รีวิว : Samsung Galaxy S6 และ S6 Edge เรือธงคู่สะท้านภพ
โดยส่วนใหญ่แล้วการเปิดตัวเรือธงของค่ายสมาร์ทโฟนค่านแอนดรอยด์มักจะทำกันทีละตัว อย่างปีก่อน Samsung Galaxy S5 ก็เปิดตัวเพียงรุ่นเดียว แต่ในวันนี้ Samsung ให้ทางเลือกกับสาวกใหม่ด้วยการเปิดเรือธงออกมาให้เลือกถึง 2 รุ่น คือ Samsung Galaxy S6 (ราคาเปิดตัว 23,900) และ S6 Edge (ราคา 27,900) เรือธงสองลำนี้ลำไหนน่ารับมาเป็นคู่ใจ ป๋ารักมีคำตอบให้ครับ 2 เรือธงที่โหดที่สุดของ Samsung ในเวลานี้ รีวิว : Samsung Galaxy S6 และ S6 Edge เรือธงคู่สะท้านภพ ต่างที่สุดคือรูปทรง
อันที่จริงก็ต่างอยู่เรื่องเดียวนั่นแหละ สเปคภายในของ Samsung Galaxy S6 ทั้งสองรุ่นนั้นเรียกได้ว่าไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ส่วนเดียวที่ต่างคือรูปทรงภายนอก แม้ว่าคนโบราณจะสอนเราว่าอย่าตัดสินอะไรจากภายนอก แต่งานนี้ต้องตัดสินที่ภายนอกกันแล้วแหละ ว่าจะชอบจอโค้งขอบบาง หรือ ชอบขอบหนาจับถนัดมือ ดูหน้าตาแบบเต็มๆก่อนจะไปลองของจริงได้ที่หน้า shop ดีไซน์คือสิ่งที่ Samsung ตั้งใจกับ S6 มากจริงๆ ในทริปสิงคโปร์ ป๋ารักได้ไปสัมภาษณ์หัวหน้าทีมดีไซน์ของ Galaxy S6 มา สิ่งหนึ่งที่เค้าเน้นเลยก็คือ S6 และ S6 Edge นั้นทาง Samsung เปิดอิสระในการออกแบบให้อย่างเต็มที่เพื่อให้เป็นดีไซน์อันสดใหม่อย่างแท้จริง และแว่วๆมาว่า ดีไซน์ของ S6 ทั้งสองรุ่นจะไม่หลุดไปอยู่ในรุ่นที่ไม่ใช่เรือธงค่อนข้างแน่นอน หากอยากได้มือถือหน้าตาดีดีไซน์แจ่มก็ต้องเป็น S6 เท่านั้น ไม่มีให้เลือกในรุ่นรองๆอีกแล้ว คุณ ฮอง โยวหัวหน้าทีมออกแบบ ความรู้สึกจากใจหลังจากจับมาแล้วสิบกว่าวัน แว่บแรก ป๋ารัก บอกได้เลยว่าชอบ S6 มากกว่ามาก(ก.ไก่ต่อหลังอีก 15 ตัว) เพราะมันถือจับถนัดมือไม่ต้องกลัวร่วงไม่ต้องกลัวหล่น ในวันแรกๆบอกเลยว่ารัก S6 ธรรมดามากกว่า Edge แบบไม่เห็นฝุ่น โอเค Edge มันสวยนะแต่การถือที่ถนัดและมั่นใจก็สำคัญไม่แพ้กัน ประเด็นคือได้มาแล้วจะไม่เล่นเลยก็ไม่ใช่ไง เลยหยิบ Edge มาลูบมาคลำ ลูบไปลูบมาโดนของซะงั้น มันเป็นสัมผัสที่อธิบายยากต้องลองจับเองซักพักถึงจะเก็ท อารมณ์ว่า S6 นี่ได้นวัตกรรมใหม่อย่างเดียว ส่วน S6 Edge ได้ทั้งนวัตกรรมและดีไซน์ด้วย เอาเข้าจริงก็รักทั้งสองรุ่นนะ ลื่นหัวแตก สมาร์ทโฟนทำงานลื่นๆป๋าจับมาบ่อยแล้ว