Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2558
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
27 พฤศจิกายน 2558
 
All Blogs
 
ประกันไม่ได้มีไว้สำหรับทุกคน

กราบสวัสดีพี่น้องชาว pantip และผู้ที่สนใจติดตาม Blog ของเรานะคะ .. เราอาจจะใช้ภาษาบ้านๆนิดนึงคงจะไม่ถือโทษโกรษกัน  ที่เราเริ่มด้วยหัวข้อนี้ ก็เพื่อที่จะบอกกับทุกคนที่ยังมองเห็นว่าการทำประกันนั้นเป็นเรื่องไร้สาระ เป็นเรื่องที่มีภาระระยะยาว และเป็นเรื่องที่มีไว้สำหรับคนมีเงินเท่านั้น นี่คือความคิดของเราในตอนแรกตั้งแต่ไม่รู้จักและไม่ชอบเกี่ยวกับประกันเลยสักนิด   

     เราอายุ 27 ปี ถือว่ายังไม่เยอะสำหรับพี่ๆหลายๆคน นะคะ เรามองว่าประกันเป็นเรื่องห่างไกลตัว และจะเสียตังทำไปทำไมในเมื่อบริษัทที่เราทำงานอยู่ เค้าก็มีประกันชีวิต ประกันสุภาพให้กับพนักงานอยู่แล้ว ฟรีซะอีก จะเสียตังค์เพื่อ....  เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยอะไร เราก็พึ่งประกันสังคม + ประกันสุขภาพ ของบริษัทไปด้วย ถ้าป่วยไม่สบาย ปวดหัว ไข้ธรรมดาเราก็จะใช้ประกันสังคม ถ้าหนักหน่อยก็ใช้ทั้งประสังคมและประกันสุขภาพควบคู่กันไป เพื่อมันจะได้ลดหลั่นกัน 

  แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเราคลำเจอก้อนเนื้อที่คอคะ  เราก็เป็นกังวลสิคะ ก็เลยไปหาหมอ โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง โดยในครั้งแรก ไปพบคุณหมอ เรายื่นบัตรประกันสุขภาพของบริษัทไปคะ ค่ารักษายังไม่แพงเท่าไร แต่"ต้องออกเอง" คะ คือสำรองจ่ายไปก่อน โอเคไม่เป็นไรถือว่าไม่แพง และเราไปพบหมอนะคะ ไม่ใช่ว่าจะได้เจอหมอเลย นั่งรอจ้าเกือบ 5 ชั่วโมงเต็ม (มาคิดดูตูรอไปได้ไงยาวนาน) กว่าจะได้พบหมอเกือบ 3 ทุ่ม เรามาหาหมอ ประมาณ บ่ายสามได้ เข้าไปหมอปุ๊บหมอคลำคอ สองสามที แล้วบอกว่า เดี่ยวลองให้ยาไปทานดู สัก 2 อาทิตย์ น่าจะยุบได้ละนะ แล้วหลังจากนั้นหมอนัดดูอาการอีก ผ่านไป 2 อาทิตย์ ไม่ยุบ หมอก็เลยแปลกใจเพราะตัวที่ให้ถือว่าดีเลยทีเดียว อ่อลืมบอกคะว่าก่อนหน้านั้นที่จะมาหาหมอ ตอนเราคลำเจอเรายังไม่ได้มาพบหมอเลยนะคะ ปล่อยเอาไว้ 3 เดือนได้ ก็เลยมาหา พอไปพบหมอ หมอเลยบอกว่า เอ๊ะ ทำไมไม่ยุบสักที ถ้างั้นต้องเจาะเนื้อเยื้อคอเพือตรวจ เราก็โอเคได้จบๆไป  รอผลตรวจประมาณ 1 อาทิตย์ ผ่านไป ก็เลยไปฟังผลหมอบอกว่าไม่ใช่เนื้อร้าย แต่กินยาขนาดนี้น่าจะยุบได้แล้ว และประกอบกับเป็นมาหลายเดือนแล้วด้วย  สุดท้าย หมอบอกว่านั้นผ่าตัดเล้กเอาชิ้นเนื้อมาตรวจผลจะชัวร์กว่า อะ ไหนๆก็ไหนๆ เค้ามากันมาเยอะ ลองดูแล้วกัน ขี้เกียดเดินทางไปพบหมอบ่อยเพราะไกลบ้าน หมอก็เลยแจ้งพยาบาลว่าเคทนี้ผ่าตัดได้เลยมั้ย พยาบาลก็ไปตรวจสอบ  อ่อก่อนผ่าตัดหมอถามเองเลยคะ ว่าหนูทำประกันอะไรไว้หรือเปล่า วงเงินเท่าไร เราก็เงิบนิดนึงคะ คือ วงเงินที่บริษัทให้ ค่าผ่าตัด 3 หมื่น ค่าห้อง 2500 บาท และก็มีรักษาต่อเนื้องจำไม่ได้แล้วว่าเท่าไร อยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 3 เดือน ก็ลองใช้ไปคะ แต่เรื่องของเรื่องคือถ้าจะเอายอด 3 หมื่นต้องนอนโรงพยาบาลด้วย แต่ผ่าตัดเล็กไม่ต้องนอนก็กลับบ้านได้เลยนะคะ แต่เราจำเป็นต้องให้หมอช่วยนิดนึง เพื่อจะได้สิทธ์นี้  พอสรุปกันได้ ปรากฎว่าโรงพยาบาลไม่มีเตียงคนไข้จ้า ไม่สามารถนอนได้ เวนกรรมตอนนั้น หมอเลยแนะนำว่า ย้ายไปโรงพยาบาลเอกชนมั้ยคะ เพราะหมอก็ประจำที่นั่นด้วย จะไปผ่าตัดให้ ซึ่งเราก็แอบถามค่าใช้จ่ายของรัฐกับเอกชนต่างกันยังไง มากมั้ย คงไม่ต้องบอกนะคะ ว่าต่างกันแค่ไหน  สุดท้ายต้องยอมคะ เพราะหมอจะไม่อยู่ไปต่างประเทศอีกเป็นเดือนกว่าจะกลับ และเราก็ไม่ได้อยากเปลี่ยนหมอ อยากรักษากันคนเดิม บวกกับความกังวลกลัวจะเป็นอะไร  โอเคย้ายคะ ไปเอกชน นอน 1 คืนคะ ผ่าตัดใช้เวลา 3 ชั่วโมงไม่วางยานะคะ ฉีดยาชาเอา มันรู้สึกตึงๆมากคะ  ผลออกมาคะ บอกว่าไม่ใช่ก้อนเนื้อร้ายแต่เป็น วัณโรคต่อมน้ำเหลือง ซึ่งจะต้องรักษาโดยกินยาอย่างต่อเนื่อง 9 เดือน โอ้แม่เจ้า ยาเยอะมากๆในช่วงแรก สรุปรวมค่าใช้จ่าย ยังครอบคลุมอยู่คะ แต่ต้องจ่ายค่าห้องส่วนต่างเพิ่ม เพราะโรงพยาบาลเอกชนอย่างที่รู้ๆค่าห้องเดี่ยวนี้ไม่ต่ำกว่า 3500-4000 บาท ต่อคืน และเราได้แค่ 2500 บาท ก็เลยต้องเสียไปนิดหน่อย จากนั้นรักษาตัวอย่างต่อเนื่องได้อีก 3 เดือน แต่เค้าจะมีวงเงินให้ ถ้าเต็มก็ต้องจ่ายส่วนต่างเอง และเรากินยา 9 เดือน พบหมอ 2 เดือนครั้ง บางครั้งก็ 1 เดือนเพื่อติดตามอาการ ค่ายา ค่าพบหมอ ค่าเดินทาง ค่าสารพัด ต่อครั้งประมาณ 2 พันกว่าบาท เราต้องออกเองทุกครั้งเลยคะ รวมๆกันก็เยอะนะคะ  เบื่อมากเลยตอนนั้น มานั่งคิดว่าถ้าเรามีประกันส่วนตัวก็คงดี มันจะได้ Cover ให้ ดูแลให้ ไม่ต้องมาเสียตรงนี้ 

