โสกระย้า
โสกระย้า ชื่อนี้เพิ่งได้ยิน เพิ่งเคยได้รู้จัก และได้เห็นได้ชม
ครั้งแรกที่เห็นก็ชื่นชม ชื่นชอบ และหลงใหลเข้าแล้ว จากที่เมื่อวานนี้ยอมขี่มอเตอร์ไซค์ตากแดดตากลมแบบชิวๆ ไปเรื่อยๆ จนถึงแม่ริม
จากขาไปก็ผ่านวัดป่าดาราภิรมย์ ว่าจะแวะก็ยังไม่แวะ ขับเลยไปเรื่อย จนขากลับเกือบลืมไปแล้วว่าอยากจะแวะที่วัดป่าดาราภิรมย์สักครั้ง หลังจากที่หลายปีที่เคยมาแล้วก็ไม่ได้มาอีกเลย
ภาพภายในวัดเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ตัวอุโบสถ-วิหาร มีการปรับเปลี่ยนใหม่ อย่างสวยสดงดงาม ตั้งใจไว้จะไปใหม่อีกสักครั้ง
ครั้งนี้ติดแต่เลนส์ 75-300 มม. เลยไม่คิดอยากจะถ่ายภาพภายในวัดด้วยเลนส์ตัวนี้
พอเข้าไปภายในเขตวัด ก็หาที่ร่มๆ ใต้ต้นไม้จอดรถ แล้วก็เห็นดอกไม้สีแดงส้ม ห้อยเป็นระย้า ดูแล้วแปลกตาดี ยังไม่ทันได้ลงจากรถดี ก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพดอกไม้สีแดงส้มนี่แล้ว
จากตรงหน้าที่จอดรถ ดอกไม้สีแดงส้มช่อนี้ช่อเดียว ก็ได้ภาพดอกไม้ที่แปลกตานี้ ไปหลายภาพแล้ว จากนั้นก็เดินหามุมถ่ายภาพดอกไม้ชุดนี้โดยรอบต้น เรียกว่ามีมุมมองให้ถ่ายภาพในหลายๆ มุมมอง และก็ยังมีดอกที่ออกมาไล่เลี่ยกันโดยรอบต้นทีเดียว
ถ่ายภาพได้จนจุใจ เหลียวมองออกไปรอบๆ ตัว ตรงโน้นก็ยังมีอีกหลายต้น เพราะเห็นดอกสีแดงส้มที่ห้อยเป็นระย้าอยู่อย่างเด่นชัด แล้วก็เดินตรงรี่ไปหามุมมองถ่ายภาพดอกไม้สีแดงส้มนี้อีกหลายๆ ต้นที่เรียงรายอยู่
จู่ๆ ก็ได้ยินเสียง "นั่นมันดอกโสกระย้า" ไม่ใช่ โสก ที่เขียนด้วยตัวยตัว ศ ศาลา หรอกนะ เขียนด้วยตัว ส เสือ หันกลับไปตามเสียง ก็เห็นแม่ขี เจ้าของเสียง ยืนอยู่บนระเบียง แล้วก็เล่าเรื่องราวของต้นโสกระย้า ดอกโสกระย้าให้ฟังว่า "พระเทพฯ เสด็จมาที่นี่ แล้วมาเห็นดอกโสกระย้า ก็ทรงชื่นชม ชื่นชอบ และขอให้ตอนกิ่งไปปลูกเพาะชำ"
"ครับ" ผมก็เห็นว่า ดอกสีส้มแดง โสกระย้า นี้ดูสวยงาม น่าชม น่านำไปปลูก
แล้วก็ถามแม่ชีกลับไปว่า "พระเทพฯ ท่านได้ต้นโสกระย้า ไปปลูกแล้วหรือยังครับ" แม่ชีก็ตอบว่า "ทางวัดคงจะดำเนินการจัดหาให้ไปแล้ว"
แม่ชีถามกลับมาว่า "พ่อหนุ่มมาจากที่ไหน" "มาจากในเมืองครับ"
"อ้อ..วันหลังไม่ต้องมาที่นี่หรอก ถ้าชอบ เพราะที่วัดเจดีย์หลวงก็มี" "เหรอครับ ไปวัดเจดีย์หลวงอยู่บ้าง แต่ไม่เคยได้เห็นเลย"
"แม่ชี บอกว่า ที่วัดเจดีย์หลวงมีอยู่ 2 ต้น ช่วงนี้ก็ออกดอกพร้อมๆ กันกับที่นี่" "ดีจังเลยครับ เดี๋ยวกลับไปแล้ว จะตามไปหาดูบ้าง"
"แม่ชีพูดต่อ..ว่า แต่ 2 ต้นที่โน่น ออกดอกสวยไม่เท่าที่นี่หรอกนะ" "โอ้.." "ขอบคุณครับ งั้นผมถ่ายดอกโสกระย้าจากที่นี่ดีกว่าครับ" จบการสนทนา