แต่ลื่นระดับเหมือนขยับนำปลายนิ้วนี่พึ่งเคยเจอ พูดแล้วจะหาว่าอวยแต่เรื่องลื่นนี่พูดตามเนื้อผ้าเลย Samsung จัดสเปคมาให้เต็มสมราคาเรือธงมาก ปีก่อนนี่เรารู้สึกว่า Note สเปคดีกว่า S แต่ปีนี้พูดได้เลยว่า S ไม่แพ้ Note แน่ๆ(ถ้า Note ไม่อัดอะไรพิเศษอ่ะนะ) เรื่องความลื่นนี่ยกให้ Cpu Exynos 7420 ที่ซัมซุงจัดมาให้พร้อมแรม 3 GB เรียกได้ว่าลงตัวจริงๆ Next is now ที่ว่าอนาคตคือตอนนี้ ไม่ใช่แค่พูดลอยๆ ชอบถ่ายรูปแบบไม่ใส่เคส S6 ยังน่าเล่นกว่า ก่อนจะเข้าเรื่องคุณภาพของกล้องถ่ายรูปที่เป็นอีกหนึ่งที่เด็ดของรุ่นนี้ ต้องบอกกันซักนิดว่ารูปทรงที่แตกต่างมีผลต่อการใช้งานพอควร ขอบที่บางของ S6 Edge อาจก่อปัญหาลื่นหลุดมือได้ถ้ายังไม่ชิน ใครที่คิดจะใช้ Edge ถ่ายรูปควรหาเคสมาใส่เพื่อความถนัดมือด้วย แต่ถ้าชอบเล่นมือถือเปลือยๆไม่ใส่เคส S6 ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า เพราะการยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปโอกาสร่วงหลุดมือจะเพิ่มขึ้นตามความบางของขอบที่จับครับ เคส S6 Edge ใส่แล้วจับถนัดมือขึ้นหลายเท่า จอสว่างสดใสทั้ง 2 ตัว Edge ดูกว้างกว่าเพราะขอบที่โค้ง ถ้าเป็นคนชอบมือถือจอสวย ป๋ารักขอเชียร์ S6 Edge เพราะขอบที่โค้งงอทำให้มุมมองของภาพดูกว้างกว่าเล็กน้อย ในขนาดจอที่แทบไม่ต่างกัน แต่ถ้าไม่ซีเรียสมาก ทั้งสองรุ่นจอสวยสดใสสีคมชัด(สีสันแอบเว่อร์นิดๆ) ไม่ว่าจะตัวไหนหน้าจอก็ให้ความพึงพอใจในการเล่นได้ไม่ต่างกัน เรื่องหนึ่งที่ต้องขอแซวคือภาพในมือถือสวยเกินหน้าเกินตาจอคอมมาก เปิดภาพ เล่นวีดีโอในมือถือแล้ว ไม่อยากกลับไปเล่นในคอมเลย ขอบโค้งนี่ละที่ทำให้เห็นภาพกว้างขึ้น เด่นเลิศสะท้านใจยกให้เรื่องกล้อง หากให้เลือกว่า อะไรที่ S6 ทำออกมาได้กระชากใจที่สุด ขอตอบว่ามีอยู่ 2 อย่าง หนึ่งคือเรื่องดีไซน์ที่พูดไปแล้ว สองคือเรื่องกล้อง 16 ล้านพิกเซล ที่สุดติ่งกระดิ่งแมว อยู่ระดับแนวหน้าของสมาร์ทโฟนที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้ก็ว่าได้ เรียกได้ว่าถ้าอยากได้สมาร์ทโฟนมาเพื่อถ่ายรูปอย่างเมามันแล้ว เลือก S6 ได้เลยครับ รับรองไม่ผิดหวัง เก็บรายละเอียดได้สะท้านเฟ่อร์ จับโฟกัสได้ไวมาก ฟังก์ชั่นหนึ่งที่กล้องของ S6 ทำมาให้คือกดปุ่ม Home 2 ครั้งแล้วก็จะเข้าสู่โหมดกล้องทันที ทำให้เราพร้อมถ่ายภาพได้ในเวลาไม่เกิน 3-5 