Bloggang.com : แลเยี่ยมเยือนสุข : แลเยี่ยมเยือนสุข ฉบับที่ 21 ไปเยือน Springfield @Sea หาดชะอำ

แลเยี่ยมเยือนสุข ฉบับที่ 21 ไปเยือน Springfield @Sea หาดชะอำ

&monthSpringfield @ Sea Cha-am
ถ้าพูดถึงรีสอร์ตในกลุ่มของ Springfield ชื่อของ Springfield Village คงเคยสร้างความประทับใจใน การออกแบบโดยเฉพาะสระว่ายน้ําและห้องพักที่กว้างขวางให้กับหลายๆท่านที่เคยไปพักมาแล้ว ถึงแม้ที่ Springfield Village จะมีสนามกอล์ฟและมีขนาดที่ใหญ่แต่ก็มีจุดด้อยคือไม่ติดทะเล Springfield @Sea คือรีสอร์ตที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ต้องการมาตรฐานห้องพักแบบ Springfield และ ติดกับทะเล โดยรีสอร์ตแห่งนี้จะอยู่ในส่วนของทะเลชะอําติดกับร้านสังเวียนซีฟู๊ด ถึงแม้ตัวรีสอร์ตจะมีถนน เล็กๆกั้นก่อนถึงทะเล แต่หน้าหาดของที่นี่ก็มีหาดทรายที่กว้างน่าเดินน่าเล่นทราย ห้องพักและสระว่ายน้ําที่ ออกแบบได้สวยงามทําให้ที่นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งรีสอรต์ที่น่าสนใจกับหลายๆท่านพอสมควร รายละเอียด
แต่ละส่วนจะเป็นอย่างไรบ้างลองชมกันดูนะครับ

Springfield@Sea Resort & Spa มีดีไซน์การออกแบบที่โดดเด่นทั้งตัวอาคารที่พักและสระว่ายน้ํา อาคารรูปทรงโดมที่เห็นใน ภาพจะเป็นอาคารเด่นของที่นี่ ชั้นบนจะเป็นส่วนของห้องอาหารและชั้นล่างจะเป็นส่วนของห้องจัดเลี้ยงหรืออบรมสัมมนา

การตกแต่งของตัวรีสอร์ตดยรวมจะเป็นสไตล์ทรอปิคอล มีต้นไม้บ้างแต่ต้นไม่ใหญ่นัก มีห้องพักทั้งหมด 105 ห้อง เริ่มจาก Deluxe @Sea ไปจนถึง Beach front villa

ประติมากรรมเด่นกลางสระว่ายน้ํา เป็นเสมือนแท่งแก้วแห่งขุมพลัง

ภาพมุมกว้างที่ให้เห็นสระว่ายน้ําขนาดใหญ่ ผู้ที่ชอบว่ายน้ํา มาว่ายที่นี่เพลินมาก

การเดินทางมาที่นี่ จะอยู่ ก่อนถึงหัวหิน ง่ายๆพอถึง หลัก กม.ที่ 212 ก็เลี้ยวซ้าย เข้ามาไม่ไกลจากถนน เพชรเกษม

หน้าทางเข้าของตัวรีสอร์ต มีที่ จอดรถทั้งในร่มและกลางแจ้ง

สัญลักษณ์ของโรงแรมเป็นรูป ลูกตาที่พ้องเสียงกับคําว่า See และเป็นเกลียวคลื่นทะเลตาม ความหมายของคําว่า Sea

ทางเดินเข้าสู่ตัว Lobby จะ ตกแต่งโดยใช้ไฟแสงสีต่างๆที่ เปลี่ยนสีเองได้ แต่ช่วงที่ไปไฟ ทางขวามันเสียหรือไม่ได้เปิดก็ ไม่รู้ รู้แต่ว่ามันไม่ติด

เดินขึ้นบันไดมาหน่อย แสงสีก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ

กลางส่วนที่เป็น Lobby จะมี อ่างน้ําล้นเพิ่มความสดชื่น

เดินผ่านส่วนนี้เพื่อเข้าไป Check in กันก่อน

การตั้งชื่อของห้องต่างๆของที่นี่ก็จะมีคําว่าแอทซี ต่อท้ายเพื่อให้เข้า Concept ของทางรีสอร์ต

