อีกซักครั้งกับภูเก็ต . ทำตัวไฮโซพักที่เอวาซอน ^^
เราก็ไม่ได้ชอบภูเก็ตมากนัก แต่ชะตาชีวิตคงถูกกะจังหวัดนี้ ไปภูเก็ตมาหลายรอบแล้ว 5 รอบได้ (ขนาดไม่ได้ชอบมากนะ) คราวนี้เพื่อนชวนไป จองห้องพักงานเที่ยวไทยไว้ เลือกที่ Evason - Phuket ห้อง studio ได้ที่ราคา 3800 เตียงเสริมสำหรับบุคคลที่ 3 อีก 1500 บาท ขอแค่ได้ชื่อว่าพักเอวาซอนก็พอแล้ว เอาห้องต่ำสุดก็ได้ ฮ่าๆ เดินทางโดยนกแอร์ ก่อนออกมี sms มาบอกว่าเลื่อนเวลาเดินทางไปอีก 1 ชั่วโมง อุตส่าห์เลือกไฟล์ทเช้าสุด จะได้มีเวลาลัลล้าเยอะหน่อย กว่าจะไปถึงภูเก็ตก็เกือบเที่ยง มื้อแรกที่ภูเก็ตคือร้านหมี่สะปำ อันซ้ายคือหมี่สะปำ อันขวาคือ โอต๊าวนั่งรถจากสนามบินนานมากๆ หลับไปหลายตื่นกว่าจะถึงรีสอร์ทเอวาซอน ที่ทางเข้า แล้วก็ส่วน check-in ค่ะ สวยเนอะ เริ่มตื่นเต้นละ เนื่องจากเราไปกัน 3 คน เค้าเกิดใจดี upgrade ห้องให้ เป็น Deluxe Garden View ใหญ่กว่า Studio อิอิ โชคดีไป นี่ห้องนอนค่ะ ก่อนที่เค้าจะเปลี่ยน day bed ออกแล้วเอาเตียงมาใส่แทนส่วนห้องน้ำก็กว้างมาก มีอ่างล้างหน้า 2 ฝั่ง มีอุปกรณ์อาบน้ำครบครัน ที่ชอบมากคือ Body Lotion กลิ่นตะไคร้ จริงๆ กลิ่นตะไคร้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสบู่ แชมพู โลชั่น ชอบๆๆๆๆ อ่อ แล้วตู้เสื้อผ้า ก็มีเสื้อคลุม มีไม้แขวนเสื้อ ขอบอกว่าไม้แขวนเสื้อเยอะมากกกกกกกกกกจัดการเก็บของ แล้วออกมาเดินเล่น เอวาซอนที่นี่เค้ามีเกาะส่วนตัว ชื่อว่า เกาะบอน มีแต่ลูกค้าเอวาซอนที่ไปได้ ฟรีค่ะ นี่ออกมารอเรือไปเกาะบอน แดดเปรี้ยงมาก ฟ้าสีสวยตัดกะทะเลใสๆ มาถึงแล้วค่ะเกาะบอน คาดว่าเราและเพื่อนจะเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยแค่กลุ่มเดียว ที่นอนเกลื่อนกลาดอาบแดดอยู่ที่ฝาหรั่งทั้งนั้น ที่เกาะมีอาหารให้บริการ (แต่เสียเงินนะ) มีห้องน้ำ มีเตียงนอน ไว้ชิลด์ๆ อ่ะ เราก้อนอนเล่นไป ฟัง i-pod ไป ขอแนะนำให้หาเพลงแนวๆ bossa ไปฟัง ได้อารมณ์ชิลด์มากๆ น้ำทะเลที่เกาะบอนใสมากๆ ยืนแถวตื้นยังมองเห็นปลาเต็มเลย แล้วน้ำก็ค่อยๆลดลง จนเหลือให้เห็นแต่ซากปะการังอ่ะค่ะ เยอะมากๆ นี่แค่ 4 โมงเองนะ น้ำลงไปเยอะมากแล้วกลับมาที่รีสอร์ทค่ะ ต้นไม้เยอะดีค่ะ รีสอร์ทกว้างมาก จะไปไหนมาไหนที่ต้องอาศัยรถกอล์ฟอ่ะภาพสุดท้าย เก็บบรรยากาศแถวๆห้องอาหารค่ะ ห้องอาหารที่นี่ติดทะเล วิวสวยมาก และที่สวยกว่าอีกคือสระว่ายน้ำอ่ะ ไม่มีขอบ มองไปเหมือนเป็นอันเดียวกะทะเลอ่ะ สวยมั่กๆ ชอบนะเอวาซอน ห้องพักสวยดี แถมมีอุปกรณ์อาบน้ำครบครัน พนักงานบริการดี อาหารเช้าก็เยอะดีนะ แต่เสียดายไม่มีซูชิ ฮ่าๆ
Haven รีสอร์ท hip hip ที่หัวหิน
