กระต่ายน้อยในหน้าร้อน
|
||||
ประสบการณ์ทำ เลสิก ครั้งที่ 6 ตรวจครบ 1 เดือน เกือบลืมเล่า
คุณพยาบาลนัดเมื่อวันที่ 17 พ.ค. แต่เมื่อวันนั้นมีตู้มๆ มีปั้งๆ ก็เลยไปไม่ได้ ก็เลยรอจนวันจันทร์ต่อมา วันจันทร์ที่ 24 โทรไปแล้วก็นัดวันนั้นเลย
ผลการตรวจดีทุกอย่าง สายตาเหลือ 0 อย่างสมบูรณ์ คุณหมอบอกว่าแผลสวยมาก แต่....ขนตาไปนอนอยู่บนฝา2เส้น ต้องถอนออก กรี๊ด.....เอาอีกแล้วหรอ หมอถามว่า ตาโฟกัสเร็วขึ้นมั้ย เออ จริง จากตอนที่เพิ่งทำใหม่ๆ ตาโฟกัสอะไรๆช้ามาก จนปล่อยให้ตาเบลอไปหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้เริ่มมองอะไรเร็วขึ้นมากแล้ว ชัดขึ้นมากแล้วด้วย แต่สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือ....ตาแห้ง คุณหมอบอกว่าให้หยอดเยอะๆ หยอดบ่อยๆหน่อย ผลก็โอเคแล้ว ดีแล้ว จบดีกว่า รอไปใหม่อีก 2 เดือนหน้า ประสบการณ์ทำ เลสิก ครั้งที่ 6 ตรวจครบ 1 อาทิตย์
ไปหาคุณหมอ ตรวจครบ 1 อาทิตย์
ไปถึงก็เข้าไปอ่านตัวหนังสือ ได้ผลเท่าไหร่ไม่รู้ แอบเห็นว่า 15/20 แต่หมอบอกว่า 2 ข้างหักลบกันได้ 0 พอดี วัดความดันตา วัดสายตาด้วยเครื่องออโต้ แล้วก็ให้คุณหมอส่องดูกระจกตา คุณหมอแสนสวยบอกว่า แผลสวยดี แต่แห้งมากๆ ให้หยอดบ่อยขึ้น 1 อาทิตย์นี่น้ำตาเทียมหมดไปแล้ว 38 กะเปาะ เลยต้องไปซื้อใหม่ ซื้อร้านขายส่งถูกกว่าโรงบาล ซื้อโรงบาลถูกกว่าวัตสัน สรุปก็ ผลการรักษาดี ที่ยังมองไม่ชัดอยู่ทุกวันนี้เป้นเพราะตาแห้งมากๆ พอหยอดตาก็ชัดแจ๋ว ข่าวดี สระผมเองได้แล้ว ล้างหน้าได้แล้ว เย้ๆๆๆ ไม่ได้ล้างมา 1 อาทิตย์ แทบเน่า ประสบการณ์ทำ เลสิก ครั้งที่ 5 เปิดฝาครอบตา มองโลกสดใส
วันนี้ตอนเช้า ขี้ตาเกรอะไปหาหมอตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง (หมอห้ามแกะครอบตาแล้วก็ห้ามล้างหน้าเด็ดขาด) ไปถึงพี่พยาบาลก็มาแกะครอบตา เช็ดตาให้ โอ้ย....โล่งๆๆๆ มองโลกชัดขึ้น แต่ก็ได้ประมาณ 70% มองข้ามห้องไปอ่านป้ายก็พออ่านออกแต่ขอบยังไม่ชัดแจ๋ว แล้วก็เข้าไปวัดสายตาด้วยเครื่อง เค้าไม่บอกค่าสายตา บอกแต่ว่าสุดยอด คือจริงๆค่าสายตาจะเหลือหรือไม่ต้องรอ 6 เดือนข้างหน้า สำหรับสายตาสั้นไม่มากก็ประมาณ 3 เดือน จากนั้นพี่พยาบาลก็ให้ยามาถุงใหญ่ มียาลดการบวมของกระจกตา 1 ขวด ยาฆ่าเชื้อ 1 ขวด น้ำตาเทียม 2 กล่อง เล็ก1 