Group Blog
 
<<
มกราคม 2559
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 มกราคม 2559
 
All Blogs
 

UK General Visitor Visa (Sponsored)



สวัสดีค่ะ บล็อกนี้จะเขียนเล่าประสบการณ์การจัดทำเอกสารเพื่อขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศในสหราชอาณาจักร ประเภทวีซ่าท่องเที่ยว (General Visitor) แบบ Multiple 6 เดือน และมีสปอนเซอร์เป็นผู้ปกครองที่นามสกุลเดียวกัน ที่ศูนย์ VFS  Bangkok ค่ะ (เขียนค่อนข้างละเอียดนะคะ ยาวมาก 555)


ข้อมูลเบื้องต้นของเรา
>> อายุ 25 ปี เป็นนักศึกษาปริญญาโท ไม่ได้ทำงาน เป็นคนต่างจังหวัดแต่เรียนในกรุงเทพ
Passport มีวีซ่าอเมริกา แบบ J-1 (Work & Travel 2013) ประเทศอื่นๆ ที่เคยไปเที่ยวมี มาเลเซีย, สิงคโปร์, ฮ่องกง, มาเก๊า, เกาหลี, ญี่ปุ่น ค่ะ ไม่เคยถูกปฎิเสธวีซ่า ไม่เคยไปยุโรปมาก่อน และไม่มีคดีอาชกรรมร้ายแรงใดๆ รวมทั้งไม่มีโรคร้ายแรงค่ะ

และเราเพิ่งได้วีซ่าแบบพำนักระยะยาว (National Visa) ของประเทศเยอรมนี มาค่ะ
เนื่องจากเราตั้งใจจะท่องเที่ยวประเทศอังกฤษก่อน แล้วค่อยเข้าไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมนี เพื่อนๆสามารถอ่านการขอวีซ่าประเภทนี้ได้ >>ที่นี่<<




ข้อควรรู้ / ควรเตรียม ก่อนขอวีซ่าท่องเที่ยว
1) ทำแผนการเดินทาง แผนการท่องเที่ยว 
- ควรทำแผนการเดินทางทุกขั้นตอน ครบทุกวันที่จะท่องเที่ยว โดยควรใส่จำนวนเงินที่ต้องใช้ในแต่ละรายการไว้ด้วย เช่น ค่าอาหาร ค่าบัตรเข้าชม ค่ารถไฟ เป็นต้น (ทำคล้ายๆกับโปรแกรมบริษัททัวร์เลยค่ะ) ถ้าให้ง่ายก็หาหนังสือท่องเที่ยวมาอ่าน เพราะเค้ามักจะจัดเป็นโซนๆไว้แล้ว และใช้แผนที่ Google Maps ในการจัดการเดินทาง รวมทั้งแผนที่ Tube, National Rail ต่างๆที่จะใช้โดยสามารถหาได้จาก Google ง่ายๆเลยค่ะ ^_^
- จริงๆแล้วเค้าไม่ได้บังคับว่าต้องทำนะคะ แต่ถ้าเราทำ จะทำให้เรากรอก Application Form ง่ายขึ้นค่ะ ไม่ต้องมานั่งมโนค่าใช้จ่ายในทริป และมันจะมีช่องให้เรากรอกว่าเราวางแผนจะไปเที่ยวไหนบ้างอยู่ดี ดังนั้นทำไว้ก่อนได้เปรียบแน่นอนค่ะ

2) จองโรงแรม / จองตั๋วเครื่องบิน / ตั๋วการเข้าชมสถานที่ต่างๆ
- ตรงนี้จริงๆแล้วทางเว็บไซต์ของ VFS บอกว่า ไม่ควรจองก่อนที่จะได้วีซ่า แต่สำหรับคนที่มั่นใจก็จองก่อนได้นะคะ >< หรืออาจจะจองแบบค่อยจ่ายเงินทีหลังก็ได้
สำหรับโรงแรมเราใช้เว็บไซต์ Booking.com โดยให้เลือกที่พักที่สามารถจองก่อนจ่ายทีหลังได้

