Do not go where the path may lead.
Go instead where there is no path and leave a trail.
Group Blog
 
All Blogs
 
ธนาคารต้นไม้ (ไม้กฤษณา)

จาก blog ที่แล้ว พูดถึง "ธนาคารต้นไม้" เราก็ได้ยินเรื่องนี้จากพ่อแม่ (อีกแล้ว) เพราะท่านไปเดินในงาน Thailand Mega Show ที่เมืองทองธานี ตั้งแต่งานเริ่มใหม่ๆ พอดีวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเราว่างก็เลยไปเดินกับน้องๆ ก่อนออกจากบ้าน แม่ก็บอกว่า ฝากเอาโบรชัวร์ "ธนาคารต้นไม้" ให้แม่ด้วย เราก็ไปเดินเห็นโบรชัวร์ รู้สึกว่าจะเป็นบริษัทนี้นะคะ เพราะไปออกบูธที่เมืองทองสัปดาห์ที่ผ่านมา //www.pantipmarket.com/items/8726907  ก็สงสัยว่า น่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่มากกว่า เท่าที่สืบค้น มีหลายบริษัทเหมือนกันที่ทำคล้ายๆแบบนี้


ขออธิบาย แนวคิดเรื่อง "ธนาคารต้นไม้" ตามความเข้าใจของเรา และจากที่รับฟังจากชุมชนที่ทำอยู่ คำว่า "ธนาคารต้นไม้" นี่เป็นแนวคิดในการร่วมด้วยช่วยกันของชุมชนที่จะนำที่ดินรกร้างว่างเปล่า ทั้งของตนเองและชุมชนมาเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชุมชน ประเทศ และโลกใบนี้

"ธนาคารต้นไม้" ไม่ได้เป็นการระดมทุนใดๆนะคะ คล้ายๆ ธนาคารปู ธนาคารกุ้ง ที่เมื่อชาวประมงจับปู กุ้ง ที่มีไข่ได้ เขาจะนำไปฝากที่ธนาคารปูของชุมชน ซึ่งสมาชิกจะมีสมุดบัญชีฝากปูไข่กุ้งไข่ ก็จะสะสมปูกุ้งที่มีไข่ ที่เขาได้ช่วยปล่อยไป เพื่อให้เกิดการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติต่อไป ทำให้ระบบนิเวศไม่เสียหาย ชาวประมงก็มีสัตว์น้ำไว้จับอีกมากมายในอนาคต ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการกระตุ้นจิตสำนึกให้ชาวประมงชาวบ้านที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงได้ร่วมด้วยช่วยกัน โดยผู้กระทำดีตามกิจกรรมก็จะได้รับการยกย่องจากชุมชนและสังคมที่อยู่ร่วมกัน รวมทั้งจะมีผลประโยชน์ เช่น รัฐให้พ่อพันธุ์แม่พันธุ์แก่ชุมชนนำมาเพาะพันธุ์เพิ่มโดยไม่ต้องซื้อหา หรืออาจให้การอุดหนุนอื่นๆ แก่ชุมชนที่มีผลงานดี (ประมาณจิตพิสัย)

แต่ของบริษัทที่ออกบูธที่เมืองทองธานีนี้ เขาเน้นการระดมทุนเงินฝาก อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมาย เพราะถ้าไม่ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทสินเชื่อ ประกัน หรือธนาคารพาณิชย์ ก็ไม่น่าจะทำธุรกิจประเภทนี้ได้ หรือถ้าจะระดมทุนอย่างถูกกฎหมาย ก็ควรเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เปิดให้ประชาชนซื้อหุ้นและมี กลต. รับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายน่าจะโปร่งใสกว่า

ต่อมอยากรู้ก็ทำงานอีกเช่นเคย เราก็เลยไปสืบดูว่าบริษัทนี้จดทะเบียนทำธุรกิจอะไร มีทุนจดทะเบียนและสินทรัพย์ถาวรเท่าไร พบว่า มี 2 บริษัท ที่ชื่อคล้ายๆ กัน จดทะเบียนนิติบุคคลเป็นบริษัทจำกัด ไม่ได้เป็นบริษัทมหาชน (เครดิต
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า //www.dbd.go.th)

1.บริษัท xxxx ดิสทิลเลอรี่ จำกัด จดทะเบียนปี 2551 มีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท มีสินทรัพย์ถาวรในปี 2551 คือ 225,000 บาท ยังไม่มีรายได้ (ในงบดุล 2551)

2.บริษัท xxxx แมนเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนปี 2549 มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท มีสินทรัพย์ถาวรในงบดุล 2551 คือ 3,793,522 บาท มีรายได้ปี 2551 24,195,795 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 มาก ซึ่งในปี 2550 มีรายได้ประมาณ 7 ล้านบาท (สังเกต รายได้เพิ่มขึ้นมาก เมื่อมีการโฆษณาทำการตลาด)