ใหญ่1 ชุดทำความสะอาดตาสำหรับ 7 วัน สารละลายน้ำเกลือ 2 ขวด แล้วก็สอนหยอดตา โดยยาทั้ง 2 ชนิดต้องหยอดห่างกัน 5 - 10 นาที เพราะไม่งั้นจะไปชะล้างกันเอง ยาจะไม่ได้ผล แล้วก็ค่อยตามด้วยน้ำตาเทียม ไอ่ตาสั้นมากอย่างเราก็ต้องหยอดบ่อยหน่อย(ทุกชั่วโมง ถ้าเล่นคอมก็ทุกครึ่งชั่วโมง) นานกว่าคนอื่นเค้าหน่อย (3-6เดือน) แล้วก็นั่งรอคุณหมอแสนสวย คุณหมอติดคนไข้อยู่ข้างล่าง พอคุณหมอขึ้นมาก็จับเข้าเครื่องตรวจอีกครั้ง แผลปกติดี มีเลือดออกนิดหน่อยด้านบน เราก็...สงสัยจะนิดเดียว เพราะไม่เห็น หมอนัดอีกที 1 อาทิตย์ข้างหน้า กลับมาบ้านตาใส แต่ยังมองใกล้อ่านหนังสือไม่ได้ อ่านไม่ชัด หมอบอกว่า เป็นเพราะเมื่อวานล้างกระจกตา แล้วมันบวมน้ำ เป็นกันทุกคน แล้วก็กลับบ้าน พอกลับมาถึงบ้าน โฮก....ก เลือกออกจริงๆด้วย ออกเป็นจุดแดงๆจุดเบ่อเริ่มเลย เกิดจากเส้นเลือดฝอยแตกจากการใช้ที่ถ่าง ถ่างตา ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว ตาก็เริ่มมองใกล้ได้ดีขึ้น มองคีร์บอร์ดได้ชัดขึ้น แต่ก็ยังไม่ 100% คืนนี้และต่อไปอีก 7 คืนก็ต้องใส่ที่ครอบตา แล้วก็ห้ามล้างหน้า(เช็ดได้) ห้ามน้ำเข้าตา ให้ไปสระผมที่ร้านสระผม เอาผ้าสะอาดปิดตาไว้
หมอนัดอีกทีก็ 1 อาทิตย์หน้า 1 เดิอนข้างหน้า 3 เดิอนข้างหน้า 6 เดือนข้างหน้า และ 1 ปีข้างหน้า นัดมาดูความเรียบร้อยค่ะ เอาใจใส่ดีจริงๆ ขอขอบคุณคุณหมอและคุณพยาบาลทุกคนนะคะ ที่ให้บริการด้วยใจ ขอบคุณค่ะ ประสบการณ์ทำ เลสิก ครั้งที่ 4 ถึงเวลาแล้วนะ(จ๊ะ)
คุณพยาบาลนัดไว้ตอน 15.30 ออกจากบ้านตั้งแต่ 14.00 ถึงโรงพยาบาล ยังไม่ 3 โมงเลย พอถึงก็ไปรอ พยาบาลให้เซนหนังสือยอมรับเข้ารับการผ่าตัด ให้ยามา 2 ซอง ซองนึงเป็นพาราเซท 10 เม็ด อีกซองเป็นยาระงับประสาท 3 เม็ด แล้วก็ไปจ่ายตังค์ที่ชั้น 19 แล้วลงไปหาอะไรกิน จากนั้นก็ขึ้นมารอข้างบน นั่งอ่านการ์ตูนไป คุณหมอมา ให้เข้าไปอ่านกระดานอีกที(วัดสายตา) เพื่อยืนยันค่าสายตา อ่านถูกอ่านผิด คุณหมอถามว่าตอนรอหมออ่านหนังสือรึปล่าว บอกทันทีว่าปล่าว แล้วก็นึกได้ว่าอ่านการ์ตูน ก็...บอกไม่ทันแล้ว
