|
วิธีตรวจสอบธุรกิจขั้นต้นว่าโกหกหรือเปล่า
ขอเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ เนื่องจากค่อนข้างเป็นห่วงน้องๆ ที่เพิ่งจบมา อาจจะเข้าไปเป็นพนักงานหรือเป็นลูกค้าหรือเป็นห่วงโซ่ของแชร์โดยไม่ตั้งใจ เราจึงใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมงในวันนี้ นั่งค้นข้อมูลและเขียนตอบในกระทู้นี้ ซึ่งน่าจะเป็นการเขียนที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา อยากฝากทริคไว้ให้ใช้งานดังนี้นะคะ
ผู้สนใจธุรกิจประเภทขายตรงลงทุนอะไรทำนองนี้ น่าจะลองไปค้นหาประวัติทางการเงินของบริษัทที่เขาเชิญชวนให้ดี เข้าไปสืบค้นได้ฟรีๆ ที่เว็บกรมพัฒนาธุรกิจการค้า //www.dbd.go.th (ต้องสมัครสมาชิก โดยใช้ข้อมูลบัตรประชาชน) ซึ่งตามกฎหมายนิติบุคคลจะต้องส่งงบการเงินทุกปี ซึ่งข้อมูลอาจจะช้าไปสักปี แต่ก็ดูจากสินทรัพย์ และทุนจดทะเบียนพอให้อุ่นใจได้ว่า บริษัทมีตัวตนจริง
จากนั้นก็วิเคราะห์ทางการเงินแบบง่ายๆ กรณีเป็นบริษัททำการผลิต อาจจะดูสินทรัพย์ถาวร เพราะเขาต้องมีมาก เนื่องจากต้องตั้งโรงงาน ส่วนบริษัทจัดจำหน่ายก็ดูสินทรัพย์หมุนเวียน เพราะต้องมีสินค้าในสต๊อก นอกจากนี้ ก็ดูรายได้ประจำปีที่ผ่านๆมา น่าจะช่วยทำให้มองภาพบริษัทพอได้ว่ามีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน
อย่าเชื่อแต่ข้อมูลที่ค้นหาได้จาก Search Engine เพราะบริษัทประเภทแชร์ลูกโซ่ จะทำ SEO ให้เว็บไซต์ตัวเอง และเว็บที่โพสต์ข่าวต่างๆ ติดอันดับต้นๆของ Search Engine ทำให้เราเชื่ออย่างที่เขาต้องการให้เชื่อ เราจึงควรสืบข้อมูลดูจากเว็บของรัฐ ซึ่งจะมีข้อมูลตามความเป็นจริง
นอกจากนี้ เว็บกรมพัฒฯ นี้ ยังให้ชื่อเจ้าของบริษัท (ผู้ถือหุ้น) ไว้ด้วย ก็เอาไว้ดูความสัมพันธ์ของบริษัท เช่น เคยเจอบริษัทท่องเที่ยว คนคนเดียวเป็นเจ้าของถึง 5 บริษัท ก็อาจจะเป็นเหตุผลเรื่องภาษีนิติบุคคล แต่เขาทำมาหากินตามปกติ ไม่ได้มานำเสนอการลงทุนอะไรแปลกๆแบบนี้ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
จริงๆ การจดทะเบียนนิติบุคคลก็ง่ายมาก จะบอกว่ามีทุนเท่าไรก็ได้ ดังนั้น ไม่ควรเชื่อถือบริษัทที่ยังไม่เคยส่งงบดุลให้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้านะคะ เพราะมีเงินแค่หกพันกว่าบาท ก็สามารถจดบริษัทได้ โดยจะแจ้งว่ามีทุนกี่ล้านก็ได้ ถ้ามากกว่า 5 ล้าน ก็เพิ่มค่าธรรมเนียม จำตัวเลขไม่ได้แน่นอน ดังนั้น จะสังเกตเห็นว่า บริษัทส่วนใหญ่ที่จดทะเบียน โดยไม่มีสินทรัพย์ที่จับต้องได้ จะนิยมมีทุนจดทะเบียน 1- 5 ล้านบาท เพราะเสียค่าใช้จ่ายน้อยสุด
กลับมาเรื่องงบดุลต่อ กรณีที่บอกว่า ควรพิจารณาเฉพาะบริษัทที่ส่งงบดุลให้กรมพัฒฯ แล้วเท่านั้น หมายความว่า ถ้าบริษัทส่งงบดุลได้ ก็ควรจะต้องดำเนินการมาครบรอบปีงบประมาณแล้ว การส่งงบดุล ก็จะต้องมีผู้สอบบัญชีทำหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทางการเงิน กรณีไม่ได้ฮั้วอะไรกัน ก็เชื่อถือได้ เพราะจะมีสมาคมวิชาชีพดูแลอยู่ เอาข้อมูลทางการเงินไปพิจารณากันได้ค่ะ
ฝากไว้เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ อย่าลืมว่า รวยทางลัดนั้นไม่มีค่ะ เงินที่ไม่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อและมันสมอง มันจะไม่อยู่กับเรานาน
Create Date : 20 มกราคม 2553 |
Last Update : 20 มกราคม 2553 1:07:18 น. |
|
0 comments
|
Counter : 9589 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|