ถือเป็นรีวิวดองเค็มได้เลย จริงๆไป HAVEN - HUAHIN มาตั้งแต่มิถุนาปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะมีเวลารวบรวมรูปและมาเขียนลง blog การไปเที่ยวครั้งนี้ ก้อเหมือนเดิมค่ะ มาจากงานไทยเที่ยวไทยตอนต้นปี จริงๆไม่เคยรู้จัก Haven มาก่อน แต่เห็นไปออกบูธที่ศูนย์สิริกิต ตอนที่เค้าไปออก รีสอร์ทยังสร้างไม่เสร็จเลยอ่ะ ตอนนั้นเรากะเพื่อนก้อสองจิตสองใจ จะจองดีมั้ยหว่า แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างโอเค เมื่อเทียบกับความหรูของห้อง พวกเราก้อตัดใจจองทันที อิอิ เราเลือกพักแบบห้อง Suite ได้มาในราคา 7000 แต่ต้องพักวันธรรมดาเท่านั้น ห้อง Suite มี 2 ห้องนอน แถมมี pool หน้าบ้านด้วย นี่แหละที่อยากได้ ลองดูแล้วราคาต่อคนไม่แพงเท่าไร พอรับได้ มาถึงรีสอร์ท ต้องตื่นตาตื่นใจกะวิว มองไปก้อเห็นทะเล อยู่ไม่ไกล บ้านแต่ละหลังจะมีชั้นบนให้ไปนั่งเล่นด้วยนี่ค่ะ ประตูเข้าบ้านพวกเราอิอิ เข้ามาเจอสระหน้าบ้านเลยค่า อยากจะลงใจจะขาดดดดด นี่เป็นห้องนอนใหญ่ นอนเตียงนี้ มองออกไป เจอสระน้ำ โอ้วมันยอดมากห้องนอนนี้มีอ่างน้ำใหญ่ไว้ให้แช่ด้วยค่ะ เสียดาย ไม่ open airอีกมุมค่ะมีโต๊ะทำงานให้ด้วยค่ะ แถมมีสายต่อเล่น internet ได้ด้วยมีชา กาแฟให้บริการมีทีวีจอแบน แต่ต้องเอียงคอดูอันนี้เป็นอีกห้องนึง เปิดทะลุกันได้ เตียงไม่ใหญ่เท่าห้องที่แล้วมีทีวีจอแบนเหมือนกัลล์ออกมาเริงร่าหน้าบ้านดีกว่า อยากโดดลงสระแย้ว อีกมุมของสระ ส่วนตั๊ว ส่วนตัวเก้าอี้นั่งพักหน้าบ้านข้างบ้านจะมีที่นั่งอีกที่ จริงๆ เอาไว้ถ่ายรูป 555นี่เดินมาสำรวจดาดฟ้า มีที่นั่งพักอีกเช่นเคย เอาไว้ชิลด์ ชิลด์ นั่งมองดาวยามค่ำคืนออกนอกบ้านมาสำรวจรีสอร์ทกันหน่อยเจอสระน้ำใหญ่ของรีสอร์ทค่ะก่อนลงสระ อาบน้ำก่อนนะชอบสระที่นี่มากกกกก แช่น้ำไป นั่งมองทะเลไป Infinity edge นี่ก้ออีกมุม เดินลงบันไดไป ก้อเหยียบทะเลแล้วฟ้าใสดีมั้ยนี่แวะมาห้องอาหารวันธรรมดาไม่ค่อยมีคนเล้ยอาหารเช้าค่ะ เพิ่มโปรตีนกันหน่อยน้ำผลไม้อาจจะดูอาหารไม่อลังการนะคะ เพราะเราไปวันธรรมดา เหมือนว่าเค้าจะไม่ได้ทำเตรียมไว้ คือให้สั่งเป็นคนๆไปอ่ะค่ะ รวมๆแล้วถือว่าคุ้มนะคะ กะราคา 7000 ต่อห้อง แวบไปดูราคาในเวบไซค์เค้ามา เฮือกกกก จะเป็นลม คิดตั้ง 17000 แหนะค่ะ ถ้าไม่ได้ซื้อที่งานเที่ยวไทย ชาตินี้คงมิมีปัญญาไปเองแหงๆที่ชอบที่สุดคือ private pool นี่แหละค่ะ ชิลด์ได้ใจ
เมษาสุดหรรษา...ลันลันล้า...เริงร่า ณ เกาะหลีเป๊ะ