แต่สำหรับตั๋วเครื่องบิน เราซื้อไปเลยค่ะ เพราะเนื่องจากยังไงเราก็ต้องเดินทางอยู่แล้ว เราซื้อของการบินไทย จะมี E-mail Ticket Confirmation ส่งมา เราก็ปริ้นท์ไปจากหน้า E-mail ได้เลยค่ะ ส่วนขาออกเราซื้อของ Lufthansa ก็ใช้วิธีการปริ้นท์จาก E-mail เหมือนกันเลยค่ะ

3) สมัครเว็บไซต์ที่ใช้ในการขอวีซ่า
- สำหรับเว็บไซต์ดังกล่าว ปัจจุบันได้รวมทั้งการกรอก Application Form / การนัดหมาย / การจ่ายเงินค่าธรรมเนียมขอวีซ่า ไว้ที่ https://www.visa4uk.fco.gov.uk ที่เดียวแล้ว
*การจ่ายค่าธรรมเนียม ประมาณ 130 USD จ่ายผ่านบัตรเครดิต/เดบิต ออนไลน์เท่านั้น

สามารถสมัคร (Register) เอาไว้ก่อนได้ ซึ่งตอนนี้ระบบเว็บใช้งานง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน แถมมีภาษาไทยกำกับในทุกช่องที่กรอกข้อมูลด้วยค่ะ
ข้อดีของการเข้าไปรีวิวฟอร์มกรอกข้อมูลก่อน คือทำให้เรารู้ว่าเราจะต้องกรอกข้อมูลอะไรลงไปบ้าง ทำให้เวลาที่เราจะกรอกจริง เราสามารถหยิบเอกสารต่างๆ มาไว้ใกล้ตัวได้ และทำให้กรอกได้เร็วขึ้นค่ะ

คำแนะนำในการกรอก Application Form มีผู้เขียนไว้แบบละเอียดมากๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่ //pantip.com/topic/31758151 (น่าจะเป็นรูปแบบเก่า แต่คำถามเหมือนๆกันค่ะ)


การจัดเตรียมเอกสาร
สำหรับวีซ่าท่องเที่ยว เราไม่ได้แปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษค่ะ (แต่มีเอกสารสำคัญ เช่น สูติบัตร ที่มีฉบับแปลไว้กันเหนียว เพราะมีพ่อเป็นสปอนเซอร์ค่ะ) แต่เอกสารใดๆ ที่จัดพิมพ์เอง เราพิมพ์โดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมดนะคะ
*เป็นเอกสารในกรณีของเราน้าา ของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกันค่ะ แต่สามารถใช้เป็นแนวทางได้จ้ะ 

