People Don't Change!
 
**ITALY** [ Vatican ]

ตื่นเช้าวันสุดท้าย ฟ้าสดใสครับ (หลังจากฝนตกตอนกลางคืนซะดังสนั่น...)



ห้องทานอาหารเช้าครับ ระดับนี้แล้วฝาผนังไม่ใช้ wallpaper นะครับ วาดเอาเลย...



เช้านี้ต้องไปขึ้นตั๋วรถบัสก่อนครับ เนื่องจาก Ryanair ใช้สนามบินที่ไม่ใช่สนามบินหลัก เลยต้องนั่งรถบัสของ Terravision ไป ที่ออกตั๋วก็ใน Roma Termini นั่นแหละครับ เลยได้แวะเยี่ยมเป็นครั้งสุดท้าย (first class ไม่มีอีกแล้ว... ต่อไปนี้ eco ตลอด )



วันนี้เรามีแพลนไปวาติกันอย่างเดียวครับ แล้วบ่ายๆก็ต้องนั่งเครื่องกลับอังกฤษครับ เวลาไม่น่าจะพอเก็บรายละเอียดทั้งหมด แต่ก็เอานะครับมีเวลาเท่านี้ เอาไว้รอบหน้าแล้วกันเน้อ... ระหว่างทางก็เยี่ยมชมเมืองโรม่าไปเรื่อย ๆ ครับ



San Carlo Quatro Fontane ครับ จริง ๆ เขามีรูปสลักสี่ด้านของสี่แยกนี้เลยนะครับ แต่ถ่ายมาแค่ด้านเดียวครับ (memory ในกล้องเหลือน้อยเข้าไปทุกที....)



ที่ไหนซักที่แหละครับ เห็นคุณพี่เขาทำหน้าเครียดแบกเสากันดูแปลกตาดี



Fontana del Tritone ครับ



Trinita dei Monti หรือ Spanish Steps ครับ มุมนี้จากทางข้างบนครับ (เลือกมาทางนี้เพราะไม่อยากเดินขึ้นบันได )



ส่วนรูปนี้ถ่ายจากทางด้านล่างครับ จะเห็นได้ว่าซ่อมอีกแล้วครับทั่น



น้องปลา (หรือเรือ???) หน้า Spanish Steps ครับ



อนุสาวรีย์แม่พระมารีย์แถว ๆ Spanish Steps ครับ



เดินต่อไปเรื่อย ๆ ครับ จุดหมายคือจะไปเดินริมแม่น้ำ Fiume Tevere กันครับ เดินแวะไปดู Mausoleo Augusto ซึ่งก็ปิดซ่อมตามเคยครับ



ร้านค้านี้ท่าทางจะอยู่มานานมาก ๆ สังเกตเสาสิครับ โรมันแท้เลยนะ



ว่าแล้วก็เดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อย ๆ ครับ เจอโบสถ์นี้สวยดี แต่ก็ไม่ได้ข้ามไปดู



เรือนำเที่ยวครับ แต่ผมว่าน้ำมันลงต่ำซะขนาดน้าน จะไม่เห็นอะไรเลยน่ะสิครับ สรุป...ไม่น่าจะคุ้มครับ



มองลอดต้นไม้ดู Palazzo Giustizia



เห็น Basilica S.Pietro ลิบ ๆ แล้วครับ ใกล้จะถึง vatican แล้วเรา



ไม่รู้เป็นไง ชอบตึกสีแบบนี้จังเลยครับ



ร้อน ๆ แบบนี้ต้องซื้อน้ำจากร้านแบบนี้ครับ ซื้อจากตู้กด หรือบางร้านค้าไม่เย็นเลย แต่ร้านแบบนี้เย็นจนเป็นน้ำแข็งเลย แต่ก็แลกมากับราคาที่แพงกว่าร้านปกตินะครับ



Ponte Sant' Angelo กับ Castel Sant' Angelo ครับ



รูปปั้นบน Ponte Sant' Angelo ครับ (แทบทุกรูปจะมีนกเกาะหมดเลยครับ..)



