งานแม่บ้านธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา
 

เมื่อต้องไปตรวจพัฒนาการ ตอนสองขวบ

น้องเกิดก่อนกำหนด ( 31+4 สัปดาห์) เลยต้องไปตรวจพัฒนาการอย่างละเอียด ครั้งแรกตอน 6 เดือน เนื่องจากครั้งที่แล้วผลการตรวจดี น่าพอใจ หมอเลยนัดอีกครั้งตอน 2 ขวบ เราพาลูกไปตรวจวันนี้ตอนบ่ายโมง เราไม่ค่อยชอบช่วงเวลานี้เท่าไหร่ เพราะลูกต้องกินข้าวกลางวัน แล้วก็เข้านอนตอนบ่ายสอง แต่ก็เลื่อนนัดเป็นเวลาอื่นไม่ได้ เลยต้องให้นอนดึกล่วงหน้าหนึ่งคืน แล้วให้ตื่นสายๆ จะได้ไม่หิวและง่วงตอนตรวจ พี่ก็ไปด้วยแต่ต้องไปรอข้างนอกกับปาปํา ก็ดีเหมือนกัน เพราะพี่นี่ยุ่งเจ้ากี้เจ้าการน่าดู เกือบเกิดเรื่องเพราะน้องดันเรียกหาพี่ ดีที่ว่าเห็นม้าโยกเสียก่อน น้องเลยเล่นโยกเพลินไป หมอถามหลายอย่างมาก จะพยายามค่อยๆเรียบเรียง

ตอนแรกก็ถามว่าลูกชอบเล่นอะไร ทำอะไร เราก็ตอบไม่ค่อยถูก ก็แหมแต่ละวันหนูเล่นไม่เหมือนกันนี่ เลยตอบว่าแล้วแต่ แต่ส่วนใหญ่ก็เล่นกับพี่เค้า เล่นดนตรี (ที่จริงทำเสียงดังน่ะ) แล้วก็เล่นคนเดียวได้นานกว่า 30 นาที ชอบฟังนิทานที่พ่อเล่า หมอถามว่าขึ้นลงบันไดได้หรือยัง กระโดดลงบันไดไหม (แม่เริ่มงง ก็ไม่เคยให้ลูกกระโดดลงบันไดนี่) เลยบอกหมอว่าลูกกระโดดทรัมโบลินได้แล้วค่ะ ถามว่าวิ่งได้ไหม เขย่งเท้าได้หรือยัง น้องทำได้หมด

แล้วก็ถามเรื่องพูด เราบอกว่าน้องพูดภาษาเยอรมันได้ประมาณ 50 คำ ภาษาไทยก็ประมาณ 50 คำเหมือนกัน แต่ยังไม่เป็นประโยค ตอนนี้เรื่มพูดประโยคที่มีประธานกับกิริยา แต่ก็ยังไม่เก่ง หมอถามอีกว่าลูกเล่าอะไรบ้างไหม อืม...ตอบยาก น้องก็ชี้มือเวลาชอบใจอะไร แล้วก็ทำเสียง ที่จริงน้องชอบร้องเพลงด้วย แต่ไม่เป็นเพลงน่ะ แล้วก็จบคำถามเรื่องการพูด ระหว่างนั้นน้องไม่ค่อยพูดอะไรเลย หรือไม่ก็พูดเบามากๆ แทบไม่ได้ยิน แม่เลยเครียดไปพักหนึ่ง

ต่อมาหมอเอารูปสัตว์มาให้ดูแล้วถามว่าอะไร น้องไม่ตอบ ตอบได้แมวอย่างเดียวแถมพูดไทยอีกต่างหาก เราว่ารูปที่ให้ดูมันไม่น่าสนใจเลย เช่นหมีหน้าตาประหลาด นกเพนกวินที่ลูกไม่เคยเห็นของจริง หอยทากที่มีบ้าน(ที่นี่หอยทากที่เห็นประจำเป็นแบบไม่มีบ้าน) ลูกตอบไม่ค่อยได้

แล้วหมอก็เอาตุ๊กตามาให้ดู ถามว่า หู ตา จมูก ปาก ท้อง เท้า อยู่ที่ไหน น้องก็ชี้ตอบได้หมด แต่ถามว่าเท้าน้องอยู่ไหน น้องกระดิกให้หมอดูค่ะ แหม..ช่างทำ

หมอเริ่มเอาของเล่นมาให้เล่น เริ่มแรกต้องเอาก้อนไม้สี่เหลี่ยมมาตั้งซ้อนขึ้นไป หมอทำให้ดูแล้วให้น้องทำตาม น้องต่อได้สูง 8 ชั้น (แม่ปลื้มเพราะอ่านมาแล้วว่าได้ไม่กี่ชั้นก็พอ) จากนั้นก็ต่อเป็นขบวนรถไฟแล้วเข็นให้เคลื่อนที่ไปมา น้องก็ทำได้

จากนั้นก็เอาแผ่นไม้ที่มีช่องวงกลม สี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยม แล้วก็ไม้ที่ใส่เข้าไปในช่องนั้นได้พอดีมาให้น้องดู น้องก็เอาใส่เข้าไปได้ทุกช่อง ก่อนที่จะเอาเข้าไปใส่ น้องทำหน้าคิดแล้วเอาไปใส่ตามช่องได้ถูกทุกอัน แล้วหมอก็สลับไปมา น้องก็ทำได้อีก ผ่านการทดสอบนี้ไปได้อีกด่านหนึ่ง

