|
|
|
Hong Kong : 22-24 June 2007
ไม่คิดเลยว่าจะได้กลับมาฮ่องกงอีกครั้ง เพราะอยากลองไปประเทศอื่นบ้าง แต่เหมือนดวงจะได้กลับมาประเทศนี้อีกครั้งโดยบังเอิญ
"จะไปเทรนที่เสิ่นเจิ้น วันที่ 20-22 มิถุนายน 2007 นะ วันสุดท้ายเป็นวันศุกร์เทรนครึ่งวัน เสาร์-อาทิตย์ว่าง อยากไปฮ่องกง ไปด้วยกันไหม" หลังจากรับโทรศัพท์สายนี้ ก็รู้ตัวเลยว่าฉันจะต้องทำหน้าที่ไปไกด์พาลูกทัวร์อีก 2 คนเที่ยวซะแล้ว
จากนั้นก็เริ่มจองตั๋วเครื่องบิน โชคดีเจอตั๋วโปรโมชั่นของสายการบิน Emirate 6800 รวมหมดทุกอย่างแล้ว เวลาดีด้วย โอเช ตกลงอันนี้แหละ
เรื่องที่พักนี่แหละที่เป็นปัญหาใหญ่ ตอนแรกจะนอนในดีส์นีย์แลนด์คืนละ 1100HKD แต่ได้เข้าไปอ่านใน pantip เลยได้รู้จักกับ Free Walker Guest House เจ้าของเป็นคนไทยซะด้วย โทรไปจองซะเลย ได้ห้อง 3 คน 300 HKD/Night ว้าว!! ถูกชะมัด
วันที่ 22 June 2007
เที่ยวบิน EK384 เครื่องออก 13.45 แต่อย่าหาว่าเห่อเลยนะ ไปถึงสนามบินตั้งแต่ 9:30 กะว่าจะเดินช้อปในดิวตี้ฟรีซะหน่อย พอไปถึงปรากฎว่าเค้ายังไม่เปิดเคาน์เตอร์เลย เลยแลกเงินและหม่ำข้าวกันก่อน
10:45 Check-in ได้เวลาช้อปปิ้งกันแล้ว
เที่ยวบินนี้เครื่อง Delay นิดหน่อย กว่าจะออกก็ปาเข้าไป 14.30 ถึงฮ่องกงตอน 18.30 มั้ง ได้นั่งกับหนุ่มชาวแขกเมนูเป็นไก่ อร่อยเด็ดมาก ลงจากเครื่องก็รีบขึ้นรถไฟฟ้ามาตรวจคนเข้าเมือง รอตรวจคนเข้าเมืองกับรอกระเป๋านานมากๆ กว่าจะได้กระเป๋าก็ปาเข้าไป 19.30 รีบเดินตามป้าย Bus to city ไปขึ้นรถเมล์สาย A21 เพื่อไปลงที่ Mongkok (สถานีที่ 6) ค่าโดยสาร 33HKD ใช้เวลา 35 นาที นั่งมาเกือบจะเลยป้ายแนะ เราว่าเรานับได้ 5 ป้ายเองนะ แต่สายตาเหลือบไปเห็น HSBC แล้วก็เลยมองไปที่ป้ายรถเมล์ อ้าว!! ถึงแล้วนี่หว่า รีบคว้าประเป๋าลงจากรถ ดีนะว่าป้ายนี้คนลงเยอะ ไม่งั้นเลยป้ายแหงๆ
พอลงจากรถได้ก็รีบเดินไปหาเพื่อนอีกคน นัดกันไว้ที่ McDonale แล้วก็พากันขึ้นไปยังที่พักที่เพื่อนมาเช็คอินไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แต่ผิดแผนนิดหน่อยเพราะเรามาช้าไปเค้าเลยเอาห้องเราให้คนอื่นไปแล้ว แต่เค้าก็หาห้องให้เป็น 2 ห้องแทนคือ เตียงคู่ 1 ห้อง และเตียงใหญ่ 1 ห้อง แต่ขอคิดรวม 350HKD เพื่อนเราก็ต่อสุดขีด สุท้ายได้มาที่ 2 คืน 2 ห้อง 650HKD โอเชเลย เอากระเป๋าเก็บแล้วไปจิมซาจุ่ยกัน
