ฝนตกในหน้าร้อนที่เกาะช้าง @ Sea View Resort
อุตส่าห์ตั้งใจจะไปทะเล เพื่ออาบแดดรับลมร้อนเดือนเมษาซะหน่อย แต่ฟ้าฝนไม่เป็นใจเอาซะเลย พายุเล่นกระหน่ำทั่วฟ้าเมืองไทยทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา เหมือนกับว่าหนีฝนจากกรุงเทพ เพื่อไปรับฝนที่เกาะช้าง แต่ในเมื่อวางแผนไว้แล้ว จะหันหลังกลับได้ไงจริงมะ เราไปพักที่ Sea View Resort & Spa ซื้อห้องพักจากงานไทยเที่ยวไทย ไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว (จริงๆ ก้อแค่กลางปีที่แล้ว) หมดเขตเดือน พค. ที่จะถึง เราก้อนึกว่าจะไม่ได้ใช้ซะแล้ว ราคาห้อง Deluxe 3000 บาทรวมอาหารเช้า (ราคาเต็ม 4000 บาท) มัดจำไว้คืนนึง มีสิทธิ์เพิ่มห้องได้อีกไม่เกิน 3 ห้อง ที่เลือกที่นี่เพราะอ่าน comment คนในห้อง Blueplanet หลายคนแล้ว เห็นประทับใจ Sea View Resort กันทั้งนั้น เลยขอลองบ้าง เริ่มเลยละกัน เราออกจากกรุงเทพตอนบ่ายโมงครึ่ง ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ เสียค่าผ่านทาง 60 บาท ไปถึงเกาะช้างเฟอร์รี่ตอน 6 โมงครึ่ง (มีแวะกินข้าวระหว่างทางประมาณ 1 ชม.) ฝนตกหนักมากช่วงจันทุบรี-ตราด ตกแบบไม่เห็นทางอะ เห็นแต่ไปรถคันหน้ากระพริบๆ เลยวิ่งได้ 40-60 กม./ชม. อยู่ช่วงนึง เสียเวลามากๆ ตอนนั้นกลัวจะขึ้นเฟอร์รี่ไม่ทันเราขึ้นที่เกาะช้างเฟอร์รี่ รถไปกลับราคา 200 คนไปกลับคนละ 120 (แพงเหมือนกันนะ) เท่าที่จำได้ ไปเกาะช้างเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ยังไม่แพงเท่านี้เลย (เอ หรือเราจำผิด) ไปถึงเกือบหกโมง เห็นเค้าว่าเรือออกทุก ชม. ก้อกะว่า 6 โมงคงได้ออก ที่ไหนได้รอตั้งครึ่งชม. กว่ารถจะเต็ม ได้ออกจริงๆ ก้อหกโมงครึ่ง รูปซ้ายมือที่เห็นหนะ จริงๆ ฝนตกนะ แต่แอบมีแดดหน่อยนึง พระอาทิตย์กำลังตก ส่วนอันขวารอรถขึ้นเรือ ภาวนาให้เต็มเร็วๆ จะได้ไปซักทีใช้เวลาเดินเรือประมาณครึ่งชั่วโมงเอง ชอบเกาะช้างก้อตรงนี้ ใกล้ดี ขึ้นเรือที่อ่าวสับปะรด มุ่งหน้าสู่ Sea View Resort ที่หาดไก่แบ้ เค้าบอกว่าห่างจากท่าเรือประมาณ 20 กิโล ขับขึ้นเขาตอนกลางคืน ออกจะน่ากลัวหน่อยนึง ใครที่เคยขับรถขึ้นเกาะคงทราบดี ทางบนเกาะช้างทั้งชันและมีโค้งหักศอกหลายอัน ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก้อมาถึงที่รีสอร์ท ระหว่างทางตะหงิดๆใจว่าไฟดับแน่เลย เพราะผ่านมาเห็นร้านค้าจุดเทียนกันทั้งนั้น คงไม่ได้เพื่อความโรแมนติกหรอก พอมาถึงรีสอร์ทก้อไฟดับจริงๆ แต่ที่นี่มีไฟสำรอง เราเลยสบายใจ อันนี้เป็นที่ lobby ค่ะ พนักงานที่ front บริการดีนะคะ มาถึงแล้วห้องนอนแบบ Deluxe ห้องที่เราพักอยู่ค่อนข้างไกลอ่ะ อยู่ตึกทางด้านหลัง มี 3 ชั้น เราได้พักชั้นล่างสุด (แต่ถ้าได้ไปอีกจะขออยู่บนสุด เพราะน่าจะเห็นวิวทะเลชัดและสวยกว่า) เดินไปก้อเหนื่อยอ่ะ เลยนั่งรถกอล์ฟมา เวลาจะออกไปข้างนอก ก้อโทรเรียกรถกอล์ฟมารับ อิอิ อีกรูปของห้องนอนค่ะ รูปล่างนี่อยากให้เห็นว่าพอเดินเข้าห้องมา มันจะแบ่งเป็น 2 ส่วนซ้ายขวา ประตูด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ แบบมีโถส้วม และอ่างอาบน้ำ ส่วนด้านขวามือ ที่เห็นเป็นกระจกนี่ก้อเป็นห้องอาบน้ำเหมือนกันแบบ shower นี่ห้องน้ำชัดๆ มองจากข้างในห้องน้ำมาเตียงนอน หรือว่ามองจากเตียงมาที่ห้องน้ำ มันจะมีม่านอยู่ ไม่ต้องกลัวค่ะ คือถ้าเปิดม่านก้อจะเห็นวิวทะเลเลยหละ ถ้าปิดม่านก้อได้ แต่ว่าม่านเนี่ยอยู่ข้างนอกห้องน้ำ ถ้าอาบๆอยู่คนนอกห้องน้ำแกล้งเอาเนี่ยเป็นเรื่อง 5555 อันซ้ายนี้เป็นห้องน้ำแบบ shower จะมีม่านเหมือนกัน ส่วนประตูเนี่ยเป็นกระจกใส 555 ดูเสี่ยงเหมือนกัน อันนี้เป็นอ่างล้างหน้า หน้าห้องน้ำแบบ shower ด้านขวามือของอ่างจะเป็นตู้เสื้อผ้า มีร่ม มีตู้เซฟ มีรองเท้าอยู่ อ่อ ที่นี่มีไดร์เป่าผม กะกระติกน้ำร้อน ชา แก้วกาแฟ ไว้ให้ด้วยค่ะ ตู้ด้านซ้ายนี่สวยดีค่ะ เปิดมาเป็นตู้เย็น แต่ไอ้บานพับตู้นี่มันไม่อยู่นิ่งอะ เหมือนเปิดมาเสร็จก้อเด้งไปจะปิดอยู่ได้ ความเห็นเรา ไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งาน ภาพด้านขวานี่เป็นระเบียงนอกห้อง มีเก้าอี้ไม้ 2 ตัว นั่งมองทะเลและต้นมะพร้าว ตอนนี้เราออกมาสูดอากาศข้างนอกกันเถอะ อันนี้เป็นโซนเดียวกับ lobby จะมีบริการ Internet (ถ้าจำไม่ผิด 1 ชม. 60 บาท ขั้นต่ำ 30 นาที) มีอยู่ 2-3 เครื่อง ส่วนภาพขวาจะเป็นส่วนของห้องอาหาร อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ก้อทานที่นี่ค่ะ อาหารเย็นเปิดถึง 4 ทุ่ม เรื่องอาหารเช้าของที่นี่ ตอนเช้า 7-10 โมง ที่ห้องอาหารค่ะ เป็นบุฟเฟ่ต์ มีไข่ดาว หมูแฮม เบคอน ขนมปัง วาฟเฟิล แพนเค้ก ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว คอนเฟลก สลัด หมี่ผัด ข้าวผัด โอ๊ยเยอะมากค่ะ ที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะไปถึงก้อเกือบ 10 โมงแล้วอ่ะ ต้องรีบกิน แหะๆ (ตอนเย็นเรากินที่ห้องอาหารเค้าด้วย อาหารรสชาติดีค่ะ)อันนี้ภายนอกตึก รีสอร์ทนี้จะมีต้นไม้เยอะมากกกกกกกกก อยู่ที่นี่เห็นแต่เขียวๆ ไม่แห้งแล้ง นี่ค่ะ สระว่ายน้ำ ภาพบนนี่มองจากห้องอาหาร เค้าว่าจะสร้างสระเพิ่มอีกเร็วๆนี้ค่ะ นี่ค่ะชายหาด ภาพซ้ายนี่ถ่ายวันที่ฝนตก ภาพขวาถ่ายอีกวันตอนแดดออก น้ำทะเลที่นี่ดูไม่ใสเลยอ่า ขนาดแดดออกนะ เราก้อหวังจะได้เห็นน้ำทะเลสีฟ้า แต่ก้อไม่เห็นหงะ มันดูหม่นๆไงไม่รู้ คือไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฝนตกรึป่าว (ทะเลถึงจะไม่ใส แต่เห็นคนเล่นน้ำกันเยอะแยะเลยค่ะ หาดส่วนตัวมากๆ)แถวๆนี้มีโต๊ะปิงปองอยู่ 2 โต๊ะ ไปขอยืมไม้กะลูกที่เคาน์เตอร์สระว่ายน้ำค่ะ เราไปเล่นมา เหนื่อยมากๆๆๆๆๆ เราออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกรีสอร์ทค่ะ อันนี้เป็นทางที่จะไปหมู่บ้านประมงบางเบ้าคะ ไปทานข้าวกลางวันที่นั่น ทางแบบว่าโค้งไปโค้งมา เรานั่งดมยาดมตลอดเลยอ่ะ เวียนหัว แถมฝนตกถนนลื่นอีก อันตรายมากๆ เห็นมอเตอร์ไซค์คันข้างหน้าล้มต่อหน้าต่อตา พวกโค้งหักศอกก้อเยอะ เรามาถึงแล้วที่บางเบ้า คราวก่อนโน้นเรากินที่ร้านเรือนไทยซีฟู้ด คราวนี้เลยเปลี่ยนมั่ง เห็นเพื่อนที่ชาว blueplanet หลายคนพูดถึง The Bay เลยลองดู ทุกร้านที่นี่ก้อริมน้ำหมดเลย เรากินไป 4-5 อย่าง อาหารทะเลล้วน มีปูม้านึ่งอีก 1 กิโล ไม่กี่ร้อยเอง