หลีเป๊ะเป็นทะเลที่อยากไปเยือนมากที่สุดในประเทศไทย ไม่ใช่อะไรหรอก ไปมาเกือบหมดแล้ว ทั้งหมู่เกาะสุรินทร์ นางยวน เกาะเต่า เกาะช้าง เกาะกูด สมุย เสม็ด ภูเก็ต ไปมาหมดแล้ว เหลือที่หลีเป๊ะนี่แหละ ไกลที่สุด แล้วได้ข่าวว่าสวยมากๆ ด้วยความเป็นคนรักทะเลเป็นชีวิตจิตใจ จะพลาดได้ยังไงจริงมั้ย เมื่อรวมสมัครพรรคพวกได้แล้ว (ล่วงหน้า 3 เดือนเลย) ก้อไปเดินงานเที่ยวไทย ไปหาแพคเกจทัวร์ กะตั๋วเครื่องบิน ก่อนไปศึกษาจากห้อง Blueplanet อย่างละเอียด มีรีวิวกันทู๊กวัน จนต่อมอยากเที่ยวทำงานตลอดเวลา เนื่องจากฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลฝั่งอันดามันจะหมดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม พวกเราเลยตัดสินใจไปปลายเดือนเมษา ถึงแม้จะเป็นเมษาหน้าร้อน ฟ้าฝนก้อแปรปรวนเหลือเกิน กรุงเทพฝนตกหนักทุกวันเลย ไอ้เราก้อได้แต่ภาวนาว่าไปถึงที่นั่นอย่าตกเลยนะ อุตส่าห์ตั้งใจไป ถ้าฝนตกนี่เซ็งโคดๆเลย ตอนไปสนามบินดอนเมืองเนี่ย ฝนตกหนักมากๆ พวกเราเกาะนกแอร์ไปค่ะ ไปลงหาดใหญ่ เลือกเที่ยวเช้าสุด ออกจากดอนเมือง 6 โมงเช้า จะไปถึงหาดใหญ่ 7.25 น. ค่ะ นี่ถ่ายจากบนเครื่องค่ะ ดูจากตรงนี้ไม่รู้หรอกว่าข้างล่างอากาศเป็นไงแต่.......เครื่องลงที่หาดใหญ่ไม่ได้ค่ะ เพราะทัศนวิสัยไม่ดี เลยต้องไปจอดภูเก็ตก่อน รอตั้งชั่วโมงแหนะ สรุปแล้วไปถึงหาดใหญ่ 9 โมงกว่าๆ ถึงแล้ว เจ้าลำนี้แหละพามาส่งลืมบอกไปว่าเราซื้อแพคเกจทัวร์ของอาดังซีทัวร์ค่ะ แบบ 4 วัน 3 คืน จริงๆต้องเดินทางไปท่าเรือปากบารา จ. สตูล กันเอง แต่ว่าทัวร์เค้าบอกว่ามีบริการรถตู้วิ่งจากหาดใหญ่ไปปากบารา ซื้อกะเค้าจะได้เที่ยวละ 200 บาทต่อคน ก้อโอเคนะ ไม่ง้านต้องเหมารถออกจากสนามบิน ไปขึ้นรถตู้ที่ท่ารถ วุ่นวายอ่ะ ใช้เวลาเดินทางจากหาดใหญ่ไปตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าๆแหนะ ถึงท่าเรือตั้ง 11 โมงเกือบครึ่ง จริงๆ ตามโปรแกรมต้องถึงตั้งแต่ 10.30 แล้วเรือจะออก 11 โมง เพราะอากาศไม่ดีเลยทำให้พลาดเรือ 11 โมง เซ็งไปเลยกว่าจะได้ออกปาไปเที่ยงนิดๆ จุดแรกที่แวะคือเกาะตะรุเตา จริงๆ ตามโปรแกรมเค้าจะให้ลงเดินเล่นซักพัก แต่ว่าเราช้าไปชั่วโมงกว่าๆแล้ว เค้าเลยให้ลงไปถ่ายรูปแป๊บเดียว เหมือนว่า ชั้นว่ามาถึงแล้วนะนี่บรรยากาศรอบๆเอ๊ะทำไมมองไปอีกทางมันดูทะมึนๆอยู่แค่แป๊บเดียวเองค่ะ แล้วก้อมุ่งหน้าไปหลีเป๊ะ เรือเราหวานเย็นมากค่ะ ไม่ได้เป็น speed boat อย่างคนอื่น ในที่สุด ณ เวลาบ่าย 3 โมง เราก้อมาถึงหลีเป๊ะจนได้ นั่งเรือซะก้นแฉะ 3 ชม. อ่ะคิดดู เราเลือกพักที่ เมาเท่นวิวรีสอร์ท นี่กำลังจะถึงแย้ว ที่พักอยู่บนเขาอ่ะ ต้องตรากตรำไต่เขาขึ้นไป เหนื่อยมากๆ แต่.........