All Blog
✱ พาไปแว๊นในเขมร ดูสิ่งมหัศจรรย์ของโลก งบหลักพันบาท!


สวัสดีค่ะ
มายด์จะพาไปเที่ยวนครวัด

<( っ '๐')づ ⌒☆

สำหรับข้อมูลการเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวตามไปอ่านได้ที่ 




หลายคนถามมายด์ว่า 
"เห้ยยย ไปเที่ยวกัมพูชา ไปทำไรอะ?"

.... ก็ ....
ไปดูอารยธรรมที่เจริญมาเป็นพันๆปี
ไปตื่นตา ตื่นใจกับพลังความศรัทธาในศาสนา
ไปตะลึงกับสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และความสามารถของคนในสมัยพันปีนั้น

และที่สำคัญ และต้องเตรียมพร้อมที่สุด! 
คือไปพิสูจน์ว่าประสิทธิภาพร่างกายเรานั้น ทนร้อน ปีนป่ายปราสาทได้แค่ไหน 5555

 พร้อมยัง!

ถ้าพร้อมแล้ววววววววววววว 
เก็บกระเป๋า เก็บข้อมูล ละตามมายด์มาเลยค่ะ

I know where i'm going ...
and I promise it won't be boring! 




ทริปนี้เราจะบินไปกันนะคะ
เหมือนเดิมบินไปกับ airasia ลงเสียมเรียบ มี 3 ไฟล์ทต่อวัน เวลาดี สาย บ่าย และก็ค่ำค่ะ



มายด์บินไฟล์ท 14.05 น ค่ะ แต่ตอนนี้ไฟล์ทนี้ไม่มีแล้วนะคะขยับเวลามาเป็น 15.35 น แทน
และสำหรับคนไทยเรานั้น ไม่ต้องทำ visa เขียนเพียงใบข้ามแดนเอา ซึ่งแอร์จะแจกบนเครื่องนะคะ



เนื่องจากเสียมเรียบใกล้กรุงเทพมาก ใช้เวลาบินเพียง 50นาที - 1ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ



ทริคนิดนึงเวลามายด์เดินทางไปแถบเพื่อนบ้านเราคือ 
ให้เรารีบไปต่อแถวที่ตม.ให้ไวที่สุดค่ะ จะได้ไม่ติดฝรั่งที่ต้องทำ visa on arrival 
แต่! ที่สนามบินเสียมเรียบ ไฟล์ทที่มายด์ไป สายการบินอื่นก็ลงเวลาใกล้เคียงกันเช่นกัน!
คนเยอะมากค่ะ ไม่เคยติด ตม.นานขนาดนี้มาก่อน 55555

เมื่อหลุดจาก ตม. มาแล้ว...
คนที่อยากซื้อซิมสามารถซื้อได้บูธของเครือข่ายได้เลย ตั้งอยู่ด้านขวามือประตูที่เราออกจากสนามบินค่ะ

ก่อนที่มายด์จะเข้าไป check-in ที่โรงแรม จะแวะไปซื้อตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างๆก่อนค่ะ
เพราะพรุ่งนี้เช้า มายด์จะออกแต่เช้าตรู่ เพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน


โดยการเดินทางจากสนามบินไปที่ขายตั๋ว ใช้บริการ tuktuk จากโรงแรมค่ะ ราคา 5$



คนขับ tuktuk มายด์ชื่อ Bansan speak english ได้อย่างเดียวค่ะ พูดไทยไม่ได้
แถมแว๊นซ์มากๆ ปาดดดดด ทุกคัน! ที่ขวางหน้า 5555



Angkor ticket booth - ขายตั๋วเข้าชมโบราณสถาน อยู่ทางเดียวกับทางไปนครวัด เปิดตี5 ปิด6โมงเย็น
สถานที่ขายตั๋วนี้ อยู่บริเวณเดียวกับ อังกอร์ พาโนรามา มิวเซียม เลยค่ะ
เป็นพิพิธภัณท์ที่การใช้การทูตเชิงวัฒนธรรมเพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีของเกาหลีเหนือต่อสายตาชาวโลกค่ะ



ใครไปซื้อตั๋วช่วง 16.30 เหมือนมายด์เห็นเค้าเตอร์ปิดอยู่ อย่าได้ตกใจ เป็นช่วงพักของเค้า
ให้ไปต่อแถวตามวันที่เราจะซื้อได้เลย แถวไหนก็ได้ ที่ว่างๆก็ได้ค่ะ



ถึงเวลาซื้อตั๋ว จะมีน้องๆมายืนข้างๆเราคอยตอบคำถามเรา มีทุกแถวเลยค่ะ
อ๋อ ถ่ายรูปไวมากๆ ได้บัตรไวมากๆ ยิ้มให้ดีๆล่ะ ไม่งั้นได้บัตรเอ๋ออยู่กับเราไปอีกหลายวัน

ได้ตั๋วแล้ววว ... ไปโรงแรม เช้คอินกันเถอะ



มายด์นอนที่ Pura vida hotel and spa โรงแรมเล็กๆที่ยุงเยอะ 
และมีห้องไม่กี่ห้อง แต่ละดีไซน์ไม่เหมือนกันด้วย

ห้องที่มายด์พักเป็น Standard Double Room ห้องกว้างเลยค่ะ ราคาคืนละประมาณ 800บาท
เสีย 2 อย่างคือ แอร์ไม่เย็น ต้องเปิดพัดลมช่วย และยุงเยอะมากกกกกก ขาฉันลายเลย!




เก็บของแล้ว ออกไปเดินในเมืองกันค่ะ
วันแรกที่เสียมเรียบเราจะเริ่มต้นด้วยการเดินสำรวจเมือง และ
  ตะลุยกิน สไตล์สวีทตี้มายด์ค่ะ 




เริ่มร้านแรกด้วย ขนมปัง



ร้านขนมปังเล็กๆ แถวๆโรงแรม บอกตรงๆคือ เดินเข้าร้านเพราะขนมปังหอมมากกก 
บวกกับยังไม่ได้กินอะไรเลยมาทั้งวัน ยกเว้นชาเขียวสตาบัค! 5555
สรุป เดนิชลูกเกดอร่อยดี ขนมในร้านราคาอยู่ที่ 1-1.5$ ประมาณนี้

.....

เดินต่อไปเรื่อยๆ จุดหมายเราคือ night market เพราะมายด์อยากได้กางเกงลายช้าง 5555



พอถึง night market ที่เป็นโซนใหม่ เห็นราคาติดไว้ค่อนข้างแพง เลยไม่ได้ซื้อ 555
แนะนำว่าถ้าใครจะ shopping หาซื้อของฝาก ให้ไปเดินโซนเก่า คืออยู่แถวๆเดียวกันอ่ะแหละค่ะ

แต่มายด์ไม่ได้เดิน shopping เลยนะคะ ด้วยความหิวและมีของกินขายค่อนข้างเยอะ
มายด์เลยตัดสินใจหา street food กินกันดีกว่าา (^w^)/ ลุยยยย !!!



เริ่มต้นด้วยขนมครกค่ะ ราคา 1$ หรือจะจ่ายเป็นเงินบาทก็ได้นะคะก็ 40 บาท
แต่ช่วงนี้เงิน $ ไม่ได้แพงขนาดนั้นก็จ่าย usd ไปดีกว่าค่ะ 5555

ส่วนขนมครกนั้น ไม่ได้ฟินเท่าบ้านเราค่ะ กะทิไม่ได้เข้ม จืดๆไงไม่รู้ กินไม่หมดด้วย





ผักทอดจ้าาาา ผักทอดด มีผักหลายชนิดให้เลือกเลยค่ะ ชี้ๆเอา
ก่อนทอดเค้าเอาไปห่ออะไรก็ไม่รู้ ไม่แน่ใจว่าเป็นเนื้อสัตว์ หรือเป็นแป้ง
แต่อร่อยดีค่ะ จิ้มกับน้ำจิ้มมีซอลพริก เต้าเจี้ยว แล้วก็พริกค่ะ อันนี้อร่อยชอบๆ



ตลาดต่างๆจะอยู่แถวๆเดียวกันหมดนี่ล่ะค่ะ อยาก hangout ต้องที่นี่เลย pub street

Pub street ที่เสียบเรียมจะมีทั้งอาหารที่ขายตามรถเข็น นอกจากอาหารแล้วยังมีเหล้ารถเข็นด้วย
หรือใครอยากนั่งชิวๆ ก็มีร้านทั้งนั่งชิว และไม่ชิวค่ะ มีร้านที่เป็นดนตรีสดด้วยนะ ร้านไอติมก็มี

มายด์แนะนำให้เดินเล่นรอบๆ Pub street ก่อนค่ะ แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะกินอะไร หรือนั่งร้านไหนดี