เกือบ 4 ทุ่ม หลังจากที่เดินเล่นที่จิมซาจุ่ย เราก็เดินมาเรื่อยๆ จนถึง Star Avenue ที่เนี้ยะแหละที่เราพลาด Symphony of the light ตอน 2 ทุ่มไป แต่ไม่เป็นไรได้มาเดินเล่นดูรอยมือดารา ดูความสวยงามของฝั่งฮ่องกงยามค่ำคืน ก็สวยสุดๆ แล้ว เราเดินมาเรื่อยๆ จนถึงหอนาฬิกาตอน 4ทุ่ม45 ตอนนั้นหิวมากไม่มีร้านค้าเลยสักนิด เราเลยหิวท้องกลับมากินบะหมี่แถว Mongkok
อาหารมื้อแรกของเราเป็นบะหมี่ชามใหญ่ใส่แฮม เบคอน เผ็ดนิดๆ อร่อยมาก แต่ของลูกทัวร์ฉันสิ มันแผดมากกินกันไปได้หน่อยเดียวก็ต้องเลิก ช่วยไม่ได้ก็ดันไปสั่งเค้าว่า ขอแบบ Spicy สุดๆ เลยค่า กว่าจะกินเสร็จก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว วันนี้จบทริปแค่นี้ก่อนดีกว่า
วันที่ 23 June 2007
ออกจากที่พักตอน 7 โมงเช้า เพราะตั้งใจจะไปไหว้พระที่วัด Polin ก่อนแล้วค่อยไปดีสย์นีย์แลนด์ต่อ ก่อนไปแวะกินโจ๊ก ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ กันสักหน่อย โจ๊กรสชาติเหมือนซุปข้นๆ ปาท่องโก๋เค็มเพราะเค้าโรยเกลือมาด้วย แต่ตัวใหญ่มากราวๆ สัก 1 ฟุตได้มั้ง ส่วนน้ำเต้าหู้อร่อยสุด พออิ่มกันปุ๊บก็นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี Tung Chung ที่ตั้งใจก่อนไปคือจะขึ้น Ngong Ping Skyrail360 องศา ไปไหว้พระ แต่เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน กระเช้าดันหล่นตุ้บตอน 2 ทุ่มเพราะลมแรง ดังนั้นเค้าเลยปิดชั่วคราว
เราก็เลยเปลี่ยนแผนนั่งรถเมล์สาย 23 ไป ค่าโดยสาร 16 HKD โอ๊ย ยังกะตีตั๋วขึ้นรถไฟเหาะ เพราะเส้นทางลัดเลาะเขา ทางแคบแถมมีการก่อสร้าง โค้งอีกเพียบ คนขับสวมวิญญาณสตั๋นแมนเรื่อง initial D ขับรถได้สุดยอด ไม่ได้หมายความว่าขับไม่ดีนะคะ แต่ขับชำนาญมาก เราเสียวกันไปเอง
พอขึ้นไปถึงเห็นประตูรั้วปิดอยู่ พร้อมด้วยเวทีกับเก้าอี้วางไว้อีกเพียบ มีคนจัดเตรียมข้าวของกันอยู่ ตอนแรกเราก็คิดว่าเราคงมาเช้าเกินไป เค้ายังไม่เปิด ก็เลยถามกับคนที่จัดงานอยู่ เค้าบอกว่าวันนี้ปิด เตรียมจัดงานฉลองคืนนี้ ปิดวันนี้สันเดียว อ้าว โชคดีแล้วสิเรา ดั้นมาวันที่เค้ามีงานฉลองพอดี ก็เลยได้แต่ยกมือไหว้ด้านล่างแล้วก็รอรถสาย 23 ลงจากเขาเพื่อไปดีสนีย์แลนด์ต่อ ขากลับนี่สิ หลับตลอดเลย ตื่นอีกทีก็ถึงสถานี Tung Chung เลยไม่ต้องเห็นภาพหวาดเสียว หาอะไรกินดีกว่า