พอขึ้นไปถึง วิวสวยมากกกกกกกกกกกกกกกอีกรูป วิวมุมกว้างมองแบบ 180 องศาอ่ะ ทะเลสวยจริงๆดูนะ ต้องไต่บันไดขึ้นมาตั้งสูงทะเลสีฟ้าเชียว ท้องฟ้าก้อใสกิ๊ง ไม่มีฝนแม้แต่น้อย โชคดีจริงๆทะเลอีกซักรูปนี่ทางเดินไปบ้าน เราไม่ได้พักบ้านหน้าสุดหรอก อยู่แถวหลังๆโน่น เป็นห้องแอร์ คืนละ 1200 บาทมองย้อนกลับไป นั่นคือห้องอาหารค่ะทีนี้ลงมาเดินเที่ยวเล่น หาดนี้จะเห็นเสาปักอยู่ เหมือนเสาโทริอิที่ญี่ปุ่นมะ 5555 (เทียบไม่ได้หรอก)นี่เดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งของเกาะ คนเยอะเหมือนกัน จำไม่ได้ว่าเรียกว่าหาดอะไร แต่ว่าเป็นหาดฝั่งที่พักชื่อบันดาหยาเดินเล่นไปเรื่อย รับลมทะเล จนเย็น หาดที่เราพักจะเห็นตะวันตกดินด้วย คนมารอดูเต็มเลยมืดลงเรื่อยๆเราชอบรูปนี้เป็นพิเศษจ้องตะวันจนแสบตาเลยหมดวันนึงละ ส่วนใหญ่หมดไปกับการเดินทาง คิดดูนะออกจากบ้านตี 5 เพื่อมาขึ้นเครื่อง มาถึงหลีเป๊ะตอนบ่าย 3 (-_-)ตื่นมาอีกวัน ก้อได้ไปดำน้ำแล้ว แพคเกจที่ซื้อมาเป็น 4 วัน 3 คืน จะดำน้ำ เต็มๆเลย 2 วัน ดำกันให้เบื่อไปเลย พาหนะเป็นเรือหางยาวค่ะ จุดแรกมุ่งหน้าสู่ร่องน้ำจาบัง ที่ขึ้นชื่อเรื่องปะการังเจ็ดสี มาถึงแล้ว น้ำเชี่ยวมากๆ เค้าจะมีทุ่นและเชือกให้เกาะ คนจะเยอะมากๆ เพราะใครๆที่มาหลีเป๊ะ ก้อต้องมาดูจุดนี้ ก้มหน้าลงไปดำ เจอแบบนี้เลยค่ะ สีสันจัดจ้านมากๆดำอยู่ซักพักก็รู้สึกเหนื่อย ทั้งๆที่เกาะเชือกตลอดนะ แต่น้ำแรงมากๆ ซัดไปซัดมา จนเหนื่อยจุดต่อไปคือเกาะหินงามนี่มาเรือพามาถึงแล้ว มองลองไป เจอหินสีดำๆ น้ำใสแจ๋วเกาะนี้หินเป็นแบบนี้ทั้งนั้นเลยยิ่งถ้าหินโดนน้ำนะ ยิ่งเงา ยิ่งสวยมาถึงที่นี่ทุกคนต้องมานั่งเรียงหินให้ได้สูงๆเค้ามีความเชื่อว่าถ้าเรียงหินได้ 12 ก้อน จะดีต่อความรัก ถ้าได้ 13 ก้อนจะดีเรื่องการงานค่ะมองดีๆจะเจอหินรูปหัวใจ เราชอบเกาะหินงามจริงๆเลย อยู่ได้โดยไม่เบื่อ อยู่ได้ซักชั่วโมง ก้อเดินทางต่อ มุ่งหน้าสู่เกาะหินซ้อน ที่นี่เค้าแวะให้ถ่ายรูปเฉยๆ น้ำแรงมากๆแถวนี้ต่อจากนั้นก้อแวะดำน้ำอีกหลายจุด นี่จะโพสต์ภาพใต้น้ำทีเดียวเลยนะ เห็นความสมบูรณ์ของโลกใต้ทะเลมากๆ ทั้งปะการัง ฝูงปลา เจอปลาตัวใหญ่ๆเต็มเลย ที่ประทับใจคือเจอปลาสิงโต แถมดอกไม้ทะเลก้อเยอะมาก มีนีโม่เต็มไปหมดต่อมาไปแวะพักทานข้าว (กล่อง) ที่เกาะรอกลอย (ไม่รู้เหมือนกันว่าอ่านว่า รอก-ลอย หรือ รอ-กลอย แต่พี่ไกด์บอกว่า รอ-กลอย) ขอบอกว่าที่เกาะนี้สวยมากกกกกกกกกกกกกกกก คือแบบน้ำใส ฟ้าใส มองไปมีสีฟ้าเข้ม อ่อน ตัดกันสวยมากๆ นับว่าเป็นเกาะที่ชอบที่สุดในทริปนี้อ่ะเกาะนี้จะมีพร๊อพให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลย มีทั้งเถาวัลย์ ชิงช้า โขดหินอยู่ที่นั่นซักชั่วโมงค่ะ กินอิ่ม+ถ่ายรูปเพลิน ได้เวลาไปต่อ คราวนี้ไปแวะที่หาดทรายขาว เกาะราวีค่ะ หาดนี้ก้อจะมีพร๊อพไว้ถ่ายรูปอีกเยอะค่ะ โดยเฉพาะต้นไม้ที่ล้ม แล้วพวกลำต้นมันพาดลงทะเลอะค่ะ พวกเราก้อไปนั่งเก๊กทำท่าชวนฝันที่ขอนไม้ได้ น้ำที่นี่ก้อใสมากๆค่ะ นี่ขนาดยืนอยู่ริมทะเล ยังเห็นปลาว่ายชัดขนาดนี้ นี่บรรยากาศด้านหน้าของเกาะบนเกาะนี้จะมีน้ำยืนให้อาบด้วย เหมือนกับว่าเค้าต่อท่อมาจากน้ำตกข้างบนอ่ะ ห้องอาบน้ำกลางแจ้งนี้มีน้ำไหลตลอดเวลาทะเลอีกซักรูปต่อจากนั้นก้อไปดำน้ำ พรุ่งนี้ก้อดำอีกเกือบ 10 ที่ ถ่ายรูปใต้น้ำมา จำไม่ได้ว่าปลาตัวนี้เจอที่อ่าวไหน แหะๆ จริงๆแล้วหลายๆเกาะก้อเห็นปะการังกะปลาคล้ายๆกันนะ มีทั้งหอยมือเสือ (ยักษ์) ปลานีโม่ ดาวมงกุฎหนาม (ตัวกินปะการัง) ปะการังขนนก กัลปังหา (เยอะมากๆ เยอะกว่าที่เห็นที่หมู่เกาะสุรินทร์อีก) นี่คือสรุปที่ที่ไปดำน้ำมาทั้ง 2 วันวันแรก1.ร่องน้ำจาบัง 2.ร่องน้ำหินซ้อน3.เกาะหินงาม 4.เกาะไผ่5.เกาะรอกลอย6.เกาะดง7.เกาะราวี วันที่สอง1.หลังเกาะหินงาม 2.เกาะยาง 3.เกาะราวี 4.เกาะยาง 5.เกาะอาดัง (ข้างๆ)6.เกาะอาดัง (ข้างหน้า)7.เกาะหินขาว8.เกาะกระ คุ้มมากกับการมาเที่ยวหลีเป๊ะครั้งนี้ จากที่กลัวฝนจะตก มาถึงที่นี่ อยู่มา 4 วัน 3 คืน ไม่มีตกซักนิด โชคดีชะมัด แต่พอขากลับขึ้นฝั่งที่ปากบารานะ ตกใหญ่เลย รวมถึงตลอดทางจากสตูล กลับไปหาดใหญ่ด้วย อ่อ ระหว่างรอขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพก้อตกอีก และยิ่งไปกว่านั้นกลับมาได้ 3-4 วัน ก้อได้ข่าวเรื่องพายุไซโคลนนาร์กีส พัดถล่มพม่าและฝั่งอันดามันของไทย เรายังคิดเลยว่า โชคดีจริงๆ ที่ได้เที่ยวหลีเป๊ะอย่างปลอดฝน และปลอดภัยกลับมา แม้ว่ากลับมาผิวหนังจะเยินด้วยรอยแตนทะเลกัด แต่ก้อถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีและน่าจดจำหลีเป๊ะเป็นอีกทีนึงที่คนรักทะเลไม่ควรพลาด เป็นสวรรค์ย่อมๆสำหรับคนรักโลกใต้น้ำเลยเชียวแหละ ขอบคุณเพื่อนผู้น่ารัก สำหรับรูปถ่ายอันแสนสวย ทั้งบนดินและใต้น้ำ
~~รีสอร์ทแสนสวย AANA Resort & Spa @ เกาะช้าง ~~
เกาะช้างอีกแล้วค่ะงานนี้ AANA Resort & Spa ตั้งอยู่บนหาดคลองพร้าว เพื่อนๆคงรู้ว่าไม่ติดทะเล แต่รีสอร์ทนี้ติดคลองค่ะ อันนี้ทางเข้าหน้ารีสอร์ทค่ะนี่เป็น Reception area ค่ะเราพักห้อง AANA Top View Villa Room โชคดีมากๆ ที่ได้ห้องหน้าสุด เห็นเค้าว่าวิวดีที่สุดในรีสอร์ท นี่ทางขึ้นค่ะ ห้องเราอยู่ชั้น 3กุญแจห้องพัก เราพักห้อง 704เข้าไปก้อเจอเตียงสุดหรู กะมุ้งแสนหวาน ห้องจะเป็นทรงกลมอ่ะค่ะ ชอบมากๆตรงที่หัวเตียง พอเปิดม่านปุ๊บ เห็นวิวแจ่มมากๆปั๊บ มีเจ้าช้างน้อย 2 ตัว ต้อนรับอยู่มีทีวี ดีวีดี ด้วยค่ะ ใครจะไป