บริเวณโต๊ะที่เข้า Check in แบบเรียบง่าย

จุดนั่งพักบริเวณนี้ก็แบบง่ายๆเช่นกัน

โดยรวมก็ถือว่าเป็น Lobby แบบง่ายๆมีการตกแต่งไม่หรูหราอะไรมากนัก

บริเวณนี้ยังมีบาร์เล็กๆไว้เสริพเครื่องดื่มอยู่ด้วย ชื่อบาร์ว่า Melody@Sea

มีที่นั่งพัก นั่งเล่นรับลม กว้างดีเหมือนกัน แต่ก็ไม่ค่อยเห็นมีแขกมานั่งกันซักเท่าไรเลย

ตอนกลางคืนรอบๆตัวรีสอร์ตจะเปิดไฟสวยงามมากทั้งไฟใต้น้ําและส่วนต่างๆ

ส่วนนี้จะเป็นสระสําหรับเด็ก มีสไลเดอร์ให้เล่นด้วย

สระสําหรับผู้ใหญ่ก็กว้างได้ใจจริงๆ ส่วนที่อยู่ไกลออกไปเป็นสระที่มีระบบน้ําจากุชชี่ให้นอนนวดตัว

ที่นั่งเล่นชมวิวริมสระว่ายน้ําในส่วนของสระผู้ใหญ่แต่สระบริเวณนี้น้ําก็ไม่ได้ลึกมาก ลึกเพียง 1.2 m ว่ายเล่นได้สบายใจ

น้ําตกที่บริเวณสระเด็ก ข้อเสียเล็กน้อยของสระบริเวณนี้คือ ความเป็นส่วนตัวจะค่อนข้างน้อยเพราะ ติดๆกันตรงนี้เป็นห้องจัดเลี้ยงและสัมมนา ถ้ามีงานก็จะมีคนเยอะมากออกมาก็จะเห็นคนเล่นน้ําอยู่ ติดๆกันเลย

สระบริเวณนี้จะมีระบบนวดด้วยน้ําให้ด้วย ในรูปไม่ได้เปิดแล้ว

และตัวต้นเสากลางสระก็จะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ

ลักษณะของสระว่ายน้ําจะเป็นแบบน้ําล้น ผมชอบแบบนี้มากกว่าสระแบบมีขอบ

ระหว่างสระเด็กกับสระผู้ใหญ่จะมีบันไดเชื่อมเดินถึงกันได้

พระจันทร์เต็มดวงซะด้วย

หลังคาซุ้มสวยดีแถมฟ้าสีน้ําเงินเข้มดีจัง คืนนี้

เดินขึ้นไปจุดชมวิวที่อยู่หลัง ห้องอาหาร Aqua Bar & Grill @Sea

จะมีลานโล่งๆแบบนี้ให้ขึ้น ไปชมวิวรอบๆรีสอร์ตชัดๆ

วิวมุมสูงบนนี้สวยดีครับ

อีกมุมหนึ่งจากบนชั้นดาดฟ้าหลังห้อง Aqua bar & Grill @Sea

มาชมภายในห้องพักของที่นี่กันบ้าง และเช่นเคยที่ผมเลือกเข้าพักในห้องที่มีราคาเริ่มต้นของที่นี่ ราคาเท่าไร ลองดูที่หน้าสุดท้ายของรีวิวนี้เหมือนเดิมนะครับ ห้องมีขนาดใหญ่และกว้าง สะดวกสบายดีมากๆ

ห้องพักแบบ Deluxe @Sea จากประตูทางเข้าด้านซ้ายก็เป็นส่วนของห้องน้ํา ทางขวาก็เป็นตู้เสื้อผ้า

เตียงนอนเป็นเตียงเล็กสองเตียงมาต่อกัน ไม่ค่อยชอบเท่าไร ไม่รู้ว่ามีแบบเตียง King หรือเปล่า

ระเบียงนอกห้อง ใหญ่โตมีชิงช้าให้นั่งเล่นด้วยแต่ก็เจอยุงจํานวนมากมารบกวนทําให้นั่งเล่นข้าง นอกไม่ได้เลย

จากระเบียงมองย้อนกลับเข้าไป ในห้องพัก

จริงๆแล้ว ชิงช้าสีฟ้าตัวนี้นั่ง เล่นสบายมากๆอยู่มุมนี้นั่งชม วิวข้างนอกก็ได้ มองเข้าไปใน ห้องดูทีวีก็ได้

ห้องน้ําสําหรับห้องต่ําสุด ของที่นี่ก็เป็นแบบธรรมดา และไม่มีอ่างอาบน้ําให้ คน ติดอ่างต้องเลือกห้อง Grand Deluxe@Sea ซึ่งจะ แพงกว่าเล็กน้อยแต่ตัวห้อง พักจะเหมือนกับห้อง Deluxe ทุกอย่าง ผมเลยไม่ ได้ upgrade ไป

อ่างล้างหน้ามีอ่างเดียวแบ่ง กันใช้ มีม่านดึงปิดลงมาได้

เตียงนอนนุ่มสบายแต่ไม่ถึงกับนุ่มสุดๆ นอนหลับได้ไม่มีปัญหา

มีแก้วให้เลือกใช้หลากหลายแบบ และมีมินิบาร์ที่ถึงจะไม่ฟรีแต่ดูราคาแล้วไม่แพงเลย

บริเวณหัวเตียงมีรูปลวดลายประดับและโคมไฟทั้งสองช้างแต่จะไม่มีไฟอ่านหนังสือให้เฉพาะ

ถือว่าเป็นห้องขนาดมาตรฐานไม่เล็กไม่ใหญ่สําหรับห้องเริ่มต้นราคาถูกสุด

วิวจากระเบียงห้องยามค่ําเป็นห้องที่อยู่ชั้นสอง เลยไม่เห็นวิวทะเล ถ้าใครไปพักขอห้องที่อยู่ชั้นสาม หรือสี่จะเห็นวิวไกลกว่านี้

ดูรูปห้องพักตอนกลางวันบัาง มี Daybed ขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้าต่างปรับนอนเป็นเตียงเสริมได้สบาย

มีการจัดหมอนให้สี่ใบ และหมอนประดับอีกสองใบ

มาชมบรรยากาศตอนกลางวันกันบ้าง เริ่มที่สระนวดตัว ต้องย่อภาพให้ต่ำกว่า 150 kB ภาพแตกหมดเลย

เก้าอี้นอนอาบแดด ไม่ค่อย มีคนใช้เท่าไรนัก ช่วงที่ผม ไปไม่ค่อยมีแขกต่างชาติ มี แต่แขกคนไทยด้วยกันเอง

ตรงกลางสระไปนอนนวดเล่น ได้

หลบร้อนมานั่งใต้ซุ้มศาลา

หรือมานั่งมานอนซุ้มแบบนี้

เก้าอี้นวมแบบนี้ก็น่านั่งเหมือนกัน

แต่ช่วงกลางวันนี่ ถือว่าค่อนข้างร้อน เพราะไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่ๆคอยบังร่มเงาให้ ลําพังแค่หลังคาซุ้ม เจอแดดเมืองไทยเอาไม่อยู่เหมือนกัน

มีดอกไม้ประดับบ้างเล็กน้อยพอให้เห็นความ สวยงาม

บรรยากาศเก้าอี้นอนอาบแดดข้างสระ

จากระเบียงห้องตอนกลางวัน

กลางวันคนหายเกือบหมดเลย

สระเด็กจะเริ่มร่มก่อนในช่วงต้นบ่ายเพราะตัวอาคารจะบังแสงอาทิตย์ พอบ่ายๆเด็กๆก็จะมาเล่นน้ําเสียงดัง บริเวณนี้กัน

ข้างๆสระเด็กจะมีตึกที่พักที่ชั้นล่างสามารถออกมาที่สนามหญ้าและเดินมาลงสระได้เลย ผมจําไม่ได้ ว่าตึกหมายเลขอะไร

