Group Blog All Blog
|
Peru - Lima
มีโอกาสไปประชุมที่ Lima, Peru พักที่โรงแรม Sonesta Hotel El Olivar ซี่งใกล้กับที่ศูนย์ประชุมของ Central Bank of Peru จึงถ่ายรูปแถวๆโรงแรมไว้เป็นที่ระลึก โรงแรมอยู่ติดสวนมะกอก ใกล้ๆมีร้านเล็กๆน่ารักหลายร้าน แต่ปิดไวมาก                   Peru - Cathedral of Lima
ก่อนวันประชุมที่ Lima, Peru มีโอกาสครึ่งวันแวะชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของเมืองลิมา Historic Centre of Lima ซึ่งประกอบไปด้วย the Plaza Mayor, Presidential Palace และมหาวิหาร Cathedral of Lima ซึ่งประตูทางเข้าได้ชื่อว่า Door of Forgiveness และพื้นเป็นลายตาหมากรุกสวยมาก ด้านในประกอบไปด้วยภาพวาดและปูนปั้นสวยงาม                         Cusco - Machu Picchu #2 ครั้งหนึ่งในชีวิต กับสิ่งมหัศจรร์ติดอันดับโลก
** แก้ไข 04/01/2015 Machu Picchu เมืองเก่าของชาวอินคา อลังการมาก สร้างบนยอดเขาสูง กว่าจะขึ้นไปถึงต้องนั่งรถไฟจาก Cusco เกือบ 4 ชั่วโมง แล้วไปต่อรถบัสขึ้นเขาอีกครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาเดินชม 2 ชั่วโมง หลังเสร็จประชุมที่ Lima เช้าวันถัดมา เรากับเพื่อนนั่งเครื่องจาก Lima เที่ยวเช้าสุด ไปถึง Cusco 6 โมง รถโรงแรมมารับกระเป๋า พร้อมพาไปส่งที่สถานีรถไป แต่เผอิญเนื่องด้วยสภาพอากาศไม่ดี ทางที่รถไฟผ่านมีปัญหา แทนที่เราจะได้นั่งรถไฟยาว กลับต้องนั่งรถบัสไปเกือบครึ่งทาง ก่อนไปต่อรถไฟกลางทาง ขากลับต้องออกจากประมาณบ่ายสอง เพื่อจับรถไฟกลับ Cusco ซึ่งไปถึงตอนเกือบสองทุ่ม ขาไปไม่เป็นไร แต่ขากลับ เจอฤทธิ์ความกดอากาศ ไม่สบายเวียนหัวตั้งแต่ในรถไฟเลย ดีที่วันรุ่งขึ้นหาย ไปเดินเที่ยว Cusco ได้ ก่อนนั่งเครื่องกลับ Lima ไปต่อเครื่องกลับไทย เราซื้อตั๋วเครื่องบินจาก Lima ไป Cusco, ตั๋วรถไฟ Peru Rail จาก Cusco ไป Machu Picchu และตั๋วเข้าชม Machu Picchu ทาง internet และพิมพ์ตั๋วเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนเดินทางไป Peru หน้าทางเข้ามาชูปิกชูจะมีไกด์ยืนอยู่หลายคน เราได้ไกด์ที่ค่อนข้างใจเย็น ประกับกับวันนั้นฟ้าอึมครึม นักท่องเที่ยวไม่เยอะ ทำให้เดินชมได้อย่างสบาย 1. แผนที่มาชูปิกชู  2. รถไฟจาก Cusco ไป Machu Picchu เรานั่งของ Peru rail  3. ในรถไฟ มองเห็นวิวรอบทิศ     4. อาหารเช้าบนรถไฟ  5. ถึง Machu Picchu แล้ว แต่ต้องนั่งรถบัสขึ้นเขาไปอีก   6. วิวก่อนเดินไปขึ้นรถบัส   7. วิวจากรถบัส   8. ถึงทางเข้า Machu Picchu แล้ว  9. อลังการงานสร้างมากกก สูงเสียดเมฆเลยทีเดียว                                          555 ที่เห็นเบื้องหลังชุดยีนส์ ใส่หมวกขาว เดินตามไกด์ คือข้าพเจ้าเองค่ะ หลากเหตุผลที่ทำให้ชอบดู KDrama / JDrama
หลากเหตุผลที่ทำให้ชอบดู KDrama / JDrama 1. 1. Not just romance drama.มีพล็อตที่ละครตามสมัยนิยมทั่วไปไม่มี เช่นเรื่องที่เกี่ยวกับการแพทย์ที่เน้นการผ่าตัด และการทำอาหารที่เน้นการทำอาหารจริงๆ หรือแนวสืบสวนสอบสวนที่สนุกเหลือเชื่อ เช่น Ghost สนุกแบบไม่ได้ดูเป็นต้องเสียดายหรือแนวตามแก้แค้นแบบที่ต้องดูอย่างบ้าระห่ำรวดเดียวจบ เพราะแต่ละตอนจบแบบค้างคาอยากรู้ว่าตอนต่อไปเป็นไง เช่น Secret 2. 2. Romantic scenes. มีฉากหวานๆที่จะทำให้คนดูฟินและอิน รวมถึงฉากจูบ Kissscenes ที่คนดูต้องจิกหมอนกันกระจาย 3. 3. Noona love. ความรักระหว่างพระเอกที่อายุน้อยกว่านางเอกแถมยังจบแบบ Happy Ending ซะด้วย เช่น I hear your voice, I need romance3ดูแล้วแบบว่าอยากกินเด็กขึ้นมาในบัดดล 4. 