0) Appointment Confirmation 
- ปริ้นท์ E-mail ยืนยันการนัดหมายยื่นขอวีซ่าออกมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อนเข้าไปยื่นเอกสารค่ะ
1) Application Form
- ฟอร์มที่เรากรอกในเว็บข้อมูลครบถ้วน และปริ้นท์ออกมา อย่าลืมเซ็นชื่อให้เหมือนใน Pasport มีอยู่สองจุดนะคะ ตรวจสอบให้ดี 
- ติดรูปที่หน้าแรกให้เรียบร้อย รูปขนาด 3.5 x 4.5 cm. พื้นหลังสีขาว ควรเปิดให้เห็นใบหู
- ตรวจสอบบริเวณที่เป็น Barcode ด้วยว่าปริ้นท์ออกมาชัดเจน ไม่เลอะ ไม่ขาด
2) Passport ตัวจริง ที่มีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน และมีหน้าเหลืออย่างน้อย 1 หน้า (ตัวจริง + สำเนา 1 แผ่นเฉพาะหน้าที่มีรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว)
- สำหรับคนที่มีเล่มเก่า ให้นำไปด้วย
3) สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน / สำเนาสูติบัตร
- เราเพิ่มสำเนาสูติบัตรเข้าไป เพราะให้พ่อเป็นสปอนเซอร์ค่ะ
4) หนังสือรับรองว่าเป็นนักศึกษาอยู่ + Transcript / หนังสือรับรองการทำงาน (ตัวจริง + สำเนา 1 ชุด)
- เราเพิ่ม Letter of Admission ของมหาวิทยาลัยในเยอรมันที่เรากำลังจะไปเรียนด้วยค่ะ เพราะใน Application Form เราระบุว่าเราจะออกจากอังกฤษเพื่อไปเรียนต่อ
5) สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน (ชื่อตัวเอง)
- ตรงนี้เราไม่ได้ขอ Statement จากธนาคารนะคะ ใช้การถ่ายเอกสารเล่มบัญชีปกติ เรามีสองเล่ม เล่มนึงมีเงินเข้าออกตลอด ยอดล่าสุดไม่เยอะเลย (แต่สัมพันธ์กับที่กรอกใน Form ว่าเราจะออกเงินเองเท่านี้) ส่วนอีกเล่มเป็นเงินเก็บของเราค่ะ ไม่เคยมีการถอนออก ยอดก็ไม่เยอะเหมือนกัน 55555
6) ใบแผนการเดินทาง แผนการท่องเที่ยว
- ระบุเงินที่ต้องใช้ในแต่ละวันแต่ละรายการ ระบุไฟลท์ที่ไป โรงแรมที่พัก รถไฟที่จะขึ้น และการเข้าชมสถานที่ต่างๆ (อันนี้เราทำค่อนข้างละเอียด เพราะจะใช้จริงค่ะ)
7) หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินทั้งขาเข้าและออก / การจองที่พักครบทุกคืน
- ปริ้นท์จาก E-mail ไปเลยจ้า
8) ข้อมูลของสปอนเซอร์
- Sponsorship Letter : ระบุว่าเป็นใคร สปอนเซอร์ให้ใคร เพื่อไปทำอะไร ระยะเวลาเท่าไหร่ พร้อมลายเซ็น *สามารถหาตัวอย่างได้จาก Google
สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน ของสปอนเซอร์
- หนังสือรับรองการทำงาน ของสปอนเซอร์
- สำเนาสมุดบัญชีย้อยหลัง 6 เดือน ของสปอนเซอร์


การไปยื่นขอวีซ่า
สถานที่ยื่นขอวีซ่าสหราชอาณาจักร คือ 
VFS Global Bangkok 
The Trendy Office Building, 28th Floor, 
Sukhumbvit Soi 13, Klongtoey-Nua, Wattana, 
Bangkok 10110

สามารถไปได้ง่ายโดยลง BTS นานา แล้วเดินเข้าซอยสุขุมวิท 13 หรือ MRT สุขุมวิท แล้วนั่งพี่วินหน้า Terminal21 มาได้ค่ะ
**ควรไปก่อนเวลานัด 10-15 นาทีก็พอค่ะ เพราะถึงอย่างไร เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้ขึ้นไปชั้น 28 ก่อนเวลาแค่ 10 นาทีอยู่ดี