ราคาไม่แพง รสชาติอร่อยค่ะ (ปูจานนี้ 300 บาทค่ะ) (ที่ The Bay อาหารอร่อยค่ะ พนักงานบริการดีด้วย เอาใจใส่ คอยมาถามขาดเหลืออะไรตลอด)สุดท้ายละ ถึงเวลากลับกรุงเทพ วันนี้แดดออก ฝนไม่ตก ค่อยยังชั่ว นี่ท่าเรือรถขึ้นเฟอร์รี่กลับฝั่งค่ะ เราโชคดีไปถึงเกือบบ่ายโมง เป็นคันที่ 3 รองจากสุดท้าย นึกว่าไม่ได้ไปเที่ยวนี้ซะแล้ว ขึ้นถึงฝั่งเกือบบ่าย 2 ค่ะ กลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพอย่างที่เค้าว่ากันทะเลเวลาฝนตกมันดูเหงาๆ เนอะ แต่เป็นคนชอบทะเล ไม่ว่าฤดูไหน หนาว ร้อน ฝน เราก้อจะไป ขอบคุณนะคะที่ตามเรามาเที่ยว
2 วัน 1 คืน ณ เสม็ดคาบาน่า อ่าววงเดือน
พูดถึงเสม็ดเนี่ย ไปมาไม่รู้กี่ทีแล้ว อย่างน้อยๆก้อมี 5 ครั้งเป็นอย่างต่ำ แต่ไปกี่ครั้งก้อไม่เคยเบื่อ เหมือนกับว่าเป็นเกาะที่ใกล้กรุงเทพ เดินทางสะดวก ขับรถไม่นาน 2 ชั่วโมงก้อได้เห็นทะเลสวยๆ ได้สูดอากาศดีๆ นี่ล่ะมั้งคงเป็นเหตุผลที่เลือกที่จะไปเสม็ดบ่อยๆ คราวนี้ไปกะแก๊งค์ เลือกพักที่ "เสม็ดคาบาน่า" อ่าววงเดือน ไปจองแพคเกจมาจากงานไทยเที่ยวไทยครั้งล่าสุด ในราคา 2700 ต่อห้องต่อคืน (2 คนต่อห้อง) ถ้าไปวันเสาร์เพิ่มอีก 400 บาท ราคานี้รวมห้องพัก อาหารเช้า speedboat ไปกลับ และพายแคนู 1 ชั่วโมง ไม่รู้ราคาเต็มๆเท่าไร ออกจากกรุงเทพใช้เส้น motorway มุ่งหน้าสู่บ้านเพ ของเสม็ดคาบาน่านี่ให้ขึ้นเรือที่ท่าเรือเพ หาไม่ยากเลยอ่ะ มี 7-11 ใหญ่อยู่ตรงข้ามด้วย เรือจะออกจากฝั่งเวลา 08:30, 11:30, 15:30 น. ขากลับมีออกจากเกาะเวลา 09:00, 12.00, 16:00 น. ต้องแจ้งเค้าก่อนว่าเราเลือกจะไปเวลาไหน นั่งเรือใช้เวลาแค่อึดใจเดียว แค่ 15 นาทีก้อถึงอ่าววงเดือนแล้ว เสม็ดคาบาน่าจะตั้งอยู่ด้านขวามือของเกาะ (ถ้าหันหลังให้ทะเล) ดูแล้วบ้านสวยดีนะ อันนี้เป็น beachfront นั่งตรงระเบียงก้อมองเห็นทะเลชัดแจ๋วอันนี้ด้านหน้าของอีกห้องนึงบ้านที่เห็น 1 หลังอ่ะ จะมี 2 ห้องซ้ายขวา ถ้ามาเป็นกลุ่มๆ ก้อจองเลยทั้งหลังเก้าอี้ตัวนี้แหละ ที่ใช้นั่งชิว มองคลื่นและทะเล นี่เป็นบริเวณรีสอร์ท (ทรายที่นี่นิ่มมากเลยอ่ะ) มาเรามาเข้าห้องนอนกันดีกว่า เตียงหญ่ายยย นอนสบายอันนี้มีเตียงนั่งเล่น ถ้ามาพัก 3 คน เค้าจะให้คนที่ 3 นอนตรงนี้อะห้องน้ำก้อดูสะอาดสะอ้านดี ตอนแรกเข้าไปไม่เห็นพวกสบู่ ยาสระผมเลย ก้อนึกว่าทำไมรีสอร์ทขี้เหนียวจัง แต่จริงๆแล้วมันวางอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งหน้าห้องน้ำจ้าเวลาอาบน้ำในห้องน้ำที่นี่ ต้องคอยระวังหลัง เพราะหน้าต่างที่เค้าทำหนะ คนข้างนอกมองเห็นได้นะ หมดละภาพในห้องนอน ที่นี่ออกมาสูดอากาศยามเช้า ตื่นเช้ามาก้อไปกินอาหารเช้าที่ห้องอาหาร อาหารเช้ามีให้เลือกระหว่าง ABF กะข้าวต้ม เราเลือก ABF ก้อถูกใจนะ เพราะมีขนมปังให้ 2 แผ่น พร้อมแยมและเนย มีน้ำสัปปะรด 1 แก้ว ชา/กาแฟ/โอวัลติน 1 แก้ว ผลไม้ 1 จาน ไข่ดาว 2 ฟอง ไส้กรอก 2 ชิ้น เบคอนและแฮมอย่างละชิ้น ก้ออิ่มเลยหละ กินอิ่มแล้วก้อออกเดินเล่น แต่แดดแบบว่าแผดเผามากๆๆๆๆ ร้อนสุดๆ น่าจะ 40 องศาได้ นี่เป็นหาดวงเดือนค่ะ มองจากที่พักอีกรูปสุดท้ายที่เอามาฝากกันรวมๆแล้วถือว่าที่พักที่นี่ดีนะ ห้องพักใหม่ (แต่แอบมีมดเยอะมาก) บรรยากาศดีค่ะ น้ำทะเลก้อยังใสอยู่นะคะ ลงไปเล่นแล้วไม่คันตัว อากาศตอนเย็นๆ แดดร่มลมตก ดีมากๆ ลมเย็น นั่งชิว ฟังเพลง แนะนำให้เอา i-pod ไปด้วย เสียบหู แล้วนั่งรับลมที่เตียงผ้าใบ หรือระเบียงหน้าบ้านก้อได้ ได้ใจอย่าบอกใคร ขอบคุณที่คนที่เข้ามาชมนะคะ ถ้ามีเวลาน้อยอยากเที่ยวทะเลสวย ก้อเก็บเสม็ดไว้ในอ้อมใจนะคะ ไปเสม็ด มันก้อไม่เสร็จทุกรายร๊อกกกก
++ เกิดมาทั้งทีห้ามพลาด หมู่เกาะสุรินทร์ สุดยอดแหล่งดำผิวน้ำฝั่งอันดามัน (ภาคใต้น้ำ) ++
อันนี้ภาคใต้น้ำแล้ว อย่างที่บอกอะค่ะ เราซื้อแพคเกจไปพักที่เกาะ 4 วัน 3 คืน ไปถึงวันแรก หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ บ่ายโมงกว่าก้อออกไปดำน้ำเลยค่ะ อันนี้เป็นโปรแกรมสรุปคร่าวๆ ว่าเราไปดำน้ำเกาะไหนมาบ้าง วันที่ 1 ตอนบ่าย เกาะสต๊อร์ค, อ่าวจาก วันที่ 2 ตอนเช้า อ่าวสุเทพ, เกาะมังกร, อ่าวไม้งามวันที่ 2 ตอนบ่าย อ่าวแม่ยาย, อ่าวเต่าวันที่ 3 ตอนเช้า อ่าวช่องขาด (หรืออีกชื่อคืออ่าวสิ้นคิด), (อ่าวสับปะรด น้ำเชี่ยวมากเลยไม่ได้ลง)วันที่ 3 ตอนบ่าย เกาะตอรินลา, อ่าวผักกาดวันที่ 4 ตอนเช้า หมู่บ้านมอแกน, อ่าวช่องขาดภาค 2 นี้เป็นภาคโลกใต้น้ำค่ะ ขอออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้เป็นคนถ่ายเอง เพราะกล้องความสามารถม่ายถึงหงะ (แต่กระทู้ที่แล้ว ถ่ายเองจริงๆนะ เพราะอยู่บนบก อิอิอิ) อันนี้เป็นกล้องของเพื่อนที่ไปด้วย มันใจดีอุตส่าห์ถอยของใหม่มาเพื่อทริปนี้โดยเฉพาะ (รักแกจริงๆ) แต่มันก้อไม่ได้ถ่ายเองทั้งหมดหรอก บางอัน (ส่วนใหญ่) อาศัยให้น้องไกด์ของซาบีน่า ดำน้ำลงไปถ่ายให้ น้องเค้าเป็นทั้ง Taxi Boat คอยดึง ฉุด ลาก พาพวกเราไปดูปะการัง แถมยังคอยบอกว่าตัวนี้ปลาอะไร อันนี้ปะการังชนิดไหน แถมหน้าที่จำเป็นอีกอันคือ คอยไล่ถ่ายรูปปลากะปะการังให้พวกเรา (5555) น้องไกด์น่ารักมากๆ เกือบทุกเกาะเหมือนกันหมด รูปที่ออกมา เราแยกไม่ออกอ่ะ ว่าอันไหนของเกาะอะไร ต้องขอโทษด้วย ส่วนชนิดของปลา ถ้าบอกผิดก้อรบกวนผู้รู้ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ เพราะเกิดมาเพิ่งเคยเจอปลาพร้อมๆกันเป็น 100 ชนิดก้องานนี้อ่ะ น้องไกด์เค้าก้อคอยบอกว่า นี่ปลาอะไร แต่ขีดความสามารถจำกัด จำไรไม่ได้เลย นอกจากน้องนีโม่ 55555 เริ่มเลยนะ เกิดมาดำน้ำมาหลายที่ (แบบสน๊อคเกิล) ไม่เคยเจอน้องเต่าทะเลเลย คราวนี้โชคดีมาก เจอเต่าตัวเป้งๆ 2 ตัว นี่ปะการังไรชนิดไหนไม่แน่ใจค่ะ แต่สวยดี นี่กัลปังหาสีแดงสวยสด ใหญ่มากๆ อีกอัน อันนี้ใช่หนอนฉัตรป่ะ (น่าจะใช่ ถ้าจำไม่ผิด) อันนี้เค้าบอกปะการังขนนก มันเป็นชนิดเดียวที่เคลื่อนที่ได้ นี่ขวัญใจเราเอง น้องนีโม่ ปลาการ์ตูนลายส้ม (มีเยอะมากที่อ่าวช่องขาด) อันนี้ปลาไรจำไม่ได้ แต่เห็นทุกเกาะเลยอ่ะ ลงไปดำทีไร เจอตัวนี้ทุกที (ขนาดเจอบ่อยยังจำชื่อไม่ได้เลย แย่จริงๆ ชั้น) เพื่อนแอบบอกว่าปลาสินสมุทร ใช่อ๊ะป่าว นี่ก้อปะการังอีกแบบค่ะ นี่ไข่แมงกะพรุน เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกก น่าหยะแหยงที่สุด แล้วมันเยอะมาก