เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก #2 Japan in First time #2
  มาต่อกันต่อนะคะ

หลังจากที่น้ำไปแช่ออนเซ็นแล้วก็รับประทานอาหารเย็นที่โรงแรมเสร็จแล้ว

ก็เข้านอนค่ะ  อากาสแบบประมาณตอนนั้นก่อนที่จะนอน ประมาณ 2-3 องศา เย็นมว๊ากก

ในโรงแรมที่พักเค้าไม่มีเตียงนะคะ มีแต่ฟูก หมอน ผ้าห่ม

สภาพดูไม่น่าอุ่น หมอนไม่น่าหนุนนอนได้  แต่ว่า มันอุ่นแล้วแบบนอนสบาย นุ่มมากก

ในห้องไม่ต้องเปิดฮีตเตอร์ก็กำลังอุ่นพอดีนะคะ

ถ้าเปิดฮีตเตอร์จะได้อารมณ์อากาศบ้านเราตอนหน้าร้อนเลยค่ะ  มันจะอึดอัดมากกว่า อบอุ่น ฮ่า

น้ำเลยไปเปิดหน้าต่าง  รับลมเย็นสักหน่อย

บรึ๋ยยยย Smiley ไม่ต่างจากช่องแช่แข็งในตู้เย็นเลยค่ะ  รู้สึกได้ว่าหน้าชา ฮ่าาา

มิน่าสาวๆ ที่นี่เค้าถึงผิวดีกันจัง  แช่ออนเซนเสร็จ  แล้วมาเจออากาศอย่างนี้

โบกมือลารูขุมขนเลยค่ะ  แต่ต้องทำความรู้จักกับผิวแห้งเป็นขุยแทน ฮ่าาา

จะว่าไป  อยู่ที่ญุี่ปุ่นอากาศมันแห้งมากจิงๆ นะคะ

แห้งแบบในจมูกน้ำเนี่ย  เลือดกำเดาไหลเลยอ่ะ

ทางที่ดีควรใส่ผ้าปิดปากเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ตัวเองนะคะ  ไม่ก็พกพวกนสเปรย์ฉีดหน้าก็ดีค่ะ
(แบบที่เห็นในซี่รี่ย์เกาหลี  ที่เค้าชอบฉีดใส่หน้า เข้าใจฟีลนั้นเลยค่ะ ฮ่า)



เช้าวันถัดมา...

เตรียมตัวออกเดินทางไปยังที่พักต่อไป ระหว่างทางมีแวะชอปปิ้งบ้าง  แต่น้ำจำไม่ได้แล้วว่าที่ไหนบ้าง  แล้วก็ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปด้วยค่ะ  แบตมือถือไปไวมว๊ากกก

อาจเพราะอากาศมันเย็นมั้งคะ เปิดเครื่องไว้เฉยๆ ไม่ต่างจากเล่นเกมเลย Smiley

อันนี้บรรยากาศหน้าโรงแรมที่พักเมื่อคืนค่ะ



น้ำชอบสวนแบบนี้มาก.. ชอบต้นไม้ที่มีกิ่งชัดเจน ใบน้อยๆ

อันนี้สวนที่เค้าทำไว้หน้าโรงแรมค่ะ



ต้นไม้พวกนี้ยังไม่ตายนะคะ ฮ่า  เพราะมันเป็นเพิ่งหมดช่วงฤดูหนาวไป  ตอนนี้เลยเหลือแต่ต้นกับกิ่งค่ะ

แต่น้ำชอบนะ  มันสวยดี



อากาศตอนเช้ายังเย็นอยู่ค่ะ  วันนั้นใช้รองพื้นเป็นของ Etude BB นะคะ

ของแถบนั้นก็เหมาะกับอากาศแถบนั้นจริงๆค่ะ  ใช้แล้วผิวดีเฟ่อออ

ไม่มัน  ไม่ย้อย  ฉ่ำเด้ง  ดูไม่แห้งดีค่ะ

(แอบใส่เสื้อที่ซื้อมาเมื่อวาน ฮ่า ยังไม่ได้ซักแต่ขอใส่ก่อนนะ)


ค่ะ จบ#2 แล้วนะคะ  เด่วน้ำมาต่ออีก  หลังจากนี้จะเริ่มจำไม่ค่อยได้แล้ว ฮ่า เพราะเริ่มเสียทรัพย์  ความจำเลยเลอะเลือน ฮ่า







Create Date : 05 สิงหาคม 2558
Last Update : 5 สิงหาคม 2558 12:03:06 น.
Counter : 732 Pageviews.