เดินเข้าไปหาร้านติ่มซำในห้าง City gate เป็น Outlet ขนาดใหญ่ อ่านมาจากพันทิบ เดินหาตั้งนานหาไม่เจอเลยตัดใจ กินข้าวหน้าเป็ด หมูแดง แทน ร้านคนเยอะดีมีรูปด้วย กินแล้วก็อร่อยดีนะ เดินเล่นในห้างสักแปบ ไม่ได้อะไรเลย ไปเลยดีกว่า
นั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี Sunny Bay เพื่อต่อรถไฟมิกกี้ไปสถานี Disneyland Resort นั่งแปบเดียวก็ถึงแล้ว Disneyland ซื้อตั๋วก่อนคนละ 350 HKD แดดร้อนเปรี้ยงๆ เล่นเครื่องเล่น ดูโชว์ ดูพาเรด ช้อปปิ้ง ดูพลุ ทุกอย่างอลังการงานสร้างมากๆ ประทับใจทุกอย่าง รวมถึงโค้กขวดละ 20HKD ด้วย ก่อนดูพลุหิวจัดมองหาอะไรลองท้อง ทุกอย่างแพงไปหมด เลยเข้าไปร้านเบเกอรี่ได้แซนวิสกล่องละ 3 อัน 25HKD น้ำ1 ขวด 10HKD เอามาแบ่งกัน 3 คน พอดุพลุเสร็จก็กลับ Mongkok ได้ร้านบะหมี่ตบท้ายวันนี้
วันที่ 24 June 2007
ตื่นสายค่ะวันนี้ นัดกันไว้ 8 โมงเช้า เพื่อนที่อยู่อีกห้องมาเคาะประตูเรียกถึงจะตื่นค่ะ รีบตะลีตะลานบอกเพื่อนขอครึ่งชั่วโมง แล้วก็ลงไปหาอะไรกินกัน เดินเข้าไปในตลาดก็ดูไม่มีอะไรน่ากิน เดินย้อนกลับมาที่พักเจอร้านนึงน่ากินดี สั่งบะหมี่เหมือนเดิม แต่ร้านนี้อร่อยแหะ น้ำซุปขาวๆ หวานน้ำต้มกระดูก ซดน้ำซะหมดเกลี้ยง แต่กินเส้นไม่หมดเหมือนเดิม แล้วก็ขึ้นไปเก็บกระเป๋า เช็คเอาท์ ฝากกระเป๋าไว้กับที่พักก่อน แล้วก็ร่อนไปสถานีเซ็นทรัลเพื่อขึ้นรถเมล์สาย 6 ไป Repulse Bay
ทะเลที่นี่ทรายไม่ขาว คนไม่เยอะมาก แต่นิยมใส่ Bikini อาบแดด เราเดินเลียบหาดไปเรื่อยๆประมาณ 500 เมตร จนถึงวัดเจ้าแม่กวนอิม ที่นี่สะพานต่ออายุด้วย เค้าว่าข้ามแล้วจะอายุยื่นขึ้น 3 ปี แต่ถ้าข้ามผิดอายุจะลดลง 3 ปี เราไม่รู้ว่าต้องเริ่มข้ามฝั่งไหนจึงรอกรุ๊ปทัวร์ข้ามไปก่อนแล้วเราจึงเดินตามเค้าไป ที่นี่คนไทยเยอะมาก พอไหว้เจ้าแม่กวนอิมเรียบร้อยแล้วก็นั่งรถเมล์กลับมาที่ Central แล้วเริ่มเดินหาทางเลื่อนที่ยาวที่สุดในโลก
มันอยู่แถวๆ นั้นแหละ พยายามเดินตามแผนที่ไปจนถึงแต่ขึ้นไปไม่สุดหรอกนะ เพราะขากลับต้องเดินลง เลยขึ้นไปนิดๆ พอล่ะ กลับดีกว่า หิวอีกแล้วสิ เอ๊ะ! ที่อ่านมาบอกมีร้านติ่มซำ MAXIM อยู่แถวๆ นี้นี่นา เดินหาดีกว่า แต่พอไปถึงมันไม่ใช่ร้านติ่มซำแล้ว มันเป็นร้านขายข้าวคล้ายๆ เมื่อวานเลยขอบาย ไปหาอะไรกินที่ SOGO ดีกว่า