ที่นี่มีขายพวกแมลง แมงมุม งูเสียบไม้ กันหลายร้านเลย น่ากลัวเนอะ > <
อ้อ! ถ้าจะถ่ายรูปเฉยๆไม่ซื้อ เค้าคิดถ้าถ่ายรูปด้วยนะ นี่แอบถ่ายมา 5555



Pub street ที่เสียมเรียบมีของเด็ดอีกอย่างคือ draft beer ราคา 0.5$ ≈ 16-17 บาท
แต่ต้องเดินดูดีๆนะคะ บางร้านไม่ได้ติดราคา draft beer ไว้ อาจจะไม่ใช่ราคานี้
เบียร์เย็นๆ ราคาถูก อย่าเผลอกินเยอะไปละ เดี๋ยวเมา แล้วอดเที่ยว 5555

เริ่มต้นกินข้าวกันบ้างงเถ๊อะ (คนที่นี่กินข้าวสวยนะคะ)



กับข้าวมื้อแรก เริ่มต้นด้วยน้ำพริกปลาย่าง ผักลวกด้วย ผักสดด้วยค่ะ
เป็นน้ำพริกที่ไม่มีความเผ็ดเลยยย 5555 มีแต่เนื้อปลาล้วนๆ ก็อร่อยดีเป็นมิตรกับกระเพาะอาหาร



อยากกินแกงส้ม เห็นหน้าตาเหมือนแกงส้มเลยสั่งมา หน้าตาอ่ะใช้ แต่รสชาตินี่มัสมั่นชัดดดดดๆๆ

สรุปมื้อนี้ราคาไม่แรง เหมือนกินข้าวร้านอาหารในกรุงเทพทั่วไป



น้ำผลไม้ปั่น จะเจอรถเข็นขายน้ำปั่นทุกย่อมย่านของเมืองนี้เลยทีเดียว ไม่เว้นแม้ตรงสถานที่ท่องเที่ยว
ผลไม้เค้าเป็น ผลไม้เมืองร้อนเช่นเดียวกับผลไม้บ้านเรา มะม่วง เสาวรส แตงโม จะฮิตมากเป็นพิเศษ
ราคาก็เหมือนเดิม อยู่ที่ 1$ อะไรๆก็ 1$ นาจาาา

กินข้าว เดินเที่ยวเรียบร้อยแล้ว ได้เวลากลับโรงแรมไปเตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ค่ะ
ไปเดินหาซื้อน้ำ ซื้อขนมใส่เป้ไว้กินพรุ่งนี้กันนะคะ มีมินิมาร์ทอยู่ทั่วเมืองเลยค่ะ หาได้ไม่ยาก



มินิมาร์ทที่เปิด 24 ชั่วโมงมีอยู่ไม่เยอะนะคะ เตรียมพร้อมไว้ก่อนก็น่าจะดี ^^ อิอิ

เตรียมน้ำ เตรียมขนม เตรียมทิชชูเรียบร้อยแล้ว นอนค่ะ!
เพราะวันพรุ่งนี้เราจะออกจากโรงแรมกันตี5 ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด

อ๋อ ก่อนเข้าห้อง อย่าลืมแจ้งพนักงานโรงแรมให้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้เราด้วยนะคะ
แต่ส่วนใหญ่เท่าที่มายด์เห็นคือจะเป็นพวกขนมปังแห้งๆ ครัวซองค์เหี่ยวๆ โดนัท และกล้วยไรงี้
ใครอยากกินอะไรอร่อยๆ เตรียมไปเองเนอะ 5555

อ่อ สำหรับใครไม่อยากกิน local food นะ ย่านนี้มีครบเลยทั้ง Berger King, KFC รวมทั้งห้าง Lucky Mall ด้วยค่ะ  




วันที่สองในเสียบเรียมตะลุย big cycle 

- Angkor Wat (นครวัด)             
- Ta Prohm (ตาพรม)                 
- Sra Srang (สระสรง)                
- Pre Rup (แปรรูป)                    
- East Mebon (แม่บุญตะวันออก)
- Ta Som (ตาสม)                      
- Neak Pean (นาคพัน)             
- Prah Khan (พระขันธ์)             
- Angkor Thom (นครถม)          
Baphuon (ปาปวน)               
Bayon (บายน)                     
- Phnom Bakheng (พนมบาเกร็ง)
             พร้อมแล้ว ไปชมสถาปัตยกรรมเมื่อ 1,000 ปีก่อนกันค่ะ 


นครวัด สร้างมาเพื่อเทพ

ประวัติการสร้าง: พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ทรงสร้างปราสาทแห่งนี้ขึ้นเพื่อประดิษฐานพระเทวราชตามลัทธิเทราชา 
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพระองค์ทรงนับถือไวษณพนิกาย พระองค์จึงสร้างปราสาทนครวัดเทวาลัยให้เป็นเทวาลัยของพระวิษณุ 
การหันหน้าไปทางทิศตะวันตกของปราสาทแห่งนี้ ทำให้นักวิชาการหลายท่านเชื่อว่าปราสาทนครวัดเป็นราชสุสานของพระองค์ด้วย



ตื่นแต่เช้า แต่งหน้าให้ทันกันนะคะสาวๆ ลงกันแดดและงานผิวมาให้แน่นๆเลย 
เพราะบอกเลยว่า อะไรก็เอาไม่อยู่ 5555

วันที่สองในทริปนี้ มายด์เช่า tuktuk คนขับคนเดิมคือ บันซาน ค่ะ
คนขับนัดเราไว้เจอกันตี5 แล้วก็ออกเดินทางเลยค่ะ ตี5มืดๆอยู่ ไม่ต้องกลัวทางเปลี่ยวนะคะ
นักท่องเที่ยวคนอื่นๆเค้าก็ออกเวลาเดียวกับเรา ถนนเต็มไปด้วย taxi และ tuktuk ค่ะ
บันซาน นางแซงทุกคน แว๊นแรงมาก แต่อากาศดี ทำให้อารมณ์ดี (^_^)

อ๋อ! อย่าลืมเอาบัตรเข้าสถานที่มาด้วยนะคะ เพราะเค้าตรวจทุกที่เลย
ใกล้ๆจะถึงนครวัดจะมีจุดตรวจบัตรเข้าค่ะ อยู่บนรถ tuktuk ไม่ต้องลงรถนะคะ เค้าตรวจไวมาก

เมื่อมาถึงนครวัดแล้ว รีบเดินไปจับจองที่นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นกันค่ะ แนะนำให้รีบไปอย่างรวดเร็ว!
รีวิวต่างๆแนะนำให้เดินเข้าไปทางสระน้ำซ้ายมือ เพราะเป็นวิวดีที่สุดที่ทำให้มองเห็นพระอาทิตย์กับปราสาท

แต่! ถ้าคุณไปสายเหมือนมายด์ ที่จะหมดค่ะ!
แล้วจะบอกว่า เราต้องฝาดฟันกับ ฝรั่งด้วย เพราะฝรั่งก็แทรกที่ได้เหมือนกัน ไม่ใช่แค่คนจีนนะคะ
ดังนั้น ถ้าไปแล้ว ไม่ได้แถวแรก ย้ายฝั่งเลยค่ะ ไปสระทางขวาก็ได้ หรือจะอยู่ตรงกลางทางเข้าสู่ปราสาทก็ได้





มายด์เดินเล่นรอพระอาทิตย์ขึ้นเลยค่ะ ทั้งสระซ้าย สระขวา และสะพานตรงกลางทางเข้าปราสาทนครวัด
ดูประชากรที่เฝ้ารอดูแสงแรกในตอนเช้าสิคะ เยอะมากกกกกกกกกก ซึ่งวันนั้นเมฆ-หมอกมากเฉย ไม่เห็นแสงพระอาทิตย์ขึ้นด้วย



ประมาณ 6 โมงกว่าๆนี่ละคะ จะมีเจ้าหน้าที่มาเปิดให้เข้าสู่ปราสาทนครวัดได้
เดินชมรอบๆไปเรื่อยๆจนถึง Bakan เป็นตรงกลางของปราสาทนครวัดค่ะ ต้องขึ้นบันไดไปอีก
จำกัดคนขึ้นต่อรอบด้วย มีเวลาบนนั้นแค่ 15 นาทีนะคะ แนะนำให้ขึ้นไปดูพระอาทิตย์บนนั้น คุ้มค่ะ!