เอาแผ่นหนังไปด้วยนะคะเข้าไปสำรวจห้องน้ำกันหน่อย มีไดร์เป่าผม กะของใช้ในห้องน้ำครบครันผ้าเช็ดตัวมีพร้อม สะอาดด้วยมีแชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำ โลชั่นทาผิวเปิดหน้าต่างห้องน้ำออกไป เจอ Jacuzzi ค่ะ บรรยากาศดีมากๆ เพราะไม่มีอะไรบดบังวิวเลยค่ะเดินออกมาที่ระเบียง เห็น Jacuzzi จริงๆ ไม่ใหญ่มากนะคะ แต่ก้อพอได้แช่ 2 คน แต่เราก้อไม่ได้แช่หรอกค่ะ เพราะน้ำเย็นยะเยือก ได้แต่เอามือไปแตะๆ อยู่ที่ระเบียงก้อมองวิวได้รอบด้านเลยค่ะ ด้านซ้ายเป็นห้องพักแบบ Villa ส่วนตรงกลางที่สูงๆอันนั้นเป็น Hill Bar ส่วนทางขวาที่เป็นตึกๆ เป็นแบบ Deluxe ค่ะZoom In ห้องแบบ Villa มี Jacuzzi ด้วยค่ะอันนี้เป็น Deluxeอันนี้เป็นห้องเพื่อนบ้านแบบ Top View Villa อันนี้เป็นหลังที่ 2 จะมีแบบนี้อยู่ 3 หลังมองไปด้านซ้ายจะเห็นวิวคลองค่ะ แล้วสุดคลองก้อจะเห็นทะเลค่ะ ไม่ไกลเลยนี่สระว่ายน้ำค่ะ มี Jacuzzi ด้วยค่ะ แถมมีน้ำตกด้วยก่อนลงสระต้องล้างตัวก่อนนะคะอันนี้เดินไปสำรวจรอบๆรีสอร์ทค่ะ อันนี้เป็นสระว่ายน้ำที่ Hill Barว่ายน้ำไป เห็นวิวมุมสูง สวยมากๆนี่เป็นห้องน้ำที่ Hill Barที่นี่มีสปาชื่อ AAR Spa อยู่ริมคลองเลยค่ะ นวดไป ดูวิวไป นี่เป็นศาลา เอาไว้นวดไทยค่ะ อยู่ริมคลองเหมือนกันนวดเสร็จ ก้อมาดื่มน้ำชาค่ะกิจกรรมที่มีบริการคือนั่งเรือหางยาวไปทะเลค่ะ หรืออีกทางเลือกคือพายคายัคไปเองค่ะ คิดว่าใครที่มาแล้ว ต้องพายทุกคนแหละ จากรีสอร์ทไปทะเล ก้อประมาณ 10 นาที ไม่ไกลมาก น้ำนิ่งด้วย พายไม่ยากค่ะ ดื่มด่ำธรรมชาติริมคลองอันนี้ร้านภูทะเล นี่ครัวไอยราอันนี้ไม่รู้ไว้ทำอะไรค่ะ แต่เห็นป้ายเขียนว่า Keerata Lagoonใกล้จะสุดคลอง ออกทะเลแล้วค่ะ พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วด้วยในที่สุดก้อมาถึงหาดค่ะ มีชิงช้า เตียง เปล ห้องน้ำ ร้านขายอาหาร+น้ำให้บริการด้วยค่ะ เหมาะกะการมานั่งเล่น นอนเล่น อ่านหนังสือ เล่นน้ำทะเลค่ะมองย้อนกลับไปทางรีสอร์ท เห็นห้องพักเราอยู่ลิบๆ นี่ค่ะ พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว หาดนี้เหมาะกับการชมพระอาทิตย์ตกนะ จบแล้วค่ะ สรุปแล้วประทับใจรีสอร์ทนี้ค่ะ ห้องพักสวยดี ได้ห้องหน้าสุด วิวดี เลยปลื้มเป็นพิเศษ แต่เสียอย่างเดียว ไม่ได้แช่ Jacuzzi ที่มี เพราะน้ำเย็นจัด เสียของจริงๆ ที่นี่บริการดีนะค่ะ อาหารเย็นที่ห้องอาหาร Cinnamon ก้ออร่อยดีค่ะ ส่วนอาหารเช้า ต้องขอโทษด้วย ไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่มีพวกไข่ แฮม เบคอน ไส้กรอก ขนมปัง มีข้าวต้มด้วยค่ะ (ในที่สุดก้อได้กิน หลังจากที่สยามบีชไม่มีข้าวต้มให้ 555) อ่อ มีขนมครกด้วยนะคะ ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ติดทะเล แต่เราว่าบรรยากาศเค้าดีมากๆ ในรีสอร์ทต้นไม้เยอะ มองไปทางไหนก้อสวยไปหมด มีวิวคลอง แล้วอีกไม่กี่อึดพาย ก้อได้ไปเหยียบทะเล พักที่นี่ได้ 2 อารมณ์นะเราว่า ทั้งคลอง และทะเล แจ่มไปอีกแบบ ไปแล้วรู้สึกอยากกลับไปอีกอ่ะ จริงๆนะถ้าใครสนใจพัก ลองเข้าไปดูที่เวบไซค์เค้านะ //www.aanaresort.com/accom.html เค้าจะมี Special Offer ตลอด เราก้อจองตรงกะเค้านี่แหละ ไม่ได้ผ่านเอเจนท์หรอก เพราะดูแล้ว จองตรงถูกกว่าจบจริงๆแล้วค่ะ ไว้ทริปหน้าไปล่องทะเลที่ไหนอีก จะมารีวิวนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ
นั่งชิวริมทะเลกับหาดที่ชื่อ Lonely Beach ณ สยามบีชรีสอร์ท เกาะช้าง
นี่เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ได้ไปเกาะช้าง ปกติไปเกาะช้างก้อซื้อจากงานเที่ยวไทยตลอด ราคาเลยไม่แพงมากนัก แต่นี่เกิดอยากไปกะทันหัน ไม่มี voucher แล้ว เลยต้องหาที่พักเอง ไม่ได้ rate พิเศษซะด้วย ตอนแรกก้อไม่ได้คิดจะพักที่สยามบีชหรอก แต่พอดีที่พักที่อยากไปมันเต็มอ่ะ เลยต้องหาที่สำรอง ลองดูเวบไซด์เค้าแล้วก้อดูดี แถมติดทะเลด้วย ห้องพักไม่แพงลากเลือดเหมือนที่อื่นๆ ก้อเลยตัดสินใจไปพักค่ะ ก่อนไปก้อหาข้อมูลจากห้อง BP เหมือนกัน แต่ไม่เจอกระทู้รีวิวที่นี่เลย สงสัยจะไม่ฮิต อิอิ เอารูปมาฝาก เผื่อใครสนใจจะไปบ้าง เริ่มเลยแล้วกัน สยามบีช อยู่ที่หาด Lonely Beach ถามคนที่รีสอร์ทแล้ว เค้าบอกว่าไม่มีชื่อภาษาไทยอ่ะ อยู่เลยจากจุดชมวิวมา ทางที่วิ่งจากหาดไก่แบ้ไปบางเบ้าค่ะ ผ่านโค้งตัวเอส น่ากลัวๆ มา จะเจอรีสอร์ทนี้อยู่ซ้ายมือ ติดถนนเลย เราเลือกพักห้องที่ Building A ราคาห้องคืนละ 2500 บาท รวมอาหารเช้า แต่ละ building จะมี 2 ชั้นค่ะ เราพักชั้น 2 ค่ะ นี่ทางขึ้นห้อง จะสังเกตว่า ห้องเนี่ยติดกะถนนเลยอ่ะ เวลารถวิ่งผ่านไปผ่านมา แอบรำคาญหงะ เข้ามาดูในห้องดีกว่า นี่เตียงนอน มีหงส์ 2 ตัว คอยรับแขกอยู่มีระเบียง พอดีห้องที่เราพักมีต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างหน้า เลยบดบังวิวทะเลไปนิดนึง แต่ก้อเห็นบ้างนี่ห้องน้ำ แยกเป็นห้องสุขา กะห้องอาบน้ำนี่โซนอาบน้ำ เพดานมันจะเป็นกระจกฝ้าอ่ะ (ไม่รู้เรียกแบบนี้ป่าวนะ) แต่แบบว่ารับแสงมาก ให้แนว open-air แต่จริงๆป่าวนี่ตู้เสื้อผ้า แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ตู้ งงมะ คือเค้าเอาฝาตู้มาติดระหว่าง กำแพง 2 ฝั่ง เปิดตู้มาก้อมีราวแขวนเสื้ออันนี้เหมือนโต๊ะทำงาน สังเกตหน้าโต๊ะ นั่นคือห้องน้ำค่ะ ถ้าเปิดม่านจากในห้องน้ำมานะ ก้อจะเห็นคนอาบน้ำอยู่เลย