหตุผลมาอธิบายจนทุกคนไม่อาจปฏิเสธได้ และคาดว่าน่าจะเป็นเหตุประการหนึ่งที่ทำให้ราชวงศ์โจวอยู่ได้เพียง ๙ ปี ก็ล่มสลาย

เมื่อราชวงศ์ใหม่ขึ้นมาปกครองประเทศมีการผลิตเงินรุ่นใหม่มาใช้แทน ประชาชนจึงนำเหรียญเงินของราชวงศ์โจวมาใช้แขวนติดตัวเพื่อเป็นเครื่องรางป้องกันภัย และที่นิยมกันมากคือนำมาแช่น้ำเพื่อทำน้ำมนต์สำหรับดื่มรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ จนเป็นที่ร่ำลือกันมากถึงความศักดิ์สิทธิ์ในยุคนั้น และนับได้ว่าเป็นเหรียญที่ใช้ทำน้ำมนต์ที่เก่าแก่ที่สุดที่มีการบันทึกไว้ ปัจจุบันเหรียญจำนวนมากได้แปรสภาพเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา หลงเหลืออยู่ในรูปโบราณวัตถุจำนวนหนึ่ง ซึ่งคุณพงศ์พิชญ์ได้รวบรวมกลับมาถวายคืนเป็นของสงฆ์เพื่อใช้สร้างพระในครั้งนี้ด้วย

หลังพิธีพุทธาภิเษก ( ๒๘ มค. ๕๕ ) แล้ว ทางวัดได้เร่งช่างให้สร้างพระต่อทันที แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมปริมาณให้เป็นไปตามต้องการได้ จึงหาช่างเจ้าอื่นให้ช่วยกันทำไปพร้อมๆกัน ซึ่งคราวนี้พอมีเวลาในการคัดเลือกช่างให้เหมาะสมกับงาน โดยมีข้อกำหนดว่าต้องได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ ซึ่ง โรงงานเอเชียไฟน์อาร์ท นั้นคุณภาพเป็นที่ยอมรับ แต่ทางวัดต้องเร่งงานสร้างพระพุทธบาทลายลักษณ์ ๑๐๘ และพระพุทธไสยาสน์เนื้อสัมฤทธิ์ ความยาว ๘ ศอก ให้แล้วเสร็จ จึงได้ตัดงานเล็กออกไปเพื่อให้งานใหญ่เดินได้เต็มที่ หลังจากเสาะหากันพักใหญ่

ในที่สุดจึงมอบหมายให้ บริษัทแพรนด้าจิวเวลรี่ จำกัด(มหาชน) ดำเนินการสร้างควบคู่กันไป (แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นอีกหลายเท่าก็ตาม) โดยใช้ต้นแบบองค์เดียวกัน ซึ่งทางโรงงานได้ขออนุญาตแก้ไขพิมพ์ทรงบางส่วน โดยถอดพิมพ์หล่อเป็นเนื้อทองคำ แล้วให้ช่างแต่งรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนพระพักตร์ พระเศียร ซุ้มและฐาน เพื่อให้ได้พุทธลักษณะใกล้เคียงกับองค์ใหญ่ที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้เททองสร้างไว้ เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๕ ให้มากที่สุด

ในพิธีพุทธาภิเษกครั้งหน้า ( ๒๓ มิย. ๕๕ ) โรงงานทั้ง ๒ แห่งก็รับปากว่าจะพยายามให้ได้ปริมาณมากที่สุด แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ไม่ค่อยไว้วางใจ เนื่องจากการสร้างสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมนั้น ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มักจะไม่เป็นไปตามจำนวนที่ต้องการนัก เช่น สมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๑ เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๕ สั่งสร้าง ๓๐,๐๐๐ องค์ ได้จำนวน ๓,๐๐๐ องค์ รุ่น ๒ สั่งสร้าง ๓๐,๐๐๐ องค์ ได้จำนวน ๑๐,๐๐๐ องค์ เป็นต้น สำหรับรุ่นฉลองสมณศักดิ์พระภาวนากิจวิมลนั้นสั่งสร้างจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์ เพิ่งได้มาประมาณ ๑๐,๐๐๐ กว่าองค์ แม้ใจลึกๆจะเชื่อว่าจำนวนที่แน่นอนคงถูกกำหนดไว้แล้ว แต่คณะทำงานก็จะใช้ความพยายามในการตามงานช่างหล่อให้มากที่สุดที่จะพึงทำได้ก่อน เมื่อถึงที่สุดแล้วได้เท่าไรก็คงต้องยอมรับ
สมเด็จองค์ปฐมสมเด็จองค์ปฐม
ภาพจาก 

