[รีวิว] วันที่ 1 ทริปย้อนวัยในวันเด็กปีนี้ (2558) แบบใสๆ ที่ Legoland และ Universal Studios

*สนใจเข้าร่วมคลับท่องเที่ยวเงินล้านติดต่อได้ที่ Line ID: tarmawd

ดูข้อมูลเพิ่มเติมของคลับท่องเที่ยวได้ที่ //www.dreampackerclub.com/main/

วันที่ 1

3 วัน 2 คืน กับ 2 สวนสนุก

สวัสดีครับ เมื่อช่วงวันเด็กที่ผ่านมา ผมกับแฟนได้มีโอกาสไปเที่ยวทริป Legoland เมือง Johor Bahru (ยะโฮร์บาห์รู) ในรัฐยะโฮร์ที่อยู่ใต้สุดของมาเลเซียและอยู่ติดกับสิงคโปร์โดยซื้อทริปจากคลับท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง แอบตื่นเต้นเพราะครั้งนี้จะเป็นการเที่ยวครั้งแรกที่ไม่มีพ่อแม่ไปด้วยที่สำคัญต้องจ่ายตังค์เอง ฮ่าๆ

ส่วนตัวแล้วผมโคตรชอบLego เลยอาจเป็นเพราะตอนเด็กๆพ่อผมเคยซื้อให้เล่น ถึงแม้ว่าตอนนี้มันจะหายไปแล้วก็ตาม แต่Lego ก็ยังเป็นความทรงจำวัยเด็กที่สนุกมากสำหรับผมครับ


ผมเริ่มจองทริปนี้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน2557 (ทริปวันที่ 11 – 13 มกราคม 2558) จองตั๋วเครื่องบินของ Air Asia ราคาถูกมากกก เที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพ-สิงคโปร์รวมค่าเลือกที่นั่ง น้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลสำหรับขากลับและค่าประกันแล้ว แค่คนละ 5,000 บาทครับ มาเลเซียและสิงคโปร์เป็นประเทศที่คนไทยไม่ต้องขอวีซ่าแต่หนังสือเดินทางของเราต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน


พาสปอร์ตผมเหลือแค่เดือนเดียวก็จะหมดอายุเลยต้องไปต่ออายุ การต่ออายุพาสปอร์ตก็ไม่ยากครับ ผมไปที่เซ็นทรัล บางนา ชั้น 5โชคดีวันที่ผมไปเป็นวันธรรมดา คนไม่เยอะ เลยใช้เวลาไม่นาน เสียค่าใช้จ่าย(รวมค่าส่งไปรษณีย์แล้ว) 1,040 บาทครับ หลังจากนั้น 7 วันพาสปอร์ตหน้าตาไฉไลกว่าเดิมก็ส่งมาถึงบ้าน


ทริปพร้อมตั๋วเครื่องบินพร้อม พาสปอร์ตพร้อม ก็ลุยเลยครับ!


ถึงวันผมตื่นเต้นมากนอนไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว เสร็จประมาณตี 4 กว่า ผมจองเที่ยวบิน 06.15น. เลยต้องไปถึงสนามบินตีห้าครับ มีดราม่าแท็กซี่นิดนึง ตอนผมกับแฟนขึ้นแท็กซี่ลุงคนขับชวนคุย ผมก็เม้าท์ ไม่ได้สังเกตมิเตอร์เลย พอใกล้ถึงสนามบินดอนเมือง ผมเริ่มมองมิเตอร์ว่าต้องเตรียมเงินเท่าไหร่เฮ้ย!!ค่าแท็กซี่ร้อยกว่า แฟนก็สะกิด แชทในเฟสบุ๊กมาบอกผมว่า แท็กซี่โกงมิเตอร์เพราะเช้ามืด รถไม่ติด แต่เลขเวลาวิ่ง พร้อมๆกับเลฃระยะทางก็วิ่ง แต่ก็ทำเฉยกันไปเพราะนั่งมาจะถึงแล้วไม่อยากเสียเวลาไปต่อคันใหม่


เครื่องบินออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองเวลา 06.15 น. ถึงสนามบินชางงีของสิงคโปร์ประมาณ 09.30 น.ครับลงจากเครื่องบินปุ๊บอย่างแรกที่ผมทำคือ ไปหา Wi-Fi ฟรีครับ ฮ่าๆ ที่สนามบินชางงีมีบริการ Wi-Fiโดยเราแค่เอาพาสปอร์ตไปสแกนแล้วเขาจะให้รหัสสำหรับล๊อคอินครับแค่นี้ก็เช็คอินได้แล้วครับ ฮ่าๆ