ขึ้นรถไฟฟ้าไป Causeway Bay แหล่งช้อปปิ้งของฮ่องกง เข้าไปห้างแรก SOGO ห้างไม่ใหญ่มาก เหมือนห้างบ้านเราแหละ แต่ของแพงเลยไม่ได้อะไรเลย ไปห้างที่ 2 ต่อ คือ ห้าง Time Square ห้างนี้ใหญ่โตมาก แต่เหมือนเดิมไม่ได้อะไร แถมหิวแล้วด้วย หาร้านถูกๆ ไม่เจอเลยตบท้ายด้วย Mc Donald ซะเลย สั่งแมคแนคเก็ตกับน้ำส้มมากิน อุ๋ย รสชาติเหมือนบ้านเราเลย พอกินอิ่มแล้วก็ไป Peak ดีกว่า
นั่งรถมาสถานี Central เดินลอดใต้ตึก HSBC ไป ข้ามถนนเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ เจอแล้ว Peak Tram นั่งรถรางชัน 70 องศาขึ้นไปบน Peak แวะถ่ายรูปกับบรู๊ซลีซะหน่อย บน Peak วิวสวยมากแต่เรารอจนค่ำไม่ได้เพราะเดี๋ยวไม่ทันเครื่องออก เลยต้องออกจาก Peak ตอน 6 โมงกว่าๆ นั่งรถเมล์สาย 15C เปิดประทุนไปท่าเรือข้ามฝากไปฝั่งเกาลูน
แวะห้าง Ocean Terminal อีกซะแป๊บ ห้างนี้ดูน่าเดินสุดแล้ว แต่เราไม่มีเวลาเดินหรอก รีบกลับกันดีกว่า เดินมาจิมซาจุ่ย ขอแวะ Bossini อีกนิด แล้วรีบขึ้นรถไฟกลับ Mongkok ไปเอากระเป๋า ข้ามฝั่งตรงข้าม เดินมาทาง HSBC แล้วรอรถเมล์สาย A21 เหมือนเดิมเพื่อกลับสนามบินตอนนั้น 2 ทุ่มสิบแล้ว
2ทุ่ม40 ถึงสนามบินแล้วให้เพื่อนเช็คอินก่อนเพราะเครื่องการบินไทยอยู่ Terminal1 และเครื่องออก 22.10ส่วนของเรา Emirate อยู่ Terminal2 เครื่องออก 22.25 ต่อคิว Emirate อยู่นานมาก กลัวจะไม่ทัน เลยให้เพื่อนไปแลกคืน Octopus ให้ จากนั้นก็รีบเข้าข้างในเพราะกลัวจะไม่ทันเพราะตอนนั้น 3ทุ่มครึ่งแล้ว ขาออกคิวไม่เยอะเหมือนขาเข้าค่อยยังชั่ว รีบขึ้นรถไฟฟ้าไป Gate โบกมือบ๊ายบายกับเพื่อนเดี๋ยวเจอกันเมืองไทยนะ
ขากลับได้นั่งกับหนุ่มชาวจีน เมนูบนเครื่องเป็นปลา รสชาติใช้ได้แต่ข้าวแข็งไปนิด จากนั้นหลับตลอดเลย เที่ยวบิน EK385 ถึงเมืองไทยตอนเที่ยงคืน เจอเพื่อนแล้ว แฟนพี่สาวมารับที่สนามบิน กลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
| Create Date : 03 กรกฎาคม 2550 | | |
| Last Update : 3 กรกฎาคม 2550 16:18:08 น. |
| Counter : 318 Pageviews. |
| |
|
 |
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [