|
มาเรียนรู้เรื่องตั๋วราคาปกติกันดีกว่า
ผู้โดยสารทั่วไปมักจะคิดว่าตั๋วราคาปกติเป็นเรื่องไกลตัว เพราะขึ้นชื่อว่าตั่วราคาปกติแน่นอนย่อมราคาแพงกว่าตั๋วลดราคาทั่วไป แต่จากประสบการณ์ของผมสินค้าราคาแพงย่อมมีคุณภาพที่ดี ถ้ามันไม่ดีก็ไม่มีคนซื้ออะดิ ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละท่านจะมองเห็นข้อดีได้มากน้อยเพียงใด และใช้ข้อดีเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าใดนั่นเอง
ลักษณะของตั๋วราคาปกติคือเป็นตั๋วเต็มราคาในแต่ละเส้นทางนั้นๆ เปรียบได้เสมือนกับเช็คเงินสด สามารถที่จะทำการคืนเป็นเงินสดได้เมื่อเราไม่ต้องการที่จะเดินทาง นอกจากนี้ยังสามารถที่จะเลือกบินกับสายการบินไหนก็ได้ ขาไปไปกับสายการบินหนึ่ง ขากลับกลับกับอีกสายการบินก็ไม่มีปัญหา แถมยังเลือกเส้นทางบินแวะประเทศนั้นประเทศนี้ได้ตามใจชอบ อายุตั๋วก็มีอายุหนึ่งปีนับจากวันเดินทางวันแรก
ข้อดีของตั๋วราคาปกตินอกจากข้างต้นแล้วก็เป็นในเรื่องของลำดับคลาสที่จอง ตั๋วปกติจะมีลำดับคลาสที่สูงที่สุด นอกจากไฟล์ทจะเต็มสุดๆยังไงก็สามารถจองตั๋วเดินทางได้ อย่างที่เห็นบ่อยๆก็เช่นการซื้อตั๋วกระทันหันที่สนามบิน ส่วนมากจะเป็นตั๋วราคาปกติ ที่ยังไงก็สามารถหาที่นั่งได้วันยังค่ำ ข้อเสียของตั๋วราคาปกติก็คือต่อให้จ่ายค่าตั๋วแพงกว่าตั๋วลดราคาทั่วไป ใช่ว่าจะได้รับบริการบนเครื่องที่แตกต่างกัน บริการเท่าเทียมกันหมดไม่ว่าจ่ายถูกหรือแพง ถ้ามีการวางแผนที่ดีในบางครั้งการซื้อตั๋วลดราคาทั่วไปนั้นก็คุ้มกว่าตั๋วราคาปกติเป็นไหนๆ
ราคาตั๋วปกติถูกกำหนดขึ้นโดย IATA และจะมีราคาแตกต่างกันไปตามค่าครองชีพของประเทศนั้นๆ ประเทศที่มีค่าครองชีพสูงเช่นญี่ปุ่น อังกฤษ ยุโรป และเมกา ตั๋วราคาปกติก็จะแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว เทียบระยะทางรวมถึงเส้นทางกับราคาตั๋วแล้ว อาจจะพูดได้ว่าตั๋วราคาปกติออกจากญี่ปุ่นถือว่าแพงที่สุดในโลกก็ว่าได้ แน่นอนประเทศที่ค่าครองชีพต่ำ ราคาตั๋วปกติก็จะต่ำลงมาด้วย นี่คือจุดที่น่าสนใจ ถือว่าประเทศไทยได้เปรียบในเรื่องตั๋วราคาปกติ
ราคาตั๋วปกตินอกจากถูกกำหนดจากประเทศที่ออกเดินทางแล้ว ยังขึ้นอยู่กับระยะทางตรงระหว่างจุดเริ่มต้นกับจุดหมายปลายทาง(TPM)ด้วย IATA ได้กำหนดระยะทางสูงสุดระหว่างจุดเริ่มต้นกับจุดหมายปลายทาง(MPM) (MPM จะมีระยะทางประมาณ 1.2 เท่าของ TPM) ผู้โดยสารสามารถกำหนดเส้นทางบินได้เองภายในระยะทางรวมที่ไม่เกิน MPM หรือสามารถจ่ายค่าโดยสารเพิ่มจากราคาปกติคิดเป็น % กรณีที่เดินทางเกิน (5M 10M 15M 20M 25M สูงสุดไม่เกิน 25% ของ MPM)