0 comment
ความฝันเป็นจริง!! ครั้งแรก กับ ญี่ปุ่น #1 Virgola in Japan #1


เย๊ๆๆ ได้เขียนเรื่องราวที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วววว......Smiley

การไปครั้งนี้  น้ำมีโอกาสได้ไปฟรีนะคะ  จากญาติๆ กันเค้าไม่สะดวกไปเลยให้เราไปแทนในฐานะตัวแทนร้านค้า

น้ำไปพร้อมกับทัวร์ของบริษัทหนึ่งค่ะ  เค้าจัดไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง

ต้องขออภัยล่วงหน้าเลยนะคะ  เพราะมันก็นานมาแล้ว  เรื่องสถานที่และรายละเอียดอาจจะไม่ชัดเจนมากนัก  แต่น้ำอยากนำเสนอมุมมองของน้ำ  ในฐานะนักท่องเที่ยวคนนึงที่มีโอกาสได้ไปถึงดินแดนที่ฝันไว้ว่า  สักวันต้องไปให้ได้



เอาหล่ะค่ะ  เริ่มเดินทางจากที่บ้าน  บ้านน้ำอยู่ต่างจังหวัด  เลยต้องนั่งรถทัวร์เข้ามาที่หมอชิต
แล้วค่อยนั่งแท็กซี่ไปที่สุวรรณภูมิอีกทีนะคะ  อาจจะดูลำบากไปนิ๊สสส แต่ก็ชัวร์กว่าค่ะ ฮ่า

น้ำขอข้ามเรื่องตอนที่อยู่ประเทศไทยไปเลยแล้วกันนะคะ

วันแรกที่ถึงสนามบินนาริตะ  คือ  สิ่งแรกที่เห็นคือ กรุ๊ปทัวร์เยอะมว๊าก เยอะแบบที่ไม่เห็นคนญี่ปุ่นเลยค่ะ ฮ่า

เราก็รอเช็คผู้โดยสารขาเข้านะคะ  เค้าเช็คละเอียดมาก  ต้องถ่ายรูป  ปั้มลายนิ้วมือ  ถามคำถามเล็กๆ น้อยๆ  อ่อ  ช่วงผู้โดยสารขาเข้ามีหลากหลายเชื้อชาติมากๆ ค่ะ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวแบบแบคแพค  (เราอยากมาแบบนั้นมากกว่าจีๆ)

เอาหล่ะค่ะ ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ยืนรอให้เค้าจัดการโน่นนี่นั่น 

ไอ่เราด้วยความที่เคยชินชอบยืนไปมั่ว  พอดีเรายืนขวางทางที่เค้ากำลังเก็บรถเข็นกระเป๋าของสนามบินหน่ะค่ะ
แต่เราไม่รู้  เราเลยโดนคุณลุงพนักงานเค้าบ่น  บ่นเป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ
นี่ขนาดทำงานสนามบินนะคะเนี่ย  เค้ายังไม่ค่อยจะพูดภาษาอังกฤษกันเลยค่ะ

ต่อไปเราก็เดินทางไปยังที่พัก  น้ำขอบ่นเรื่องนึงของการทัวร์ครั้งนี้นะคะ
คือ  เวลาส่วนมากของเราจะอยู่บนรถ  คือ  เค้าพาทัวร์แบบครบสี่ทิศเลยหน่ะค่ะ
ไอ่เรามันสายชอปปิ้ง  กะ  กินบรรยากาศ  มันไม่ฟินเลยอ่ะ  ใน 1 วันนะคะ นั่งรถไปเกือบหมดวันแล้วค่ะ

อ่อ ต่อๆ  พอถึงที่พัก นั่นก้อคือ  Fujinoboukaen Hotel  Smiley

คืนแรกเราพักกันที่นี่ค่ะ 


มียูกาตะให้ใส่ด้วย  แล้วเค้ามีบ่อน้ำพุร้อนภายในด้วยนะคะ  มีรึเราจะพลาด

ขอเล่าประสบการณ์การแช่ออนเซนก่อนเลยนะคะ

การแช่ออนเซนของญี่ปุ่น  คือ  มันต้องแก้ผ้าหมดเลยนะคะ  เพราะเค้าบอกว่า  น้ำมันจะสกปรกถ้ามีพวกผ้าหรืออะไรอย่างอื่นลงไปหน่ะค่ะ