วินาที(รวมหยิบออกจากกระเป๋ากางเกงแล้ว) เมื่อยกกล้องขึ้นพร้อมเล็งไปที่เป้าหมาย ตัวกล้องจะจับโฟกัสให้เราในเวลาไม่ถึง 1 วินาที ทำให้เวลามีเหตุการณ์ทีอยากได้ภาพอย่างรวดเร็ว มี S6 ติดตัวไว้รับรองได้ภาพแน่ เห็นรถคันนี้วิ่งตีคู่มา ควักขึ้นมาถ่ายทันแถมไม่เบลอด้วย ! Burst Mode คมชัด ไม่มืด ปัญหาใหญ่ๆของ Burst Mode หรือการถ่ายภาพต่อเนื่องคือ ถ้าเปิดหน้ากล้องนานไปภาพก็เบลอ ปิดหน้ากล้องเร็วไปภาพก็มืด แต่ S6 แก้ปัญหาของโหมดนี้ได้ดีมาก ภาพมืดลงไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการถ่ายในโหมดปกติ แต่ความคมชัดมาเต็ม ไม่เชื่อลองดูละอองน้ำที่กระจายดูสิ คมซะขนาดนั้นเลยนะเออ ถ่ายมา 10 ช็อตต่อเนื่องแต่ตัดเหลือ 5 แทนเพื่อให้เห็นความต่างชัดๆ ถ่ายในที่มืดคือทีเด็ด เรื่องการถ่ายในที่มืดเป็นปัญหาคู่วงการกล้องมือถือมาโดยตลอด เพราะกลางคืนมันคือเวลาของปาร์ตี้ที่เราอยากได้ภาพเก็บไว้ แต่ถ่ายออกมาแล้วไม่โดนแฟลชจนหน้าพังก็เบลอบ้าง มืดบ้าง S6 ทำผลงานในเรื่องนี้ได้ดีมากทีเดียว เพราะขนาดถ่ายในที่ที่มีแสงหลากหลายปนกับที่มืดก็ยังออกมาได้ขนาดนี้ ภาพนี้นี่ยอมเลย อาหารก็จัดหนักใช่ย่อย สวยน่ากินมาก ถ่ายอาหารก็เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของคนใช้สมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะถ่ายอวดเพื่อน รังแกเพื่อนยามดึกหรือทำบันทึกเมนูร้านโปรดก็ตามที หลังจากได้ลองถ่ายอาหารดูแล้วพบว่า สีสันสดใสของหน้าจอ + ความคมชัดที่ได้ ทำให้อาหารในจอน่ากินกว่า ดูด้วยตาเปล่าเสียอีก(ฮา) ดูความฉ่ำเยิ่มของแซลม่อนนี่สิ ซูมได้ไกลเว่อร์ ควบคุมได้ดีขึ้นเพราะระบบกันสั่น เลนส์กล้องของ S6 ที่นูนออกมานั้นคือระบบกันสั่นที่ใส่มา เอาจริงๆแล้ว ผู้ปลิตสมาร์ทโฟนทุกยี่ห้อแหละครับไม่อยากให้เลนส์มันยื่นออกมา แต่ถ้าจะใส่ระบบกันสั่นแล้วยังไงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เจ้าระบบกันสั่น OIS นี้มันดียังไง เอาง่ายๆคือ เวลาเราซูมเยอะๆ ภาพจะสั่นไหวง่ายขึ้น การที่มีระบบกันสั่นมานี้ทำให้ภาพไม่สั่น เวลาซูมไกลๆ รวมไปถึงการถ่ายภาพในสถานที่ที่ไม่นิ่ง เช่น บนรถ บนเรือ ระบบกันสั่นก็จะทำให้ได้ภาพที่คมชัดนั่นเอง นูนๆนี่แหละที่ทำให้ได้ภาพนิ่งๆ เทียบการซูมแบบ 1x และ 8x ย้อนแสงงั้นเหรอ กลัวซะที่ไหน โหมด HDR ถ่ายย้อนแสงของ S6 เห็นผลชัดเจนมาก