เป็นบล็อกอิสระสำหรับทุกๆคนที่รักเครื่องสำอางค์มาเสนอความคิดเห็น เกี่ยวกับเครื่องสำอางค์ที่ใช้อยู่ มารีวิวกันเยอะๆนะคะ
 
เซ็ทแรกที่จริงจังในการซื้อ ^^ Chanel ^^

ประเดิมการรีวิวครั้ง แรกด้วยสุดที่รักของเรากันดีก่า

เซ็ทนี้ เอ๊ะ!! จริงๆมันไม่ใช่เซ็ทอ่ะนะ
เป็นการซื้อรวมๆกันหลายอย่างซะมากกว่า ก็มี 4 อย่างที่ไปสอยมา

((จำได้ว่าซื้อมา ตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2008 กันเลย นานมั่กๆ))

พอดีว่าคุณแม่มาเยี่ยม เลยลากแม่ไปชอปที่พารากอน ที่บูท Chanel
(คือจริงๆ ที่เลือก Chanel ก็เพราะว่าพี่ที่เคยเป็นแอร์ JAL แนะนำมาว่ารองพื้นของChanel อ่ะ เนียนมากๆ ก็เลยลองของซะเลย)

ตอนแรกที่เดินเข้าไป BA ก็มองแบบจิกๆนิด
แต่ก็มาต้อนรับตามหน้าที่ก็บอกพี่เค้าไปว่าอยากได้รอง พื้น
มีตัวไหนแนะนำมั่ง เค้าก็เลยแนะนำ

Chanel Mat Lumiere long lasting luminous matte fluid makeup SPF 15



รีวิวตัวนี้ก่อนละกันนะ ค่อยเล่าต่อ

ก็ตัวนี้ก็คุณสมบัติ ทั่วไปใช้เป็นรองพื้นที่จะให้ความรู้สึกว่าเนียนไปกับใบหน้า
ใช้แล้วจะ ไม่รู้สึกหนักหน้า และติดทนนาน หน้าเด้งทั้งวัน

แต่อาจจะต้องมีการซับ มันออกบ้าง คือ มันก็คงไม่สามารถกันหน้ามันได้ทั้งวันอ่ะนะ
แต่หลังซับ แล้วหน้าจะเด้งเหมือนเดิม ใช้ได้ดีในอากาศร้อนๆ เหนอะๆ
คือ ไม่ขุย ไม่วอก ไม่เยิ้ม และไม่ละลายเมื่อเจอเหงื่อ

(เคยเจอบางยี่ห้อที่เจอ เหงื่อแล้วผลลัพธ์ที่ออกมา คือ น้ำสีขาว)

ไม่เป็นตัวก่อสิว โดนน้ำแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น คือ ไม่เยิ้ม ไม่เปลี่ยนสี
ไม่เป็นน้ำสีขาวๆ ติดทนนานมากๆๆๆ

อันนี้คอนเฟริ์มเพราะ ว่าเคยแต่งหน้าโดยใช้ตัวนี้รองพื้นตั้งแต่ตี 5
กว่าจะล้างออกก็เกือบ เที่ยงคืน แต่หน้ายังเด้งอยู่เลย

สีก็เนียนไปกับหน้ายัง กะไม่ได้ใช้รองพื้น
การใช้ก็ไม่ต้องกดออกมามาก เพราะว่าใช้แค่ปั๊มเดียวก็ทั่วหน้าแล้ว

การล้างออกก็ควรจะล้างอ อกด้วย cleansing oil
เพราะ foam หรือ gel ล้างหน้านั้นล้างเนื้อครีมออกไม่หมด อาจทำให้เกิดสิวได้

ส่วนสนนราคาตอนที่ซื้อ มา ราคาเต็มอยู่ที่ 1,650 บาท ปริมาณ 30 ml
แต่ ว่าโชคดีเว่อร์ๆที่ช่วงนั้น Chanel ร่วมลดราคากะพารากอน

!! ครั้งเดียวในรอบหลายยยยยยยปี !!