อุณหภูมิของน้ำพุร้อนจะอยู่ที่ประมาณ 39 - 40 องศานะคะ  ถามว่าร้อนมั้ย  ร้อนพอๆ กับน้ำในมาม่านั่นแหล่ะค่ะ ความรู้สึก ฮ่าา

เราเข้าไปตอนแรกก็เขินๆ อายๆ  แต่เห็นคนญี่ปุ่นเค้าทำกันก็ดูไม่มีอะไร  เราก็ทำๆ ตามเค้าไป 

จังหวะแรกที่เอาขาหย่อนลงน้ำ คือ ร้อนอ๊าาาาา แต่ก้อต้องค่อยๆ ลงไปค่ะ

พอลงไปนั่งสักพัก  เห้ย  อุณหภูมิประมาณนี้มันกลับทำให้รู้สึกดี  เพราะอากาศปกติจะอยู่ที่ 10 องศากว่าๆ

เค้าก็บอกอีกว่า  อย่าแช่นานเกินไปเดี๋ยวเป็นลม  ให้ลุกมาเอาน้ำปกติอาบสลับกัน 

แต่น้ำอุณหภูมิปกติมันคือ  น้ำอุณหภูมิ  10  องศานะคะ ปรึ๋ยมาก Smiley

อาบน้ำปกติเสร็จก็กลับลงไปแช่อีกรอบ  ฟินกว่าเดิมอีกค่ะ  รู้สึกโล่งสบายตัวมาก

หลังจากนั้นเราก้อแช่ไปอีกสัก 10 นาทีแล้วก็อาบน้ำล้างตัว  เตรียมตัวไปกินข้าวเย็นที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ค่ะ



สิ่งที่ชอบที่สุดของโรงแรมนี้  ก็คือ  ขาปูค่ะ  ขาปูใหญ่มากกกกกกกกกกก

อย่างอื่นก็อร่อยนะคะ  แต่ยังหาทานที่บ้านเราได้  แต่ขาปูสดๆ เนี่ยมันสุดยอดจริงๆค่ะ

มีความเค็มของทะเลในเนื้อปู  ไม่ต้องจิ้มอะไรทั้้งนั้นนะคะ  เพราะไม่อร่อย ฮ่า

เรากินแต่ขาปูอย่างเดียวเลยค่ะ Smiley

อ่อ เกือบลืม  เหล้าบ๊วยอร่อยนะคะ กินไปเหมือนน้ำบ๊วย  หวานๆ เปรี้ยวๆ แต่กินเข้าไปไม่ต่างจากเหล้าค่ะ ฮ่าา (ชื่อมันก้อบอกอยู่)


จบ #1 ไปแล้วนะคะ  เดี๋ยวน้ำมาต่อให้อีก  จริงๆ มันไม่ได้เยอะอะไรหรอกค่ะ 

แต่ว่า  มันต้องค่อยๆ นึก ฮ่า


ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ  บ๊ะบาย  Smiley






Create Date : 02 สิงหาคม 2558
Last Update : 2 สิงหาคม 2558 23:46:05 น.
Counter : 1023 Pageviews.

0 comment
วิวสวยๆ ที่เกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่า เกาะล้าน
 สวัสดีค่ะ  น้ำอยากมาบันทึกเหตุการณ์ตอนที่ได้ไปเที่ยวที่เกาะล้านดู

จริงๆ เคยไปเกาะล้านมาประมาณ 2 ครั้งนะคะ  ก้อประมาณ  2  ปีที่แล้ว  ซึ่งไม่ได้เย้อมากมาย  แต่สิ่งที่ประทับใจไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ  ทะเลของเกาะล้านค่ะ

ด้วยความที่มันเป็นเกาะ  และมีแนวหาดตื้น  ทำให้เรามองเห็นน้ำทะเลสีเขียวสวยๆ ได้ไม่ยาก  น้ำไปกับเพื่อนๆ อีก 3 คนค่ะ  รอบนี้เพื่อนจัดแจงให้ทุกอย่างเราแค่จ่ายตังและหิ้วกระเป๋าไปแค่นั้นเอง

ประสบการณ์ครั้งแรกเมื่อได้เที่ยวเอง  ไปกับเพื่อนเอง

ต้องขอบคุณ เจ๊เอินมว๊ากกก ที่ชวนไปเที่ยวด้วย  (ทุกวันนี้ก้อยังชวนไปเที่ยวด้วยอีก ติดแค่เงินค่ะ ฮ่าา)
ตอนแรกเฉยๆ กับเกาะล้านมาก  ก็คงไม่มีอะไรพิเศษ  ก้อเดินทางขึ้นรถขึ้นเรือไป  จนไปถึงหาดตาแหวน (มั้งคะ ชื่อจำไม่ค่อยได้)