เหมือนแสงสว่างนำเรามาที่นี่เลย



บริเวณก่อนทางเข้าครับ



ก่อนทางเข้าก็จะมีรถ Sight Seeing จอดอยู่หลายเจ้าเลยครับ ถ้าใครไม่ชอบเดินชมเมืองแบบเราสองคน ก็แนะนำนะครับ น่าจะสะดวกสบายดี



มาถึงแล้วครับ คนเยอะพอตัว..



ว่าแล้วก็ไปเข้าแถวเข้าชมอาสนวิหารกันทันทีครับ



ไปถึงตอนเกือบสิบโมง แถวยาวแต่ใช้เวลาไม่มากเลยครับ ผ่านเครื่องตรวจอาวุธก่อน แล้วก็จะเจอด่านตรวจการแต่งกายอีกรอบนึง ระหว่างยืนก็ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ครับ



เข้าแถวไม่เกินครึ่งชั่วโมง เราก็มาเจอคุณพี่ Swiss Guard กันแล้วละครับ ชุดพี่เขาสีสรรเจ็บจริง ๆ



เราลงไปเยี่ยมหลุมศพของโป๊ปองค์ก่อนกันเป็นอย่างแรกเลยครับ ตอนลงไปไม่เห็นว่าเขาห้ามถ่ายรูป หลังจากกดไปสองรูปข้างล่างแล้วก็หยุดเลยครับเพราะเห็นป้ายห้าม หลุมศพของโป๊ปองค์ก่อนเรียบง่ายเสียจนไม่น่าเชื่อครับ คงเป็นดังความประสงค์ของท่านครับ แล้วก็จะเป็นหลุมศพเดียวที่มีคนเฝ้า แล้วก็ไม่ให้หยุดนานเกินความจำเป็น ส่วนหลุมศพของโป๊ปก่อน ๆ ล้วนแต่ปราณีตงดงามทั้งนั้นเลยครับ





ออกมาก็เจอคุณพี่ Swiss Guard ระยะประชิดครับ



ว่าแล้วก็วกเข้าไปชมในตัวอาสนวิหารกันต่อครับ ภาพนี้จากตรงหน้าประตูพอดี



เพดานส่วนนอกครับ



ประตูหลักครับ



พื้นป้ายตรงประตูหลักด้านในครับ



ดูรูปภาพในวิหารทั่ว ๆ ไปเลยครับ











บรรยากาศโดยรอบ ๆ ก็มีแต่นักท่องเที่ยวครับ กับมีพนักงานคอยตรวจตราความเรียบร้อยครับ แต่ทุกคนเงียบสงบมากครับ ไม่มีใครส่งเสียงดังเลยแม้แต่น้อย ทุกคนให้ความเคารพสถานที่ดีมากครับ









มีพิธีกรรมพอดีครับในส่วนนี้



แล้วเราสองคนก็ไปลูบเท้า Saint Peter กันครับ (ขนาดทำจากทองเหลือง เท้าท่านยังสึกไปเลยครับ)



นี่คือหลุมศพท่านใต้พระแท่นประกอบพิธีหลักครับ



เนื่องจากได้เวลาต้องไปขึ้นรถบัสแล้ว เราสองคนเลยต้องทำใจครับ ทั้ง ๆ ที่ยังอยากใช้เวลาให้มากกว่านี้ อยากขึ้นไปยังโดมของอาสนวิหาร อยากไปเยี่ยมชมพิพิธพันธ์ ฯลฯ ทำไงได้ครับ ยังไงได้โยนเหรียญลงในน้ำพุ Trevi แล้ว คงได้กลับมาแน่ ๆ ครับ ปิดท้ายอาสนวิหารด้วยฝีมือซูมของคุณภรรยาครับ



