ขั้นตอนการสมัครและสอบของหลักสูตรอบรมมัคคุเทศก์
ฉันไปสมัครเรียนที่จุฬาวันที่ 29 เมษายน 2551 ค่าใบสมัคร 100 บาท ค่าสมัคร 300 บาท จากนั้นก็รอวันสอบวันที่ 24 พฤษภาคม 2551 ฉันเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยมากขึ้น ทั้งภาษาไทยแลภาษาอังกฤษ เพราะเวลาสอบต้องสอบเป็นภาษาอังกฤษด้วย แต่พอใกล้ถึงวันสอบจริงๆ ทางจุฬาก็โทรมาขอเลื่อนวันสอบเป็นวันที่ 7 มิถุนายน 2551 แทน ทำให้ฉันมีเวลาที่จะเตรียมตัวมากขึ้น ฉันมีจุดอ่อนเรื่องภาษาอังกฤษ จึงต้องเตรียมตัวมากหน่อย เมื่อเวลาน้อยอ่านไม่ทัน ฉันจึงเริ่มเก็งข้อสอบ ฉันตั้งใจจะท่องข้อมูลสถานที่เที่ยวสำคัญไว้สัก 1 ที่ เพราะว่าอาจจะเป็นคำถามตอนสัมภาษณ์ได้ ฉันเลือกท่องข้อมูลของ เกาะเกร็ด เพราะว่าอยู่ในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งอาจจะถูกถามเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในจังหวัดของฉัน ฉันไม่ลืมที่จะท่องข้อมูลบางส่วนของประเทศไทยและกรุงเทพมหานครเอาไว้ด้วย ฉันได้ข้อมูลเหล่านี้มาจากหนังสือ สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย : 50 Interesting places in Thailand (English-Thai) และ เที่ยวเมืองไทยกับไกด์บุก = Tourist Guide to Thailand และ Website ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมื่อถึงวันสอบ ฉันนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา ธงเหลือง ไปลงสี่พระยาและต่อรถสาย 36 ไปจุฬา ช่วงเช้า สอบข้อเขียน พอแจกข้อสอบปุ๊บ ตกใจเลย ข้อสอบมีเพียง 3 ข้อ ให้เวลา 3 ชั่วโมง กับกระดาษ 9 แผ่น ข้อสอบภาษาไทย ข้อที่ 1 ถามประมาณว่า คุณคิดว่าการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่ อย่างไร อธิบายและยกตัวอย่างประกอบ ข้อที่ 2 ถามประมาณว่า คุณคิดว่ามัคคุเทศก์ที่ดีต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง อธิบายและยกตัวอย่างประกอบ ข้อสอบภาษาอังกฤษ มีชาวต่างชาติเขียนจดหมายมาถึงเราเขียนประมาณว่าได้ชื่อเรามาจากเพื่อเขา และเขาสนใจที่จะมาเที่ยวเมืองไทย 1 สัปดาห์ มาพร้อมภรรยาและลูกอายุ 8 กับ 12 ขวบ ให้เราช่วยแนะนำเขาที และอธิบายสถานที่นั้นมาพอสังเขป เจอคำถามง่ายแต่ตอบยากแบบนี้ ฉันเลยต้องนั่งตั้งสติอยู่แป๊บนึง ลองคิดกันเล่นๆ ดูนะคะ ว่าถ้าเป็นคุณจะตอบว่ายังไง สำหรับฉันเลือกทำภาษาอังกฤษก่อนเลย ไม่ได้เก่งหรอกนะ แต่มันน่าจะง่ายสุดแล้ว เพราะได้เตรียม ข้อมูลมาบ้าง ฉันเขียนจดหมายตอบกลับไปเป็นภาษาอังกฤษประมาณว่า ฉันแนะนำให้เที่ยวกรุงเทพ (แล้วก็เขียนอธิบายเกี่ยวกับกรุงเทพไปสักหน่อย) และก็วางโปรแกรมให้เขาประมาณนี้ วันแรก มาถึงประเทศไทยก็ไปพักที่โรงแรมแถวสีลมหรือบางลำพูก็ได้ จากนั้นก็ให้เดินเล่นพักผ่อนแถวนั้น วันที่สอง วันพระแก้ว วัดโพธิ วัดอรุณ วันที่สาม ให้นั่งเรือไปเกาะเกร็ด (เพราะเตรียมข้อมูลมา ขอเขียนสักหน่อย) วันที่สี่ ไปซาฟารีเวิร์ด อธิบายว่าเป็น open-zoo และมีการแสดงสัตว์ด้วย เด็กๆ น่าจะชอบ วันที่ห้า ไปดรีมเวิร์ด อันนี้ยอมรับว่านึกคำว่าสวนสนุกเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ เลยเขียนไปว่า Fun park อธิบายว่ามีเครื่องเล่นอะไรบ้าง วันที่หก Shopping อธิบายไปว่าอยากซื้อเสื้อผ้าให้ไป platinum หรือไม่ก็มาบุญครอง แล้วก็แนะนำว่าถ้าตรงกับ weekend ให้ไปตลาดนัดจตุจักร วันที่เจ็ด ถ้ามีเวลา ช่วงเช้าให้ไปสนามมวยลุมพินี ไปดูศิลปะมวยไทย จากนั้นก็กลับ ต้องยอมรับว่าตอบแบบพื้นๆ มาก ไม่น่าเชื่อว่า ฉันสามารถเขียนไปได้ 3 หน้า แล้วก็มาตอบเรื่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไล่ตั้งแต่โลกร้อน สถานที่ท่องเที่ยวสกปรก นักท่องเที่ยวบุกรุกป่า เขียนไปได้ 2 หน้ากว่าๆ ก็สรุปจบได้ ส่วนข้อสองเรื่องมัคคุเทศก์ที่ดี ฉันก็ตอบแบบพื้นๆ ไปเหมือนกันว่า รักบริการ มีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์ แล้วก็ยกตัวอย่างเล่าเรื่องประกอบ เขียนไปได้ 2 หน้ากว่าๆ เหมือนกัน ก็สรุปจบ ช่วงบ่าย สอบสัมภาษณ์ค่ะ สอบเป็นภาษาอังกฤษ บอกแล้วว่าภาษาอ่อนแอ เลยลุ้นเป็นพิเศษ ขอเล่าเป็นบทสนทนาคร่าวๆ นะคะ (แปลเป็นไทยแล้วกัน เพราะนึกภาษาอังกฤษไม่ออกแล้ว)
อาจารย์> เล่าให้ฟังคร่าวๆ สิ ว่าทำอะไรอยู่ เรา> เป็นวิศวกรค่ะ อาจารย์> โอ้ ประหลาดใจมากเลยนะ ทำไมล่ะ ทำไมเป็นวิศวกรถึงอยากจะมาเรียนหลักสูตรนี้ เรา> หนูชอบท่องเที่ยวค่ะ แล้วก็เวลาไปเที่ยวก็มักจะจัดโปรแกรมเองด้วย อาจารย์> ชอบเที่ยวก็ไปเที่ยวสิ มาเรียนทำไม เรา> คือ อยากเรียนเอาความรู้ ไปเพื่อพาคนอื่นไปเที่ยวน่ะค่ะ อยากพาครอบครัว เพื่อนๆ ไปเที่ยวค่ะ อาจารย์> แสดงว่าคุณไม่ได้อยากเป็นไกด์จริงๆ น่ะสิ ต้องการเรียนเอาความรู้เฉยๆ ใช่ไหม เรา> ไม่เชิงนะคะ คือ ต้องการเป็นไกด์พาร์ททาร์มค่ะ ไม่ได้อยากเป็นไกด์เพื่อเงิน แต่อยากเป็นไกด์ให้กับครอบครัว เพื่อน (อ้าว พูด ซ้ำอีกแล้ว) ต้องการได้ข้อมูลที่ถูกต้องไปถ่ายทอดต่อน่ะค่ะ
แล้วก็คุยกันอีกนิด ตอนนั้นเราเริ่มใจเสียแล้วค่ะ คิดว่าเค้าคิดว่าเราไม่จริงจัง มาเรียนเล่นๆ กลัวว่าเค้าจะไม่ให้ผ่านน่ะค่ะ แล้วอาจารย์เค้าก็บอกว่า เค้าไม่ได้บอกว่าใครจะผ่านไม่ผ่าน เค้ามีหน้าที่แค่คุยดูว่า สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ไหม แล้วเค้าก็เห็นว่าเราสามารถสื่อสารได้ ก็โอเค พอสอบเสร็จก็รอ ประกาศผลอีก 4 วัน คนสมัคร 185 คน รับ 80 คน แล้วผลก็ออกมาว่าฉันสอบผ่าน ฮ่าๆ ดีใจมากเลยค่ะ แล้วก็มานั่งคิดอีกว่าจะเรียนดีไหม เพราะไม่รู้ว่าจะเรียนไหวหรือเปล่า เพราะดูท่าทางจะเนื้อหาแน่น แต่ก็ติดสินใจเรียนค่ะ โอนเงินค่าเรียนทั้งหมด 33000 บาท แล้วก็ไปเรียนวันแรก ได้รับใบแจ้งตารางเวลาเรียนมาแบบนี้ เรียนทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9:00-16:00 น. ตั้งแต่ 21 มิถุนายน ถึง 30 พฤศจิกายน ค่ะ วิชาเรียนคร่าวๆ จะแบ่งเป็น 3 ส่วน 1. เกี่ยวกับประเทศไทย เช่น ประวัติศาสตร์ สถานที่สำคัญ ประเพณี การละเล่น โบราณคดี อาหารไทย 2. เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น การจัดการการท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน กฎหมาย การปฐมพยาบาล 3. ภาษาอังกฤษ จะเน้นเรื่องที่เกี่ยวกับหลักสูตร
แล้วก็มีศึกษานอกสถานที่อีกประมาณ 7 ครั้ง เช่น กรุงเทพ อยุธยา ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ ลพบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุโขทัย พิษณุโลก
แล้วก็มีสอบด้วยนะ แค่เห็นหลักสูตรก็คิดว่าคุ้มแล้วค่ะ แล้วพอเริ่มเรียนจริงๆ ได้รับความรู้เกี่ยวกับประเทศไทยมากขึ้น ก็รู้สึกรักเมืองไทยมากขึ้นค่ะ นี่ขนาดเรียนแค่อาทิตย์เดียวนะ
Free TextEditor
Create Date : 23 มิถุนายน 2551 | | |
Last Update : 23 มิถุนายน 2551 19:11:03 น. |
Counter : 280 Pageviews. |
| |
|
|
|