       สุดท้ายเพื่อนทราบข่าว เพื่อที่ทำ AIA เป็นตัวแทนทราบว่าเราป่วย เลยแนะนำให้ซื้อประกัน เราก็ยังมองว่ายังไหว ได้อยู่ แต่ยังไงละคะ มันบอกแค่ไหนก็ไม่ทำ เพราะกลัวคะ ไม่มีตัง สรุปคือถ้าจะทำตอนนี้ทำได้ แต่ไม่คุ้มครองคอตูแล้ว ไม่คุ้มครองโรคนี้แล้วจ้า  ฮือๆๆๆ  

    นี่แหละคะ นับจากนั้นมา เราเลยอยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของประกัน เราเลยขอมาเป็นตัวแทนเพื่อศึก๋ษาตรงนี้ และช่วยเหลือคนอื่นๆที่เค้าคิดแบบเรา ว่าประกันไม่ดี ภาระเยอะ ให้เค้าเปลี่ยนความคิด คุณลองคิดดูในยามที่คุณมีแรง คุณมีความสามารถ คุณมีเวลา แต่ถ้ายามที่คุณไม่มีแรง ไม่มีความสามารถ ไม่มีเวลา แล้วรายได้ของคุณจะมาจากไหน ไหนจะรายจ่ายอีก  แค่ 10% ของรายได้ เมื่อคุณจ่ายออกไปหมด เหลือเพียงเท่านี้ 10% ให้คุณมาออมไว้กับประกัน เวลาที่คุณเกิดลำบาก ประกันเค้าช่วยคุณแน่นอนคะ ทั้งรายจ่าย หนี้สิน ครอบครัว สุขถาพของคุณ ดีกว่าคุณเอาเงินไปฝากแบงค์ ไปเล่นหุ้น ไปออม ดอกเบี้ยไม่เท่าไรหรอกคะ พอคุณต้องการคุณก็ถอนมันมาใช้เท่านั้น และมันจะทำให้คุณถอนออกมาหมด ไปใช้จ่ายหนี้สิน ภาระ โน้น นั่น นี่ แต่มันไม่คุ้มครองชีวิตคุณนะคะ


     ปัจจุบัน ดิฉันตัดค่าใช้จ่ายที่คิดว่าไม่จำเป็นออกมา สัก 5-10% แล้วคะ เพื่อเอามาฝากไว้กับประกัน เผื่อวันที่ตัวดิฉันเป็นอะไรขึ้นมา ไม่มีคนดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้น ก็จะมีรายได้จากประกันตรงนี้คุ้มครองอยู่ ซึ่งไม่เพียงคุ้มครองรายได้ รายจ่ายเรานะคะ แต่ยังคุ้มครองสุขภาพเรา คุ้มครอบครอบครัว และคนที่เรารัก หรือถ้าหากคนที่มีครอบครัวมีลูก ก็ยิ่งจำเป็นต้องวางแผนดีๆเลยะคะ ว่าจะให้ลูกคุณเรียนถึงปริญญาตรี ต้องใช้เงินเท่าไรจนจบ  และถ้าคุณไม่อยู่คนข้างลังคุณจะอยู่อย่างไม่ลำบากเป็นการไม่สร้างภาระให้คนข้างหลังของคุณคะ

           และที่แน่กว่านั้นดิฉันเป็นตัวแทน ของ AIA ที่ทำงานด้วยใจมุ่งมั่น ซื้อสัตย์ และบริการเสมือนเราเป็นครอบครัวเดียวกัน

    คติของดิฉันคือ : ซื้อประกันสำคัญที่ตัวแทน นะค่ะ

E-mail scientologyplus@hotmail.com

 Line ID :bethinkgin




Create Date : 27 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2558 13:37:49 น. 0 comments
Counter : 247 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 2815144
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 2815144's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.