แค่กดนิ้วโฟกัสค้างไว้ตรงจุดที่มืดอยู่ มันก็จะสว่างขึ้นมาทันที (แต่ไอ้รอบๆที่สว่างแล้วก็จะจ้าไปเลยนะ) ในสถานการณ์ย้อนแสงแต่อยากได้ภาพ HDR ของ S6 ไม่ทำให้ผิดหวัง เทียบกันให้เห็นชัดๆไปเลย Selfie ปุ๊ปสวยปั๊ป เซลฟี่เดี๋ยวนี้เลี่ยงกันไม่ได้แล้ว แต่ใครล่ะจะอยากถ่ายออกมาแล้วไม่สวย? กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านเลนส์มุมกว้าง มีบิวตี้โหมดมาให้พร้อม ถ่ายออกมาสวยทันที อยากได้สวยแค่ไหนก็จัดไป(ลองดูแล้วไม่ถึงขั้นหลอกตามาก) เท่าที่ลองดูมีแต่บิวตี้เรื่องผิวไม่มีบีบหน้ามาให้ ถ้าอยากหน้าเรียวเพิ่มอันนี้ก็ต้องหาแอปมาแต่งกันเอง อันนี้ยกผลงานให้นางแบบครึ่งกล้องครึ่งละกันเนอะ คุยแต่เรื่องดีไซน์กับกล้อง ไม่พูดเรื่องสเปคภายในซะหน่อยเหรอ? ไม่มีกั๊กน่าจะสื่อถึง S6 ได้ดีที่สุดแล้ว เพราะ จัดเต็มตั้งแต่ Cpu 64 bit ที่เป็นสถาปัตยกรรมล่าสุดและต้องได้เจอแน่ๆในอนาคต เอามาก็ใช้กันได้ยาวๆยัน 2017-2018 ได้เลย แรม 3GB รองรับเกม+แอปใน Google Play ได้เหลือๆ หน่วยความจำภายใน 32 GB จัดว่า เพียงพอกับการใช้งาน ถ้ากลัวจะไม่พอก็ลง Dropbox หรือ คลาวน์เจ้าอื่นๆไว้เก็บไฟล์ก็ได้เช่นกัน ใช้งานเยี่ยม รูปทรงงาม งานนี้ Samsung ไม่กั๊กเลย บรรทัดสุดท้าย หากอยากได้ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน ทั้งเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ทำงาน ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอได้แบบเต็มเปี่ยม งานนี้จัด Samsung Galaxy S6 และ S6 Edge นั้นถือว่าตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนคำถามที่ว่า S6 หรือ S6 Edge ดีนั้น ป๋ารักอยากให้ลองจับเครื่องจริงดูเสียก่อนจะได้ไม่เสียใจภายหลัง เพราะแม้เนื้อในจะเหมือนกันแต่รูปลักษณ์ภายนอกมันต่างกันไม่น้อยเลย อีกทั้งฟีเจอร์เพิ่มเบอร์คนสนิทเอาไว้โทรหาหรือเปิดข้อมูลดูได้จากขอบที่เพิ่มขึ้นมาก็สะดวกไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว พบกับ Samsung Galaxy S6 และ S6 Edge ตามร้านมือถือชั้นนำได้แล้วตั้งแต่วันที่ 20 เมษาโดยราคามีดังนี้ Samsung Galaxy S6 (32 GB) 23,900 บาท Samsung Galaxy S6 Edge (32 GB) 27,900 บาท
Create Date : 19 เมษายน 2558 |
Last Update : 19 เมษายน 2558 23:25:30 น. |
|
1 comments
|
Counter : 986 Pageviews. |
|
|
|