//www.web-pra.com/Shop/Tha-Sung/Show/570004

รายละเอียดอักขระ สมเด็จองค์ปฐมที่ระลึกฉลองสมณศักดิ์พระภาวนากิจวิมล

ป้ายชื่อฐานด้านหน้าและฐานด้านหลัง เป็นยันต์ท่านปู่พระอินทร์
มีคาถาบารมี ๓๐ ทัศ (ย่อ) อยู่โดยรอบ ๔ ด้าน
อิติ ปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติ โพธิมะนุปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม
สมเด็จองค์ปฐม

เสาซุ้มเรือนแก้ว
ด้านซ้ายเป็นยันต์ ๕
ด้านขวาเป็นยันต์เฑาะ
ใต้ฐานก้านถ้วย
ด้านในพัดยศ : ปิ ( ปิโยเท วะ มนุสสานัง เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย )
บรรทัดบน : พุท ธะ สัง มิ ( พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังคัจฉามิ เป็นคาถาปลุกผ้ายันต์พิชัยสงคราม)
บรรทัดล่าง : อะ สิ สะ ติ เป็นคาถาพระพุทธเจ้าห้ามอาวุธ

ซึ่งอยู่ในยันต์มหาพิชัยสงคราม เป็นบทที่พระพุทธเจ้าทรงตรัส ขณะที่เทวทัตให้นายขมังธนูมาดักยิง แต่ไม่สามารถทำอันตรายพระพุทธองค์ได้ และได้กลับมาศรัทธาเลื่อมใสในที่สุด“ อสิสัตติธนูเจวะ สัพเพเตอาวุธา นิจะ ภัคคะภัคคาวิจณณานิ โลมังมา เม นะผุสสันติ ”

สมเด็จองค์ปฐม
ที่มา 

//goo.gl/yhj3GC


สมเด็จฯ องค์ปฐม รุ่น ๕ เสาร์ ๕ ฉลองสมณศักดิ์ วัดท่าซุง เนื้อทองเหลือง

ที่มา //goo.gl/KCgz1e

สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 5

สมเด็จองค์ปฐมรุ่น 5

ฐานกว้าง ๑.๔ ซ.ม. สูง ๒.๕ ซ.ม


สมเด็จฯ องค์ปฐม รุ่น ๕ เสาร์ ๕ ฉลองสมณศักดิ์ วัดท่าซุง

งานแพรนด้าเนื้อทองระฆัง

ที่มา //goo.gl/DGI4NZ

สมเด็จองค์ปฐม รุ่น 5

สมเด็จองค์ปฐมรุ่น 5

ฐานกว้าง ๑.๔ ซ.ม. สูง ๒.๕ ซ.ม


เข้าพิธีพุทธาภิเษก ๒ ครั้ง คือ วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๕ ซึ่งเป็นวันเสาร์ ๕ (ขึ้น ๕ ค่ำ) ตรงกับฤกษ์พหรมประสิทธิ์ ถือเป็นอมฤตโชค และวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ วิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร วัดท่าซุง โดยมีลูกแก้วยอดจักรพรรดิ์และลูกแก้วราหูเป็นองค์ประธาน

ในอดีตหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้กล่าวว่า พระสมเด็จองค์ปฐมนี้มีลาภดีนักหนา และชนะมาร ผู้ใดที่อาราธนาสมเด็จองค์ปฐมไว้บูชา หากใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ก็ดี อมนุษย์ก็ดี หรือสัตว์ร้ายก็ดี มีจิตคิดร้ายกับเรา จะร้อนรุ่มจนทนไม่ได้ต้องถอยไปในที่สุด 

พระกริ่งสมเด็จองค์ปฐม ทำให้เกิดความมั่นใจมาก อาจหาญ สง่าผ่าเผย ไม่มีอาการประม่าตื่นเต้นมาก (จนควบคุมไม่ได้ และไม่มีเลย) มีความรู้สึกว่าเรายิ่งใหญ่ เป็นผู้นำ ...ต้องอาราธนาขอให้ท่านคลุมบนศรีษะ หรือทั้งตัว เหมือนตอนที่ครูแนะนำมโนมยิทธิ จนเกิดอาการ สั่น ศรีษะมึน และตัวหนัก ร้อนผ่าววูบวาบ ร่างกายเหมือนถูกคลุม หรือเหมือนมีพระนั่งคลุมบนศรีษะ หรือจับเป็นภาพนิมิตให้เห็นชัด (เท่าที่ทำได้) ที่มา //www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=906




Create Date : 01 เมษายน 2557
Last Update : 1 เมษายน 2557 13:56:02 น. 0 comments
Counter : 9850 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 1274472
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 1274472's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.