การกำหนดเส้นทางบินเองนั้น ผู้โดยสารสามารถเดินทางโดยสายการบินไหนก็ได้ แถมไปแวะพักที่ประเทศไหนก็ได้ ถ้าการเดินทางในเที่ยวบินต่อไปไม่เกิน 24 ชั่วโมงไม่ถือว่าเป็นสต๊อปโอเวอร์ แต่ถ้าเกิน 24 ชั่วโมงจะถือว่าเป็นสต๊อปโอเวอร์ ราคาตั๋วปกติจะมีการเปลี่ยนแปลงเปรียบเทียบกับราคาตั๋วปกติของเมืองที่ทำการแวะพักไปยังจุดหมายปลายทาง ถ้าแวะพักประเทศที่ราคาตั๋วปกติถูกกว่าก็ไม่มีปัญหา อย่างเช่นออกจากสิงคโปร์ แวะพักที่กรุงเทพก่อนไปฮ่องกง ราคาตั๋วปกติจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง หรือถ้าจากกรุงเทพฯไปโตเกียว แวะพักที่โซล ราคาตั๋วก็ไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน แต่ถ้าออกเดินทางจากกรุงเทพฯไปเมกา แต่แวะพักที่โซล หรือโตเกียว ราคาตั๋วปกติก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามราคาตั๋วปกติที่ออกจากโซลหรือโตเกียว
เนื่องจากตั๋วปกติสามารถกําหนดเส้นทาง สายการบิน รวมถึงระยะทางบินเองได้ ทำให้มีความยืนหยุ่นสูงแล้วยังสามารถใช้ประโยชน์จากการสต๊อปโอเวอร์ได้อีก อย่างเช่น กรณีซื้อตั๋วราคาปกติจากกรุงเทพฯไปโตเกียว สามารถเลือกเส้นทางแวะพักสต๊อปโอเวอร์ที่ฮ่องกง ไทเป โซล โอซาก้า ก่อนไปถึงโตเกียวโดยไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่ม(จ่ายเฉพาะค่าภาษีสนามบินเท่านั้น) หรือในกรณีที่ประเทศที่แวะพักราคาตั๋วปกติแพงกว่าจุดเริ่มต้น พยายามต่อเครื่องไม่เกิน 24 ชั่วโมงก็ไม่ถือว่าเป็นสต๊อปโอเวอร์ อย่างเช่นเดินทางจากกรุงเทพฯไปแอลเอ อยากแวะพักที่ฮ่องกง โซล ไทเป และโตเกียวก่อนก็ได้ ถ้าแต่ละที่ไม่เกิน 24 ชั่วโมงราคาตั๋วก็ไม่เปลี่ยน ถือว่าได้แวะเที่ยวต่างประเทศฟรี(แต่เหนื่อยหน่อยเท่านั้นเอง) หรือถ้าบินอ้อมไปแวะพักหลายประเทศ ทำให้ระยะทางมากกว่า MPM ก็สามารถจ่ายค่าโดยสารเพิ่มเป็น % เช่น 10M ตามข้างต้นก็ไม่มีปัญหา
ในอดีตตั๋วราคาปกติจะมีการเช็คเส้นทางที่ซับซ้อนมาก ยิ่งในกรณีที่ไม่ได้จองและออกตั๋วในประเทศจุดเริ่มต้นหรือ SOTO นับแต่ต้นปีที่ผ่านมา กฏข้อนี้ได้ถูกลดหย่อนไปเนื่องจากการแพร่หลายตั๋วอิเล็คทรอนิคส์ แต่ก็ยังมีการยกเว้นในบางประเทศเช่น ญี่ปุ่น ที่ยังต้องพิจารณาถึงเรื่องนี้อยู่ นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีสําหรับผู้ที่เดินทางบ่อยด้วยตั๋วราคาปกติ สามารถซื้อตั๋วราคาปกติได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นกว่าในอดีตมากยิ่งขึ้น
อย่างที่บอกไว้ว่าตั๋วราคาปกติเปรียบเสมือนเช็คเงินสด และสามารถเดินทางด้วยสายการบินไหนก็ได้ ดังนั้นเมื่อทำการออกตั๋วหรือออกเดินทางแล้ว ผู้โดยสารมีเหตุให้ต้องเปลี่ยนเที่ยวบินและสายการบินก็ย่อมทำได้เช่นกัน การเปลี่ยนสายการบิน(เส้นทางเดิม)เรียกว่า Endorse เปลี่ยนเส้นทาง Re-route รวมถึงการออกตั๋วใหม่ Re-issue
การเปลี่ยนสายการบินหรือเอนดอร์สนั้น ต้องทำการติดต่อไปยังออฟฟิคของสายการบินเดิมที่จะเดินทาง เพื่อทำการแสตมป์หลังตั๋วว่าจะทำการเอนดอร์สไปยังสายการบินไหน ต่อจากนั้นก็ทำการติดต่อจองที่นั่งกับสายการบินใหม่ที่ต้องการเดินทาง วันที่เดินทางก็นำตั๋วที่มีแสตมป์ข้างหลังไปเช็คอินกับสายการบินใหม่ที่จองไว้ ยกตัวอย่างเช่นกรณีของผม ที่การบินไทยเปลี่ยนเที่ยวบินใหม่ ถูกลดชั้นที่นั่งลงมา เลยต้องทำการเอนดอร์สเพื่อเปลี่ยนสายการบินใหม่ ต้องนำตั๋วไปทำการเอนดอร์สที่สำนักงานการบินไทยด้วยตนเอง พนักงานก็จะทำการแสตมป์หลังตั๋ว พร้อมกับขีดเขียนว่าจะเอนดอร์สไปสายการบินไหน