จากนั้นก็ไปล้างตาโดยใช้สารละลายน้ำเกลือแล้วออกมาหยอดยาฆ่าเชื้อ รอหมอตรวจคนไข้ใหม่ รอพี่ที่ทำ PRK ด้วย จะได้เข้าไปพร้อมๆกันเลย พยาบาลให้กินยาระงับประสาท กินแล้วจะง่วง รอๆๆ ไม่เห็นง่วงเลย ยาทำไรเราไม่ได้เลย แต่ตื่นเต้นลดลงจี๊ดนึง พยาบาลเรียกเข้าไปเตรียมตัวผ่าตัด เข้าไปใส่เสื้อคลุม เหมือนเสื้อคลุมอาบน้ำ เปลี่ยนรองเท้า แล้วก็ใส่หมวก จากนั้นก็แจกผ้าห่มผืนนึง แล้วให้เข้าไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่โซฟานุ้มนุ่ม แอร์เย็นฉ่ำๆ มีเพลงเพราะๆคลอเบาๆ กะให้หลับไปเลย 555 พยาบาลก็เตรียมของโฉ้งเฉ้งอยู่ข้างๆโดยมีม่านบังตาไว้ ใจเริ่มสงบ แต่แล้วพอพี่พยาบาลเปิดห้องผ่าแล้วเดินเอาเครื่องมือเข้าไปก็ได้ยินเสียงเหมือนเครื่องจักรขนาดใหญ่ทำงานอยู่ในห้อง คิดในแง่ดี สงสัยเสียงแอร์มันดัง(มาก) ความคิดข้างชั่วแว๊บเข้ามา เห็นเป็นใบเลื่อยวงล้อขนาดใหญ่กำลังหมุนๆๆๆๆ เตรียมเจื๋อนเรา กำ... คิดมากไปเอง สักพักพี่ที่ทำ PRK ก็เข้ามา โดนเหมือนกัน คือแจกผ้าห่ม นั่งนิ่งๆรอหลับ แล้วพยาบาลก็เอาเทปกาวมาปิดเก็บไรผมให้เนี้ยบ ให้เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วคุณหมอก็เดินเข้ามา ถามว่า ง่วงมั้ย พี่ข้างๆเกือบหลับไปแล้ว แต่เราไม่รู้สึกอะไรเลย หมอเลยบอกว่า เราน่ะ ตื่นเต้นกว่าพี่เค้า แล้วหมอก็เรียกไปนั่งที่เครื่องขยายดูตาเป็นครั้งสุดท้าย แล้วก็บอกว่า ต้องถอนขนตาแล้วนะ ไม่งั้นมันจะทิ่มฝาหมอ(ฝาเรานี่แหละ แต่เป็นฝากระจกตาที่หมอจะเปิดขึ้นมา) คือขออธิบายก่อนว่า ขนตาเรามันผิดปกติกว่าคนอื่นคือขึ้นมาจากตำแหน่งเดียวกันกะคนทั่วไป แต่ดันม้วนเข้าหาตาตัวเองแทนที่จะบานแฉ่งออกไปข้างนอก เฮ้อ...ถอนขนตาเนี่ย เจ็บอย่าบอกใครเลยนะ หมอบอกว่าต้อง 5 เส้น TT^TT แล้วหมอก็ให้พยาบาลมาหยอดยาชาให้ แล้วก็เริ่มถอนขนตาพอได้ 2 เส้น บอกหมอว่า ขอซับน้ำตาก่อนนะคะ แล้วก็หัวเราะ หมอก็ขำ สรุปถอนไป 3 เส้นเอง แล้วก็ทำความสะอาดบริเวณตา โดยใช้เบตาดีนทารอบดวงตา แล้วหมอก็จุงเข้าห้องผ่าตัด เป็นห้องแอร์มีเตียงแคบๆกลางห้องให้เราขึ้นไปนอน มีหมอนรองใต้ข้อพับขา มีหมอนหลุมไว้ล็อคหัวเรา แล้วก็มีลูกบอลนิ่มๆให้บีบไว้ กันการทำร้ายตัวเองในขณะยิงเลเซอร์ 555 แล้วพยาบาลก็เอาพลาสติกเหนียวมาแปะที่หน้า ได้อารมณ์ทำมาร์กดำโคเซ่ หมอบอกว่าหายใจได้ปกติ แต่ตอนนี้จะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว เริ่มทำที่ตาขวาก่อน พยาบาลเก็บขนตาทั้งบนล่าง แล้วใส่เครื่องถ่างตาไว้ หมอจะได้ทำงานได้สะดวก และกันเรากระพริบตาด้วย หมอให้เงยหน้าเยอะๆ แต่พอเงยเยอะแสงจากเครื่องเลเซอร์มันแยงตา(มากๆ)ก็เลยก้มหลบไม่รู้ตัว โดนหมอดุเลย 555 หมอบอกให้มองจุดเขียวๆไว้ แต่จุดเขียวนี่ก็กระจายจริ๊ง ก็สายตาเราสั้นมากๆ(-750 -900) มองจุดเขียวก็ไม่ชัด แถมยังมีแสงสีแดงมารบกวนอีก ทำให้ไม่อยากลืมตาเลย เคล็ดลับให้ตานิ่งที่คุณหมอบอกคือให้ลืมตาทั้ง 2 ข้าง แล้วมองจุดเขียว ถ้าหลับตาซ้าย ตาขวามองจุดเขียวก็จริงแต่ตาจะด๊อกแด๊กโดยไม่รู้ตัว แสงจ้ามาก...ตาซ้ายแทบจะปิดตลอด คุณหมอก็บอกว่า ถ้าตาด๊อกแด๊กอย่างนี้หมอทำไม่ได้นะคะจากที่ไม่เกร็งก็เลยเกร็งซะตัวแข็งเลย พอเกร็งแล้วตานิ่งดี หมอเอาที่ดูดกระจกตาที่เป็นวงๆมาแปะลงตา แล้วก็รู้สึกมืดๆหนักๆ จุดเขียวหายไป เปิดกระจกตาเรียบร้อยแล้ว แล้วหมอก็ล้างตาพร้อมจะยิงเลเซอร์ ตาด๊อกแด๊กอีกแล้ว คราวนี้ทุกคนช่วยกันมาก พยาบาลคนนึง คนไหนก็ไม่รู้เอามือสอดใต้ผ้าห่มมาโอบแขนเรา 2 ข้างไว้ อุ่นดี อุ่นใจ แล้วคุณหมอก็เริ่มยิงเลเซอร์ โดยสายตาข้างขวาเรา -750 ยิงเป็นเวลา 29 วินาทีติดกัน ต้องนิ่ง 29 วินาที ระหว่างยิงจุดเขียวก็หายไป เห็นเป็นอะไรไม่รู้สีโลหะเป็นวง 2 วงอยู่ข้างๆกัน หมอบอกว่าไม่ต้องหาจุดเขียวนะ ให้มองเหม่อๆ มองไปตรงๆ เราก็มองไปจุดเดิมที่จุดเขียวเคยอยู่คือตรงกลางวงสีโลหะ 2 ข้างที่เห็น พี่พยาบาลก็ช่วยกันนับถอยหลังให้ เราก็พยายาม หมอก็พยายาม จนผ่านไปได้สวยงาม เกร็งแทบแย่ ได้กลิ่นไหม้นิดๆ ไม่ตกใจเท่าตอนตรวจความดันตาที่มีลมยิงออกมา แล้วหมอก็ปิดกระจกตาลง จุดเขียวกลับมาแล้ว หมอล้างฝากระจกตาที่เปิดออกมาอีกที ล้างใต้ฝาที่เปิดขึ้นมา จุดเขียวหายไปอีกแล้ว น้ำแรงตาด๊อกแด๊กอีกแล้ว หมอเอาที่ปาดกระจกตาปาดให้ปิดเรียบๆแล้วรอนาน 4 นาที ไอ่ 4 นาทีนี้ต้องตานิ่ง ทรมานกว่าตอนเปิดฝาหรือตอนยิงเลเซอร์เสียอีก แล้วคุณหมอก็ถามว่าจะทำตาซ้ายต่อเลยมั้ย หรือเอาไว้ก่อน เพราะเราตาด๊อกแด๊กมาก ยิ่งตาซ้ายเป็นตาที่ไม่ถนัด จะยิ่งด๊อกแด๊กมากกว่าตาขวา ควบคุมยากกว่า แถมตาซ้ายสั้นกว่า ต้องยิงนานกว่าด้วย (31วินาที) เราก็อยากให้เสร็จๆไปเลย อยากตาใสแล้วก็บอกหมอด้วยใจเด็ดเดี่ยวว่า ทำเลยค่ะ ทำทุกอย่างเหมือนตาขวา แต่หมอชมว่าตาซ้ายเรานิ่งกว่า พอรอปิด 4 นาทีแล้ว ก็เสร็จแล้ว พยาบาลจุงออกมาที่ห้องเย็น เพลงเพราะ พี่ที่ทำ PRK ก็ยังนั่งรออยู่ หลับไปบ้างรึปล่าวก็ไม่รู้ เป็นเราเราก็หลับ 555 แล้วก็เข้าเครื่องตรวจตาอีกทีนึง ฝาข้างขวาปิดไม่สนิท หมอเลยเอาที่ปาดมาปาดๆ ให้เรียบอีกทีนึง แล้วก็ครอบตาเป็นอุลตร้าแมนกลับบ้าน ตอนนี้ก็พอมองเห็นลางๆ แต่ชัดกว่าไม่ใส่แว่น(เห็นประมาณ 50%) เดินได้ ก้าวข้ามพื้นต่างระดับได้ แต่สู้แสงไม่ได้เลย อาจเป็นเพราะม่านตาขยายมากแล้วไปเจอะโดนแผลที่เปิดไว้ ทำให้แสงกระจายตรึม แต่ตรงนี้หมอบอกไว้ก่อนแล้ว ขึ้นรถปุ๊บหลับปั๊บ แวะรับแม่กะน้องไปกินข้าวเราก็หลับอยู่ในรถ พอถึงบ้านก็เข้าไปแปรงฟันแล้วกินยานอนหลับกะแก้ปวดแล้วหลับไปเลยดีกว่า เพราะพอยาหมดฤทธิ์แล้วก็เริ่มคันยิบๆๆๆๆในตา เคืองๆเหมือนมีฝุ่นเข้าตา ดึกๆรู้สึกตัวตื่นขึ้นมามองผ้าม่านในห้องแบบชัดๆทั้งคืน อ่า....มีความสุข พรุ่งนี้หมอนัด 8 โมงเช้า ประสบการณ์ทำ เลสิก ครั้งที่ 3 ไปตรวจตากัน
วันนี้คุณพยาบาลนัดไว้ก่อน 5 โมงค่ะ เป็นคลินิกนอกเวลา ก็เลยออกจากบ้านตอน 3 โมง ไปถึงโรงพยาบาลตอน 4 โมง 20 นาที ทางเข้าโรงพยาบาลหายากจริง วนเกือบรอบโรงพยาบาลถึงเจอทางเข้า
พอเข้าไปถึงจอดรถเรียบร้อยก็ขึ้นไปที่ชั้น 16 โดยที่ไม่ต้องทำบัตรโรงพยาบาลก่อน ขึ้นไปถึงเข้าผิดประตูอีก . ประตูศูนย์เลสิกหน้าลิฟท์เข้าไม่ได้นะคะ ต้องอ้อมไปเข้าอีกประตูนึง (แล้วจะมีประตูไว้ทำไมเนี่ย) เข้าไปถึงก็เก้ๆกังๆ คุณพยาบาลบอกให้เปลี่ยนรองเท้า แล้วก็ไปนั่งกรอกประวัติ บัตรประชาชนก็ไม่ได้เอามา หลักฐานอะไรก็ไม่มีติดตัว TT^TT มีอยู่อย่างเดียวคือ จำเลขที่บัตรประชาชน 13 หลักได้ ผลพวงมาจากตอนแอดมิชชั่นเลยนะเนี่ย แล้วคุณหัวหน้าพยาบาลถามถึงค่าสายตา พอบอกไป -750 กับ -900 ค่ะ คุณพยาบาลตกใจ แล้วอุทานว่านี่เพิ่งจะ 23 เองนะเนี่ย TT^TT อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ TT^TT พอกรอกประวัติเสร็จก็พาไปตรวจความโค้งกระจกตา โดยใช้เครื่องเหมื่อนเครื่องตรวจสายตา วัดสายตาด้วยเครื่องที่ตั้งตรวจฟรีตามห้างทั่วไป (-725 กับ -900 เอียง 25 กับ 75) วัดความดันตาไอ่เครื่องนี่แหละที่ .