ว่ายไปทางไหนก้อเจออ่ะ เค้าบอกว่าโดนได้ไม่เป็นไร ไม่เหมือนโดนตัวแมงกะพรุนแล้วจะแสบจะคัน แต่เราก้อไม่แน่ใจนะ เพราะตอนเย็นๆมันคันมากๆ (บวกกับโดนแตนทะเลทำพิษ) อันนี้ปลานกแก้ว (มั้ง) อันนี้ฝูงปลาดาบ เยอะมากกกกก เป็นร้อยๆตัวอ่ะ ไปอยู่ท่ามกลางพวกมัน แล้วขนลุก นี่ปะการังใหญ่อีกอัน นี่ญาตินีโม่ค่ะ ปลาการ์ตูนปานดำ ว่ายล้อเล่นอยู่กับดอกไม้ทะเล นี่กัลปังหาอีกกอนึง มาดำน้ำที่นี่ได้เห็นกัลปังหากะปะการังมากชนิดสุดแล้ว นี่ปลาไรไม่รู้อ่ะ แต่มีเยอะมาก ตัวเล็ก ชอบว่ายอยู่บนปะการัง ดูแล้วน่ารักดี นี่ก้ออีกดงนึง แต่อาจจะไม่ชัดเท่าไหร่ อันนี้สวยสุดๆ น้องนีโม่ บนดอกไม้ทะเลกะปะการังสีม่วง จริงๆ เรามองไม่เห็นตอนดำน้ำอ่ะ เพิ่งมาเห็นจากกล้องของเพื่อน เสียใจมากกกกกกกกกก อยากเห็นของจริง (พอดีเราโดยสาร taxi boat คนละชูชีพกะเพื่อนอ่ะ น้องไกด์มี 2 คน) อันนี้อันชัด สวยเนอะ อีกวิว ดูเผินเหมือนตู้ปลามากเลย แต่ถ้าไปดำเอง จะเห็นเลยว่าเหมือนเป็นเมืองๆนึง มีปะการังเยอะมาก ปลาอีกเป็นหมื่นๆ (เว่อร์ไปป่าว)นี่ซูปเปอร์ปลิงยักษ์ นอนหลับอยู่บนทราย น้องไกด์อุตส่าห์ดำไปลึก เพื่อถ่ายมาให้ อีกครั้งกับปลาการ์ตูนปานดำ น่ารักอีกแล้ว อีกมุม นี่กอปะการังอีกอัน ดูอลังดี อันนี้จำไม่ได้จริงปลาอะไร แต่ฝูงนี้มันน่ารักมาก ไม่ว่ายไปไหนเลย แบบว่าลอยๆ อยู่ที่ แล้วก้อค่อยๆแปลอักษร น้องไกด์เลยถ่ายรูปได้ง่ายๆ นี่วิวทั่วไป อีกอันส่งท้าย จริงๆมีปลา และปะการังอีกหลายชนิดที่เห็น แต่ไม่ได้ถ่ายมา เพราะบางจังหวะแบตกล้องดันหมดซะก่อน ที่เห็นก้อมีปลาดาว ทั้งสีแดง สีม่วง ดอกไม้ทะเลสีแดง (ที่เค้าบอกว่ามีที่นี่ที่เดียว) ปะการังขนุน ปะการังผักกาด ดาวมงกุฎหนาม (สีม่วงๆ มีหนาม มันเป็นตัวกินปะการัง) เม่นทะเล หอยมือเสือยักษ์ และอีกหลายอย่างเลย เสียดายเหมือนกัน แต่อย่างน้อยก้ออยู่ในความทรงจำของเรา ขอบอกว่ารูปที่ถ่ายมา ไม่ได้ครึ่งนึงของความสวยที่เห็นด้วยตาตัวเองอ่ะ ใครไม่เคยไปขอให้ลองไปดูนะ มันจะตราตรึง สร้างความประทับจายมิรู้ลืม (เว่อร์ไปป่ะ 555) จากที่ไปดำน้ำมา 10 จุด อันที่สุดๆ แห่งความประทับใจในความสวยคือ อ่าวแม่ยาย อ่าวเต่า และอ่าวช่องขาดค่ะ ที่บอกเนี่ยเผื่อสำหรับคนที่ไม่อยากลงดำทุกจุด หรือพวกที่มีเวลาน้อยอ่ะค่ะ อย่าพลาด 3 อ่าวที่บอกนะ สวยจริงๆ เรายังอยากไปอีกเลย ขอบคุณที่ติดตามชมค่ะ ทริปนี้จะไม่สมบูรณ์เลย ถ้าขาดเพื่อนร่วมทริปน่ารักๆ อีก 3 คน ไปที่ไหนก้อหนุก ถ้าได้ไปกะเพื่อนรัก คุณว่ามั้ย
++ เกิดมาทั้งทีห้ามพลาด หมู่เกาะสุรินทร์ สุดยอดแหล่งดำผิวน้ำฝั่งอันดามัน (ภาคบนดิน) ++
ไปตั้งกระทู้รีวิวไว้ 2 อัน//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E4978668/E4978668.html//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E4980571/E4980571.htmlแต่ก้อกลัวจะตกหายไปตามกาลเวลา เลยเอารูปและรายละเอียดมาลงอีกที เผื่อจะเป็นประโยชน์กะคนอื่นมั่ง ================================จากที่ได้ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆในห้อง blueplanet ไว้ เราและผองเพื่อนก้อได้ไปเยือนหมู่เกาะสุรินทร์สมใจ เลยถือโอกาสเอารูปมาฝากกันนะจ๊ะ หวังว่าคงจะชอบ :D ออกเดินทางตอนกลางคืน โดยใช้บริการของเป็นรถลิกไนต์ทัวร์ VIP 32 ที่นั่ง ราคาคนละ 643 บาท โอ้โห กว้างขวางสุดๆ ขายืดได้สุดเลย แถมเอนได้อีกเยอะ นอนสบ้าย สบาย รถออก 18.45 น. (เลทไป 15 นาที) ไปแวะกินข้าวต้มรอบดึกแถวประจวบ ถึงที่คุระบุรีตี 5 ของอีกวัน ไปลงที่คุระบุรี เราซื้อแพคเกจทัวร์กะเรือไว้ที่ซาบีน่าทัวร์ พอลงรถปุ๊บก้อข้ามถนนไปพักผ่อนที่ออฟฟิศเค้าได้เลย (มีห้องน้ำให้อาบน้ำด้วยนะ สบายตัว) มีเวลาเหลืออีกประมาณ 2 ชม กว่าๆ กว่าเค้าจะพาไปขึ้นเรือ เราก้อนั่งเล่นนอนเล่นที่ออฟฟิศ มีกาแฟ ปาท่องโก๋ให้กินรองท้อง แล้วก้อมีบอร์ดติดรูปแบบนี้ ไว้ให้ศึกษา หรือยั่วน้ำลายก้อไม่รุ อีกอัน ซัก 7.30 เค้าก้อเอารถกระบะขนพวกเราและสัมภาระไปที่ท่าเรือคุระบุรี ถึงแล้วอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ (แค่ป้ายนะ) เราจอง speed boat ไว้ เรือออกประมาณ 9 โมง ก้อเตร็ดเตร่ ซื้อขนม เดินเล่น ถ่ายรูปเดินเล่นอยู่แถวนั้น ใช้เวลาบนเรือประมาณ 1.30 ชม. ก้อจะได้เห็นน้ำใสๆ ทรายสวยๆ ของหมู่เกาะสุรินทร์แล้ว มีอีก อีกอันเรือจะจอดที่อ่าวช่องขาดก่อน ใครที่พักที่หาดไม้งาม ก้อจะต้องใช้เรือหางยาวไปส่ง นั่งตากแดดไปอีกประมาณ 15 นาทีก้อถึง นี่คือปากทางเข้าหาดไม้งามค่ะ จะเห็นเรือหางยาวจอดเต็มเลย ต้องเดินเข้าไปตัวหาดอีก 200 เมตร (เหนื่อย) ก่อนเข้าจะเห็นเสาสีสันสวยงาม อันนี้เรียกว่า ลอโบง เป็นของพวกชาวมอแกน เค้าบอกว่าประหนึ่งเหมือนศาลพระภูมิของพวกเราอ่ะค่ะ หลังจากที่เดินเข้ามา 200 เมตร ประมาณ 10 นาที ก้อถึงแล้วค่ะ หาดไม้งาม มีป้ายเด่นเป็นสง่า และเป็นมุมที่ทุกคนที่มาถึง ต้องมาถ่ายรูป เป็นหลักฐาน ทางซ้ายมือของป้ายนี้ จะเป็นโรงอาหารค่ะ ทางขวามือ ก้อจะเป็นที่พักกางเต๊นท์ แบ่งเป็นโซนๆ เดินผ่านจะเห็นเต๊นท์เต็มไปหมดค่ะ อันนี้เป็นเต๊นท์ใหญ่ น่าจะนอนได้ 4 คน (แต่เราไม่ได้นอนอันนี้ค่ะ) เต็นท์เรียงกันเป็นพรึดเลยอ่ะ ทางซาบีน่าทัวร์เค้าเตรียมเต๊นท์ไว้ให้แล้ว พักที่โซน 6 ค่ะ นี่ค่ะที่พักของเรา อยู่หน้าหาดเลย วิวดี ลมโกรก สบ้าย สบาย นี่เป็นวิวที่ถ่ายออกมาจากในเต๊นท์ค่ะ แค่ไม่กี่ก้าว เราก้อจะได้สัมผัสทะเลใสๆ สวยๆแล้ว ใกล้จริงๆค่ะ อีกอัน มุมโปรด ขออีกรูป อีกอีก ฟ้าใส แพคเกจที่เราซื้อไว้กับซาบีน่าทัวร์ เราซื้อเป็นแบบ 4 วัน 3 คืน ไปดำน้ำทู๊กวันเช้า เย็น (มาครั้งแรก ไหนๆก้อมาแล้ว เอาให้คุ้ม ดำมันทุกจุดเลย ไปมันทุกที่) เด๋วจะแยกเป็นอีก blog นึงสำหรับโลกใต้น้ำ ส่วนอันนี้เป็นโปรแกรมวันสุดท้ายก่อนกลับ นี่เรานั่งเรือมาเยี่ยมชมหมู่บ้านมอแกนค่ะ นี่เป็นวิวไกลๆ มาถึงแล้วค่ะ นี่ทางเข้า ก้อจะเห็น ลอโบง อีกแล้ว ก่อนที่จะเข้าไปที่หมู่บ้าน เค้าจะมีบอร์ดให้ความรู้กับนักท่องเที่ยว มีทั้งประวัติ ความเป็นมาของมอแกน วิถีชีวิต ภาษา และอีกหลายๆอย่าง ควรจะอ่านก่อนค่ะ จะได้พอเข้าใจ ก่อนที่สึนามิมา บ้านของพวกมอแกนจะตั้งอยู่ในน้ำเลยค่ะ มีรูปโชว์บนบอร์ดด้วย แต่หลังจากโดนสึนามิทำลาย ทางรัฐบาลก้อสร้างบ้านให้ใหม่ แต่ตั้งอยู่บนทรายแทนค่ะ นี่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ของมอแกนค่ะ หลังจากได้ความรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับมอแกนแล้ว ก้อเดินเยี่ยมชมหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านเล็กๆ กะด้วยสายตา น่าจะมีประมาณ 30 หลังเอง มีโรงเรียนอยู่ด้วยนะค่ะ ชาวมอแกนจะทำของที่ระลึกไว้ขาย เท่าที่เห็นก้อจะมีเรือไม้ พวกแกะสลัก แล้วก้อมีของสาน กระปุก ซองใส่แว่น เสื่อ (ลืมถ่ายรูปมาให้ดู) แต่สวยดีค่ะ เพื่อนเราซื้อเสื่อมา นิ่มมาก ผืนละ 150 บาท สวยมาก ส่วนกระปุกก้อประมาณ 40-50 บาท ซองใส่แว่น 30 บาท ถือว่าช่วยอุดหนุนชาวบ้านค่ะ เรืออีกแบบ นี่เป็นเรือจริงๆ ค่ะ แบบดั้งเดิมของชาวมอแกนค่ะ ก่อนกลับเรามาแวะที่อ่าวช่องขาดค่ะ เห็นมั้ยค่ะ ปลาใสๆฝูงนึง น้ำใสกิ๊งเลยค่ะ อ่าวช่องขาดถือว่าเป็นอ่าวที่หาดสวยนะเราว่า น้ำใส มีสันทรายด้วย เวลาน้ำลด ที่อ่าวนี้จะมีบ้านพักให้ คืนละ 2000 บาท พักบ้านก้อต้องเดินขึ้นเขาไปหน่อยนะ แต่ก้อยังมีเต๊นท์ให้บริการเช่นเคย อันข้างบนคือบ้านสินสมุทร ใครจะพักก้อต้องไปจองในเวบของอุทยานเอาเอง มีอยู่ 18 ห้องเอง (ถ้าจำผิดขออภัย) อันนี้อีกแบบดูใหญ่โต ไม่รู้จองยังไง ขากลับก้อกลับลิกไนต์ทัวร์เหมือนเดิมค่ะ แต่เป็นแบบ 38 ที่นั่ง แคบกว่าเดิม ราคาเลยถูกลงเป็น 555 บาท ก้อรอที่ออฟฟิศของซาบีน่าทัวร์อ่ะค่ะ ขึ้นฝั่งมา ก้อมาอาบน้ำได้ที่ออฟฟิศ หาไรกินรองท้อง นั่งชิว ไม่นานรถก้อมาค่ะ (อ่อ อยู่ที่เกาะมีสัญญาณมือถือให้ใช้ค่ะ แต่เป็น AIS เท่านั้น มีแค่ 5 คู่สาย ต้องแย่งกันใช้หน่อยค่ะ)ไฮไลท์ของการมาเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์แน่นอนต้องเป็นการดำน้ำ คอยติดตามนะคะ
** เกาะนางยวน สวรรค์ของคนรักทะเล และรักความโรแมนติก **
ในที่สุดความฝันก้อเป็นจริง ได้ไปเที่ยวเกาะที่ใฝ่ฝันอยากจะไปมานานแล้ว เห็นรูปที่คนอื่นไปเที่ยวมาเยอะ จนอิจฉา อยากไปเห็นความสวยงามด้วยตาตัวเอง เก็บกระเป๋า แพคของ ลางาน มุ่งหน้าสู่เกาะนางยวน เราใช้บริการของบริษัทลมพระยา รวมค่ารถบัสและเรือ ราคา 900 บาท ไปขึ้นรถที่ข้าวสาร รถออก 3 ทุ่ม ตรงเวลามากๆ ขอบอกว่าฝรั่งประมาณ 80% อ่ะ เหมือนอยู่เมืองนอกไงไม่รู้ รถบัสนั่งสบายมากๆ สภาพดูใหม่ และสะอาดดี เค้าแวะแถวหัวหินตอนตี 2 ให้กินข้าวต้ม แล้วก้อถึงท่าเรือที่ชุมพร ตอนตี 5 พอดีเลย (ตรงเวลาจริงๆ!!!)ท่าเรือชื่อทุ่งมะขามน้อย เรือจะออกจากฝั่งตอน 7 โมงเช้า ต้องนอนรออยู่ที่นั่นประมาณ 2 ชั่วโมง แต่เค้ามีเตียงผ้าใบไว้ให้ แล้วก้อมีอาหารให้ซื้อด้วย นี่เรือคาตามาลาน ที่จะนำเราไปสู่เกาะสวรรค์รูปในเรือไม่ได้ถ่ายเลย เพราะแบบว่าง่วงมาก ไปถึงหลับเลย แต่ในเรือดูดีนะ ใหม่ๆดีแล้วก้อมีหนังให้ดูด้วยใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง ก้อเดินทางมาถึงเกาะนางยวนแย้ว อดใจรอแทบไม่ไหว สะพานไม้บนเกาะ มีหินใหญ่ๆ เต็มเลย ดูสวยดี เหมาะเป็นมุมถ่ายรูปนี่ความใสของทะเลระหว่างเดินไปห้องพักเกาะนางยวนมีอยู่ 3 เกาะ ตรง reception และร้านอาหาร อยู่ตรงเกาะที่เล็กที่สุด ส่วนบ้านพักก้อจะมีอยู่ทุกๆเกาะ เราพักด้านเดียวกับที่มี view point ที่พักเกือบทั้งหมดจะแฝงตัวอยู่ตามเขา