ซึ่งตามที่ไปค้นจาก google มา ก็จะเป็นบริษัทที่สอง (แต่ทั้งสองบริษัทมีผู้ถือหุ้นรายเดียวกัน และมีต่างชาติถือหุ้นด้วย 1 คน) บริษัทแมนเนจเม้นท์ น่าจะตั้งบริษัทดิสทิลเลอรี่ มาทำด้านกลั่นน้ำมัน (บริษัทแมนเนจเม้นท์ อ้างว่าทำธุรกิจมากว่า 10 ปี ขัดกับข้อเท็จจริงที่ว่าจดทะเบียนมาในปี 2549 นี้เอง)

จากโครงสร้างสินทรัพย์ถาวรกับเงินรายได้ ดูแล้วค่อนข้างน่าสงสัยพอสมควร เพราะบริษัทบอกว่า มีโรงงานกลั่นน้ำมัน มี core product คือ น้ำมันกฤษณา ซึ่งโรงงานหนึ่งๆ นี่ ต้องลงทุนหลายล้าน น่าจะเป็นหลักสิบล้านบาท ก็น่าจะมีสินทรัพย์ถาวรมากกว่าสิบล้านบาท แต่นี่มีไม่มากนัก แถมทุนจดทะเบียนยังน้อยมากถ้าเป็นบริษัทด้านการผลิตจริง

จึงขอตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะเป็นแชร์ลูกโซ่ เพราะผลิตภัณฑ์ที่ขายคือ สิทธิในต้นไม้กฤษณา ซึ่งลูกค้าไม่ต้องปลูกเอง แต่เอาเงินลงทุนเป็นเงินออมเงินฝาก ให้บริษัทจัดการให้ รอให้ต้นไม้โตแล้วบริษัทจะซื้อคืนในราคาเท่านั้นเท่านี้ ก็มีข้อกังขามากมาย เช่น ไม้กฤษณาจัดว่าเป็นไม้ปลูกยาก ไม่ได้มีน้ำมันทุกต้น หากรับซื้อคืนในเงื่อนไขมากมาย อาทิ ต้นไม้ต้องมีน้ำมันเท่านั้นเท่านี้ หรือ บริษัทปิดตัวไปก่อนไม้โตจะทำอย่างไร หรือ ไม่ได้ปลูกให้ทุกคนจริง คือ ใครลงทุนก็พาไปดูสวนเดิม ฟาร์มเดิม กล้าไม้เดิมๆ ไม่ได้เป็นเจ้าของจริงๆ ฯลฯ

ซึ่งถึงแม้ว่า บริษัทดำเนินกิจการอย่างจริงจัง ถึงไม่ใช่การเป็นแชร์ลูกโซ่ ถ้ามีการผลิตจริง ปลูกต้นไม้จริง ก็เป็นการผลักภาระให้ลูกค้าทั้งหมด บริษัทไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากค่าการตลาด นอกจากนี้ ทุนจดทะเบียนบริษัทมีเพียงห้าล้านบาท สินทรัพย์ก็มีเพียงสามล้านกว่า ไม่น่าจะมีหลักประกันที่ดีให้กับลูกค้าได้ จะปิดบริษัทไป เจ้าหนี้ก็ไม่สามารถทวงอะไรคืนได้ทั้งนั้น แถมภาคการผลิตส่งออกน้ำมันกฤษณาก็ยังน่าสงสัยอยู่มากว่า ผลิตจริง
ส่งออกจริงเท่าไรในแต่ละปี

โอย ดูแล้ว เราจะเป็นคนคิดมากหรือเปล่าเนี่ย แต่มันน่าสงสัยไปหมดจริงๆนะ เขียนเรียบเรียงไม่ค่อยดี เพราะมีเรื่องสงสัยมากมาย แต่เวลาเขียนมีน้อย ทั้งยัง สืบค้นข้อมูลต่างๆด้วย ต้องขออภัยผู้อ่านด้วย แต่ถ้าอยากอภิปรายกันต่อก็เขียนต่อกันไปในกระทู้นี้นะคะ แลกเปลี่ยนความรู้ และความคิดเห็นกัน เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจบ้าง



Free TextEditor


Create Date : 20 มกราคม 2553
Last Update : 20 มกราคม 2553 1:18:43 น. 1 comments
Counter : 977 Pageviews.

 


โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 20 มกราคม 2553 เวลา:2:08:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

RMui
Location :
ภูเก็ต Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"Do not go where the path may lead. Go instead where there is no path and leave a trail." ... Emerson
Friends' blogs
[Add RMui's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.