Everybody can be a great writer. Just put your inspiration and type it.
Group Blog
 
All Blogs
 

500 Days of summer ดูรอบที่ 500 ก็ไม่เบื่อ ! โดนหักอกมา ต้องมาช้ำต่อที่เรื่องนี้

เมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ มักจะมีหลายคำ ที่เคยได้ยินลอยเข้ัามา 




เช่นยามรัก น้ำต้มผักยังว่าหวาน
ไม่เจ็บ ก็ไม่เรียนรู้
ไม่ต้องรู้ว่า เราคบกันแบบไหน
หลังฝนตก จะมีรุ้งที่สวยงามรออยูเสมอ
อกหัก ไม่ถึงกับตาย และอีกมากมาย ....
.......

500 Days of Summer ใครเล่น ใครกำกับ

หนังฟอร์มกลางๆ ออกฉายเมื่อปี 2009 โดยต้นทุนเกือบ 8 ล้านเหรียญ 
แต่กลับได้หลายได้มาถึง 60 ล้านเหรียญ ถือว่า Success มาก 
กำกับโดย Marc Webb ผูกำกับ MV ที่มีชื่อเสียง ผลงานคุ้นตาก็เช่น MV 21 Guns - GreenDay 
ส่วนนักแสดงนำก็เป็น Joseph Gordon-Levitt พ่อหนุมหน้าตาเจี๊ยมเจี๊ยม (ที่สร้างผลงาน
จากเรื่อง Inception/Looper) และสาวน้อยตาโต สีฟ้า ผมสีบรูเน็ตอย่าง Zooey Deschanel 
(The Happening/YES Man)



ทำไม 500 Days of Summer/เนื้อเรื่องย่อ

500 Days หรือ 500 วัน คือช่วงเวลาที่พระเอกของเรื่อง อีตา Tom Hansen 
อดีตสถาปนิกหนุ่ม ผู้ผันตัวมาเป็น Copywriter เขียนการ์ดอวยพร ได้ตกหลุมรัก 
และโดนหักอกโดย เลขาใหม่ของเจ้านาน แม่นาง Summer Finn 



โดยอีตา Tom ตกหลุมรัก Summer ตั้งแต่แรกเห็น โดยตามสูตรพยายามจีบ
และพยายามพูดคุย จนไปสารภาพกับ Summer ว่าชอบ แต่ Summer ก็ปฏิเสธ 
ตั้งแต่แรกว่า "ฉันชอบคุณนะ แต่ยังไม่อยากมีแฟนไม่อยากจริงจังกับใคร
ฉันไม่ชอบให้ใครมาเป็นเจ้าของฉัน"




อีตา Tom ก็แอบไปเศร้า แต่ปรากฏว่า วันต่อมา พออยู่กัน 2 คน คุณ Summer ก็มา
ขโมยจูบพ่อหนุม Tom ซะงั้น จากนั้นทั้ง 2 คนก็เริ่มไปเดท ไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง
กินข้าว เดินเล่น iKea การกระทำทุกอย่าง เปรียบเสมือนแฟนกันสุด ๆ แต่ Summer 
ก็ยังกั๊กว่า เราไม่ใช่แฟนกันนะ แต่อยู่กับเธอแล้วรู้สึกดี (อ้าว !!! อารมณ์กิ๊กๆ กันเฉยๆ)






แต่พอได้คบหานานไป หัวใจของ Tom ไม่สามารถรับอารมณ์กึ่งเพื่อน กึ่งแฟนได้ และ
เริ่มทำตัวเป็นเจ้าของ Summer ทำให้ ความสัมพันธ์เริ่มแย่ Summer พยายามปลีกตัว
ออกห่าง (เพราะนางติสท์แตกไง ไม่อยากมีแฟน แต่นะ เล่นกับกับใจตา Tom แบบ
ไม่ปราณีเลย)  จนสุดท้าย Summer ขอเลิกคบ และลาออกจากบริษัท ทิ้งให้ Tom 
อกหัก เสียสูญ งานการไม่ทำ เฝ้าแต่จะรอง้อ  และถามตัวเองว่าผิดอะไร 



จนสุดท้าย เมื่อทั้ง 2 เจอกันอีกครั้ง Summer ก็บอกข่าวดี (มั้ง) ให้กับ Tom จะเป็น 
อะไรต้องตามไปดูเองนะค่ะ ไม่อยากสปอยล์ 