สระเด็กเริ่มร่มแล้ว ติดกันตรงนี้ก็คือห้องสัมมนา เวลาออกจากห้องมาก็เจอตรงนี้เลย ช่วงที่สัมมนาก็ อาจจะมีเสียงเด็กๆลอดเข้าไปในห้องได้ พอช่วงเบรกผู้ใหญ่ออกมาดูเด็กๆเล่นน้ําผู้ปกครองบางคนก็ อาจจะรู้สึกไม่ค่อยส่วนตัวนักก็ได้

ข้อกําหนดการใช้งานสระว่ายน้ําเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย

มุมนี้จะเห็นส่วนของหน้าห้อง สัมมนาที่ติดกับสระว่ายน้ํา สําหรับเด็ก

ตึกข้างหน้านี้คือตึกที่ผมพัก ถ้า จําไม่ผิดน่าจะเป็นตึกสอง จะ ติดกับ Lobby เลย

มุมจากจุดชมวิวช่วงกลางวันครับ

ดอกไม้สวยๆ พอมีให้ชมกันบ้าง

ทางเดินจากที่จอดรถชั้นใต้ดินขึ้นมาที่อาคาร Lobby

หาดทรายหน้ารีสอร์ต สวยงามและกว้างดี

นึกได้ว่ายังไม่ได้พาไปชมห้องอาหารเลย ตรงนี้เป็นสะพานทางเดินที่เชื่อมต่อจากห้องอาหาร Goumet@Sea มายังส่วนห้องอาหารที่ติดหาด เดินทางนี้จะได้ไม่ต้องเดินอ้อมรอบสระว่ายน้ํามา

ทางเดินบนสะพานเข้าสู่ห้องอาหารที่มีบริการเสริพทั้งวัน รวมถึงอาหารเช้าก็มาทานกันที่นี่ด้วย

ภายในห้องอาหารโอ๋โถงดี หลังคาทรงโดมสูง ทําให้ดูโล่งโปร่ง

มุมทานอาหารที่อยู่รอบๆด้านในห้อง

มุมนั่งทานอาหารด้านนอกก็มีด้วย ตอนกลางคืนยุงเยอะมาก พอตอนเช้าแดดก็ส่องเข้าพอดี เลยไม่มีใครมานั่งทานเลย

บุฟเฟ่อาหารเช้าที่ครบครันตามมาตรฐาน

สลัดบาร์แช่อยู่บนน้ําแข็งทําให้ผักสดดี

ข้าวต้ม โจ๊ก ก็มี

มีชา กาแฟสดแบบไทยๆชงสดๆให้ด้วย อันนี้อร่อยดีแต่ต้องสั่งแบบหวานน้อยนะ สั่งแก้วแรก หวานมากๆ

อาหารจานหลักก็มีให้เลือกตามสมควรและขนมอีกเล็กน้อย

ภาพนี้เป็นห้องอาหารอีกห้องที่อยู่ฝั่งติดหาด เน้นอาหารซีฟู๊ด ชื่อห้องอาหาร Bar & Grill @Sea

มีโต๊ะที่นั่งอยู่สองส่วน ส่วนที่อยู่บนทรายพอดีฝนตกและคนน้อยเลยไม่ได้เปิดให้บริการ

นั่งบริเวณนี้จะอยู่ติดๆหาดเลยแต่จริงๆจะมีถนนเล็กๆกั้นอยู่แต่ก็ไม่ได้ทําให้เสียบรรยากาศอะไรมาก นัก

อีกห้องอาหารหนึ่งที่อยู่ข้างๆกันคือห้อง eMotion@Sea

ทางเดินเข้าห้องอาหาร eMotion@Sea ห้องอาหารนี้จะ เน้นสีสันสดใสเหมาะกับการมา นั่งดื่ม ชมการถ่ายทอดสดกีฬา หรือฟังดนตรี

ด้านบนของ eMotion@Sea มี ชั้นดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวได้ เช่นกัน

เดินมาฝั่งที่อยู่หน้าห้องสัมมนากันบ้าง

สระว่ายน้ําฝั่งผู้ใหญ่จะสูงกว่าพื้นทางเดินหน้าห้องสัมมนา

ห้องสัมมนาชื่อ Focus@Sea มีสามห้อง ห้องในภาพนี้คือห้อง Focus III ซึ่งมีขนาดเล็กสุด