ที่จริงได้กลับมาเดินหาชมต้นและดอกโสกระย้าที่วัดเจดีย์หลวงแล้ว เดินหาอยู่นานเหมือนกัน เจอต้นแรกเมื่อเดินเข้าทางหน้าวัด ให้เดินเลี้ยวซ้าย ตรงกุฏิของพระสงฆ์ ที่มักจะตั้งเต็นท์เป็นกองอำนวยการ ตรงหัวมุมจะมีอยู่ 1 ต้น ออกดอกแล้วเหมือนกัน แต่เข้าใจว่าน่าจะเป็นช่วงปลายของออกดอกที่นี่แล้ว
เข้าใจว่าอีกต้นน่าจะอยู่ใกล้ๆ กัน เหมือนกับที่วัดป่าดาราภิรมย์ เดินหาโดยรอบแล้วก็ไม่เจอ เดินต่อไปเรื่อยๆ ทางซ้ายมือทางเดียวกับที่เจอต้นแรกจนไปถึงต้นยางสูงใหญ่ ตรงมุมนั้นก็เจออีก 1 ต้น แล้วทั้ง 2 ต้น ก็เป็นอย่างที่แม่ชีบอก ดอกโสกระย้าที่วัดป่าดาราภิรมย์ดูสดใส ไฉไลกว่าเยอะ
เข้าใจเองล่ะว่า ช่วงอากาศที่ต่างกัน ความสมบูรณ์ของดอก ของต้น เลยทำให้ดูแตกต่างกันไปบ้าง
ก่อนจบตามหาข้อมูลจาก web ก็มีข้อมูลของดอกโสกระย้า กันอยู่พอสมควรทีเดียว ชื่อวิทยาศาสตร์ Amherstia nobilis wall. วงค์ LEGUMINOSAE ชื่อ Pride of burma, Orchid Flower ไม้ต้น สูง 12-25 เมตร กิ่งอ่อนห้อยย้อย ใบ ใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 6-8 คู่ รูปไข่ขอบขนาน กว้าง 3-4.5 เชนติเมตร ยาว 5-15 เซนติเมตรปลายเรียวแหลม โคนกลม ดอก สีแดง ออกเป็นช่อห้อยย้อยที่ปลายกิ่ง ยาว 50-80 เซนติเมตร กลีบเลี้ยง 4 กลีบ ลักษณะคล้ายกลีบดอก รูปขอบขนานแคบ ปลายมนกว้าง 0.5-2 เซนติเมตร ยาว 3-4 เซนติเมตร กลีบดอก 5 กลีบ ขนาดและรูปร่างต่างกันเกสรตัวผู้ 10 อัน ติดกันเป็นแผ่นสีชมพู 9 อัน ก้านเกสรตัวเมียสีแดง ยาว 4 เซนติเมตร ผลเป็นฝักแบน สีแดงสดรูปขอบขนานโค้ง กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 15-20 เซนติเมตรขอบด้านบนหนา เมื่อแก่แตกได้ มีเมล็ด 4-6 เมล็ด นิเวศน์วิทยา ถิ่นกำเนิด พม่า ออกดอก มกราคม-กุมภาพันธ์ ขยายพันธุ์ เมล็ด ตอนกิ่ง
จบแล้วสำหรับภาพถ่ายดอกโสกระย้า ขอขอบคุณ แม่ชี-วัดป่าดาราภิรมย์ ที่ช่วยให้ข้อมูลของดอกโสกระย้า และก็ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายดอกโสกระย้าชุดนี้ด้วยครับ
1 มีนาคม 2552 นำภาพถ่ายดอกโสกระย้า ที่ถ่ายภาพจากวัดเจดีย์หลวงมาให้ชมกันด้วย มีให้เปรียบเทียบกับสีหวานๆ ดั้งเดิมของเลนส์ canon กับภาพที่ถ่ายจากวัดป่าดาราภิรมย์ ส่วนภาพที่ถ่ายจากวัดเจดีย์หลวง เนื่องจากได้เห็นความสดใสของดอกโสกระย้าดูไม่สดใสเท่าที่เห็นจากวัดป่าดาราภิรมย์ เลยปรับกล้องให้ภาพสีสันสดใสมากขึ้นมา ด้วย picture style : Faithful ที่ว่ากันว่าสีเหมือนตาเห็น ในสภาพแสง daylight ให้สีเหมือนจริง และสดใสมากกว่า picture style อื่นๆ
ก่อนจบภาพถ่ายชุดนี้ นำใบอ่อนๆ ของต้นโศกระย้ามาให้ชมกันด้วย ซึ่งเห็นแล้วอยากบอกว่าหากใบเล็กๆ น่าไปเด็ดมาจิ้มน้ำพริกกินจริง ใบอ่อนของโสกระย้าดูน่าชมไม่แพ้ดอกจริงๆ
Create Date : 01 มีนาคม 2552 |
|
17 comments |
Last Update : 5 มีนาคม 2552 17:21:27 น. |
Counter : 3769 Pageviews. |
|
|
|