สิ่งที่ชอบ/การดำเนินเรื่อง

การดำเนินเรื่องของ 500 Days of Summer ที่ชอบน่ะค่ะ 
-  เป็นการเล่าเรื่องแบบไม่ได้เรียงตามลำดัยเหตุการณ์นะค่ะ จะใช้ตัววันมาเล่าเรื่อง 
เช่น Scene แรก จะบอกเลยวันที่ 300 ก็จะเป็นฉากที่ Tom ถูกบอกเลิก อีก 
Scene ถัดมาเป็นวันที่ 1 ที่ทั้ง 2 เจอกัน คือใช้ตัวเลขวันที่คบกันมาเล่าเรื่อง 



มันจะให้อารมณ์ แรกรัก กับ หมดรักได้เป็นอย่างดี 



- การเปรียบเทียบ ทั้งเรื่อง 500 Days of Summer จะเป็นการเล่าเรื่องแบบเปรียบเทียบ
อารมณ์ความรู้สึกของ Tom ต่อ Summer ตลอดเช่น ตอนรักกัน ฉันรักเธอทุกเรื่อง
แต่ตอนโดยหักอก อะไรที่ชอบ ก็กลับไม่ชอบซะงั้น (ตรงกับโลกความเป็นจริง สุด ๆ 55) 



อันนี้เป็นเสน่ห์อารมณ์สไตล์ตามผู้กำกับที่มาอารมณ์มิวสิควีดีโอนะค่ะ ดูง่าย ไม่ยาก 

เพลงประกอบ /ดนตรีแจ่ม

ด้วยความที่หนังรักกับเพลง มักจะมาพร้อมกัน หนังเรื่องนี้จะมีดนตรีเพราะ ๆ ประกอบทั้งเรื่อง 
จากทั้ง Regina Spektor / The Smiths ต้องลองไปฟังดูนะค่ะ อันนี้เพลงโปรดของเรา
ในเรื่องค่ะ Hero - Regina Spektor 




ฉากที่โดน
สำหรับฉากที่โดนของเรา จะเป็นตอนที่พระเอก ได้ถูกนางเอก เชิญไปปาร์ตี้ที่บ้านอีกครั้ง 
หลังจากที่ทั้ง 2 ได้เลิกรากันไป โดยหลังจากที่โดนชวน พระเอกก็มีความหวังอีกครั้ง 
ว่านางเอกจะกลับมาชอบตัวเองอีก แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่เลยกลายเป็นที่มาของ 

Expectations VS Reality ค่ะ 




ประโยคที่จี๊ด
เป็นช่วงท้ายของเรื่องน่ะค่ะ จะสปอยล์นะ 
............................
.......................................
.......................................................
....................................................................

หลังจาก Tom เสียสูญไปกับเรื่อง Summer ทำให้เค้าลาออกจากงาน ไปสมัครงาน
ตามล่าความฝีนในการเป็นสถาปนิก เค้าก็ไดบังเอิญไปเจอ Summer ที่แต่งงานแล้ว 
ระหว่างพูดคุย สอบถามสารทุกข์ สุขดิบกัน Tom ก็ได้ถาม Summer ว่า 
Tom : "ทำไมไม่ใช่ผม ทำไมเป็นเค้า คนที่คุณเพิ่งเจอกันไม่กี่เดือนเอง"
Summer : ไม่รู้สิ ฉันแค่ตื่นมา วันหนึงแล้วก็รู้สึกบางอย่างกับเค้า ที่ฉันไม่เคยรู้สึกกับคุณเลย 



เอิ่ม....ถ้าดูหนังแล้วเห็นหน้า Tom ตอนนี้จะรู้เลยว่าเค้าจี๊ดมาก อารมณ์ถ้าไม่ใช่ 
ให้ตายยังไง ก็ยังไม่ใช่นั่นเอง 

สรุป
เหมือนที่ตอนแรกของหนัง 500 Day of summer ที่เกริ่นว่าหนังเรื่องนี้เป็น The story about
love but not a love story. เป็นหนังอกหักที่จริงที่สุดที่เคยดู เพราะแก่นของเรื่องมันบอกว่า
ความรัก ให้ลงท้ายอย่างไร ความรู้สึกแห่งรัก ยังคงมีอยู่ 

สำหรับเรื่องนี้ให้เลย 4.9/5 ค่ะ หักคะแนนที่มันเศร้าลึก ๆ 






 

Create Date : 31 สิงหาคม 2556    
Last Update : 2 กันยายน 2556 15:26:29 น.
Counter : 2705 Pageviews.  