4. Second lead syndrome (SLS). เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อคนดูหลงรักพระรองที่รักนางเอกมากและเป็นคนดีเกือบจะเรียกได้ว่า perfect ต่างกับพระเอกโดนสิ้นเชิง แถมแอบเชียร์ให้นางเองเลือกพระรองซะงั้น เช่น Best love, The Masters Sun 5. 5. Anime live-action. เมื่อการ์ตูนเรื่องโปรดกลายเป็นหนัง/ละครพร้อมตัวละครและเนื้อเรื่องที่ทำได้ใกล้เคียงกับในการ์ตูนมากกกกก! เช่น Kenshin, Kimi ni Todoke 6. 6. Gender-bending. ตัวละครเล่นสลับเพศ ส่วนใหญ่จะเป็นหญิงที่แอบ (หรือตกกะไดพลอยโจน) ให้ต้องเข้าไปอยู่ร่วมกับกลุ่มผู้ชาย(ซึ่งแน่นอนว่าในกลุ่มนั้นต้องมีพระเอกอยู่ด้วย) เช่น Yourebeautiful, Coffee Prince 7. 7. Flower boys. แต่ละเรื่องจะมีหนุ่มๆหล่อๆอย่างน้อยสองคนคือพระเอกกับพระรอง หรือถึงแม้หน้าตาไม่หล่อเลย เช่น rพระเอกเรื่อง Answerme 1997 แต่ด้วยเนื้อเรื่องและการแสดง คนดูจะรู้สึกว่าพระเอกหล่อขึ้นมาทันที(จริงๆนะ ลองดูเรื่องนี้สิ) 8. 8. Shower scenes. 555 ไม่น่าเชื่อเกือบทุกเรื่องต้องมีซีนพระเอกอาบฝักบัว เป็นอภินันทนาการแก่ผู้ชม ;) 9. 9. Homey, domestic storytelling. ความสมจริงของตัวละครในการใช้ชีวิตประจำวันมีทั้งฉากอาบน้ำ กินข้าว จ่ายตังค์ นั่งรถเมล์ ตัดเล็บ เป่าผม และนอน (แบบไม่โปะเครื่องสำอางค์ฮา!) 10. Emotion.ความสมจริงของเนื้อเรื่องในการดึงอารมณ์ร่วมของคนดู 1 11. Freeze-framefinales. แต่ละตอนจะจบด้วยภาพนิ่งของฉากสุดท้ายในตอนนั้นตัดมาเฉพาะภาพใบหน้าของพระเอกกับนางเอก (และบางทีก็มีพระรองด้วย)ทำให้คนดูอารมณ์ค้างและรอคอยตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อบางเรื่องยังอุตสาห์เอาตุ๊กตาหมีมาแต่งตัวและจัดท่าตามฉากจบด้วย เช่น PlayfulKiss, Goong 1 12. สุดท้าย Fandome.เหล่าบรรดาแฟนละครที่บ้าคลั่งจะพากันทำblog, recap, review, set of gif แล photo stormให้ได้ชมกันอย่างหลากหลาย ตามประสาละครจบ คนดูไม่จบ ส่วนใหญ่หาได้ตามเวบของแฟนคลับ, tumblr,wordpress, blogspot และเวบเกี่ยวกับละครทั้งหลาย (6 (6 - 12 เป็นความคิดเห็นที่เราเห็นด้วยกับบทความจาก outsideseoul.blogspot และเพิ่มเติมความคิดเห็นส่วนตัวของเราเอง 1-5) My thought on The Heirs / The Inheritors
 copy from my facebook album "the Heirs / the Inheritors" He Who Wishes To Wear the Crown, Endure Its Weight is the drama we are waiting for since the first day we heard about it. The titles got chaebol-heir-and-Candy written all over it. And the pairing is pretty damn perfect. It almost doesnt matter what the story is. And its more exciting when we know all the casts: Park Shin Hye, Lee Min Ho, Kim Woo Bin, Choi Jin Hyuk, Kang Min Hyuk, Krystal, Kim Ji Won and more. The only thing we hope is it wont end up like Boys over Flowers (Boys before Flowers) which is quite suck. And for sure it will win the Popularity Award even though the show is not popular (which we hope it will). But its more about them than the show, isnt it? PS. This is 'my' comment. Others can see it differently. extra ps There must be something wrong with the costume in this drama! I dont understand why Tan always wears color - tight pants (even in school uniform!). And before that he wears pink cardigan and gold sweater! And now
..YD with bright orange jacket !?!!!! Akkkkkk !!! November 26 at 12:30pm · And here's the first online award of this drama (before Anhui TV Dramas Award in Beijing)  |
I need a hug too
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] The pix is not me. It's my sweet angel Park Shin Hye ^__^ |