จะพูดว่าไงดีล่ะ ไม่เชิงไม่ชอบ แต่ก็ไม่ได้ชอบ คือคุณพยาบาลจะบอกก่อนว่า จะมีลมออกมา ไม่ต้องตกใจนะคะ ไอ่เราก็เกร็ง ใจเต้นตุ๊กตุ๊ก ปุ๊ก ก ตกใจจนได้ ทำ 2 ครั้ง (ครั้งแรกไปตรวจรักษาอาการคันตา) ก็ตกใจทั้ง 2 ครั้ง ฮึ่มๆ ระหว่างตรวจๆอยู่คุณหมอคนสวยก็ตรวจการมองเห็นของสาวน้อยอีกคนนึง (เรียกสาวน้อยละกันค่ะ เพราะดูเด๊ก เด็ก) เป็นกระดานตัวเลขให้อ่านแหละ แต่ไฮโซกว่าเพราะเป็นจอ ไม่ใช่กระดานที่อ่านๆเวลาไปตัดแว่น (แอบบอกว่าที่บ้านมีกระดานอยู่อันนึง อ่านไม่เคยได้เร้ย .อึดอัดจริงๆ) คุณหมอบอกว่าถ้าอ่านไม่ได้ให้เดาเลย สาวน้อยคนนั้นเดาไม่ออก แล้วก็บอกหมอว่าอ่านไม่ได้ คุณหมอดุเลยว่า ถ้าอ่านไม่ได้หมอก็วัดไม่ได้ TT^TT กลัว หมอดุ จีจ้า สวยดุ (ไม่ใช่แระ) แล้วก็ออกมานั่งรอสักพัก คุณหมอก็เรียกเข้าไปนั่งที่แท่นประหารที่หมอประหารสาวน้อยคนเมื่อกี๊ไปแล้ว (ไอ่นี่ก็เวอร์) เรียกเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ เพื่อตรวจวัดการมองเห็น คุณพยาบาลก็เข้ามาให้ใส่แว่นอ่านทีละตา อ่านผ่านรูเล็กๆ ที่ชอบที่สุดก็คือวัดความถนัดตา โดยที่ให้เราถือกระดาษแข็งเจาะรู ยืดสุดแขน แล้วมองดอกไม้(บนจอ)ให้อยู่ในรู ค่อยๆดึงมือเข้าหาตา โดยดอกไม้ยังอยู่ที่รู จากนั้นก็ยืดแขนสุดอีก แล้วปิดตาขวา ปรากฏว่าดอกไม้หาย ปิดตาซ้ายดอกไม้ไม่หาย คุณพยาบาลบอกว่า เราถนัดตาขวา ชอบจังๆ ต่อมาคุณหมอก็เข้ามา คุณหมอสวยจริงด้วย ชวนคุยนิดหน่อย แล้วก็ให้ถอดแว่น มองผ่านเครื่องมือที่มีเลนส์อยู่ แล้วก็ปรับค่าเลนส์ไปเรื่อยๆ ไม่ดุเหมือนตรวจให้สาวน้อยเมื่อกี๊ ตรวจอยู่นานเหมือนกัน แล้วก็อธิบายเรื่องแสงกระจายในเวลากลางคืน แล้วก็ออกไปวัดปริมาณน้ำตา เค้าบอกว่าน้ำตาแน๊ตน้อยแหละ แล้วก็หยอดยาขยายม่านตา เพื่อดูจอประสาทตา ระหว่างหยอดยาขยายม่านตาอยู่นี่ ก็เห็นสาวน้อยคนเดิมออกมาจากห้องผ่าตัด ครอบมาเป็นอุลตร้าแมนมาเชียว อิจฉา เค้าทำเสร็จแล้ว แต่เรายังไม่รู้ว่าจะได้ทำรึปล่าว เพราะถ้าจอประสาทตามีปัญหาก็ต้องไปรักษาจอประสาทตาก่อน จะว่าไปสิ่งที่แน๊ตกังวลที่สุดก็คือเรื่องจอประสาทตานี่แหละ เพราะเคยรู้มาว่า คนสายตาสั้นมากๆ มีโอกาสที่จอประสาทตาจะหลุดลอกเยอะมาก แล้วแน๊ตก็ชอบเห็นอะไรดำๆ ลอยๆ ด้วย TT^TT ก็เดี๋ยวจะได้รู้กันแหละ หยอดยาขยายม่านตาอยู่เกือบชั่วโมง รอหมออีกเกือบชั่วโมง ได้ความว่าหมอไปทำเลสิกให้อีกคนนึง แล้ว .