เล่าเรื่องการถ่ายภาพคอนเสิร์ต (แบบมือหัดใหม่)
ตั้งใจว่าจะลองเขียนแบบเล่าเรื่องจากภาพตัวอย่างที่ไปลองหัดถ่ายภาพแนวคอนเสิร์ตมาให้อ่านกันเล่นๆ เผื่อใครกำลังคิดจะไปลองถ่ายดูบ้าง....แต่ก่อนอื่นๆ ก็ออกตัวก่อนว่า ลองผิดลองถูกอยู่เหมือนกัน แล้วบ่อยครั้งที่ไปหัดถ่ายภาพก็ชอบทำอะไรแปลก เช่น ตั้งกฏกับตัวเองในการไปฝึกถ่ายภาพแต่ละครั้ง....(ทั้งที่ๆ รู้ว่าบางครั้งไม่ดี เราควรหาค่าแสงในแต่ละภาพที่จะถ่ายเป็นหลัก แต่นี่เล่นแบบไม่ยอมเปลี่ยนใจเลย) เอาเป็นว่าอ่านไปเล่นๆ สนุกๆ ดีกว่านะ เริ่มจาก
ประเภทคอนเสิร์ต กับ ตำแหน่งที่ควรไปถ่าย เรื่องนี้ต้องขอเขียนก่อน เพราะเพิ่งจะนึกออก หลังจากอ่าน comment ของแต่ละคน ในทำนองที่ว่า ทำไมภาพที่ถ่ายออกมาเหมือนจะถ่ายมาแบบง่ายๆ...ก็คงต้องบอกว่างานคอนเสิร์ตที่ไปถ่ายทุกครั้ง (หรือเกือบทุกงานที่ไปหัดถ่าย เป็น free concert ซะทุกครั้งไป) ไม่ยอมเสียเงินหรอก..555 ทำให้ไม่มีตั๋ว ไม่มีการนั่งตามเบอร์เก้าอี้ เลือกได้ตามใจชอบ มีครั้งแรกสุดที่เป็นการเป็นงาน มีพิธีรีตองครั้งเดียว เลยเอาตัวไปแอบอยู่ด้านข้างเวที ถ่ายมาก็เห็นแต่ด้านข้างของนักร้อง แบบนี้ (พี่ฟอร์ดอย่าว่ากันนะ)
ภาพนี้ถ่าย ISO 400, Speed 1/20, F 4.9, Mode Manual
งานนี้ตั้งใจจะบอกค่าแสงทุกภาพเลย เห็นแล้วอย่าหัวเราะเยาะนะ...(ก็บอกแล้วว่ามือใหม่ๆ ๆ)
ครั้งแรกไม่ชอบเลยที่ได้มานั่งด้านข้างแบบนี้ แต่จากตำราที่อ่านมาบอกว่า อย่าไปถ่ายตรงๆ กับหน้านักร้อง ไมค์จะบังหน้า หรือไม่ก็ขาไมค์มันก็บัง แล้วยังมีเงาจากไฟ follow มาที่ไมค์ และขาไมค์อีก เงาก็ไปตกที่นักร้องอีก ก็เอาเป็นว่าให้หาตำแหน่งที่ถ่ายแนวเฉียงๆ สัก 45 องศา ทางด้านซ้ายหรือขวามือของนักร้อง
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/100, F 3.9, Mode Manual
ส่วนครั้งล่าสุดคอนเสิร์ตของหนุ่มโดมนั้น เดินได้เต็มที่ แรกๆ ได้แถวหน้าเหมือนกัน แต่พอคนดูเริ่มสนุก ก็อยู่แถวหน้าไม่ได้แล้ว คราวนี้ก็เดินวนรอบเลย...(ด้านหลังก็ยังไป เผื่อเจอสาวพลอย..555) ถ่ายภาพครั้งหลังนี้ กลับมาชอบภาพถ่ายจากด้านข้าง เพราะแสงสี ไฟบนเวที ทำให้ได้ภาพ ฉากหลัง ดูมีแสงสีให้อารมณ์ได้ดีไปอีกแบบ
ภาพนี้ถ่าย ISO 1600, Speed 1/160, F 4.4, Mode Manual
ส่วนด้านหน้า ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอไป มันก็ดีมากๆ ก็ตอนใกล้ชิดกับนักร้องนี่แหละ 555 แต่ถ้าถ่ายมาแล้วติดไมค์ บังหน้าบังตาหล่อๆ ของนักร้องไป บางทีก็ดูไม่ดีเหมือนกัน ตรงนี้ก็แล้วแต่อารมณ์ของเพลง อารมณ์ของนักร้องแต่ละคน
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/100, F 3.9, Mode Manual
ส่วนนักดนตรีตำแหน่งอื่นๆ ก็เลือกดู ด้านหน้าที่ไม่มีไมค์มาตั้งบังก็ดีไป แต่บางคนก็ยังต้องร้องประสานเสียง หรือร้องเดี่ยวบางเพลง ก็คอยหลบๆ หามุมอื่นๆ ก็แล้วกัน
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/100, F 3.9, Mode Manual