อิอิอิ ห้องก้อไม่ใหญ่มากนัก มีทีวี ตู้เย็น เตียง โคมไฟ แค่นี้อ่ะ ทีนี้ออกมาเดินเล่นข้างนอกบ้าง นี่ถ่ายย้อนกลับไปที่ตึกห้องพัก ตึกนึงมี 4 ห้อง เท่าที่จำได้ฝั่งด้านสระว่ายน้ำมีอยู่ 7 ตึก เป็น Building A - Bนี่เป็นสระว่ายน้ำ ซึ่งอยู่ด้านหน้าของ Building A สระก้อโอนะ ไม่เล็กมากอันนี้แถวๆ Lobbyข้อดีที่นี่คืออยู่ติดทะเล แล้วทะเลก้อเล่นได้ด้วย ไม่มีหิน มองไปอีกทางริมทะเลก้อจะมีตั้งโต๊ะไม้ไผ่ ไว้ทานอาหารริมทะเล กลางคืน มี BBQ ด้วย อันนี้จะเป็นอีกฝั่งนึง เป็น Building C D ดูแล้วน่าจะสงบกว่า แล้วก้อทุกห้องเห็นทะเล เพราะไม่มีสระว่ายน้ำ (ต้นไม้อาจจะบดบังเล็กน้อย)อันนี้จากห้องทานอาหารเช้า มองไปเห็นทะเลงดงาม วันนี้ฟ้าแจ่มมากอีกซักรูปหมดละ จากที่ไปพักมา 1 คืน สังเกตว่า 80-90% ของแขกที่มาพัก เป็นฝาหรั่งหละข้อเสียที่พบคือ 1.มดดำในห้องเยอะอ่ะ ทั้งในห้องน้ำ เตียงนอน สร้างความน่ารำคาญมาก (ไม่รู้เป็นห้องเราห้องเดียวป่าว) 2.อาหารเช้ามีให้เลือกน้อย มีพวกไข่ แฮม ไส้กรอก เบคอน พวกนั้น แต่ไม่มีข้าวต้ม (ที่บ่นเพราะอยากกินข้าวต้ม 5555)3.รีสอร์ทอยู่ติดถนนเลยอ่า เวลารถวิ่งผ่านไปมา เสียงดังเข้ามาถึงในห้อง ยิ่งเวลามอไซค์มานะ เสียงดังมาก 4.อ่อ ห้องที่เราพัก แอบตรงกับที่เก็บขยะพอดี จะได้ยินเสียงรถขยะมาเก็บขยะตลอด 5.เนื่องจากตึกนึงมี 4 ห้อง เวลาห้องตรงข้ามปิดประตู จะได้ยินชัดมาก ตกใจตื่นตลอดเลยอ่ะ ฝรั่งห้องข้างๆ ก้อเปิดปิดประตู สุดจะดัง (อันนี้ไม่รู้เป็นเพราะคน หรือ ว่าประตูออกแบบมาไม่ดี) ส่วนข้อดีนะ 1.อยู่ติดทะเลเลย มีหาดส่วนตัวที่ลงน้ำได้ ไม่มีหิน ค่อนข้างสะอาด ฝรั่งชอบเลย อาบแดดสบาย 2.อาหารของรีสอร์ทไม่แพงนะ คือรีสอร์ทนี้อยู่โดดเดี่ยว จะออกไปกินข้างนอกก้อต้องผ่านโค้งตัวเอสอีก ซึ่งน่ากลัวหน่อย ถ้าขับกลางคืน เราเลยต้องอาศัยกินอาหารเย็นจากในรีสอร์ท รสชาติก้อโอเค อย่างเช่น เราสั่ง สปาเกตตี้ขี้เมาทะเล ก้อจานละ 75 บาท (คือไม่แพงอย่างที่คิด)นี่เป็นแค่ความเห็นเรานะ แต่เราว่า 2500 บาทต่อคืน ก้อโอเคอ่ะ รีสอร์ทยังดูใหม่อยู่ ใครสนใจเข้าไปดูเวบไซค์ได้ //www.siambeachkohchang.com/index.html เวบเค้าดีเหมือนกันนะ มีวีดีโอคลิปให้ดูภายในห้องแต่ละแบบด้วย ก่อนจบกระทู้นี้จะพาไปกินร้านเจ๊อิ๋วซีฟู้ด อร่อยมากเลย นี่ต้มยำกุ้ง หม้อละ 120 บาทนี่กรรเชียงปูนึ่ง จานละ 300 บาท นับแล้วมีประมาณ 50 อัน สดด้วยนี่หอยเชลล์ผัดฉ่า อันนี้แนะนำเลย อร่อยมาก 120 บาทจบแล้วค่า ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมนะค้า หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังหาที่พักที่เกาะช้าง