เลยได้ลด 10% ขวดนี้ใช้ได้ 8 - 10 เดือน ซึ่งเราถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มมากๆ

ตอน นี้เราก็ใช้มาขวดที่สองละ ก็คาดว่าคงจะใช้ต่อไปเรื่อยๆ

เพราะว่าเคย แพ้รองพื้น Shisedo แล้วสิวเห่อมากๆๆ เลยไม่กล้าลองหลายยี่ห้อ กลัวหน้าพัง

อ้อ!! เสริมอีกนิดว่ารองพื้นตัวนี้ใช้นานแล้วไม่เป็นตัวที่ทำให้มีสิว
มีข้อแนะ นำนิดนึงว่าถ้าซื้อมาผิดเบอร์ ในกรณีที่ผิดไปเบอร์เดียว ก็ถือว่าไม่เป็นไร
สี ยังเนียนๆไปกับหน้า อาจจะคล้ำลง หรือ ขาวขึ้นนิดหน่อย
เค้าใช้สีที่เข้า กะสีผิวจริงเลยไม่มีปัญหาหน้าลอย

เวลาที่ใช้เสด ให้ใช้ไม้จิ้มฟันเกลี่ยเอาครีมในหัวปั๊มออกด้วย
ไม่งั้นหัวปั๊มจะตัน และมีเศษครีมที่แข็งตัวเหลือ

สถานที่ซื้อ แนะ นำให้ดูว่ามีบัตรลดของที่ไหนบ้าง
แต่เท่าที่ดูมา King Power ถูกสุดแล้ว เราซื้อขวดที่ 3 (มากักตุนไว้) ในราคา 1,360 บาท
ถ้ามีบัตร King Power รู้สึกว่าจะได้ลดอีก 5% อีกอย่าง

คะแนน 10/10

อ่ะ ต่อกันที่บูท Chanel พี่เค้าถามว่าจะลองไหม เราก็บอกว่าลอง
BAก็เลยเช็ดหน้า ลงรองพื้นและแต่งหน้าให้ ก็เลยได้มาอีกสามอย่าง

อย่างแรกเลย
Irreelle blush silky cheek colour สี 20 Glamour
ปล. อันนี้ใช้มานานละ ก็เลยเหลือสภาพอย่างในรูป



อันนี้ขอบอกว่าสีสวย ติดทน
แต่ต้องมีเทคนิคในการใช้นิดหน่อย คือต้องยีๆ แปรงไปกะแก้ม

ทาแล้วจะแอบมีชิมเมอร์ เล็กๆ แต่ไม่เวอร์
ตัวนี้แอบมีข้อเสียกับแปรงที่มาในเคส เพราะว่าขนแปรงแข็ง และหยาบมาก


ไม่คิดว่าจะหยาบขนาดนี้ T_T ยิ่งตอนที่ต้องยีขนแปรงกะแก้มนี่แอบเจ็บด้วย)

ราคาตัวนี้ก็จำ ได้รางๆ ว่า 1,950 บาท ปริมาณ 6.5 g ใช้ได้ประมาณ 10 เดือนถึง 1 ปี
สำหรับเราแล้วถือว่า ราคาค่อนข้างแพง คืออาจจะซื้ออีกถ้ามีตังค์
แต่ตอนนี้มี blush ในสตอกเยอะมาก คาดว่าจะกำจัดให้หมดก่อนถึงจะซื้ออีก

คะแนน 7.5/10
-1 ราคาแพงไปนิดนุง -1 ขนแปรงแข็งมาก -0.5 แอบใช้ยาก คือถ้าไม่ได้ดูวิดิโอสาธิตวิธีใช้ ปัดแล้วสีจะไม่ค่อยออก

ชิ้นต่อมา
Joues contraste powder blush



ตัวนี้เราซื้อสี 49 Luna มาเป็นชิมเมอร์ที่ทำให้หน้าดูมีมิติขึ้น (สีอื่นจะเป็น blush on)
ตัว นี้ใช้มานานมากกกกกก ยังไม่พร่องเลย