ยิ่งสูงยิ่งแพง ห้องยิ่งใหญ่ขึ้น แต่พวกเราไม่มีปัญญาจะปีนขึ้นไปพัก แล้วขออยู่แค่ตื้นๆ (แค่นี้ก้อเหนื่อยแย้ว) นี่รูปห้องพักหลายๆแบบ ข้างในห้องก้อไม่ได้หรูมาก ดูเก่าไปนิดส์ นี่ถ่ายจากระเบียงหน้าห้อง แบบว่าบรรยากาศชิวมากๆ นั่งอ่านหนังสือไป มองทะเลไป เห็นสันทราย เห็นเกาะ เห็นเรือ เห็นฝาหรั่งเล่นน้ำ เก็บของเรียบร้อย ก้อไปเล่นน้ำ ขอบอกว่าน้ำใสมากๆๆๆๆๆๆๆ ปลาอย่างเยอะอ่ะ ขนาดน้ำตื้นๆ แค่เข่านะ เห็นปลาเป็นร้อยเลย แต่ให้ระวังปลามาตอด ว่ายไปทางไหนก้อมีแต่ปลารายล้อม กล้องเราไม่ค่อยชัดอ่ะ แต่ก้อพอจะเห็นปลาอยู่บ้าง อันนี้ตกเย็นแล้ว ทะเลก้อยังสวยอยู่ ช่วงที่เราไปมีฝรั่งมาแต่งงานกันด้วย เลยได้เป็นส่วนหนึ่งของความโรแมนติก แอบไปถ่ายรูปงานแต่งเค้ามานิดนึง ซุ้มทางเดิน ก้อตั้งอยู่บนสันทรายอ่ะ ดูเก๋ดีนะ พอพิธีเริ่ม คนบนเกาะก้อมองกันเป็นตาเดียว อิจฉาหงะ รุ่งเช้าอีกวันนึงก้อถึงคิวขึ้นเขาไปดูจุดชมวิว นี่รูปทางขึ้นถึงแล้วเย้ ประมาณ 10 นาที ไม่เหนื่อยมาก ไม่ค่อยชันเหมือนตอนไปดูทะเลใน ที่หมู่เกาะอ่างทองหงะ ไฟล์ทบังคับ ทุกคนต้องถ่ายวิวนี้ ไม่เห็นเหมือนมาไม่ถึงเกาะนางยวน ทางขวา เห็นเกาะเล็กทางซ้าย เห็นเกาะใหญ่ถ้าอยู่บนเกาะนี้ ก้อต้องกินอาหารกะเค้าอ่ะ ฝากท้องไว้กะเค้าไปเลย อาหารก้อแพงเหมือนกัน แหม เค้าอุตส่าห์หอบอาหารข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำถึงนี่ ข้าวผัดราคาประมาณ 150 บาทอ่ะ อาหารรสชาติดีใช้ได้นะ แต่ไม่รู้คิดไปเองป่าว ร้านอาหารเค้าไม่ค่อยเอาใจใส่คนไทยเท่าไหร่อ่ะ แต่เพื่อนเราก้อรู้สึกนะ ก้อที่นี่มันมีแต่ฝรั่งอ่ะ แต่ให้อภัยเพราะความสวยของเกาะมันช่วยไว้ก่อนจะจบอยากให้ได้ดูว่าธรรมชาติได้ถูกทำลายไปมากแล้ว นี่เป็นเศษซากปะการังที่กองอยู่ในทะเล ช่วงที่น้ำลงมากๆ ก้อจะเห็นเด่นชัดเป็นกองพะเนิน ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อซัก 10 ปีที่แล้ว ปะการังพวกนี้จะทำให้โลกใต้น้ำของประเทศไทยสวยได้ขนาดไหน เสียดายจริงๆ ที่ธรรมชาติถูกทำลาย หวังว่า 10 ปีข้างหน้า เรายังจะได้เห็นปลานานาชนิด แหวกว่ายอยู่ในน้ำใสๆ บนเกาะนะ กลับแล้วจ้า สรุปแล้วเกาะนี้เหมาะกับคนรักธรรมชาติ รักน้ำทะเสใสๆ รักทรายขาวๆ รักน้องปลาหลากสี รักสายลม รักแสงแดดอ่อนๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนเป็นอย่างยิ่งค่ะ เราชอบเกาะนี้มากๆเลยอ่ะ จบจากนางยวนก้อไปต่อเกาะเต่า น้ำใส ปลาเยอะเหมือนกัน แต่สู้นางยวนไม่ได้อ่ะ ขอบคุณที่แวะมาชมค่ะ
(ตอนเย็นเรากินที่ห้องอาหารเค้าด้วย อาหารรสชาติดีค่ะ)
ร้อนสุดๆ น่าจะ 40 องศาได้ นี่เป็นหาดวงเดือนค่ะ มองจากที่พัก
เลยเอารูปและรายละเอียดมาลงอีกที เผื่อจะเป็นประโยชน์กะคนอื่นมั่ง 
================================
เก็บกระเป๋า แพคของ ลางาน มุ่งหน้าสู่เกาะนางยวน 
รถบัสนั่งสบายมากๆ สภาพดูใหม่ และสะอาดดี เค้าแวะแถวหัวหินตอนตี 2 ให้กินข้าวต้ม แล้วก้อถึงท่าเรือที่ชุมพร ตอนตี 5 พอดีเลย (ตรงเวลาจริงๆ!!!)
ไปถึงหลับเลย แต่ในเรือดูดีนะ ใหม่ๆดีแล้วก้อมีหนังให้ดูด้วย
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [