เจ้าพ่อตลาดหุ้น บทที่3 อาณาจักรเจ้าพ่อ

ณ สำนักงานบริษัท กำไรไม่พอเพียงจำกัดมหาชน บริษัทโฮลดิงค์ คอมพานี ธีระ เจ้าของบริษัทยักใหญ่ข้ามชาติ มีเครือข่ายบริษัทมหาชน หลายแห่ง
.......................
เป้าหมายที่แท้จริง ของบริษัทคือ (ไม่ออกสื่อ) กำไรสูงสุด ทางใหนกำไรได้ ต้องเอาให้หมด กำไรต้องมาก่อนคุณธรรม
เป้าหมายหลอกลวงประชาชนคือ (ออกสื่อ) สร้างคนสร้างชาติ บริหารงานด้วยคุณธรรม มีธรรมาภิบาลสูง
..................
วิสัยทัศน์ แท้จริงคือ(ไม่ออกสื่อ) นำพาองค์กรสู่ความเป็นเลิศ เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ ไม่มีวันล่มสลาย
วิสัยทัศน์ จอมปลอมคือ(ออกสื่อ) สร้างงานสร้างคน พร้อมกับการพัฒนาประเทศชาติ ดำเนินการสร้างงาน และ
ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมต่อสิ่งแวดล้อม ของธุรกิจ เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่องค์กรและสังคมโดยรวมอย่างยั่งยืน
...............................
ธีระ ( เจ้าพ่อตัวจริง) เกิดมาในครอบครัวมีฐานะปานกลาง ชีวิตในวัยเด็กของ ธีระ แม้จะมีปมด้อย
แต่กว่าจะก้าวมาสู่ความเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในทางธุรกิจ ได้เขาต้องเผชิญกับอุปสรรคขวากหนามไม่น้อย
ชีวิตของ ธีระ ผ่านมาหลายรูปแบบ ทั้งดีและชั่ว

สังคมเป็นผู้กระทำให้เข้าต้องเป็นคนเข้มแข็ง ก้าวร้าว อยากเอาชนะทุกคน ชีวิตที่ผ่านมามีหลายรูปแบบ
เติบโตอย่างเด็กบ้านนอก สอบแข่งขันชิงทุนไปเรียน หนังสือในต่างประเทศ เพราะความขยันและอดทน

ธีระเป็นคน ฉลาดหลักแหลม มีไหวพริบดี ฉลาดแกมโกง คิดไวทำไว ใครไม่ทันเกมส์เสร็จทุกราย
แม้กระทั่งเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน ยังไม่มีเพื่อนแท้ เลยทำให้ธีระ ไม่มีเพื่อนแท้ สักคนเดียว
ไอคิว ของธีระนับว่าอยู่ระดับแนวหน้าของวงการธุรกิจ ทำให้ทุกคนไม่อยากยุ่งเกี่ยวและขัดขวางการทำธุรกิจของธีระ
ธีระ เคยตกต่ำไม่เห็นอนาคต ถูกแรงบีบคั้นให้กลายเป็นคนต้องสู้กับคน
สุดท้ายก็ลืมตาอ้าปากได้ มีฐานะมั่นคง จากการเข้าประมูลงานราชการ
ผูกขาดสัมปทานงานราชการ และการต่อยอดทางธุรกิจอีกหลายๆอย่าง

ลองผิดลองถูกมามากมาย ทำให้กลายเป็นคนมีประสบการณ์ ในการประกอบธุรกิจต่างๆ มองเห็น อนาคตได้ว่า
งานที่ทำมีอนาคตหรือไม่ หากไม่มีอนาคต ธีระ จะไม่ทำมันอีก
จนทำให้ ธีระ ลืมตาอ้าปากได้ มีฐานะมั่นคง เคยทำผิดพลาดก็หลายครั้ง ทุกคราวล้วนสร้างความลำบาก ก่อแรงบีบคั้นให้กับชีวิตและครอบครัวมากอย่างสาหัส
งานของธีระ มีทั้งผิดศิลธรรมและไม่ผิดศิลธรรม งานใหนที่
ธีระคิดว่าได้เงินเร็ว เขาจะต้องทำมันทั้งนั้น เพื่อความก้าวหน้าและความมั่นคงทางด้านการเงิน

สิ่งหนึ่งที่ ธีระมีคือความรวดเร็วในการตัดสินใจ ความกล้าได้กล้าเสีย แม้ว่าผลลัพธ์นั้นจะทำให้หลายๆคน ต้องเจ็บช้ำต้องล้มละลาย
ในการประกอบธุรกิจ หากมีการแข่งขันกันแล้ว ธีระจะหาจุดอ่อน ของคู่ต่อสู้และจะทำลายมันทันที จนไม่มีใครกล้าต่อกร กับธีระ
จากชีวิตที่เป็นหนี้ หลายร้อยล้านบาท สามารถสร้างธุรกิจ มีค่านับหมื่นล้านบาท ได้ภายในไม่กี่ปี
แรงผลักดันที่ทำให้ ธีระ อยากเอาชนะทุกคน เพราะเขาต้องการชดเชยชีวิตในวัยเด็กที่มีปมด้อย ไม่มีความสุข
เป็นคนเก็บกดอารมณ์ เหมือนกับแบกโลกไว้คนเดียว เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จึงต้องหาทางชดเชยด้วยการมุ่งหาความร่ำรวย โดยไม่คิดถึงวิธีการที่ได้มา เพื่อ แก้แค้นสังคมที่เชื่อว่าปฏิบัติต่อตัวเองอย่างไม่เป็นธรรม
...............................................
อีกหนึ่งธุรกิจที่ธีระ เข้ามากอบโกยและหาผลประโยชน์ คือ การครอบครอง ตลาดหุ้น เพราะสามารถทำเงินได้ง่ายและรวดเร็ว
ความที่เป็นคนมีเงินหลายหมื่นล้านบาท ทำให้ธีระเข้าถือหุ้น บริษัทหลักทรัพย์หลายบริษัท โดยผ่านนอมินี และเครือญาติ
ทั้งในและต่างประเทศ ไม่นานนักธีระก็มีเงินเป็นแสนล้าน จากธุรกิจหลายๆ อย่างแทบทุกประเภทธุรกิจ
ธีระเป็นคนมองการใกล เขาจึง จ้างคนที่มีความรู้มีความสามารถ ให้เข้ามาบริหาร บริษัท ต่างๆ ของตน
หลายคนเป็นคนเก่ง จบเกียรตินิยม จบ ด็อกเตอร์มีประสบการณ์ ในการทำงานหลายๆที่ มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ธีระ ก็จะซื้อตัวมาด้วยราคาที่แพง
ทำให้บริษัท ธีระมีความแข้มแข็งมั่นคง ประดุจดั่งเสือติดปีก อยากที่จะต่อกรด้วย

นานๆเข้า ธีระก็มีอิทธิพลมากมายกับหลายบริษัท บางบริษัทสามารถ เข้าไปเรียกผู้บริหารมาสั่งได้
ธีระส่งลูกน้อง คนสนิทและไว้ใจได้ เข้าไปนั่งแทบทุกบริษัท นานๆ ปีละ 2-3 ครั้งธีระก็จะสั่ง คนที่ส่งเข้าไป ให้หาเงินในตลาดหุ้นได้ง่ายแสนง่าย
การสั่งการแต่ละครั้งต้องรอบคอบ และ ไม่ให้เป็นที่น่าสงสัยได้ โดยการกระทำการแต่ละครั้งต้องมีการวางแผนเป็นอย่างดี จากส่วนกลาง ซึ่งเปรียบเสมือนสมอง ขององค์กร
หลายครั้งที่ธีระสั่งการทุบและปั่นหุ้น แต่ไม่มีใครสามารถ จับผิดได้ จน ตลท ต้องหามาตรการป้องกันออกมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีผล ไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายได้

..............................
วันจันทร์ เอ็มโทรไปหามา ตั้งแต่ 9.30
เอ็ม : สวัสดีครับ คุณเปิ๊ล หุ้นผมเป็นอย่างไรบ้างครับ
เปิ๊ล : สวัสดีค่ะ คุณเอ็ม รู้สึกว่ามีกำไร 3 ตัวค่ะ ตอนนี้ ktb ราคา 11.30 แล้วค่ะ กำไร ประมาณ 18000 บาทขายเลยไม๊ค่ะ
เอ็ม: (ตื่นเต้นมาก) ขายเลยครับ ฮาๆๆๆ ผมมีกำไรแล้วหรือครับ
เอ็ม ตื่นเต้นมาก กับกำไร หุ้นครั้งแรกจาก ktb 18,000 บาท
.....................
โปรดติดตามตอนต่อไป ครับ

Create Date : 18 กันยายน 2553		3 comments
Last Update : 18 กันยายน 2553 8:39:30 น.
Counter : 863 Pageviews.
Share Tweet