คนไข้ตาไม่นิ่ง กรอกไปกรอกมา ก็เลยช้า แล้วหมอก็มา ตรวจดูจอประสาทตาให้ เห็นคุณริต้าบอกไว้ว่า แสงจะสว่างมากจะแทบจะสู้แสงไม่ได้ เราก็นึกถึงตอนเป็นตาอักเสบ ที่ลืมตาสู้แสงธรรมดานอกบ้านไม่ได้เลย แต่เอาเข้าจริง ไม่เห็นจะสว่างขึ้นมากมายอะไรเลยนี่ คุณหมอบอกว่าสภาพจอประสาทตาแน๊ตดีมาก .. เฮ้อ ..ค่อยยังชั่วหน่อย ตอนนี้ก็พร้อมทำเลสิกแล้ว จากนั้นก็ไปนัดวัน อยากทำให้เร็วที่สุด แต่เดือนมีนาเต็มแล้ว เดือนเมษาวันที่ 5 ก็ไม่ได้ เพราะทำเสร็จรุ่งเช้าต้องกลับมาหาหมออีกที ถ้าทำวันที่ 5 วันที่ 6 โรงบาลปิด TT^TT ก็เลยยาวไปหลังสงกรานต์นู่นเลย นัดเป็นวันที่ 19 เมษา แหม ..กะจะตาใสไปเสม็ดสักหน่อย ชิ เรื่องที่ต้องรู้ก่อนทำ ศูนย์เลสิกมี 2 เวลาคือ เวลาราชการและนอกเวลาราชการ ซึ่งราคาจะต่างกันอยู่ 4000 บาท ถ้าตรวจ(ตรวจตาข้างบนนี่แหละ)ในเวลาราชการจะทำในหรือนอกเวลาราชการก็ได้ แต่ถ้าตรวจนอกเวลาราชการจะไปทำในเวลาราชการไม่ได้ ซึ่งเราพลาดตรงนี้แหละ นึกว่าตรวจนอกทำในได้ ชิ แต่ข้อดีของคลินิกนอกเวลาคือทำเสร็จตอนมืดแล้ว ไม่ต้องกลัวตาสู้แสงไม่ไหวเพราะหยอดยาขยายม่านตา แล้วก็เร็ว เร็วมาก คิวว่าง คิวตรวจตาในเวลาราชการยาวไปถึงพ.ค.แล้ว รอไม่ได้ 555 ใจร้อน (เดี๋ยวไม่ทันเปิดเทอมอ่ะ) ต่อไปเป็นเรื่องของเลสิกแล้วนะ การทำเลสิกคือ การงัดส่วนกระจกตาขึ้น หมอเค้าเรียกว่าเปิดฝา ก็เปิดฝาแหละ โดยใช้ใบมีดฝานกระจกตาออกเป็นรูปตัว C (ของศิริราชเค้าใช้เลเซอร์ตัดกันแล้ว) พอฝานแล้วเปิดออกแล้วก็จะยิงแสงเลเซอร์เข้าไป แล้วก็ปิด กระจกตาจะเชื่อมกันภายใน 4 นาที แต่ถ้ามีการขยี้ตา ก็จะหลุด ดังนั้น เมื่อทำเสร็จ จะได้ที่ครอบตาอุลตร้าแมนมา 1 คู่ กันการเผลอขยี้ตาเวลานอน การทำPRK ( Photorefractive Keratectomy ) เป็นการขูดผิวกระจกตาด้านนอกสุด แล้วใช้เลเซอร์ปรับเปลี่ยนความโค้งของผิวกระจกตา จากนั้นใส่คอนแทคเลนส์ช่วยสมานแผล วิธีนี้ไม่ต้องมีการแยกชั้นกระจกตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้น หรือ ยาวไม่มาก ผู้ที่มีกระจกตาบาง หรือบุคคลบางอาชีพ (อันนี้ลอกของโรงพยาบาลมา เราทำแบบนี้ไม่ได้ เพราะสายตาสั้นมาก.....TT0TT) Flap complication คือ การที่ใบมีดตัดกระจกตาแล้วไม่เรียบ หมอจะไม่ทำต่อ แล้วจะปิดกระจกตาไป รออีก 3 เดือนข้างหน้าให้แผลสมานแล้วค่อยกลับมาทำใหม่ โอกาสเกิด 1 ใน 300 ตา เท่านั้น การติดเชื้อ หลังผ่าตัด โอกาสมีมากอยู่แล้วในทุกๆการผ่าตัด