ออกมาข้างนอกฟ้าก็ยังแจ่มอยู่มากครับ เสียดายจริง ๆ เล้ย



ปิดท้ายวาติกันด้วยภาพนี้แหละครับ คิดว่ายังไงคงได้มาอีกแน่ ๆ



จากนั้นเราสองคนก็เดินเร็วกลับไปขึ้นรถบัสที่สถานีรถไฟครับ เดินเร็วจริง ๆ ครับหลายกิโลอยู่เดินกันแค่สี่สิบนาที โดยไม่มีหยุดพัก ถึงสถานีก็โดดขึ้นรถบัสเลยครับ เหนื่อยมาก ๆ

เครื่องออก delay ไปครึ่งชั่วโมง ตอนแรกนึกว่าจะมาเปลี่ยนเครื่องที่ London Stansted ไม่ทันซะแล้ว เพราะเวลาจำกัดมาก แต่คุณพี่นักบินสายการบินนี้อย่างที่บอกไปแล้วว่าซิ่งมาก ๆ สามารถทำเวลาจน delay แค่สิบนาที (เชื่อมั้ยละครับ... สงสัยจะมีลมส่งท้ายด้วย พี่แกเลยทำเวลาได้)

มาถึง London Stansted ก็วิ่งผ่าน immigration วิ่งไปเช็คอิน (เหมือนโดนแกล้งให้ไปเช็คอิน counter สุดท้าย วิ่งแทบตาย) ได้ boarding pass เสร็จก็แวะซื้อ Krispy Kreme (เพราะบ้านนอกไม่มีขาย...)

จากนั้นก็วิ่งผ่าน Security อีกรอบ คุณภรรยาโดนเจ้าหน้าที่แกล้งเรื่อง Krispy Kreme ตลอดเวลา ประมาณว่าไม่ให้ขึ้นเครื่องบ้างล่ะ เจ้าหน้าแสกนก็ไม่ให้ผ่านบ้างล่ะ บอกว่าข้างในเป็นครีม (อันนี้น่าจะจริง) แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าขึงขังก็บอกว่า I'm joking.. you are number 37 for today. (สงสัยเธอจะทำทุกวันแน่นอน เป็นขบวนการตั้งแต่คนดูจอ ไปยันคนค้นของ...

แต่จริง ๆ แล้วมันควรจะห้ามหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ เพราะว่าถ้าตอบจริง ๆ มันก็ครีมอยู่ข้างในจริง ๆ ด้วย แต่ไม่เป็นไรเราผ่านมาได้แล้วก็พอ ว่าแล้วก็รัดเข็มขัดให้ซะ... ไปนะ..กลับ Belfast กัน



นี่คือโฉมหน้าของ JACK ผู้ซึ่งพยายามกระโดดมาแย่ง Krispy Kreme เราสองคนตลอดเวลา ตัวใหญ่มากน้องเอ้ย...



เห็นโฆษณานี้แล้ว ต้องรีบจดครับ ครั้งหน้าจะไปใช้บริการแน่นอน แค่น้องหมีตัวเดียวก็น่าจะคุ้มแล้ว...



ถึง Belfast โดยสวัสดิภาพครับ ได้อากาศเย็น ๆ แบบที่นี่แล้วชื่นใจมากครับ สรุปทริปอิตาลีทริปนี้ให้ 7.5 จากเต็มสิบครับ แต่รับรองว่าต้องได้กลับไปอีกแน่ ๆ ครับ นอกจากนี้ขอขอบคุณเท้าของเราทั้งสองคนมาก ที่ได้ทำให้เราสองคนเที่ยวได้ตลอดเวลาในทริปนี้ เจอกันทริปหน้าครับ




Create Date : 23 กรกฎาคม 2551
Last Update : 24 กรกฎาคม 2551 1:01:25 น. 1 comments
Counter : 849 Pageviews.  
 
 
 
 
รูปสวยๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ
อิตาลีก็เป็นประเทศในฝันที่อยากไปสักครั้ง แต่คงต้องขอเก็บเงินก่อน อิอิ
 
 

โดย: koipotter วันที่: 26 กรกฎาคม 2551 เวลา:9:43:01 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Bolster
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Bolster's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com