ผมลงเครื่องบินที่ Terminal 1 และนั่งรถไฟฟ้าของสนามบินไปลง Terminal 3 เพื่อขึ้นรถรถไฟฟ้า(SMRT) ซึ่งเป็นเครือข่ายรถไฟฟ้าที่ครอบคลุมสถานที่ต่างๆทั่วสิงคโปร์ ผมเลือกตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยว ที่สามารถโดยสารได้ไม่จำกัดครั้งทั้งรถบัส เอ็มอาร์ทีและแอลอาร์ที (ตามโลโก้บนบัตร) ตั่วจะมีให้เลือกแบบ 1 วัน 2 วันและ 3 วัน ผมซื้อแบบ 3 วัน ราคา 30 S$ ก่อนกลับเราสามารถเอาบัตรมาแลกเงินมัดจำคืนได้ 10 S$ ที่สถานีใดก็ได้



แผนที่ของ SMRT












สถานที่แรกที่เราจะไปคือ Merlion Park ที่มีสิงโตพ่นน้ำ สัญลักษณ์ประจำชาติของสิงคโปร์ตั้งอยู่ ดูจากแผนที่ เราต้องนั่งรถไฟฟ้าไปที่สถานีTanah Merah เพื่อเปลี่ยนสายมายังสถานีRaffles Place การเดินทางใช้เวลาประมาณสถานีละ3 - 4 นาทีครับ พอลงสถานี Raffles Placeแล้วเราสามารถเลือกออกได้หลายประตู ผมออกประตู H เลี้ยวขวาแล้วเดินเลียบแม่น้ำสิงคโปร์มาเรื่อยๆประมาณ 5 นาที มาถึงบริเวณหน้าโรงแรม Fullerton ก็ข้ามถนนแล้วเดินอีกนิดหน่อย


แม่น้ำสิงคโปร์












เจอป้าย Merlion Park เลี้ยวขวาก็ถึงแล้วครับ












เจอแล้วครับ นางเอกของเรา



มุมถ่ายรูปที่มองเห็นทั้ง ชิงช้าสวรรค์ Singapore Flyer ศูนย์วิทยาศาสตร์สิงคโปร์ Singapore Science Centre และโรงแรม Marina Bay Sands ที่ตั้งอยู่อีกฝั่ง บริเวณริมปากอ่าวมาริน่า แต่วันที่ผมไปมีนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปเยอะมาก เลยหามุมถ่ายยากนิดนึงครับ และขอบอกว่าแดดแรงมากกก แฟนผมนี่หน้ามืด (ดำ) เลย ฮ่าๆ














Marina Bay Sands


นั่งรถไฟฟ้ามาที่สถานี Bay Front ก็ถึงโรงแรมมาริน่า เบย์ แซนด์ส (MBS) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของสิงคโปร์ รถไฟฟ้าจะเชื่อมกับห้าง The Shoppes ของ MBS เลย














บรรยากาศในห้าง The Shoppes












ขึ้นมาชั้นบนแล้วออกมาหน้าห้าง จะเป็นจุดชมวิวครับ














จากตรงนี้มองไปจะเห็นวิวเมืองฝั่ง Merlion Park ครับ


































ข้างในโรงแรมมีคาสิโน ผมนี่อยากไปลองมากครับ แต่แฟนไม่ยอมให้เล่น ก็เลยขอชักภาพเป็นที่ระลึก


ทางเข้าคาสิโน ใครจะเข้าไปข้างในต้องต่อแถวให้เจ้าหน้าที่ตรวจพาสปอร์ต และต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไปครับ


ใกล้ๆ กับมาริน่าเบย์แซนด์ส จะมีแลนด์มาร์คอีกแห่งคือ การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay)เป็นสวนพฤกษศาสตร์ ที่เค้าว่ากันว่าเป็นโอเอซิสกลางสิงคโปร์ กลางคืนจะมีไฟประดับสวยงาม แต่ผมกับแฟนไปตอนกลางวันเลยไม่ได้เห็นครับ