ความสนุกของการเที่ยวนครวัดของแต่ละคนแตกต่างกันนะคะ
สำหรับมายด์ มายด์ชอบสังเกตนางอัปสรค่ะ

ซึ่งหินที่แกะสลักเป็นนางอัปสรที่นครวัดนี้ ทั่วไปจะมีเยอะค่ะ แต่บน Bankan จะสวยงามเป็นพิเศษ



นางอัปสรตนนี้ถูกนักท่องเที่ยวลูบหน้า และหน้าอกจนเงาแวบเชียวค่ะ (>///<)





เสน่ห์ของนางอัปสรที่นครวัดคือ ทรงผมค่ะ จะเห็นได้ว่าแต่ละนางมีทรงผม หน้าตาและรอยยิ้มไม่เหมือนกันเลย

ไฮไลท์อีกอย่างนึงของนครวัดคือ ภาพแกะสลักรามายณะ ความเชื่อเรื่องศาสนาของผู้สร้างในสมัยนั้นค่ะ

ใครที่มีความรู้เรื่องรามเกียรติ์อยู่แล้ว รับรองว่าสนุกแน่นอนค่ะ แต่สำหรับมายด์ ไม่รู้เรื่องขอผ่านดีกว่า





ทางเข้า-ออก นครวัดมีขายน้ำตาลสดอยู่ค่ะ แก้วละ 1$ เหมือนเดิม
แพงนาจา จะบอก เพราะว่ามายด์ว่าไม่อร่อย 5555555 อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบด้วยล่ะ

เรียบร้อย จบสำหรับที่แรก นครวัด ไปที่อื่นต่อกันดีกว่าค่ะ





ทริคนิดนึง สำหรับการเที่ยวนครวัดคือ ...

ถ้าคุณมาตอนที่สว่าง พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว
การที่จะดูนครวัดให้ตื่นตา คือการเดินตรงๆ เดินตรงอย่างเดียว เล็งที่เป้าหมายไว้ค่ะ
เทคนิคการออกแบบสถาปัตยกรรมนี้เค้าเรียกว่า shock space และ Symmetry balance

ส่วนเรื่องของบันไดตามแหล่งปราสาทที่เสียมเรียบนั้น ถูกออกแบบให้ผู้ที่ก้าวขึ้นต้องน้อมตัวขึ้น 
เนื่องจากเป็นกุศโลบายให้ผู้ก้าวขึ้นอยู่ลักษณะถึงแสดงความเคารพต่อสถานที่ 
นอกจากที่เสีมเรียบแล้ว เรายังเห็นการออกแบบประมาณนี้ในอารยธรรมโบราณอื่นๆด้วยค่ะ

ในส่วนของประตูทางเข้านั้น ก็มีการออกแบบเพื่อจุดประสงค์เดียวกันด้วยค่ะ
คือในปราสาทเดียวกัน เราจะเห็นประตูทั้งช่องเปิดใหญ่ และเล็ก
ช่องใหญ่ เราจะเจอในส่วนของทางเข้าหลัก ส่วนของช่องเล็กจะเจอในบริเวณตรงกลาง หรือจุดสำคัญของสถานที่นั้น เพื่อให้ก้มหัวเข้าไปค่ะ




ตาพรม  วิหารทูมไรเดอร์

ประวัติการสร้าง: ปราสาทตาพรหมสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 
โดยพระองค์ได้สร้างปราสาทขึ้นเพื่ออุทิศถวายแก่พระราชมารดา โดยสถาปนาพระมารดาขึ้นให้เป็นนางปรัชญาปารมิตา



ตาพรม ดังมาจากหนังฮอลิวู๊ดเรื่องดังของ Angelina Jolie อย่าง Tom Rider
คนหลากหลายเชื้อชาติ ต่างหลั่งไหลมาดู หินที่ว่าแข็งแรง มาที่นี่ทุกคนจะพบว่ามันแพ้รากไม้ค่ะ!

สิ่งที่เคยถูกก่อสร้างไว้ พังทะลายลงมาเยอะมากก แต่ทั้งนี้มนุษย์ก็พยายามบูรณะอยู่





ที่ ตาพรม บรรยากาศรอบๆสวยนะคะ ชวนให้นึกถึงป่า เพราะส่วนใหญ่วิหารถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ เรียกว่าต้นสะปง
สำหรับที่นี่เป็นสถานที่ต้นๆเลยที่มายด์อยากมา หลักๆคือคนไม่ได้มาดูสิ่งก่อสร้างหรอกค่ะ
มายด์ว่าเค้ามาดูความแข็งแกร่งของธรรมชาติมากกว่า 5555



ปราสาทนี้คนจะเยอะมากๆช่วงสายๆ ถ้าใครอยากมาแต่ไม่อยากมาแย่งถ่ายรูปกับคนอื่นๆ แนะนำให้มาก่อน 9 โมงค่ะ
อากาศร่มรื่น บรรยากาศไม่เหมือนปราสาทอื่นๆในเสียมเรียบแน่นอนค่ะ



ปราสาทตาพรหมถูกเก็บรักษาไว้เพื่อให้เห็นสภาพที่แท้จริงว่าอยู่กับธรรมชาติเกือบ 500 ปี

เพราะที่นี่แสดงให้เห็นได้ชัดเลยว่า แม้คนจะพยายามสร้างอะไร ให้อยู่ยงคงกระพัน แต่สุดท้าย ...
วันนึง ธรรมชาติก็จะมาเอาคืนไปค่ะ 5555



สระสรง  บารายในอังกอร์

ประวัติการสร้าง: สระสรงขุดขึ้นประมาณกลางคริสต์ศตวรรษที่ 10 และได้ขยายต่อเติมเมื่อพ.ศ. 1743 ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7



สระสรง คือสระนี่ล่ะค่ะ เป็นอ่างเก็บน้ำอยู่ใกล้กับนครถม
ที่นี่อากาศดี มีต้นไม้ให้ร่มเงา ลมพัดเย็นสบาย ใครจะมาแวะตรงนี้เพื่อปิกนิคกินข้าวก่อนก็ได้

แต่สำหรับมายด์ๆมาเพื่อจุดประสงค์อย่างอื่นค่ะ 55555





ทะด่าาาาาา! ข้างสระสรงมีตลาดเล็กๆ ขายของอยู่ค่ะ
มายด์แวะมาซื้อข้าว ไก่ย่าง แล้วก็ไข่เจียว หอบไปกินเป็นมื้อเที่ยง อาหารที่ตลาดนี่ชุดละ 2$ ค่ะ



แปรรูป  สร้างด้วยอิฐ

ประวัติการสร้าง: พระเจ้าราเชนทรวรมัน ทรงย้ายเมืองหลวงกลับมายังเมือพระนครภายหลังการสวรรคตของพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 
พระองค์โปรดให้สร้างปราสาทแปรรูป อันเป็นปราสาทบนฐานเป็นชั้นเพื่ออุทิศให้กับพระองค์เองขึ้นที่ริมฝั่งบารายตะวันออก



ที่นี่ใช้วัสดุหลายชนิดในการก่อสร้าง ทั้งศิลาแลง หินทราย และอิฐ 
อิฐแดงๆ กลางอากาศร้อนๆ แสงแดดเปรี้ยงๆ มายด์เลยตัดสินใจพักกินข้าวเที่ยงที่นี่กันก่อน





อาหารที่ซื้อมาจากตลาดชุดละ 2$ คุ้มมากค่ะ อิ่มแล้วค่อยลุยกันต่อ



ตัวปราสาทสามารถปีนขึ้นไปได้ค่ะ ระวังนิดนึงนะคะ เนื่องจากทางขึ้นโดนกัดกร่อนไปมากพอสมควรแล้ว
ที่ปราสาทแปรรูปนี้ก็มีนางอัปสรค่ะ แต่ไม่ได้สวยงาม วิจิตราการตาเท่าด้านบนของนครวัด



แปรรูป เป็นปราสาทที่ค่อนข้างใหญ่เลยนะคะ 
แต่ในความคิดมายด์คือแทบไม่ค่อยมีจุดเด่นอะไรให้จำ นอกจากแวะกินข้าว ไม่รู้ทำไมเหมือนกันอ่ะ 555



แม่บุญตะวันออก ปราสาทกลางบาราย

ประวัติการสร้าง: พระเจ้าราเชนทรวรมัน ทรงย้ายเมืองหลวงกลับมายังเมือพระนครภายหลังการสวรรคตของพระเจ้าชัยวรมันที่ 4 
พระองค์โปรดให้สร้างปราสาทแม่บุญตะวันออกเพื่ออุทิศให้กับบรรพบุรุษของพระองค์กลางบารายตะวันออก



บารายคืออะไรรู้ไหมคะ บารายคือแอ่งน้ำนี่ละ ที่เค้าขุดขึ้นมา 
ดูจากแผนที่แล้วจะอึ้งมากๆว่าปราสาทแห่งนี้อยู่ตรงกลางของแอ่งน้ำเลย
นี่ละ ที่ทำให้ที่นี่เจ๋ง!

แต่ปัจจุบันไม่มีน้ำแล้วนะคะ แห้งไปหมดแล้ววว



สถาปัตยกรรมที่แม่บุญตะวันออกจะคล้ายกับที่ปราสาทแปรรูปนะคะ เนื่องจากสร้างในยุคสมัยเดียวกัน



เอกลักษณ์ของที่นี่อีกอย่างนึงคือรูปสลักช้างค่ะ แต่ละมุมของปราสาทยังมีช้างที่สมบูรณ์อยู่มากๆเลย



ตาสม  ปราสาทในหมู่ร่มไม้

ประวัติการสร้าง: ปราสาทตาสมสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นปราสาทขนาดเล็กหากเทียบกับปราสาทตาพรม



เดินเข้ามาในปราสาทตาสม ความรู้สึกคล้ายๆตาพรหมเลยค่ะ แต่ไม่ดิบเท่าตาพรหมเท่านั้นเอง



เหมือนกันกับที่ปราสาทอื่นๆคือ รูปสลักนางอัปสรค่ะ แต่ที่นางอัปสรรนี้ค่อนข้างแปลกตา ผมนางยาวลงมา





Neak Pean  สระอโนดาต สระน้ำบนสรวงสวรรค์

ประวัติการสร้าง: ปราสาทนาคพันสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7  
ตามจารึกเรียกว่า ชัยตฏากะ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอาณาจักร เนื่องจากเปรียบได้กับสระอโนดาต



นาคพัน จะมีปราสาทอยู่ตรงกลางแอ่งที่ถูกขุดขึ้น เรียกว่าบารายพระขรรค์ ขนาดค่อนข้างกว้างใหญ่ แต่เล็กกว่าบารายแม่บุญเยอะเลยค่ะ
ทางเดินไปประสาทจะต้องเดินข้ามสะพานไม้ที่ทอดยาวผ่านแอ่งน้ำที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่เรียงราย



แอ่งน้ำที่เราต้องเดินข้ามไปใหญ่มากเลยค่ะ คือเมื่อนั่ง tuktuk ออกจากปราสาทตาสม
วิ่งมาตามถนนเราจะเห็นแหล่งน้ำที่มีต้นไม้ขึ้นรกๆ ยาวววว มาจนถึงทางเข้านาคพัน บารายแห่งนี้ ถูกขุดโดยฝีมือมนุษย์เช่นเดียวกับที่แม่บุญตะวันออกค่ะ
ขนาดของบารายนี้ ถ้าเทียบกับแม่บุญตะวันออก จะมีขนาดแค่ 1/4 ของแม่บุญเท่านั้น แถมยังมีรูปร่างเป็นสี่แหลี่ยมผืนผ้า สวยงามเป๊ะๆ! 
#ขุดจนท้ออะแกรรรรร (>_<')


ปราสาทนาคพันมีขนาดเล็ก สร้างตามความเชื่อเรื่องสระอโนดาตเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีน้ำที่ใสสะอาดและเต็มเปี่ยมอยู่ตลอดเวลา
น้ำในสระอโนดาตจะไหลออกตามช่องภูเขาที่ตั้งอยู่ทั้ง 4 ทิศของสระ เป็นรูปหน้าของสัตว์ 4 ชนิด คือ สิงห์ ช้าง ม้า และโค

และที่ปราสาทนาคพันโดยสระน้ำทางทิศเหนือมีหินสลักเป็นรูปหัวช้าง สระน้ำทางทิศตะวันออกมีหินสลักเป็นรูปหัวม้า 
และสระน้ำทางทิศใต้มีหินสลักเป็นรูปหัวสิงห์ แต่ในทิศตะวันตกกลับจำหลักรูปหน้าคนแทนหน้าโค



Preah Khan  ปฏิมากรรมแปลกตา ปราสาทในพระพุทธศาสนา

ประวัติการสร้าง: ปราสาทพระขรรค์เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่สุดทางพุทธศาสนา ในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระราชบิดา 
ความสำคัญของปราสาทพระขรรค์อีกอย่างหนึ่ง คือ บริเวณปราสาทใช้เป็นที่ประทับชั่วคราวของพระองค์ในระหว่างการก่อสร้างเมืองหลวงที่ถูกกองทัพจามยึด



ปราสาทพระขรรค์มีบริเวณค่อนข้างกว้างค่ะ มายด์ลง tuktuk ทิศนึง เดินๆๆ ทะลุมาโผล่อีกทิศนึง ซึ่งนัดแนะกับคนขับรถเรียบร้อยแล้ว ^^



เดินเล่นปราสาทนี้ค่อนข้างสนุกค่ะ เนื่องจากมีปฏิมากรรมที่แปลกตาจากปราสาทอื่นๆที่ผ่านมา
คงเป็นเพราะ ที่นี่เข้าสู่ยุคของพระพุทธศาสนาแล้วค่ะ



ที่นี่มีรูปสลักครุฑด้วยค่ะ



ยักษ์เฝ้าประตู ตัวใหญ่จริงๆ ยักษ์ที่นี่หน้าตาจะไม่เหมือนยักษ์บ้านเรานะคะ
ค่อนข้างจะมีรูปลักษณ์เหมือนคน เพียงแค่มีเขี้ยวค่ะ แล้วรูปร่างนั้นก็สูงใหญ่กว่าคนมากนัก


เมื่อเดินเข้ามาในตัวปราสาท จะเห็นได้ว่า ประตูทุกประตู ตรงกันหมดค่ะ  เดินตรงไปผ่านประตูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ...


ประตูที่นี่เท่าความสูงไม่ต่างจากมายด์เลยค่ะ ไม่ต้องก้มเลย 156 ผ่านได้สบายๆ



ระหว่างทางที่เดินผ่านไป จะเห็นรูปสลักอยู่เรื่อยๆค่ะ บริเวณนี้เป็นเหล่านักบวช ซึ่งไม่มีให้เห็นในปราสาทอื่นๆ



เมื่อมาที่พระขรรค์ ไม่ว่าคุณจะเดินเข้ามาจากทิศไหน คุณจะเดินเข้ามาจุดศูนย์กลางของปราสาทคือตรงนี้ค่ะ



อย่างที่มายด์ไปว่ายักษ์ที่นี่มีลักษณะไม่เหมือนยักษ์ที่เราคุ้นเคย ดูจากข้างๆประตูซ้าย-ขวามีรูปสลักยักษ์ถือไม้เท้า เฝ้าประตูอยู่ค่ะ



โดยรวมที่ปราสาทพระขรรค์คนไม่พลุกพล่านค่ะ มีอาณาบริเวณให้เดินดูได้อย่างสบายๆ บางบริเวณของที่นี่ก็ถูกธรรมชาติทวงคืนไปแล้วก็มีค่ะ



Angkor Thom เมืองหลวงสุดท้ายของอาณาจักรขะแมร์

ประวัติการสร้าง: พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างเมืองหลวงขึ้นเพื่อเป็นเมืองหลวงใหม่ของพระองค์ โดยซ้อนทับเมืองพระนครเดิมของพระเจ้ายโศวรมัน



ประตูกำแพงของนครถม จะมีรูปสลักพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรในแต่ละทางเข้าค่ะ

พอเข้ามาในนครถม จะเห็นพื้นที่โล่งๆ กว้างขวางงงง
ใครที่เตรียมมาแค่น้ำเปล่า ได้เวลาเติมน้ำตาลด้วยการกินน้ำอัดลมแล้วค่ะ

จริงๆร้านขายน้ำ ขายอาหารมีกระจายอยู่ทั่วบริเวณนอกปราสาทนะคะ บางปราสาทก็มีรถเข้ามาขายข้างใน



อย่างที่บอกว่าการใช้เงินที่เสียมเรียบนั้น นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ เค้าจะขายสินค้าให้ในราคา 1ดอลล่า
ทุกอย่างเริ่มต้นที่ 1 ดอลล่า! แม้แต่โค้กกระป๋องนี้

หรือ ไอติมแท่งนี้ ก็ 1 ดอลล่า ดังนั้นเวลากินอะไร ถ้าไม่อร่อยนี่ เสียใจนะ (T_T) 5555



พี่ผู้ชายขายไอศกรีมแท่ง เค้าบอกมีหลายรสเลย แต่มายด์คิดอะไรก็ไม่รู้ เลือกกะทิมากิน
คือมันจืดมากกกกกกกก 555 นี่กะทิจริงๆหรอแก ไม่อร่อยเลย แต่ก็กินจนหมด เพราะอากาศร้อน

กินเสร็จ ... เราก็เดินเข้าไปดูปราสาทต่างๆในนครถมนี้กันค่ะ



Baphuon  ปราสาทแปลกตา รูปทรงพีระมิด

ปราสาทบาปวน เป็นปราสาทแรกในเมืองพระนคร มีทางเดินเข้าสู่ตัวปราสาทเป็นสะพานหินยกระดับทอดยาว เป็นปราสาทที่มียอดสูง
ในปลายพุทธศตวรรษที่ 18 มีหลักฐานจากบันทึกของจิวต้ากวนราชทูตจากเมืองจีน กล่าวว่า ยอดปราสาทบาปวนเคลือบด้วยสัมฤทธิ์แลอร่ามแต่ไกล



ระหว่างเดินเข้ามาตามทางเข้า รู้สึกว่าปราสาทปาปวนนี้หน้าตาโดดเด่งจากที่อื่นๆมาก มีความคล้ายพีระมิดมากค่ะ



บริเวณรอบๆปราสาทยังคงมีการบูรณะกันอย่างต่อเนื่องนะคะ 
หินหลายก้อนยังคงเรียงราย รอวันกลับไปอยู่ในที่ๆคนปัจจุบันคิดว่านั้นคือที่ของมัน





เมื่อขึ้นมาปราสาทแล้ว ทางเดินเที่ยวเป็น one way นะคะ อย่าไปออกทางเข้าเชียวละ
ที่ปาปวนนี่ แม้ว่าเวลาที่ถูกสร้างจะเป็นยุคสมัยท้ายๆแล้ว แต่บันไดทางขึ้นยังคง concept สูงชันอยู่ค่ะ



เมื่อเดินออกมาจากปราสาทปาปวนแล้ว บริเวณใกล้ๆกันยังมีหินทรายของใหม่ เพื่อมาบูรณะปราสาทต่างๆอีกด้วยค่ะ



หินทรายที่ถูกตัดแล้ว เค้าจะมาเรียงเอาไว้ค่ะ เห็นผิวมันไหม มันเนียนอะแกรรรร 
( ร้อน ไปกันต่อเหอะ)



Bayon  ยิ้มพระโพธิสัตว์ ยิ้มจากทั่วสารทิศ

ประวัติการสร้าง: เพื่ออุทิศให้กับพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ในฐานะอวตารของพระพุทธเจ้าฝ่ายมหายาน 
ปราสาทบายนประกอบด้วยพระพักตร์จำนวนมาก ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าควรจะเป็นพระพักตร์ของทิพยบุคคลองค์ใด บางท่านเห็นว่าอาจเป็นพระพักตร์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เอง



เนื่องจากปราสาทบายนเป็นศูนย์กลางเมือง จากปาปวน เดินมาไม่ไกล เราก็จะได้มาเจอ รอยยิ้มที่โด่งดัง ยิ้มบา-ยน
มายด์ขอบอกไว้เลยค่ะ ว่าคนเยอะมากกกกกกกกกก มาถึงบ่ายๆ อากาศร้อนๆ คนก็เยอะ เห้อออ เหนื่อยมาก 555

แนะนำให้ หาร่มไม้ แล้วชาร์ตแบตกล้อง นั่งพักตากลมสักพัก ทำใจในการฝ่าฟันกับคนที่มาตามหารอยยิ้มบายนที่นี่



ความสนุกอย่างนึงที่นี่คือการดูภาพสลักที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนในนครถมค่ะ ซึ่งแต่ละทิศก็จะมีเรื่องราวที่แตกต่างกัน



สำหรับที่ปราสาทบายน ความสนุกของมายด์คือการหารอยยิ้มที่มายด์คิดว่าสวยที่สุด หน้าตาใจดีที่สุด และเป็นหินที่ยังสมบูรณ์ที่สุดค่ะ
เสน่ห์ของที่นี่คือรอยยิ้มค่ะ ไม่ว่าอากาศจะร้อนขนาดไหน ผู้คนที่นี่ก็ยังต้องฉีกยิ้มสู้แดด เพื่อถ่ายรูปคู่ยิ้มบายน



รูปนี้ไม่มีอะไร มายด์รู้สึกว่า ดอกไม้เค้าแกะได้น่ารักมากๆ 55555 มันเรียบง่ายนะ แต่โคตรน่ารักเลย (^w^)



ไม่ว่าจะปราสาทในยุคสมัยไหน นางอัปสรยังคงมีให้เห็นเสมอ แต่ละนาง ในแต่ละปราสาทจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป
ก็ผู้หญิงอะเนอะ เทรนด์บางช่วงก็ฮิตผอมแห้ง บางช่วงฮิตอวบ บางช่วงเน้นเฮลตี้ #เป็นผู้หญิงนี่อยู่ยากจริงๆ ฮ่าๆ



เนื่องจากในสมัยนครถม พระพุทธศาสนาได้เข้ามาเผยแผ่อย่างกว้างขวาง 
และตัวผู้สร้างอย่างพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ก็มีความเชื่อว่า ตัวเองเป็นภาคนึงของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
ทำให้เห็นปฏิมากรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาอยู่มากมายค่ะ




เมื่อออกมาจากประตูนครถมทางทิศใต้ จะเจอเรือสวยๆค่ะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน 555
คาดว่าจะเป็นเรือ นั่งพานักท่องเที่ยวเที่ยวชิวๆ ชิคๆ แต่มายด์มาถึงจุดนี้ บ่ายสามโมงกว่าแล้ว เค้าน่าจะปิดละ ;P



อย่างที่บอกว่าบ่ายๆแบบนี้ที่เสียมเรียบ #ร้อนขนาดดด > <
ก่อนที่จะไปที่ต่อไป ขอพักเติมน้ำตาลก่อนค่ะ ลุยมาทั้งวัน การกินไอติมเป็นการเติมพลังที่ดีที่สุด
แม้กนั่มแถวแหล่งท่องเที่ยวราคาอยู่ที่ $1.5 ค่ะ ก็ตกประมาณ 50 บาทค่ะ ราคาแรงกว่าไทย แต่น้อยกว่าลาวนะจ้ะ



Phnom Bakheg  ภูเขาลูกนี้คนมาดูพระอาทิตย์ตก

ประวัติการสร้าง: พระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ทรงสถาปนาเมืองพระนครเป็นเมืองหลวง โดยมีชื่อทางการว่า “ยโศธรปุระ” 
โยสถาปนาเขพนมบาแค็งเป็นเขาศูนย์กลางเมือง (วนัมกันตาล) เขากลางเมืองนั้น ถือเป็นศูนย์กลางของเมืองหลวงและพระราชอาณาจักรไปพร้อมกัน 
และสามารถเทียบได้กับเขาไกรลาสอันเป้นที่ประทับของพระศิวะ ด้านบนเขานี้โปรดให้สร้างปราสาทพนมบาแค็งขึ้นเพื่อประดิษฐานราชศิวลึงค์ประจำรัชกาลของพระองค์



ปราสาทประกอบด้วยปราสาทบนยอดจำนวน 5 หลัง และปราสาทขนาดเล็กอีกจำนวน 60 หลังที่ฐานทั้งห้าชั้น 
ทุกหลักประดิษฐานศิวลึงค์ตามลัทธิไศวนิกายและหันหน้าไปทางทางทิศตะวันออกอันเป็นทิศมงคล 
เมื่อรวมปราสาทที่ด้านล่างแล้วนักวิชาการประมาณกันว่าปราสาทแห่งนี้มีจำนวนถึง 108 หลัง อันเป็นเลขมงคลในศาสนาฮินดู
(ในปัจจุบันมีการบูรณะกันอย่างต่อเนื่อง)



การขึ้นพนมบาเค็ง ต้องเดินขึ้นไปบนภูเขานะคะ เนื่องจากเป็นปราสาทที่สร้างอยู่บนเขา
สำหรับใครที่แรงหมด แต่เงินยังเหลือ มายด์แนะนำให้ขี่ช้างขึ้นเขาค่ะ จะมีความไฮโซมว้ากก ราคาก็แรงมากเช่นกัน



อย่างที่บอกว่า การมาที่นี่ จุดประสงค์หลักของนักท่องเที่ยว คือการมาชมพระอาทิตย์ตกกันค่ะ
ใครอยากจะขึ้นบนพนมบาเค็งแน่ๆ ต้องมาเข้าแถวก่อน 4โมงนะคะ เพราะว่าเค้าจำกัดคนที่จะขึ้นบนปราสาทค่ะ
มายด์ไปก่อนเวลาพอสมควร และก็ขึ้นไปหลับบนนั้น เพราะว่าร้อนและเหนื่อยมาก เช็คอากาศแล้วพระอาทิตย์ตก 6โมงกว่านู่นนนน รอวนไป 2 ชั่วโมงค่ะ



แต่บนพนมบาเค็ง ไม่ได้มีไว้ชมพระอาทิตย์ตกเพียงอย่างเดียว ตัวปราสาทยังคงมีภาพสลักหลงเหลืออยู่เหมือนกันค่ะ
มายด์ว่านางอัปสรที่นี่ค่อนข้างอวบที่สุด ในบรรดาปราสาทอื่นๆที่ผ่านมาเลย



เดินวนรอบตัวปราสาทที่มีพื้นที่โล่ง และสูงจากที่อื่นๆ เราก็สามารถเห็นนครวัดจากบนเขาลูกนี้ได้ค่ะ
มายด์ชอบความรู้สึกที่มอง นครวัด จากที่นี่มาก ให้ความรู้สึกสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ มีอารยะธรรม อยู่ท่ามกลางป่าเขา สวยมากค่ะ



สำหรับมายด์การรอดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ ไม่ได้เหงาอย่างที่คิดค่ะ เพราะว่าเหล่าอาจุมม่า เกาหลี และเหล่าอาม่า จากจีนทั้งหลาย
เอาแรงมาจากไหนกันนักก็ไม่รู้ ต่างแอคชั่นท่าทางปล่อยพลัง ถ่ายรูปเล่นกับพระอาทิตย์ที่กำลังจะตก ฮามาก สนุกดี ^^

อ่อลืม บอกอย่างนึงคือ พออาทิตย์ลับขอบฟ้าไปปุ๊บ อย่าลืมรอดูแสงทไวไลท์ของที่นี่นะคะ สวยไม่แพ้ตอนตะวันจะตกเลยหล่ะ



หมดแล้ว BIG CYCLE ของเราวันนี้ 
กลับโรงแรมอาบน้ำแต่งตัว ไปหาอะไรเติมพลังกันดีกว่า




ที่เก่าเวลาเดิม เรามา pub street เราจะไปหาอะไรดีๆ เหมาะกับเงินในกระเป๋าเรากินกันดีกว่า



ไปหา street food กินกันค่ะ 5555555



คืนนี้ มายด์เลือกร้านที่อยู่ริมถนน นอกๆ pub street
ร้านมีเยอะมาก เรียงราย ขายของคล้ายๆกันคือ หมี่ผัดค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็น หมี่ผัดไม่ก็ข้าวผัด เลือกร้านตามใจชอบเลย



หน้าตาหมี่ผัดชัดๆเลยเนอะ แต่! ร้านนี้อร่อยยยยคร่าาาคู๊ณณณณ! เห้ยอร่อยจริงๆ
หมี่เส้นสีเหลือง เส้นหนึบๆ มีหมู มีผักบุ้ง แล้วก็เค้ามีพริกให้ใส่ พริกเค้าเหมือนใส่เต้าเจียวด้วย ไข่ดาวอีก เจ๋ง!
อร่อยราคาถูก $1.5-2 ไม่เกินนี้ค่ะ มายด์ว่าจานเดียวก็อิ่มได้อยู่นะ

แต่เราก็ ไปเดินเล่น หาไรกินต่อเถ๊อะ (^w^)/





มายด์เลือกกิน street food ต่อค่ะ เสห่น์ของที่นี่อย่างนึงคือ นั่งเก้าอี้เตี้ยๆค่ะ
เห้ยยยย! มายด์ว่ามันน่ารักมาๆเลยนะ อยากนั่ง แต่ร้านมะกี้ไม่มี เลยหาร้านที่น่ากินด้วย มีเก้าอี้เตี้ยด้วย มา! กินต่อค่ะ



ร้านนี้เมนูส่วนใหญ่เป็นเนื้อค่ะ สั่งข้าวผัดมา ข้าวผัดเฉยๆนะ ออกไปทางหวานๆด้วยซ้ำ แต่น้ำซุปนางเลิศอยู่ (=w=) แง่มๆๆ


ต่อๆ ใสใส ใส่ใจสุขภาพอย่างมายด์ไปไรกินดีกว่า (>_<)



ไอศกรีมผัดจ้าาาาา ใสใสวัยรุ่นชอบ ร้านไอติมผัดในเมืองมีเยอะมากๆ
เค้ามีหลายรสให้เลือกนาจา แต่มายด์ถามรสไหน popular สุด เลยได้รสนี้มาจ้า มะม่วง-เสาวรส 5555 #ฝรั่งเลือกแน่เลยแก
ความสนุกของการซื้อไอติมผัด ไม่ใช่การกินไอติมผัดค่ะ แต่คือการรอดูป้าแกผัด! อะโหววว ผัดโคตรแกร่ง ผัดไวด้วย

กินอิ่มแล้วก็ไปนอนซะนะ พรุ่งนี้ยังอีกยาวไกลลลลล

แต่ถ้ายังนอนไม่หลับ มีแรงเหลือพอที่จะ dance!
หลายคนมาที่นี่ก็อยาก hang out มากกว่า chill out ใช่ไหมคะ
ต้องร้านนี้เลย Angkor What? Bar ไม่แน่ใจว่าหัวดำๆ เอเชียอย่างเราเข้าแล้วจะแปลกไหม
เพราะจากที่ยืนสังเกต สังกาอยู่นานพอสมควร เห็นได้ว่า มีแต่ฝรั่งเข้าไปวะ! 55555

แต่ถ้าอยากดื่มแอลกอฮอล์แล้วแดนซ์ ร้านริมๆถนนก็มีนะแกรรร เปิดเพลงดังกระฮึ่มเลย!






วันที่สามในเสียบเรียม
วันสุดท้ายของทริป ขี่มอไซค์แว๊นซ์ย้อนไปดูสถาปัตยกรรมก่อนยุคนครวัด

- Banteay Srei (บันทายสรี)            
- Roluos group                             
Lolei                                        
Prah Ko                                   
Bakong                                   
- เที่ยวในเมือง                               
เตรียมครีมกันแดด เสื้อคลุม แล้วก็หมวกกันน้อคให้พร้อม เราจะไปแว๊นซ์กัน 




กองทัพต้องเดินด้วยท้อง #น้องมายด์หิวคร่าาา
ข้าวเช้าวันนี้ เรามาฝากท้องไว้ที่ร้านข้างๆที่มายด์เช่ารถมอเตอร์ไซค์ค่ะ ปล่อยอาหารเช้าที่โรงแรมทิ้งไปเถ๊อะ 555



จริงๆไม่ได้คิดว่าจะมากินไหนร้านเป็นพิเศษหรอกค่ะ แต่พอเช่ารถเรียบร้อยแล้ว
ร้านข้างๆ คนท้องถิ่นเยอะเหลือเกินนน เห้ยเอาไง กินไหม เออกินเหอะ (^-^)/ hi menu please!
ถามคนรับออเดอร์ว่ามีอะไรแนะนำไห what do you recommend? เค้าบอกก๊วยจั๊บๆ 5555
โอเคค่ะ เอามาเลยค่ะ พอมาถึง เห้ยแก ก๊วยเตี๋ยวปะวะ ไม่ใช่ก๊วยจั๊บ แต่อร่อยดีนะ มายด์โอเคอ่ะ



ร้านนี้เค้าเสิร์ฟอาหารพร้อมชาร้อนนะคะ แต่มายด์เห็นเด็กน้อยข้างๆกินโอวัลติน มายด์เลยสั่งบ้าง 1 แก้วค่ะ (^w^)



ก่อนจะออกไปเที่ยวตามแผนที่วางไว้ มายด์แนะนำให้ศึกษาเส้นทางจาก google map ก่อนนะคะ
เพราะสัญญาณโทรศัพท์ไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ทางที่ดีพกแผนที่ไปด้วยน้าาา


จริงๆก็ ไปสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่ไม่ยากค่ะ มีป้ายบอกทางตลอด



ต้นตาลเป็นไม้ประจำชาติของประเทศกัมพูชานะคะ ที่นี่มีเยอะจีจี ตลอด 2 ข้างทางนี่เห็นได้ตลอดเลย
ถนนค่อนข้างดี และมีร้านขายของที่ระลึกเป็นระยะๆค่ะ



ขี่รถมาไกลลล จากตัวเมืองพอสมควร ก็แวะเติมน้ำมันกันหน่อยค่ะ 
ถ้าใครจะเที่ยวโดยการขี่รถมายด์แนะนำให้เติมปั๊มใหญ่ๆนะคะ เค้าจะบอกราคาที่เป็น usd ที่ชัดเจนให้กับเรา 
ถ้ามีเศษปั๊มก็จะทอนเรามาเป็นเงินเรียวค่ะ ส่วนปั๊มเล็กๆนะหรอ (=.,=) ไม่มีทอนจ้า นางเก็บเป็นเลขกลมๆเลย!!