เห่ย... มันสวยอ่ะ  บรรยากาศ  อากาศ  มันโล่งดีมว๊าก  อยากเอาอากาศกลับบ้านชอบกลิ่นทะเลมากกก
หลังจากนั้นเราก้อไปเชคอินเข้าที่พัก  ไอ่เราก้อชวนเจ๊แกไปแว้นมอไซด์รอบเกาะ

ซึ่งเราไม่เคยขับรถแบบเนินมาเรย  เป็นมนุษย์พื้นราบ ฮ่าา ตื่นเต้นม๊ากก ลงเนินแต่ละทีความรู้สึกเหมือนจะลงเหว ฮ่าา

ตั้งใจว่าจะขับไปดูให้ครบทุกหาด  ก็เกือบจะครบแหล่ะค่ะ  แต่ติดตรงที่ดันหลงทางซะก่อน ฮ่าา

ทั้งสองคนมีความสามารถในการหลงขั้นสุด  สามารถขับไปไหนก็ไม่รู้  แล้วโผล่ในสถานที่ที่คนทั่วไปไม่น่าจะไปได้ด้วย ฮ่า

อันนี้ภาพจากหาดที่ชอบที่สุดนะคะ  ไม่ค่อยมีคนเล่นน้ำเท่าไหร่  แต่น้ำไม่ได้ลงไปเล่นค่ะ  เพราะกลัวหอยเม่นมาก Smiley



สวยมว๊ากกก  แต่ถ้าไปตอนนี้ก็จำทางไปไม่ได้แล้วค่ะ

จะลงรูปไปเรื่อยๆ นะคะ  ตอนนี้ก็จำรายละเอียดอะไรมากไม่ได้ Smiley




มุมโขนหินค่ะ  มาหาที่หลบแดดกันฟินกับบรรยากาศอยู่  หาดเดียวกันค่ะ



จากหาดแถวๆ วัดหรือตลาดเนี่ยแหล่ะค่ะ  ตอนเย็นๆ กำลังมาหาซื้อของสดไปปิ้งกินกัน
(เป็นความคิดที่ผิดมากค่ะ Smiley คือ ปิ้งกันไม่เป็นนั่นเอง ฮ่า ซื้อเค้ากินอ่ะดีแล้ว)



วิวมุมสูงจากเนินที่น้ำคิดว่า สูงสุดของเกาะในหาดนี้แล้วนะคะ  ถนนน่ากลัวมาก มันเป็นทางลงชันมากกก แถมโค้งด้วย  ตัวเกร็งเต็มที่เลยค่ะ Smiley



อันนี้จำได้ลางๆ แค่มันเป็นจุดชมของเกาะ  คือ  ตอนมองไปเห้ย ไม่ไกลๆ ขึ้นไหวๆ  แต่กว่าจะถึงยอดนะคะ  เดินไปพักไปล้านรอบ ฮ่าาาา ยิ่งขึ้นสองอากาศก็ยิ่งเบาบางหน่ะค่ะ  แต่สดชื่นดีนะคะ



น้ำทะเลของที่นี่ใสมาก.....ยิ่งมาตอนเช้าๆ นะคะ ฟินมากค่ะ อากาศดี๊ดี



เห็นสวยๆ อย่างนี้  แต่อย่าเดินไปดีกว่านะคะ ฮ่า ไม่รู้ว่าตอนนี้เค้าปรับปรุงรึยัง

ตอนน้ำไปมันไม่ต่างจากซากไม้เลย  ไอ่เราก็ยั้งเดินไปกันอีก  คือ  ตกมาอาจตายเพราะไม้เสียบหน่ะค่ะ ฮ่าา

แต่สวยนะ  คุ้มต่อค่าเสี่ยงชีวิต Smiley



ภาพนี้ได้จากการเดินสะพานไม้นั่นแหล่ะค่ะ  สวยมว๊ากกก ต้องเห็นด้วยตาตัวเอง จะสวยกว่านี้มากกกก

เอาหล่ะค่ะ  จบไปแล้วกับบันทึกเดินทางเล็กๆ น้อยๆ  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ

Smiley



Create Date : 02 สิงหาคม 2558
Last Update : 2 สิงหาคม 2558 14:02:16 น.
Counter : 434 Pageviews.

0 comment

virgolachiic
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เพื่อน คนที่กำลังชมบลอค
New Comments