เวลาประมาณบ่ายสามกว่าๆ ผมกับแฟนเดินทางกลับมารอรถของคลับที่จะมารับเราที่สนามบิน แล้วออกเดินทางต่อไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รูครับ สิงคโปร์กับเมืองยะโฮร์บาห์รูของมาเลเซียจะมีสะพานเชื่อมกัน สามารถนั่งรถไปได้ รถโคชของคลับท่องเที่ยว (คันซ้าย) พร้อมไกด์ มารับผมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ แล้วพาเราทำเรื่องที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของสิงคโปร์กับมาเลเซีย ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินไป ตม. ประมาณ 30 นาทีครับ ขั้นตอนการเข้ามาเลเซียก็ไม่ยากครับ แค่แสดงพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ดูและแสกนกระเป๋าไม่ต้องกรอกเอกสารอะไรเลย เข้ามาเลเซียมาแล้วก็เดินทางไปที่โรงแรมประมาณ 30 นาทีครับ


โรงแรม Double Tree by Hilton


มาถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพครับ ยื่นหนังสือเดินทางให้พนักงานต้อนรับดูก็เข้าพักได้เลยครับ ได้คีย์การ์ดมา 2 ใบสำหรับใช้กดลิฟต์ (กดเลือกชั้นได้เฉพาะชั้นที่เราอยู่นะครับ) และเป็นเปิดห้องพัก ผมได้อยู่ชั้น 19 ครับ



ห้องสวย สะอาด น่านอน ทำให้ผมรู้สึกว่าได้มาพักผ่อนจริงๆ

ในห้องมีโต๊ะเขียนหนังสือ เปิดตู้เสื้อผ้าเจอไดร์เป่าผม เตารีด+โต๊ะรองรีด อีกอย่างที่ผมชอบคือตู้เย็นพร้อมมินิบาร์ที่มีขนมและเครื่องดื่มเตรียมไว้ให้พร้อม  และทางคลับท่องเที่ยวมีเครดิต (แทนเงินสด) ใช้กินอะไรก็ได้ในโรงแรมคนละ 250 ริงกิต (ประมาณ 2,500 บาทครับ) ฟินๆกับช็อคโกแลตในตู้เย็นและไวน์อีกขวด พร้อม Wi - Fi ฟรี!!(ชอบตรงนี้แหละ)



ในห้องน้ำ


เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็ลงมาร่วมงานเลี้ยงต้อนรับที่ทางคลับจัดไว้ให้ครับ


ในงานมีการจับสลาก ได้รางวัลเป็นของที่ระลึกเล็กๆน้อยจากคลับ และมีวงมาเล่นดนตรีให้ฟัง แต่ไม่มีเพลงไทยนะ เหอๆ



มุมอาหารจัดไว้พร้อมแล้ว เต็มที่เลยครับ


อาหารส่วนใหญ่คล้ายๆกับอาหารบ้านเราเลยครับ พวกผักผัด กุ้งทอดสมุนไพร มีหลายอย่างยกเว้นหมูครับ


แฟนผมได้รางวัลด้วยนะครับ อิอิ


เบียร์เติมได้ไม่อั้น เสียดายที่ผมไม่ชอบดื่มเบียร์

กุ้งทอดสมุนไพร ผักผัดอร่อยมาก พูดเลย



วงดนตรีเล่นเพลง Lucky ซึ่งเป็นเพลงคู่ แต่นักร้องมีคนเดียว แฟนผมก็เลยขึ้นไปร้องช่วย


กินเสร็จแล้วก็ลงมาสำรวจฟิตเนสของโรงแรมครับ วิ่งไม่ไหว เพิ่งกินอิ่ม ขอชมอย่างเดียวละกัน


สระว่ายน้ำปิด 3 ทุ่ม อดเล่น


ดึกแล้วนอนดีกว่าครับ เก็บแรงไว้ไปเที่ยว Legoland ต่อพรุ่งนี้คร้าบบบบ


โปรดติดตาม วันที่ 2 ของทริปเลโก้แลนด์ ด้วยนะครับ :)


รีวิววันที่ 2 (คลิกที่นี่)




*************************************************

สนใจเรียนพิเศษที่บ้านกับติวเตอร์จากสถาบันชื่อดังได้ที่

www.hqtutorhome.com







Create Date : 17 มิถุนายน 2558
Last Update : 17 มิถุนายน 2558 22:09:18 น.
Counter : 1643 Pageviews.

0 comment

ตูมตาม Life is so much fun
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ผมชื่อตูมตาม อายุ 27 ปีครับ
ตั้งใจว่าจะเขียน Blog วันละเรื่อง ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
YouTuber : LiSMF (Life Is So Much Fun)
Facebook : Roengrith Jantarima