กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้สำหรับกรณีของ “Single Gateway” หรือ “ซิงเกิ้ล เกตเวย์” ที่จริงๆแล้วเรื่องดังกล่าว ได้มีการนำมาพูดถึงกันในระยะหนึ่งแล้ว แต่เริ่มเป็นที่จับตามองเมื่อมีการรายงานข่าวออกมาว่า รัฐบาลมีการสนับสนุนให้ดำเนินการโครงการ ซิงเกิ้ล เกตเวย์

โดยเริ่มจากมติคณะรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจัดตั้ง ซิงเกิ้ล เกตเวย์ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมดูแลเว็บไซต์ ที่เผยแพร่ข้อมูลไม่เหมาะสม รวมถึงการไหลเข้าของข้อมูลข่าวสารจากต่างประเทศผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต

จากกรณีดังกล่าวจึงทำให้หลายคนสงสัยว่า การทำ ซิงเกิ้ล เกตเวย์ คืออะไร และ จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อไปกับการเล่นโซเชียลมีเดียในอนาคตหรือไม่

ซิงเกิ้ล เกตเวย์ คืออะไร ทำไมถึงเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองเป็นอย่างมากอยู่ในขณะนี้

คำว่า ซิงเกิ้ล เกตเวย์ หากแปลแบบตรงตัวจะแปลได้ว่า “ช่องทางเดียว” ซึ่งโดยปกติแล้ว การใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยนั้น หากมีการเชื่อมต่อข้อมูลอินเตอร์เน็ตไปยังต่างประเทศ หรือจากต่างประเทศมายังประเทศไทย จะมีช่องทางในการส่งผ่านข้อมูลมากมายหลากหลายทาง

แต่ระบบ ซิงเกิ้ล เกตเวย์ หรือ Single Internet Gateway จะเป็นระบบที่ไม่ว่าอินเตอร์เน็ตภายในประเทศจะเชื่อมกันกี่หมื่นกี่พันเส้น แต่ทางออกเพื่อไปเชื่อมกับเครือข่ายในต่างประเทศนั้น จะเหลือเพียงแค่จุดเดียว (รวมทั้งจากต่างประเทศมายังประเทศไทยก็จะเข้ามาที่จุดเดียวเช่นกัน) ซึ่งระบบแบบช่องทางเดียวนี้

หากมองในแง่ดี จะทำให้การดูแลการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต การตรวจสอบข้อมูล การดักจับข้อมูล ฯลฯ สามารถทำได้ง่ายกว่าปกติมาก โดยจุดประสงค์ของรัฐบาลที่ใช้ระบบนี้ มักจะพยายามควบคุมการใช้งานและเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ไม่เหมาะสมจากโลกภายนอกได้

แต่หากมองถึงข้อเสียของการใช้ระบบ ซิงเกิ้ล เกตเวย์

แน่นอนว่า Gateway สำหรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่มากระจุกตัวอยู่ในช่องทางเดียว สามารถทำให้โอกาสในการเกิดเน็ตช้า, เน็ตเน่า, เน็ตใช้ไม่ได้, ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ

เบื้องต้นเราได้เกริ่นถึงข้อดี ข้อเสีย กันไปแล้ว แต่หากยังนึกถึงภาพการทำงานของระบบ ซิงเกิ้ล เกตเวย์ไม่ออก อยากให้ทุกคนมองภาพการใช้โซเชียลมีเดียของประเทศจีน

ซึ่งปัจจุบันประเทศจีนได้มีการใช้ระบบ ซิงเกิ้ล เกตเวย์ ในการตรวจสอบ, สกัดกั้น, ติดตาม การใช้งานด้านอินเตอร์เน็ต จนทำให้ไม่สามารถใช้งานเว็บไซต์หลายๆ เว็บไซต์ได้ ไม่ว่าจะเป็น facebook, Youtube หรือ เว็ปไซต์ที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศอื่นๆ

ต่อจากนี้คงมีคำถามต่อว่า หากประเทศไทยนำระบบดังกล่าวมาใช้แล้ว จะถูกปิดกั้นการเข้าถึงโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยม เช่น facebook หรือ เว็ปไซต์อื่นๆ แบบประเทศจีนหรือไม่

ถึงแม้ว่าล่าสุดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้ออกมาชี้แจง ในเรื่องของการดำเนินการว่า จะต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด โดยจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ ไม่เกิดความขัดแย้ง อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเพียงแต่สั่งให้ทำการศึกษาเรื่อง ซิงเกิ้ล เกตเวย์ ตามที่มีผู้เสนอในบริบทของความมั่นคงเท่านั้น โดยยังไม่มีการระบุว่าจะใช้ระบบดังกล่าวแน่นอน

แต่สุดท้ายคงต้องติดตามกันต่อไปว่า ปมความขัดแย้งของการทำ ซิงเกิ้ล เกตเวย์ จะจบลงด้วยดีหรือไม่ และ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการหาทางออกกับความขัดแย้งนี้ต่อไปได้อย่างไร

ข้อมูลประกอบ  //www.zcooby.com/single-gateway-effect-for-
thailand-internet-user

ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ news.mthai.com

MThai News