Inception / Dream/Illusion

"ไม่มีใครบนโลกใบนี้ไม่เคยฝัน"

เราทุกคนเคยฝันกันมาแล้วทุกคน ไม่ว่าจะเป็น

หลับฝัน คือการที่เราเห็นภาพ เสียง ข้อความ ความคิด
หรือความรู้สึกในขณะที่กำลังนอนหลับ ความฝันมัก
จะเต็มไปด้วยความคิดในด้านต่างๆ ตั้งแต่เรื่องจริงในสังคม
จนถึงเรื่องเหลือเชื่อ สนุกสนาน ตื่นเต้น เรื่องน่ากลัว
เรื่องเศร้า ที่เรียกว่าฝันร้าย

ฝันที่สองเรียกว่า ฝันกลางวัน ฝันแบบนี้เป็นการเห็นภาพ
เสียง ข้อความ ความคิดของตัวเราเองขณะกำลังตื่น โดยส่วนมาก
จะเป็นเีรื่องราวของสิ่งที่เราอยากได้ อยากเป็น
อยากเจอ เช่นอยากถูกหวยรางวัลที่ 1 เป็นต้น

ที่อยู่ดี ๆ อยากจะพูดถึงความฝันคงเป็นเพราะได้แรงบันดาลใจ
จากการได้ไปดูหนังเรื่อง Inception ของผู้กำกับคนเก่ง Christopher Nolan
แค่เรื่องย่อ ๆ ก็ยั่วน้ำลายให้เราต้องไปดู
เพราะเป็นเรื่องของการ โจรกรรมข้อมูลต่างโดยการเข้าไปล้วงลับในความฝัน
โปรยเรื่องมาแค่นี้......ก็น่าสนแล้ว



ก่อนหน้าที่จะตีตั๋วไปดู บางคนบอกว่าหนังดูยาก ลึกลับซับซ้อน
คงเป็นหนังประเภทที่ว่าถ้าไม่ชอบมากก็เกลียดเลย !!!!
แต่ว่าเจ้าของ Blog เองก็ชื่นชอบกับผลงานของ Nolan เป็นทุนเดิมอยุ่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็น Memento,Batman the Dark Knight
ซึ่งจะพลาดได้อย่างไร ชิมิ

เอาล่ะ.....เนื้อหาข้างล่างมีสปอยล์ ใครยังไม่ได้ดูก็อย่ามาอ่านนะจ๊ะ !!!!!!
(เราเตือนท่านแล้ว)
........................................
..............................
................
.........
.....
...

Inception เปิดตัวด้วยพ่อหนุ่มลีโอ (Leonardo DiCaprio) รับบทเป็น Dom Cobb
มานอนเกยตื่้นที่ริมหาดจากนั้นหนังก็เริ่มอธิบายตัวละครของ "Dom"


โดย Nolan ปูเรื่องของวิธีการทำงานของ "นักจารกรรมความฝัน " ให้คนดูเข้าใจง่าย
ด้วยการเล่าผ่านการปฎิบัติการณ์ของพระเอกและเพื่อนในทีมอย่าง "Arthur"
พวกเค้าได้รับการว่าจ้างจากบริษัทหนึ่งให้ล้วงความลับคู่แข่ง
โดยเข้าไปในฝันของเหยื่อที่ชื่อว่า "Saito"
แต่ปฏิบัติการณ์ล้มเหลว เพราะ Saito รู้ตัว
ทั้ง Dom และ Arthur ต่างถูกล่าจากบริษัทที่ว่าจ้าง


ที่นี่หลังจาก Saito รอดจากเหตุการณ์ ถึงกับชื่นชมในฝีมือของดอม
และเสนอให้ Dom และ Arthur ทำงานหนึ่งงานให้เค้าที่ไม่ใช่การโจรกรรมธรรมดา
แต่เป็นการ Inception (เอาหล่ะที่นี่ เจ้าของบล๊อกงงแล้วว่ามันคืออะไร ?)


"Inception คือการเข้าไปปลูกฝัง เปลี่ยนแนวคิดให้กับเหยื่อ
รวมทั้งทัศนะคติต่าง ๆ โดยผ่านทางการฝัน"


ที่นี่ทั้ง Arthur และ Dom ต่างก็คิดเป็นงานยาก แต่ด้วยข้อเสนอของ Saito
ที่บอกว่าถ้าทำได้จะล้างมลทินให้ Dom แล้วพาเค้ากลับประเทศ
เพื่อที่เค้าจะได้ไปเจอหน้าลูก ..ดอมจึงตอบตกลงทันที
(Dom เป็นอาชญากรร้ายแรงที่ไม่สามารถเข้าประเทศได้)


และเหยื่อรายนี้คือ Robert Fisher ทายาทของนักธุรกิจที่เป็นคู่แข่งกับ Saito
ซึ่ง Fisher กำลังจะได้สืบทอดกิจการของพ่อตัวเองในเร็ววัน เพราะพ่อป่วยหนัก
แต่ Saito ในฐานะคู่แข่งจึงไม่ต้องการให้ธุรกิจของ Fisher ได้เติบโต
Saito จึงจ้าง Dom ไปเปลี่ยนความคิดให้ Fisher ปฏิเสธธุรกิจพ่อ


ที่นี่เหล่าพระเอก ก็หาทีมเพื่อปฏิบัติภารกิจนี้
โดยสลับไปกับการเล่าปมของ Dom เกี่ยวกับ Mal ภรรยาของเค้าที่ตายไป
และผ่านการเล่าเรื่องผ่านความฝันที่ซับซ้อน ซึ่งตรงนี้แนะนำให้ไปดูเอง
จะให้เล่าคงลำบาก แต่ขอเตือนว่า อย่าหลับ อย่าพลาดไม่งั้นงงแน่นอน
ว่าฝันไหนเป็นฝันไหน 555


สรุปว่ากว่า 2.30 ชั่วโมงของเรื่องนี้ทำให้เรารู้สึกว่า .......
- เราต้องแยกโลกแห่งความฝันกับโลกของความเป็นจริงให้ออก
และยอมรับกับความจริงที่เป็น -


โดยตัวละครที่สื่อถึงเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ Mal คนรักของ Dom ที่ฆ่าตัวตาย
เพราะรับความจริงไม่ได้

ทั้ง Mal และ Dom ต่างเป็นนักสร้างความฝันมือฉกาจ
ทั้งเค้าและเธอจึงร่วมกันสร้างโลกแห่งความฝันที่ว่า
เค้าทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ซึ่งพวกเค้าก็ทำได้ในฝัน
พวกเค้าใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา 50 ปี แต่มาวันหนึ่ง Dom รู้สึกว่าโลกนี้ไม่ใช่ความจริง
เค้าต้องการกลับหาลูก ๆแต่ว่า Mal กลับชอบชีวิตแบบนี้ ไม่อยากกลับไป
ทำให้ Dom ต้องทำการ Inception หรือปลูกฝังความคิดภรรยาตัวเอง
ให้เค้าคิดว่าโลกที่ Mal อยู่ตอนนี้ ไม่ใช่ของจริง....!!!!!!!


แต่เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้ ความคิดของ Mal ที่ Dom ปลูกฝัง
ว่าโลกที่เธออยุ่ไม่ใช่ของจริงกลับติดออกมาด้วย.....
และเมื่อเธอออกมาใช้ชีวิตบนโลกแห่งความเป็นจริง
เธอกลับคิดว่าเป็นเรื่องหลอก และได้ฆ่่าตัวตาย
เพื่อกลับไปสู่ความฝันที่เธอคิดว่าจริง คือโลกที่เธอแก่ไปพร้อมกับคนรัก
(งงไหมเนี่ย 55)

ความรู้สึกผิดของ Dom ได้ฝังใจเค้าตลอดมาว่า...
เค้า ได้ทำร้ายภรรยาด้วยการ Inception .....
และเศร้ามากที่เค้าไม่สามารถทำให้เธอเชื่อได้ว่า
เธอมีความสุขกับเค้าบนโลกแห่งความจริง ....


และนี้คือสิ่งที่ได้รับจากในเรื่องและเป็นสิ่งที่เราเห็นในความเป็นจริงในโลก


ข่าวการฆ่าตัวตายเพราะความรัก ความผิดหวัง มีให้เห็นทุกวัน
และที่มันเกิดขึ้นเพราะเราคาดหวังจะให้เป็นเหมือนฝัน
แต่เมื่อในความเป็นจริง มันเป็นแบบนั้นไม่ได้ เราจึงจบชีวิตตัวเอง


จงตื่นขึ้นมารับความจริงกันเถอะ !!!! ถึงมันจะโหดร้าย แต่มันก็คือความจริ


ปล. หลังจากดูเรื่อง Inception เสร็จก็ไปหยิบเรื่อง Shatter Island
ที่ซื้อมาดองไว้นานมาดูและที่สำคัญ Leonardo ก็เล่นด้วย แต่เป็น
ผลงานการกำกับ Martin Scorsese เรื่องนี้ก็งงและก็สนุกไม่แพ้กัน
แถมเป็นเรื่องของจิตวิทยาทั้งคู่ เอามาดูให้มึนกันไปเลย


สรุปว่าคุ้มนะกับเงิน 160 บาทกับงานระดับเทพของ Christopher Nolan
มันไม่ได้ดูยากอย่างที่คิด ~







 

Create Date : 20 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 20 กรกฎาคม 2553 9:45:07 น.
Counter : 449 Pageviews.  


Roundshady
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ชอบเที่ยว ชอบเล่น ชอบพูดคุย
ชอบแลกเปลี่ยนความเห็น ชอบเขียน

ดังนั้นจึงมี Blog
Friends' blogs
[Add Roundshady's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.