แต่ตำแหน่งนี้ก็ไม่รู้สิ พอมีขาตั้งไมค์ มาบังแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไร (แต่ก็ยังถ่ายมาอยู่ดี)
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/200, F 5.0, Mode Manual
ก็พอสรุปว่าภาพนักดนตรี ก็น่าจะถ่ายมาแบบใสกิ๊ก อย่าให้มีอะไรบังก็ดี (ตรงนี้ก็แล้วแต่มุมที่ไปถ่าย ถ้าต้องนั่งอยู่กับที่ ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอนักดนตรีเค้าย้ายตัวเองออกมาจากมุมบังคับทั้งหลาย แล้วก็อย่าถ่ายมาขาดๆ แบบภาพนี้ล่ะ น่าเสียดายไปเลย)
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/200, F 5.0, Mode Manual
การปรับตั้งกล้อง มาถึงเรื่องน่าอายแล้ว...... 555 ถ่ายมาครั้งแรก ไม่ประสีประสา ตั้งอะไรมาก็ไม่รู้ แต่หลักๆ แล้วก็จะถ่ายด้วย mode M เป็นหลัก สงสัยจะถนัดแต่ mode นี้ก็ไม่รู้ แต่วิธีที่ถ่ายมาเกือบทุกครั้งจะเป็นว่า เลือกถ่ายมาด้วย mode Auto ก่อนทุกครั้ง แล้วก็มาเปิดดูภาพ อ่านค่าแสงที่ถ่ายภาพนั้นมา จากนั้นก็ดูว่า ISO เยอะไปหรือเปล่า ถ้าไม่เยอะ เช่น ISO 400-800 ก็พอใจแล้ว จะจำค่านั้นมาตั้งถ่ายด้วย mode M บางคนก็จะบอกว่าแล้วทำไมไม่ถ่ายด้วย mode Auto ไปเลย เคยลองแล้ว ค่าแสงมันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามตำแหน่งที่ถ่าย ผลออกมาเจอ ISO 3200 เกือบทุกภาพเลย มาลองดูการตั้งค่าแสงของภาพนี้กัน
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/40, F 5.0, Mode Manual
ถ้าสังเกตให้ดีว่า speed shutter ตั้งไว้ต่ำมาก แถมภาพนี้ยัง Zoom ไปตั้งไกล ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าทางยาวโฟกัสในการซูมภาพ ต้องให้สัมพันธ์กันกับ speed shutter ด้วย (ความจริงค่ามันไม่เท่ากันเพอดีหรอก แต่เอาคร่าว ก็ให้เท่ากันไว้ก่อนนั่นแหละ ส่วนใครจะตามทฤษฎีก็เชิญ) ผลที่ได้ออกมาภาพดูแล้วไม่คมชัด แต่ภาพนี้ก็ไม่มั่นใจว่าเกิดจากโฟกัสไม่ดีด้วยหรือเปล่า
พอเริ่มรู้หลัก คราวนี้ก็ยังไม่ได้คำนึงให้ตรงทฤษฎีมากนัก เพียงแต่ใช้ speed shutter ที่ 1/200 ทุกภาพเลย แล้วก็ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ซูมภาพสุดๆ ก็อย่าให้เกิน 200 นั่นแหละ แต่ก็เผลอไปซูมสุดๆ บางภาพเหมือนกัน ภาพเริ่มออกมาดูดี เริ่มเห็นความคมชัดขึ้นมาหน่อยแล้ว แต่ก็นำภาพไปแอบถามน้าๆ มาว่าทำไมมันยังไม่ชัดแบบเลือดซิบๆ น้าๆ ก็ตอบมาว่าภาพถ่ายงานกลางคืนแบบนี้ ได้มาแค่นี้ก็เอาแล้ว ฟังมาแล้ว ก็พอใจกับคำตอบของน้าๆ
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/200, F 5.0, Mode Manual
เอาเป็นว่าครั้งหลังสุดจากคอนเสิร์ตหนุ่มโดม ก็ตั้งค่านี้เป็นส่วนใหญ่ ISO 800 Speed 1/200 F 3.9 Mode Manual อาจจะไม่ใช่สูตรตายตัวนัก เพราะจริงๆ แล้วอยากบอกว่า หลักๆ อยากจะบอกว่าอยู่ที่ speed shutter เป็นหลัก ถ้าภาพไม่ได้มีการเคลื่อนไหวมากนัก ก็ไม่ต้องใช้ speed มาถึง 1/200 ก็ได้ แต่พอตั้งน้อยกว่านั้น ผลที่ได้เป็นแบบนี้
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/50, F 6.4, Mode Manual
ภาพนี้ให้น้าๆ หลายคนดู ก็ได้มา 2 คำตอบ คำตอบแรก speed shutter ต่ำไป ส่วนคำตอบที่ 2 บอกนี่เลย ที่ดูแล้วมันมีการเคลื่อนไหว ไม่ใช่จับมาซะหยุดนิ่งไปหมด (ไม่รู้จะเชื่อใคร แต่ก็อยากบอกว่า speed shutter ที่ตั้งถ่ายภาพนี้มันดูต่ำไปหน่อยเหมือนกัน) ดังนั้นอาจจะพอใช้ค่า speed shutter 1/200 1/250 หากถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวมากๆ แต่ก็ยังไม่เคยไปถ่ายแนวแร็พ แนวโย่ว มาเหมือนกัน ก็ไม่แน่ใจว่า speed แค่ไหนถึงจะหยุดภาพอยู่
ภาพนี้ก็ออกแนวแอ็คชั่นเล็กๆ แต่ดูจาก speed 1/200 แล้วเหมือนจะจับภาพนี้ได้หยุดแล้ว และยังพอเห็น action อยู่พอสมควร
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/200, F 5.0, Mode Manual
แสงบนเวทีต้องใช้แฟลชไหม ? ตรงนี้ก็ตอบก่อนเลยว่าไม่อยากใช้เลยสำหรับแฟลช แล้วส่วนใหญ่ก็ไม่ใช้เลย มีบางภาพในครั้งแรกๆ ลองถ่ายไปครั้ง 2 ครั้ง ดูว่านักร้อง-นักดนตรีเค้ารู้ (แอบมองเรา) ก็คงไปทำให้เค้าเสียสมาธิ ดังนั้นทางที่ดีก็ไม่แนะนำให้ใช้แฟลชถ่ายภาพแนวนี้ (แต่ไม่รู้นะ คนอื่นๆ อาจจะบอกว่าต้องใช้แฟลชก็ได้) แสงบนเวที ที่จริงก็ไม่ชำนาญอะไร ไม่รู้จัก ไม่รู้ตำแหน่ง ไม่รู้จังหวะการเปิดปิดแสงจากหลอดไฟบนเวทีหรอก แต่เอาเป็นว่าจากภาพคอนเสิร์ตที่ผ่านๆ มา และ หนุ่มโดม ทำให้ชอบแสงจากหลอดไฟที่อยู่ด้านข้างทางด้านหลังของเวที เพราะเวลาถ่ายไปแล้วเหมือนได้แสงไฟจากหลอดไฟสปอร์ทไลท์นั้นๆ มาเป็นฉากหลังที่ทำให้ดูภาพมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย ซึ่งถ้าถ่ายภาพด้านหน้าตรงๆ ส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้แสงฉากหลังแบบนี้ (พี่แบงค์อย่าว่ากันนะ แต่ภาพนี้พี่แบงค์ได้อารมณ์สุดๆ แล้วล่ะ)
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/100, F 3.9, Mode Manual
แต่ถ้าได้แสงสีจากหลอดไฟเป็นฉากหลังไปด้วย เหมือนมีชีวิตชีวา เข้ากับบรรยากาศขึ้นมาหน่อย
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/50, F 5.6, Mode Manual
หรือแบบนี้
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/200, F 5.0, Mode Manual
แต่อย่างไรก็ตาม หากเวทีมีไฟ follow ที่ส่องเข้าหาเวที ซึ่งมักจะส่องไปยังนักร้อง นักดนตรี ซึ่งถ้าได้แสงแบบนี้ เรียกว่าถ่ายง่ายขึ้นเยอะ เพราะค่าแสงจะดูดีขึ้น ที่ผ่านมา ใช้วัดแสงที่ตำแหน่งนี้ แล้วตั้งค่านี้ไปตลอดเลย แล้วก็ไม่ได้ปรับค่าใหม่ เมื่อถ่ายภาพขณะที่ยังไม่มีไฟ follow มาที่ตัวแบบ ...แต่น้าๆ มือโปร. ก็บอกว่าต้องถ่าย ณ ตอนที่มีแสงไฟ follow นี้เสมอ ถึงจะได้ภาพออกมาดี........อ้อ..แล้วถ้าเวทีมีปล่อย smoke บางครั้ง smoke ที่ไปตัดกับแสงสีจากหลอดไฟด้านหลังเวทีก็จะทำให้ภาพมันฟุ้งๆ ลอยๆ ได้ภาพที่สวยมาอีกแบบหนึ่งด้วย
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/40, F 5.0, Mode Manual
ภาพแอ็คชั่น ต้องหาจังหวะให้ได้ เขียนเหมือนเซียน แต่ที่จริงเปล่าหรอก อ่านแล้วจำมา ในตำราบอกว่าควรต้องรู้ว่าคอนเสิร์ตที่จะไปถ่ายนั้น การแสดงเป็นแบบไหน ยืนนิ่งๆ ร้องเพลง หรือเต้นตลอดทั้งเพลง หรือเต้นทั้งวง อันนี้ก็คงแล้วแต่แนวเพลง 2-3 คอนเสิร์ตที่ได้ไปถ่ายมา จะว่าไปไม่ใช่แนวเพลงที่รู้จักหรือคุ้นเคยเลย ไปหัดถ่ายเพราะฟรีคอนเสิร์ตซะมากกว่า เพลงบางเพลงยังไม่เคยได้ยินเลย....แต่ไม่สนใจ ขอหัดถ่ายอย่างเดียว ดังนั้นถ้าสนใจมากกว่านี้ จะได้ภาพแอ็คชั่นที่ดูดี มันส์สะใจขาร็อค ขาแร็พ ขาโย่ว ได้ดี ดังนั้นต้องควรรู้จังหวะ การรับการส่งของนักร้อง นักดนตรี จะได้รอจับภาพนั้นๆ ได้.........น้าบางคนที่ถ่ายเก่งๆ เคยเล่าให้ฟังว่า ขอสัก 1 ภาพ ที่ได้แอ็คชั่นเด็ดๆ กลับมาก็พอใจแล้ว สำหรับการไปถ่ายภาพคอนเสิร์ต
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/100, F 3.9, Mode Manual
อีก 1 แอ็คชั่นจากคอนเสิร์ตหนุ่มโดม
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/200, F 5.0, Mode Manual
มีอะไรอีกไหมหนอ..เขียนมาถึงตรงนี้แล้ว อ้อ. เก็บเล็กเก็บน้อย แนวนี้ก็แล้วแต่ชอบ ถ้าชอบหวานใจนักร้อง ก็ถ่ายมาทั้งหมดไม่ว่าจะหน้าตา เสื้อผ้า เครื่องประดับ เก็บเล็กเก็บน้อยมาให้พอใจ ส่วนถ้าชอบนักดนตรีประเภทมือกีต้าร์ ก็ถ่ายแอ็คชั่นการเล่นกีต้าร์ และก็จับเฉพาะภาพกีต้าร์มาด้วย บางทีจะได้เห็นอะไรดีๆ อยู่บนกีต้าร์นั้นๆ ด้วย
ภาพนี้ถ่าย ISO 800, Speed 1/200, F 5.0, Mode Manual
ส่วนอีกแนวหนึ่ง ที่น้าๆ เค้าชอบถ่ายมา บอกว่าเป็นทีเด็ด ต้องถ่ายให้ได้ คือแอบขึ้นเวที ถ่ายจากเวทีลงมายังคนดูที่สนุกสนานอยู่ข้างล่างเวที ......(อ่านแล้วใจไม่กล้าที่จะขึ้นไป กลัวจะถูกเชิญออกจากงาน)....อันนี้ยังไงก็ไม่มีภาพ ..........แต่เขียนเล่ามาให้อ่านอีกที คงจบแค่นี้ก่อน....ส่วนท่านใดยังอยากรู้เรื่องอื่นๆ อีก ที่มือใหม่แอบหัดถ่ายคอนเสิร์ตจะพอรู้เรื่องแบบงูๆ ปลาๆ หรือ บางเรื่องนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้เขียนให้อ่าน ก็จะมาเพิ่มเติมให้อ่านต่อท้ายจากนี้ไป.
..เอาแค่นี้ก่อนล่ะ ตั้งใจเขียนให้จบก่อนที่ ...บ้านนอกจะไปบางกอกสัก 1 อาทิตย์ กลับมาแล้วค่อยว่ากันใหม่...แต่ไม่รู้จะมีภาพอะไรติดไม้ติดมือมาหรือเปล่านะ...
blog ก่อนหน้านี้ ภาพถ่ายวัดพระสิงห์ ยามค่ำคืน....Night Shot (แบบที่ไม่ได้ตั้งใจ.......)
Create Date : 21 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 5 สิงหาคม 2550 14:58:06 น. |
|
11 comments
|
Counter : 5304 Pageviews. |
|
|
|
เข้ามาเก็บความรู้ จะเอาไปถ่ายคอนเสิร์ตบ้าง
ถ่ายมาเบลอๆทุกที เพราะว่า นัทดูเบลอ คิคิ