ดังนั้นยาที่หมอให้เป็นยาปฎิชีวนะตัวที่แรงที่สุดแล้ว โอกาสเกิดการติดเชื้อ 1 ใน 1000 คน ตอนนี้ยังไม่มีรายแรก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเป็นคนที่ 1 ไม่ได้ TT^TT ตาต้อ ต่อไปในอนาคต ถ้าเป็นต้อ แล้วไปหาหมอ ต้องบอกหมอว่าเคยทำเลสิกมา เพราะ กระจกตาเราจะแบนกว่าคนอื่น ถ้าไม่บอก การคำนวณแก้ไขภาวะต้อจะผิดพลาด แสงกระจายในตอนกลางคืน จะเกิดได้ในช่วงแรกๆ เพราะการปิดฝากระจกตานั้น จะทำให้กระจกตามีแผลเป็น เวลากลางคืน ม่านตาเราขยายไปถึงจุดที่เป็นรอยผ่าก็จะทำให้แสงตกกระทบหักเหผ่านแผลเป็นนั้น ทำให้เกิดการกระจายแสง 3-6 เดือนอาการจะหายไป การทำเลสิกไม่ได้ทำให้การกระจายแสงลดลง หมายความว่า ถ้า ณ ปัจจุบัน คุณมีการกระจายแสงอยู่ 25% เมื่อรักษาเสร็จอาจจะเพิ่มเป็น 75% แต่ผ่านไป 6 เดือนก็จะลดลงเหลือแค่ 25% เหมือนที่เคยเป็นอยู่เดิม จอประสาทตากับการทำเลสิก ที่ต้องตรวจจอประสาทตาก่อนทำเพราะว่า เวลาจะฝานกระจกตา จะต้องใส่แรงดันเข้าไปที่ลูกตาประมาณ 60 mmHg เพื่อให้เกิดความตึงที่ผิวกระจกตา เพื่อที่จะตัดออกมาได้เรียบคม ดังนั้นถ้า ที่จอประสาทตาของเรามีจุดที่บางกว่าปกติ ตอนใส่แรงดัน อาจจะทำให้จอประสาทตาปริได้ อันตรายมากๆ ถ้าคุณหมอตรวจพบว่ามีจุดบาง ก็จะส่งไปรักษาภาวะจอประสาทตาบางก่อน แล้วค่อยมาทำเลสิกเมื่อจอประสาทตาแข็งแรงดีแล้ว สายตากับการทำเลสิก สายตาสั้นสูงๆ ทำได้ แต่ถ้าเอียงสูงๆ อาจจะทำไม่ได้ ดังนั้นใครที่เริ่มเอียงเยอะ รีบไปทำซะ ความหนาของกระจกตา ถ้าบางก็ต้องทำ PRK ถ้าหนาก็สบายๆ ของเรา 500 กว่าทั้ง 2 ข้างเลย หลังจากทำ ห้ามน้ำเข้าตา ห้ามลงน้ำสระ 1 เดือน ห้ามลงทะเล 3 เดือน ห้ามสระผม ถ้าจะสระไปที่ร้านแล้วเอาผ้าปิดตาไว้ ทางทีดีควรเป็นอีเน่า ไม่สระไปทั้งอาทิตย์เลย วันที่มาทำควรสระผมมา เพราะลำพังเป็นอีเน่า 1 อาทิตย์ก็แย่แล้ว ถ้าไม่สร้ามาก่อนอาจจะเน่าอาทิตย์นิดๆ ไม่ไหวๆ ห้ามใส่เสื้อยืดสวมคอ เวลาถอดความดันตาจะเปลี่ยน ฝาจะปริ ห้ามใส่น้ำหอม โรลออน ใดๆทั้งสิ้น คุณหมอคะ วันผ่าตัด ถ้าได้กลิ่นตุๆก็ตัวใครตัวมันนะคะ ยาชาหยอดตา..... แสบมาก จบเหอะ จบเหอะ
|
ล็อคอินนี้ง่วงแล้ว
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] All Blog
Link |
|||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
||||