- เมื่อไปถึงอาคารเทรนดี้แล้วเข้าไปด้านใน จะมีเคาน์เตอร์สีขาว เขียนประมาณว่า AUS & UK Visa Center อะไรสักอย่าง ให้เอาใบ Appointment Confirmation ยื่นให้เจ้าหน้าที่ เค้าจะปั๊ม Approved ให้เรา และบอกให้เราไปขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้น 28 ค่ะ
- เมื่อถึงชั้น 28 จะมีป้ายบอกทางที่เลี้ยวไปยังศูนย์ VFS ไม่ไกลมากที่หน้าศูนย์ก็จะเจอรปภ.คอยช่วยเหลือตรวจกระเป๋า ต้องปิดมือถือและแท็บเลตด้วยนะคะ
- หลังจากนั้นให้ยื่นใบ Appointment Confirmation ที่เคาน์เตอร์ถัดจากที่ตรวจกระเป๋าอีกที เจ้าหน้าที่จะให้บัตรคิวมา เราก็รอจนเรียกคิวค่ะ
- ลักษณะเคาน์เตอร์ยื่นเอกสารจะเยอะมากกกก จำไม่ได้ว่ากี่ช่อง แต่เยอะค่ะ รวดเร็วด้วย เราไม่ต้องรอเลย
- พอไปถึงเคาน์เตอร์ ก็ยื่นเอกสารทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ เค้าก็จะถามคำถามเราเล็กน้อยเหมือนเวลาขอวีซ่าอื่นๆทั่วไป (แต่เราไม่เคยขอท่องเที่ยวนะ นี่ครั้งแรก T.T)
คำถามที่เราเจอ
- ไปทำอะไรคะ? 
- เดินทางวันที่เท่าไหร่ และเที่ยวกี่วัน ไปเมืองไหนบ้างคะ?
- ยังเป็นนักศึกษาอยู่ หรือเรียนจบแล้วคะ?
- จะไปเรียนต่อที่เยอรมนีเหรอคะ เห็นมีเอกสารมาด้วย? (ตรงนี้เราก็อธิบายไปน่ะค่ะ ว่าเรากรอกไปเอง เลยแทรกเอกสารนี้เข้าไปเพื่อยืนยันว่าเราออกจากอังกฤษตามวันนั้นแน่ๆ)
- คุณ...ชื่อพ่อ... เป็นใครคะ? มีความสัมพันธ์ยังไง?
คำถามก็เบสิคๆทั่วไปค่ะ ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรผิดวิสัย ก็ตอบได้แน่นอน ^_^
- เมื่อเจ้าหน้าที่ถามและตรวจเอกสารแล้ว จะให้ใบ Check Lists เอกสารทั้งหมดให้เราตรวจสอบอีกทีว่าถูกต้อง และเซ็นชื่อค่ะ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะเอาเอกสารทั้งหมดใส่ลงในซองเอกสารสีดำ แล้วให้เราไปนั่งรอเพื่อแสกนลายนิ้วมือและถ่ายรูป
- ห้องที่แสกนลายนิ้วมือจะแยกออกไปอีกส่วน เป็นห้องเดี่ยวๆเลยค่ะ ตอนเข้าไปก็มีเจ้าหน้าที่คอยบอกทุกขั้นตอน คือการแสกนลายนิ้วมือและถ่ายรูปปกติ
- จากนั้น เจ้าหน้าที่จะเก็บเอกสารซองสีดำไว้ แล้วให้ใบเสร็จ + หน้าสำเนา Passport ของเรา ที่มีการปั๊มว่าเราผ่านทุกด่านแล้วนะ 5555 เพื่อให้เรานำใบนี้มารับ Passport ค่ะ (กรณีที่ไปรับเอง)
- สำหรับกรณีอื่นๆ เช่น ส่งไปรษณีย์ เราไม่แน่ใจว่าค่าส่งเท่าไหร่นะคะ ลองตรวจสอบใน website อีกที นอกจากนี้ ยังมีบริการส่ง SMS แจ้งเตือนด้วยค่ะ 80 บาท แต่เราไม่เอา (งก = =')

ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการยื่นเอกสารขอวีซ่า UK ใช้เวลารวมแล้วประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ^_^ ที่เหลือก็ต้องรอลุ้นล่ะค่ะ วันที่ได้เล่ม Passport ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ปกติแล้วใน website ระบุว่าใช้เวลาพิจารณา 15 วันทำการ แต่ในช่วงที่คนน้อยก็จะเร็วกว่านั้น 


ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- การกรอกข้อมูลใน Application Form ควรจะต้องสัมพันธ์กับเอกสารต่างๆ นะคะ
เช่น แผนการเดินทางของเราจะใส่จำนวนเงินที่ใช้ไว้ในแต่ละรายการ และรวมเงินทั้งหมดที่จะใช้ในทริปนั้นไว้แล้ว ดังนั้น ในส่วนการกรอกข้อมูลที่เกี่ยวกับ Financial ควรเขียนให้ตรงกันค่ะ 

สมมติว่า ทริปเราใช้เงินรวม 1,200 ปอนด์ เราออกเอง 200 ปอนด์ อาจเป็นค่าขนม ค่าของที่ระลึก (ในเอกสาร Book Bank ของชื่อเราก็ควรมีเงินมากกว่า 200 ปอนด์) ส่วนอีก 1,000 ปอนด์ สปอนเซอร์ออกให้ (ในเอกสาร Book Bank ของชื่อสปอนเซอร์ก็ควรมีเงินเยอะกว่านี้) โดยในกรณีของเราจะซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว / จองที่พักแล้ว ก็ไม่ต้องเขียนรายละเอียดลงไปในทริป (แต่ต้องกรอกราคาของตั๋วใน Form) และต้องมีเอกสาร Flight Confirmation / Booking Confirmation ยืนยันไปว่าเราซื้อตั๋วแล้วนะ เงินในบัญชีคือไม่นับค่าตั๋วนะ ประมาณนี้ค่ะ

- วันไปยื่นเอกสาร แต่งตัวแต่งหน้าสวยๆค่ะ เพราะเค้าจะถ่ายรูปสำหรับติดวีซ่าของเราพร้อมแสกนลายนิ้วมือเลย ^_^


การรับเล่มพาสปอร์ตและวีซ่า
*ขอเขียนเฉพาะกรณีที่รับเล่มเองที่ศูนย์นะคะ
กรณีของเราเนื่องจากยื่นขอวีซ่าในช่วงที่คนไม่เยอะนัก เลยได้ค่อนข้างเร็วค่ะ เราไปยื่นเอกสารวันศุกร์ วันพุธถัดมาได้ข้อความ E-mail จากสถานทูตว่า

YOUR UK VISA APPLICATION DECISION IS READY FOR COLLECTION :  please read below

UK Visas and Immigration has made a decision on your visa application and this email explains how your documents will be returned to you.
• THAILAND APPLICANTS: your passport/documents will be ready for collection from the Bangkok visa application centre on the 2nd working day after you receive this email. Collection times are Monday-Friday 10.00 - 16.00 and Saturday 08.30 - 12.00.

ถ้าใครได้ข้อความนี้ หมายความว่า ได้รับการตัดสินพิจารณาจากสถานทูตแล้วนะคะ ไม่ได้หมายความว่า เราได้วีซ่า และสามารถไปรับเล่มพาสปอร์ตคืนได้ที่ศูนย์ 2 วันทำการหลังจากได้รับเมล์นี้ เมื่อเราไปรับเล่ม เราจะทราบตอนเปิดซองนั่นแหละค่ะ ว่าเราได้วีซ่าหรือไม่ ถ้าไม่ผ่าน ทางสถานทูตก็จะมีเอกสารเขียนแจกแจงมาว่าเราไม่ผ่านเพราะอะไร ถ้าใครต้องการขอใหม่ก็ควรเตรียมเอกสารเพิ่มเติมตามที่สถานทูตแจ้งมาค่ะ

สำหรับประสบการณ์ส่วนตัวในการของวีซ่าท่องเที่ยว UK ก็มีแค่นี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้คนอื่นๆไม่มากก็น้อยนะคะ ^_^ สุดท้ายแล้วก็ขอให้ทุกคนโชคดี ได้วีซ่าและไปเที่ยวให้สนุกจ้าาา 




 

Create Date : 14 มกราคม 2559
0 comments
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2559 14:41:43 น.
Counter : 1836 Pageviews.


ล็อคอินนี้สีชมพู
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Friends' blogs
[Add ล็อคอินนี้สีชมพู's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.