พลาดแล้วก็พลาด(ได้)อีก มื้อนี้ต้องขอยกให้กับความโง่ของตัวเองค่ะ เนื่องจากกระเหรี่ยงไทยผู้ด้อยภาษาเกาหลี เห็นรูปภาพอาหารก็ชี้ๆ สั่งๆไป โดยไม่รู้ว่ามันเป็นบะหมี่เย็น คิดว่า คงเป็นบะหมี่มากะซุปร้อนๆได้ซดให้คลายหนาว ภายใต้อุณหภูมิท้องถิ่น – 14 องศาเซลเซียส กระเหรี่ยงไทยนางนี้ ก็ยังสั่งบะหมี่เย็นที่มีน้ำแข็งซ่อนตัวอยู่ภายใต้เส้นหมี่ที่หนานุ่ม ราดด้วยซอสรสเผ็ด ทั้งๆที่บริกรหนุ่มน้อยเกาหลี ย้ำนักย้ำหนาว่ามันเผ็ด แต่ดิฉันก็ไม่เคยเชื่อ เพราะตระหนักอยู่เสมอว่า อาหารสัญชาติไทยเท่านั้นที่ใช้คำว่าเผ็ดได้ตรงความหมายตามพจนานุกรมได้ดีที่สุด พอเข้าปากไป ก็จี๊ดขึ้นมาค่ะ สายตาพลันเหลือบไปเห็นน้ำใสๆในขวดเล็กๆวางอยู่บนโต๊ะ แอบจินตนาการไปว่าเป็นน้ำเปล่า เอาไว้เติมเวลามันเผ็ด(คิดได้ไงอ่ะ) ความโง่ผสมกะความเผ็ดขึ้นสมองก็คว้าเจ้าขวดนั้นบีบน้ำใสๆนั้นลงไป เห้ออออ ผลปรากฏว่ามันคือน้ำส้มค่ะ สมองอันน้อยนิดไม่ได้คิดเอะใจเลยว่า เค้าขายบะหมี่เค้าก็ต้องมีพริก มีน้ำส้ม น้ำตาล เหมือนกะบ้านเรา ดันคิดลึกไปว่าเป็นน้ำเปล่า สมน้ำหน้ากะความง่าวของตัวเอง ทั้งเปรี้ยวทั้งเผ็ด กินไม่ได้เลยค่ะ เลยต้องกินหมูย่างที่เค้าเสริฟมาพร้อมกันเป็นชุด แล้วก็บ่นกับความโง่ของตัวเอง พลาดอีกแล้ววกรู ทำไปได้