จากตัวเมืองเสียมเรียบ มาที่ปราสาทบันทายสรี ขี่รถใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ระยะทางเกือบๆ 40 กม.ค่ะ



บันทายสรี ปราสาทหินสีชมพู เพชรยอดมงกุฏในเสียมเรียบ

ประวัติการสร้าง: ปราสาทบันทายศรีสร้างขึ้นโดยพราหมณ์ชื่อ ยัชญวราหะ ในรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5 สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแก่พระศิวะและพระเทวีอีกสององค์



ที่ปราสาทนี้ คนไทยออกเสียงว่า บันทายสรี แต่คนเขมรเรียกที่นี่ว่า บันตรีสะไดร ค่ะ
ส่วนใครที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเหมือนมายด์ละก็ ที่นี่จะต้องจ่ายค่าจอดรถนะคะ จ่ายเงินบาทได้ค่ะ 20 บาท







ปราสาทแห่งนี้แม้จะเล็ก แต่สร้างความประทับใจให้ผู้มาเยือนได้ไม่น้อยเลยค่ะ 
ตัวปราสาทสร้างด้วยหินทรายสีชมพูดูสดใส ไม่เหมือนปราสาทอื่นๆในเสียบเรียมเลย
ชาวฝรั่งเศสให้ฉายาปราสาทแห่งนี้ว่า รัตนชาติแห่งศิลปะขอม เพราะการก่อสร้างด้วยหินทรายสีชมพูเนื้อละเอียด 
การสลักลวดลายจึงดูอ่อนช้อย ลายคมชัด มีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะมองมุมใด ปราสาทบันทายสรีก็มีความงดงาม มีทับหลัง และหน้าบันสมบูรณ์ที่สุด











ทับหลังในสมัยบันทายศรีจะมีลักษณะรับอิทธิพลมาจากศิลปะเกาะแกร์ มาผสมผสานกับศิลปะพระโค 
ลักษณะเด่นของทับหลังในสมัยนี้ก็คือการประดับบริเวณเสี้ยว (เศษ1ส่วน4) ของท่อนพวงมาลัยด้วยรูป “ใบหน้าสัตว์ขบท่อนพวงมาลัย” ซึ่งเป็นต้นแบบของเสี้ยวพวงอุบะในศิลปะบาปวน



นางอัปสร ปราสาทบันทายศรี - เกล้ามวยผมไปด้านหลัง เปลือยกายท่อนบน นุ่งผ้าถุงลักษณะชายผ้าหางปลา
สำหรับมายด์นะ มายด์ชอบนางอัปสรที่นี่มากค่ะ ดูสวย หยดย้อย ภาพสลักรอบๆตัวนางก็ยิ่งทำให้นางสวยขึ้นไปอีกด้วย



ก่อนไปมายด์อ่านใน blog ของฝรั่งเค้าแนะนำให้ไปถึงบันทายสรีก่อน 11 โมงค่ะ จะได้เห็นปราสาทสีชมพูจริงๆ
แต่มายด์ไปถึงก็ 11 โมงกว่าแล้วว แดดเปรี้ยงๆเลย ทุกอย่างที่นี่ก็ยังดูสวย ลงตัว แถมช่วงเวลานี้คนนน้อยด้วย
เนื่องจากสถานที่นี้มีพื้นที่ค่อนข้างเล็กมาก เมื่อเทียบกับปราสาทอื่นๆ คนน้อยเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ

ใครที่มีโอกาสได้มาดูเพชรยอดมงกุฏเม็ดนี้ มายด์ขอแนะนำว่า ก่อนออกจากตัวปราสาท จะมีร่มไม้อยู่ใกล้ทางออก
นั่งชิวๆ พักเหนื่อย และชื่นชมกับอัญมณีฝีมือคนยุคก่อนดูค่ะ ว่าเค้าละเมียดละไมกับสิ่งที่ทำขนาดไหน
ถ้าจะให้ดีกว่านี้นะคะ ให้ซื้อมะม่วง หรือสัปปะรดตรงทางเข้า แล้วมานั่งกินตรงนี้ จะเวิร์คมากกกกกก (^_^)


ซ้อนท้ายมายด์มาเลยค่ะ เราจะไปลุยกันต่อ
เราจะไปยังปราสาทกลุ่มโลเลย ซึ่งถือเป็นแหล่งอารยะธรรมยุคแรกๆของที่เสียมเรียบนี้

จากปราสาทบันทายสรี ไปที่กลุ่มปราสาทโลเลยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ระยะทาง 27 กิโลเมตรค่ะ
จะบอกว่า 2 ข้างไม่มีอะไรเลย ทางตรงๆ ยาวๆ เรียกได้ว่าขี่มอไซค์จนท้อเลยค่ะ 555555



โลเลย  ปราสาทในอดีต ข้างวัดพุทธในปัจจุบัน

ประวัติการสร้าง: พระเจ้ายโศวรมันที่ 1 อันเป็นพระโอรสของพระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 
ได้สร้างปราสาทโลเลขึ้นเพื่ออุทิศ และสถาปนาบรรพบุรุษให้เป็นเทพเจ้าตามลัทธิทวราชา 
ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่กลางทะเลสาบอินทรตฑาคะ ถือเป็นตัวอย่างปราสาทบนเกาะกลางบารายแห่งแรกในเมืองพระนคร



ขี่รถมาตั้งไกลเกือบ 30 กิโล มาเพื่อพบว่า ... มีแค่เนี่ย! 55555
ปราสาทโลเลยก่อด้วยอิฐ ประดับด้วยปูนปั้นจำนวน 4 หลัง ตอนที่มายด์มาเกือบทุกหลังปิดบูรณะอยู่ค่ะ



ดูจากแผนที่ที่มายด์เตรียมมา จะเห็นได้ว่าปราสาทอยู่กลางบาราย
แต่ในปัจจุบันปราสาทโลเลยไม่ได้ตั้งอยู่กลางบารายอีกต่อไปแล้วค่ะ บารายที่เคยมีก็แห้งเหือดหายไปตามกาลเวลา
และมีวัดพุทธอยู่ข้างๆปราสาทโลเลยแห่งนี้แทนค่ะ เป็นที่ๆเงียบสงบ ไม่ได้ครึกคักเท่านครวัด นครถมค่ะ



ที่นี่ถึงจะเป็นปราสาทขนาดเล็ก เงียบ ไม่ได้หวือหวาอะไร แต่มายด์คิดว่าถ้าอยากดูจุดกำเนิดปราสาทกลางบาราย ต้องมาค่ะ!



พระโค ปราสาทที่มีรูปปั้นโค

ประวัติการสร้าง: ในสมัยพระเจ้าอินทรวรมัน โดยเป็นปราสาทที่สร้างอยู่บนพื้นราบตามคติเทวราชา โดยเป็นปราสาทที่สร้างขึ้นเพื่อถวายบรรพบุรุษ-สตรี



ปราสาทพระโค ที่นี่น่าสนใจมากค่ะ เนื่องจากเป็นกลุ่มปราสาท 6 หลังบนฐานเดียวกัน 
แบ่งเป็น 3 แถวหน้า และ 3 แถวหลัง แถวหน้าเป็นการอุทิศถวายให้กับบรรพบุรุษ ส่วนสามแถวหลังถวายให้กับบรรพสตรี



ด้านหน้าทางเข้าปราสาทมีประติมากรรมสิงห์อยู่ด้วยค่ะ หันไปทางทิศตะวันออก สภาพปัจจุบันสมบูรณ์มากๆเลย 



ทีปราสาทพระโค มีประติมากรรมทวารบาลที่โดดเด่นมากเลยค่ะ 
ปราสาทสามแถวหน้าทวารบาลเป็นรูปบุรุษ ส่วนทวารบาลปราสาทสามแถวหลังเป็นรูปสตรี

ส่วนภาพนี้ มายด์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคือ ทวารบาลหรือนางอัปสร 555555



บากอง  ต้นแบบของปราสาทในพระนคร

ประวัติการสร้าง: พระเจ้าอินทรวรมันที่ 1 ได้สร้างปราสาทบนฐานเป็นชั้นขึ้นเพื่ออุทิศให้กับพระองค์เอง



ที่บากอง อยู่ระแวงเดียวกับพระโคค่ะ ที่นี่ใหญ่ที่สุดเลย เมื่อเทียบทั้งหมดในปราสาทกลุ่มโลเลย



บากองเป็นปราสาทบนฐานเป็นชั้นหลังแรกที่สมบูรณ์ทางด้านองค์ประกอบมากที่สุด 
และเป็นปราสาทต้นแบบให้กับปราสาทบนฐานเป็นชั้นหลังอื่นๆของเมืองพระนครในระยะต่อมาด้วยค่ะ



สำหรับนางอัปสรที่นี่ มายด์รู้สึกว่าค่อนข้างเพียวนะคะ ไม่อวบเหมือนที่อื่นๆ





คนสมัยก่อนนี่เค้าช่างมีศิลปะในหัวใจจริงๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตัวปราสาทที่เห็นเด่นชัด หรือแค่ทางเดินก็มีการสลักด้วย



หมดแล้วววว การเที่ยวชมปราสาทหิน เบื่อกันหรือยังคะ?