สำหรับคนที่ชอบชิมเมอร์จะชอบมาก เพราะมีชิมเมอร์วิ้งๆ
เป็นชิมเมอร์แบบผู้ดี ที่ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป

การใช้ก็แตะนิดเดียวลง ใต้ตาและปลายๆหางตา
(อันนี้พี่ BA ที่ MAC เซ็นทรัลชิดลมแนะนำเทคนิคมา)
ตัวนี้ใช้แปรงแตะได้เลย ไม่ต้องยี

ราคารู้สึกว่าจะเท่ากัน กับ Irreelle blush silky cheek colour ที่1,950 บาท
แต่ ปริมาณน้อยกว่า มี 4 g แต่ใช้ได้นานมากก เพราะใช้เป็นไฮไลท์
นี่ใช้มาตั้งแต่มีนา 2008 ยังไม่พร่องไปเลย เลยถือว่าคุ้มราคา อีกนานเลยกว่าที่จะได้ซื้ออีก

คะแนน 9/10
-0.5 ราคาค่อนข้างสูงและปริมาณน้อย
-0.5 ใช้เป็นไฮไลท์ได้อย่างเดียว (ไม่ค่อยคุ้ม)


และอันสุดท้าย
Poudre universelle libre natural finish loose powder


ตัวนี้เป็นแป้งฝุ่นที่ ให้ความรู้สึกว่าไม่ต้องตบพัฟ หน้าก็เด้งได้

เพิ่งได้ยินมาว่าจะเวริ์คมากๆถ้าใช้คู่กัย fluid makeup base !!

ตัวนี้เนื้อบางเบา ไม่หนา ไม่หนัก ไม่เยิ้ม ไม่วอก ไม่เป็นตัวก่อสิว
แทบไม่ต้องทาทับหลายครั้ง คือในกรณีคนกลัวสิวจากการเติมหน้าอย่างเรา
ก็เลือกที่จะไม่เติมหน้าเลย ระหว่างวัน ก็เห็นว่าตัวนี้เวริ์ค ไม่ต้องลงเพิ่ม

ตัวนี้กันหน้ามันได้ ระยะนึง แต่หลังจากซับออกหน้าก็เด้งเหมือนเดิม
ตัวนี้โดนเหงื่อ โดนน้ำแล้วไม่เป็นไร หน้าเด้งเหมือนเดิม
ปริมาณที่ใช้ก็ไม่ต้องมาก ลงบางๆก็พอแล้ว หน้าจะดูใสๆ เป็นธรรมชาติ

ราคาตัวนี้อยู่ที่ 1,700 - 1,800 จำไม่ค่อยได้แล้ว ปริมาณ 30 g ใช้ได้ประมาณ 6 - 10 เดือน
(แล้วแต่ความถี่ของการแต่งหน้า )

ตัวนี้อยากได้อีก มากมาย แต่จากการไปเสาะแสวงหาของจริงราคาถูกจากทุกที่แล้วพบว่า
ราคาไม่ ได้ต่างกะเคาเตอร์เมืองไทยเลย ก็เลยยังตัดใจซื้อไม่ได้สักที

คะแนน 9.5/10

-0.5 แอบหักคะแนนพัฟนิดนุง ว่ามันไม่นิ่มเท่าที่ควร

หลังจากแต่งหน้าเสด บอก BA ว่าเอา 4 ตัวนี้ BA ทำหน้าตกใจมาก
แทบจะเชิญทำบัตรสมาชิก ไม่ทัน
ก็เลยให้แถมแต่งหน้าให้คุณแม่ด้วย รีวิวChanelก็ขอจบลงด้วยประการฉะนี้





Create Date : 01 มิถุนายน 2553
Last Update : 1 มิถุนายน 2553 18:37:07 น. 0 comments
Counter : 1076 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 
 

Skin care addict
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Skin care addict's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com