หมอจะมีกล่องของเล่นที่ข้างในมีตัวสัตว์ เก้าอี้ แล้วก็ถามว่าเป็นตัวอะไร ทำอะไรได้บ้าง เช่นเอาแมวไปนั่งบนเก้าอี้ อะไรแบบนี้ ลูกเห็นม้าก็ตอบได้ แต่พอหมอเอาหมาให้ดู ลูกบอกว่าเป็นม้า แม่ขำแต่ไม่กล้าหัวเราะ คือสำหรับน้องแล้วสัตว์ตัวโต มีสี่ขาเป็นม้าหมด ส่วนตัวเล็กสี่ขาก็เป็นแมวทั้งหมด ส่วนสัตว์ปีกก็เป็นนกทุกอย่าง แม่ไม่เครียดเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยเน้นสอนลูกมากนัก แล้วก็มีกล่องที่ต้องหมุนเกลียวถึงจะเปิดได้มาให้น้องลองเปิด น้องเปิดได้แต่ปิดไม่ได้ มีกล่องสามใบที่มีฝาปิด ข้างในมีของซ่อนอยู่ก็เล่นเปิกปิด หาของไปเรื่อย แล้วก็มีของเล่นที่ใช้เชือกดึงให้เคลื่อนไปข้างหน้า น้องก็ทำได้อย่างที่หมอต้องการ

จากนั้นหมอก็ชวนเล่นบอล โยนกันไปมา โยนใส่ถัง แล้วก็ให้เตะบอลด้วยขาข้างเดียว น้องไม่ค่อยชอบแต่ก็ทำ แล้วหมอก็นั่งถามเรื่องพูดอีก หมอบอกว่าน้องพูดเข้าใจยาก เราเป็นแม่ลูกพูดอะไรก็เข้าใจอยู่แล้ว แต่คนนอกที่ไม่ชินค่อนข้างเข้าใจลำบาก หมอให้ดูต่อไป เข้าอนุบาลคงดีขึ้น เราไม่ค่อยเครียดเพราะพี่ก็พูดช้าเหมือนกันแต่พอพูดแล้วไม่ค่อยหยุด จนอยากหาทางให้หยุด เราว่าเป็นเพราะลูกพูด 2 ภาษาด้วย ระหว่างที่หมอคุยกับแม่ น้องก็ไปเข็นเก้าอี้มาเพื่อจะใช้ปีนขึ้นไปหยิบของเล่น หมออยากช่วย น้องเลยพูดขึ้มมาว่าฉัน (หมายความว่า..อย่ายุ่ง ฉันทำเอง) หมอเลยถามว่าน้องพูดฉันกับของฉันได้ใช่ไหม แหม...คำนี้ไม่พลาดหรอก ใช้บ่อยเวลาแย่งของกับพี่ไง เลยได้แต้มจากการลากเก้าอี้และพูดอีก คือที่ทำแต่ละอย่างหมอจะให้เป็นคะแนน แล้วเอามารวมกัน แล้วประเมินว่าพัฒนาการตามอายุหรือเปล่า สรุปว่าผ่านค่ะ พัฒนาการเท่ากับเด็กอายุ 23.1 เดือน เสียคะแนนเพราะเรื่องพูดค่ะ เราว่าปกติ เพราะลูกเราไม่เคยพูดกับคนแปลกหน้า เราไม่ค่อยชอบหมอเท่าไหร่ เราว่าเค้ารีบๆเร่งๆยังไงไม่รู้ ดีนะที่ลูกร่วมมือ เล่นกำลังเพลิน ก็เอาของใหม่มาให้เล่นอีกแล้ว เราว่าลูกไม่โมโหก็ดีแล้ว พัฒนาการทางร่างกายก็สมวัย แม่มีความสุขและโล่งใจจัง (ถ้าหมอมาเห็นความร้ายกาจของน้องที่บ้าน คงเปลี่ยนใจให้คะแนนเต็มแน่เลย) เราว่าวิธีตรวจก็ดี แต่เราว่าเวลา 1 ช.ม. ที่เอามาใช้ตัดสินว่าเด็กพัฒนาการดีหรือไม่นั้นมันใช้วัดกันไม่ค่อยได้ พ่อแม่ต้องตอบความจริง ถึงจะทำให้ผลการตรวจค่อนข้างใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด

สรุป เราพอใจกับพัฒนาการของลูก แต่เรื่องพูดคงต้องดูกันต่อไป ผลการตรวจนั้นเป็นเรื่องรองมาจากความพอใจของเราเอง




 

Create Date : 03 สิงหาคม 2550    
Last Update : 3 สิงหาคม 2550 5:20:05 น.
Counter : 322 Pageviews.  

 
 

แมวต่างแดน
Location :
กรุงเทพ Germany

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




แอบอ่านมานานปี ทีนี้มี blog ส่วนตัวแล้ว คงไม่สวยหรูแต่กำลังพยายามค่ะ
[Add แมวต่างแดน's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com