เดี๋ยวเราจะกลับเข้าเมืองไปนั่งพักหาอะไรกิน แล้วก็ขี่รถเล่นในเมืองกันดีกว่า
เพราะว่า! เห็นไหมว่าวันนี้เรายังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเลย (>w<) หิวว



จากปราสาทบากอง เข้าตัวเมืองเสียมเรียบระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตรค่ะ
ถนนดีค่ะ เหมือนเป็นเส้นหลักของที่นี่ด้วย รถเยอะมากเช่นกัน อ้อ! บางช่วงทำถนนอยู่ด้วยนะคะ ฝุ่นเยอะมาก




Belmiro's Pizza & Subs  ร้านพิซซ่าอันดับ1 ใน tripadvisor



ร้านนี้มายด์หามาจาก tripadvisor ค่ะ ขึ้นอันดับหนึ่งในสาขาร้านพิซซ่าเลย เลิศเลอ
ร้านก็หาง่ายด้วย สังเกตหน้าร้านจะมีธงชาติประเทศต่างๆแขวนไว้ ร้านไม่ใหญ่มีโต๊ะไม่เกิน 10 โต๊ะค่ะ

ใครสั่งพิซซ่าเป็นชิ้น มีให้เลือกไม่เยอะเลย รู้สึกว่ามีแค่ 3 หน้านี้ละ 55555
แต่อร่อยดีนะคะ มายด์ชอบชีสส ราคาต่อชิ้นก็เฉยๆ ไม่ถูกไม่แพงค่ะ



มาถึง Buffalo Wings ปีกไก่สูตรเผ็ดร้อนนน
เผ็ดมากเลยจ้าาา ปีกไก่ร้านนี้ เป็นเพราะตอนสั่ง สั่งเป็น too spicy ด้วยแหละ แต่อร่อยนะ กินกับพิซซ่าชีสเลิศเลอ

ปล. แอบเซงร้านนี้นิดหน่อย ตรงที่ฝรั่งเจ้าของร้านนางสนทนาพาทีกับแขกทุกโต๊ะ ยกเว้นโต๊ะหัวดำโต๊ะนี้ #เหยียดปะเนี่ย



Blue pumpkin  ร้านเบเกอรี่ และเค้กแนวฝรั่งเศส



หาไม่ยากค่ะ อยู่ย่าน Pub street นี่ล่ะ ร้านสีฟ้าๆน้ำเงินๆ มาแต่ไกล
แต่สำหรับในตัวเมืองเสียมเรียบมีร้านฟักทองสีน้ำเงินนี้ตั้ง 7 สาขาแหน่ะ นางฮอตจีจี





ในร้านจะมีทั้งส่วนที่เป็นเค้ก เบเกอรี่ ไอศกรีม เครื่องดื่ม แล้วก็มีอาหารด้วยนะ เป็นพวกสลัดอะไรงี้ค่ะ
ส่วนราคาก็ ร้านเค้กกรุงเทพทั่วไปเลยค่ะ บางอย่างราคาแอบแรงกว่านิดหน่อย



สำหรับโต๊ะนั่ง ที่ร้านมีหลายชั้นเลยค่ะ ถ้ามานั่งข้างบน จะได้นั่งยืดขาสบายๆแบบนี้ ชิววว 
ล้างหน้า-ล้างตา แล้วพักเหนื่อยด้วยขนมอร่อยๆ น้ำและแอร์เย็นๆ โหยยย สวรรค์ชัดๆ ♪└(^_^)┐♥

มายด์สั่งทาร์ตมะนาว ราสเบอร์รี่ชีสเค้ก แล้วก็น้ำแอปเปิ้ลปั่นค่ะ
ทาร์ตมะนาวนางเลิศรสมากกกกกกก ชั้นรักเค้า มันอร่อยมาก พูดแล้วอยากกินอีกกกๆๆๆ



อิ่มแล้ว ไปขี่รถเล่นกันเถอะ



มายด์ขี่มาทางที่จะไปนครวัดค่ะ ระหว่างทางเจอวัดสมัยใหม่ ที่ทำออกมาได้คล้ายกับแนวสมัยก่อนเลย



ขี่ๆไป ก็จะเจอตลาดข้างทางเป็นระยะๆค่ะ ด้วยความที่อยากกินกล้วยทอดแบบเขมรมาตั้งนาน เจอเลยจัดซะ
หวานนนแปลกๆ แล้วก็ไม่กรอบด้วย ไรก็ไม่รู้ ไม่อร่อยเลย ดีที่ไม่แพง 55555


ขี่ไป ขี่มา เอ้าาาา จะเย็นแล้วว 
หาที่ดูพระอาทิตย์ตกกันค่ะ



พิกัด อยู่ทิศใต้ของนครวัดค่ะ รอบๆสระน้ำของนครวัดจะมีพวกรถมาขายของอยู่เป็นระยะๆ
จะซื้อมานั่งกิน ดูพระอาทิตย์ตก ลมเย็นชิวๆ ก็ได้



อยากแนะนำให้มานั่งดูพระอาทิตย์ตกที่นี่มากเลยค่ะ มันดีงาม ชิวว ไม่ต้องไปแย่งกดชัตเตอร์กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ



ช่วงเวลา 6 โมงนิดๆ ถ้ากลับเข้าเมือง จะเป็นเวลา prime time มากค่ะ 5555
เนื่องจากนักท่องเที่ยวทุกคน ดูพระอาทิตย์ตกเสร็จ ก็แห่กันเข้าเมือง
ช่วงนี้รถเยอะ ขี่รถดีๆนะคะ เป็นห่วง :)

ส่วนมายด์มุ่งหน้าตรงไปหาหมี่ผัด กินก่อนที่จะกลับเมืองไทยค่ะ



มื้อนี้มากินที่ตลาดเก่าค่ะ ร้านนี้เห็นผัดมือเป็นระวิง ก็เลยเข้าไปกินนนน
แต่แอบเสียใจ ร้านมะวานอร่อยกว่า ร้านนี้มายด์เลือกเป็นเส้นแบบถั่วงอก มันสั้นๆ หนึบนิดเดียว ผักก็ยังไม่ค่อยสุก
ราคาหมี่ผัดพวกนี้แต่ละร้าน ราคาไม่ต่างกันค่ะ

ปิดท้ายด้วยการกินไอติมเจลลาโต้กันค่ะ ล้างปากก่อนกลับบ้าน



ราคาตามในรูปเลยนะคะ 1 ลูกอยู่ที่ $1.5 
ร้านนี้ดีอย่างนึงคือ ขอชิมรสชาติไอศกรีมก่อนได้ และตักให้เยอะด้วยสิ ส่วนรสชาติก็เข้มข้นมว้ากกกก อร่อยดีค่ะ (^w^)/


กินอิ่มแล้ว ได้เวลากลับบ้านเรา รักรออยู่ ❤ 

ราคา tuktuk จากเมืองเสียมเรียบไปสนามบินอยู่ที่ $5 ค่ะ ใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาทีค่ะ
สำหรับ check-in แนะนำให้ไปก่อนเวลาเครื่องออก 2 ชั่วโมงนะค เนื่องจากนักท่องเที่ยวเยอะ จะได้ไม่ตกเครื่องกัน

ขาออกต่างประเทศของเสียมเรียบเป็น terminal เล็กค่ะ ไม่ได้ใหญ่มาก เดินไม่ไกล แต่ก็มีส่วนของ duty free ให้ได้ shopping กัน



ระหว่างนั่งรอเครื่องบิน ภายใน gate ก็มีอาหารขาย หลายอย่างเหมือนกัน
อย่างมายด์กลับไฟล์ทสุดท้ายของ air asia มันดึกแล้วเนอะ หาอะไรร้อนๆดื่มดีกว่าจะได้หลับสบาย
จริงๆมายด์เป็นคนชอบดื่มพวกชาเขียวใส่นมมาก แต่ที่เมืองนี้ดูท่าทางชาเขียวจะไม่อิน หาทานไม่ได้เลย
โกโก้ร้อนเลยเป็นคำตอบสุดท้ายก่อนจะบินกลับกรุงเทพค่ะ └( ̄▽ ̄*)



แม้จะเป็นไฟล์ทกลับบ้านอย่าง เสียมเรียบ-ดอนเมือง แต่ผู้โดยสารส่วนใหญ่ในเครื่องยังคงเป็นฝรั่งค่ะ!
จบทริปนี้ด้วยการกินอิ่ม และไปนอนหลับบนเครื่อง!


สำหรับทริปนี้ สนุกดีค่ะ ก่อนไปได้ทำการบ้านทั้งเรื่องเมือง ทั้งเรื่องประวัติศาสตร์
ถึงเวลาเที่ยวจริงก็ยังคง lost in Seap Ream อยู่ดี (>o<) 5555

สุดท้ายนี้ ทริปนี้ ทำให้มายด์เข้าใจได้ว่า ศรัทธา ทำให้มนุษย์สร้างได้ทุกสิ่งจริงๆ


แล้วตอนนี้หล่ะ คุณมีศรัทธาเรื่องอะไร

(≧▽≦)/~ บะบายยยย เจอกันใหม่ทริปหน้าน้าาาคร้าาาาาา 




Create Date : 23 มีนาคม 2560
Last Update : 26 เมษายน 2560 21:07:01 น.
Counter : 2600 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

sweetie_mild
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



ชื่อมายด์นะคะ

❥ วิศวกรโยธา
❥ ชอบแต่งหน้า
❥ ชอบกิน กินเยอะด้วย
❥ ชอบถ่ายรูป หลงใหลกล้องฟิลม์
บางครั้งก็ to be a backpacker ☺

มีเพจด้วย ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

( /) ❤
( . .)/
c(”)(”) มี facebook fanpage ด้วย
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ


♥ ♥ ♥ ♥ ♥ IG : sweetie_mild ♥ ♥ ♥ ♥ ♥