เดินมาต่อด้านนอก เก็บภาพซุ้มศาลาต่อ

ตรงนี้บริเวณหน้าห้อง Fitness และสปา ห้องฟิตเนต ค่อนข้างเล็กมากเลยไม่ได้ ถ่ายรูปมา

ห้องน้ําส่วนกลาง ผนังสวยดี และดีไซน์ก๊อกน้ํา อ่างน้ํา ไม่ ธรรมดา รูปทรงจะแปลกตาก ว่าที่เคยเห็นทั่วๆไป

ลวดลายจากผนังตกแต่งรูปแบบคล้ายๆโมเสก สวยดีครับ

ภาพนี้ขึ้นไปถ่ายจากชั้นสองของห้องอาหาร eMotion@Sea

บันไดเดินลงไปถนนหน้าหาด จะผ่านซุ้มตรงนี้ก่อน แต่จริงๆคนทั่วไปที่เดินอยู่ด้านนอกสามารถเข้า มาภายในตัวรีสอร์ตได้ง่ายมากเพราะมีทางเข้าออกหลายทางมาก อาจจะดีแต่ก็มีโอกาศถูกบุกรุกได้ ง่ายเช่นกัน

ที่Melody@Sea ช่วงค่ําๆจะมีนักร้องมาร้องเพลงสดๆให้ฟังกันด้วย

ช่วงกลางคืนถึงแม้ฟ้าจะมืดแล้ว ทางรีสอร์ตเปิดไฟที่มีการออกแบบแสงได้สวยงามมาก

ห้องอาหาร Grill@Sea ที่สะท้อนกับสระว่ายน้ําสําหรับผู้ใหญ่ที่มีความลึก 1.2 m

กระเบื้องสระว่ายน้ําสีฟ้าอมเขียว การดูแลน้ําของที่นี่ดีมากน้ําใสดีจริงๆ

ป้ายและสัญลักษณ์ในจุดทางขึ้นเมื่อเดินมาจากฝั่งถนนริมหาด หันหน้าเข้า eMotion@Sea

ป้ายจากจุดเดียวกัน ฝั่งที่หันหน้าเข้า Grill@Sea

และสุดท้ายกับป้ายหน้าทางเข้าตัวรีสอร์ตด้านหน้า

ขอสรุปการมาพักครั้งนี้
ขอชม
1. รีสอร์ตใหม่ เพิ่งเปิดมาได้จะสามปี พื้นที่ภายในดูสะอาดและการออกแบบในส่วนต่างๆได้น่าสนใจ
2. ห้องพักมีขนาดใหญ่พอสมควรสําหรับห้องเริ่มต้น การจัดห้องได้ตามมาตรฐานห้อง Deluxe
3. สระว่ายน้ําขนาดใหญ่และมีถึงสามสระอยู่ต่อเนื่องกัน
4. Mini Bar ถึงไม่ฟรีแต่ราคาประหยัดดี
ขอฝาก
1. รีสอร์ตค่อนข้างเปิดมีทางเข้าออกได้ง่ายๆ ใครเดิน ผ่านไปมาก็เดินเข้ามาในรีสอร์ตได้เลย
2. ไม่มีอ่างอาบน้ําให้สําหรับห้องเริ่มต้นของที่นี่
3. อาหารเช้าหลากหลายดีแต่ก็ไม่มีเมนูอะไรพิเศษ
4. แสงไฟด้านหน้าทางเข้าเสีย
5. ฟิตเนตเล็กมากๆ มีกลิ่นแปลกๆด้วยไม่น่าเข้าไปใช้ บริการเลย

ราคาที่ไปพักคือสามพันเจ็ดร้อยห้าสิบ ถือว่าเป็นราคาที่สูงพอพอควร ใครสนใจก็ลอง
ไปดูกันที่ //www.springfieldresort.com/atsea/ index.html
Final Verdict
บรรยากาศ : 4
อาหาร : 3
ความสะอาด : 4
การบริการ : 3
Facilities ต่างๆ : 3
ความคุ้มค่า : 3