ถ้าหากบินในเส้นทางเดียวกันก็ทำการจองที่นั่งกับสายการบินใหม่แล้วนำตั๋วที่มีแสตมป์ข้างหลังไปทำการเช็คอินได้เลย แต่ถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางบิน ต้องนำตั๋วที่เอนดอร์สเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปยังออฟฟิคสายการบินใหม่ที่จะเดินทางด้วย สายการบินใหม่ก็จะทำการจองที่นั่ง พร้อมคำนวนราคาตั๋วปกติใหม่ จากนั้นก็ทำการออกตั๋ว ถ้ามีส่วนต่างของราคาก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม เมื่อได้ที่นั่งใหม่เสร็จก็ต้องทำการติดต่อกับสายการบินเดิมเพื่อทำการยกเลิกเที่ยวบินเก่าที่จองไว้ เป็นอันจบสิ้นเรียบร้อยกับการเปลี่ยนเส้นทางสายการบินสำหรับตั๋วราคาปกติ ค่อนข้างยุ่งยากทีเดียวกับการจะเปลี่ยนเส้นทางบินในแต่ละที แต่ก็เป็นผลดีต่อผู้โดยสารเองกรณีมีเหตุฉุกเฉินต่างๆเกิดขึ้น ผมก็ค่อนข้างเสียเวลาไปเยอะทีเดียวกับการเปลี่ยนสายการบินและเส้นทางบินในครั้งแรกๆ เพราะหารายละเอียดข้อมูลได้ยากมากทีเดียวไม่ว่าจะในเน็ตหรือหนังสืออื่นๆ
ข้างต้นเป็นเนื้อหาส่วนใหญ่คร่าวๆของตั๋วราคาปกติ ยังมีในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยลงไปอีกมากมายที่ซับซ้อนเข้าใจยาก ทั้งการแบ่งโซนประเทศ ข้อจำกัดย่อยในการเลือกเส้นทางบินแต่ละแห่ง โอเพ่นจอว์ภายในประเทศหรือระหว่างประเทศ จำนวนครั้งการแวะทรานสิทแต่ละเมือง อัตราแลกเปลี่ยนและการคำนวนราคาตั๋วปกติ ฯลฯ ซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้รายละเอียดปลีกย่อยนี้มากเท่าไดนัก รับรู้เพียงคร่าวๆเท่านั้น ท่านใดที่สนใจก็ควรหาหนังสือเกี๋ยวกับตั๋วราคาปกติมาศึกษาเองแล้วอะครับ(โดยเฉพาะท่านที่เดินทางบ่อย) รับรองว่าจะได้ประโยชน์จากการศึกษาเองไม่มากก็น้อย
นอกจากการซื้อตั๋วราคาปกตินั่งเองชั้นพรีเมียร์แล้ว การสะสมไมล์เพื่อใช้ขอตั๋วฟรีหรืออัพเกรดก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีไม่น้อย นอกจากไฟล์ทไมล์แล้ว ยังสามารถแลกไมล์จากบัตรเครดิต พักผ่อนโรงแรม เช่ารถขับ ฯลฯ ไม่จำเป็นต้องจ่ายตังค์หลายหมื่นหลายแสนบาทซื้อตั๋วเอง ก็สามารถนั่งชั้นพรีเมียร์ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะจ่ายตังค์ซื้อตั๋วเอง หรือใช้ไมล์ขอตั๋วฟรีก็ตาม ถ้ามีการวางแผน และศึกษาล่วงหน้า รับรองว่าจะได้ประโยชน์มากเลยทีเดียว สิ่งเหล่านี้ต้องศีกษาค้นคว้า และการเดินทางบ่อยจะมีส่วนช่วยให้รับรู้เองได้ไม่มากก็น้อย ประสบการณ์สำคัญที่สุด ไม่ว่าอ่านหรือฟังมาอย่างไร ก็ไม่เท่ากับได้ลงมือกระทำเอง หวังว่าคงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับผู้ที่สนใจครับ
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E3878658/E3878658.html
Create Date : 05 ธันวาคม 2548 | | |
Last Update : 5 ธันวาคม 2548 2:31:55 น. |
Counter : 532 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|