วันนี้เป็นวันแรกที่เรากลับเข้ามาเขียน blog หลังจากที่ห่างหายไปร่วม 3 ปี...

ที่เลิกเขียนไปคราวนั้นเพราะรู้สึกว่าเรื่องที่เราเขียนเป็นแนวไดอารี่ระบายความในใจประเภทลับสุดยอด เขียนไปเขียนมาก็ดันรู้มาว่าเพื่อนๆรอบๆตัวเราก็มาเล่นพันทิป เล่น bloggang เหมือนกัน เราก็ไม่อยากจะให้ใครต่อใครในชีวิตจริงมารู้อะไรกับตัวเรามากนัก ก็เลยเลิกเขียน คิดว่าถ้าจะเขียน ก็อยากจะเขียนอะไรที่เราพร้อมจะเปิดเผยให้คนทั้งโลกรับรู้ได้ เพราะ bloggang คือสื่อทางอินเตอร์เน็ตที่เป็นระบบสาธารณะ ทีนี้ความที่เราไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดี ก็เลยหยุดเขียนไป

มาวันนี้ก็เป็นช่วงที่ดีที่เราจะได้กลับมาเขียน blog กันอีกครั้ง เพราะว่าเรากำลังเริ่มปฎิบัติการลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วนลบเลือนริ้วรอยอย่างจริงจัง(อีกแล้ว)

เราเป็นผู้หญิงคนนึงที่อยากจะมีรูปร่างที่สมส่วน มีร่างกายที่แข็งแรง หน้าตาสดใสสมวัย เราไม่ได้หวังขนาดจะมีหุ่นนางแบบ เราหวังแค่ร่างกายที่ไม่ถือว่าไม่อ้วนไม่ผอมตามหลักแพทย์ศาสตร์แค่นั้น

ส่วนหน้าตา ผิวพรรณ เราก็อยากจะให้มันดูมีสุขภาพดี ไม่ต้องมีเครื่องหน้าสวยอย่างดารานางงามที่ไหน เอาเป็นว่าพ่อแม่ให้มาแค่ไหน เราก็เอาแค่นั้นแหละ เพียงแต่ถ้ามีรอยแผล รอยด่างดำ ก็รักษาให้มันหายไปแค่นั้นเองค่ะ

อันนี้ก็คือเป้าหมายของการปฎิวัติสุขภาพร่างกายของเราในคราวนี้นะคะ หลักๆก็คือเน้นสวยน่ารักตามธรรมชาติ ร่างกายแข็งแรง

เมื่อได้เป้าหมายไว้ในใจแล้ว เราก็สำรวจดูว่าปัจจุบันเรามีข้อดีข้อเสียอะไร ก็จะได้จัดการแก้ไขกันเป็นเรื่องๆ เราก็ลิสต์ออกมาได้ดังนี้ค่ะ

1. สิว อันนี้เป็นปัญหาของเรามากๆในช่วง 4-5 ปีมานี้ เรามีสิวอักเสบ คือที่เป็นเม็ดแดงๆบริเวณหน้าผาก เหนือริมฝีปาก คาง บริเวณอื่นเช่น แก้ม หรือขมับ ก็จะมีบ้าง แต่ไม่บ่อย นอกจากนี้เราก็มีสิวเสี้ยนที่จมูกด้วย อันนี้เราก็พยายามรักษาโดยการใช้ผลิตภัณฑ์ของป้าพอลล่าตามที่ห้องแป้งแนะนำ คือใช้เจลล้างหน้า โทเนอร์ และตัวแต้มสิว เช้า-เย็น เท่าที่ใช้มาตั้งแต่เดือนพ.ย. ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ก็ถือว่าโอเคทีเดียว เพราะหน้าเราใสขึ้น สิวน้อยลงแต่ก็ยังมีอยู่บ้างประปราย 
   
   แต่จะยกเครดิตให้เครื่องสำอางค์อย่างเดียวก็คงไม่ใช่ เพราะตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เราก็ดื่มน้ำเปล่าเยอะขึ้น เรียกว่าต้องมีแก้วน้ำข้างตัวตลอดเวลา แล้วก็เปลี่ยนพฤติกรรมการนอน จากเดิมที่นอนหลังตี 3 ตี 4 แล้วตื่น 11 โมง หรือสายกว่านั้น เพราะเรามีเรียนตอนเย็น มาเป็นนอนตอนเที่ยงคืน - ตี 1 แล้วตื่นไม่เกิน 10 โมงเช้า พักหลังนี้พยายามปรับเวลานอนเป็นเที่ยงคืนถึง 8 หรือ 9 โมงเช้า ก็นับว่าการเปลี่ยนเวลานอนนี้ทำให้เราดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมากเลยค่ะ คือเวลาจะนัดอะไรกับใคร ก็สามารถเจอเขาได้ในเวลาทำการ ไม่ใช่ไปถึงไหน เขาก็เลิกงานกลับบ้านกันไปหมดแล้ว
   
   


2. เส้นผม ตอนเด็กๆเพื่อนๆจะชมเราตลอดว่าผมเราสวย คือเป็นคนผมตรง ไม่แตกปลาย แล้วก็มีน้ำหนักเงางาม แต่ช่วง 3-4 ปีนี้ ผมเราค่อนข้างแห้ง แล้วก็กระเซอะกระเซิงมากโดยเฉพาะช่วงที่ผมซอยยาวแล้วแต่เราไม่มีเวลาไปร้านตัดผม อันนี้เราก็ปรับเปลี่ยนนิสัยของเรา คือหันมาเลือกใช้แชมพูและครีมนวดสำหรับเส้นผมแห้ง แตกปลาย หรือว่าสูตรรักษาผมเสีย จากนั้นก็เพิ่มขั้นตอนการบำรุงด้วยทรีทเมนท์อาทิตย์ละครั้งสองครั้งแล้วแต่สะดวก 
   
   นอกจากนี้ก็พยายามรีบเข้าร้านทำผมแต่เนิ่นๆเวลาที่ผมที่ซอยไว้เริ่มเสียทรง ขั้นตอนเหล่านี้ก็ทำให้ผมเราดูดีขึ้นมาเรื่อยๆค่ะ
   
   


3. ริ้วรอยใต้ตา เราสังเกตว่าพักหลังเราเริ่มมีริ้วรอยใต้ตา คือมันจะมีเส้นเล็กๆขึ้นมา จะเห็นชัดขึ้นเวลายิ้ม อันนี้เราก็พยายามใช้ eye cream ทาอยู่ตลอด ปัจจุบันใช้ของ estee lauder กระปุกม่วงๆ ใช้แล้วก็ไม่รู้สึกว่ามันจะช่วยให้อะไรดีขึ้น แต่อย่างน้อยก็ไม่แย่ลงนะคะ ก็คิดว่าถ้าหมดกระปุกนี้แล้วก็คงจะเปลี่ยนเป็นของ Clinique อันที่ออกใหม่เป็นลูกกลิ้งเพราะถูกกว่าและดูว่าน่าจะดีเหมือนกัน
   
   


4. เม็ดผดที่แขน เราลองหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ก็พบว่าอาการของเราเรียกว่า Keratosis Pilaris ค่ะ เขาบอกว่ามันไม่มียารักษาให้หายขาด  แต่ก็เห็นหลายคนใช้ครีมหรือยาบางประเภทแล้วสามารถทำให้มันลดจนเรียกได้ว่าหายไปเลยเวลาที่ใช้ครีมพวกนี้ทา เราก็สนใจที่จะรักษาผิวที่แขนของเราตรงนี้นะคะ แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามีหลายเรื่องต้องรักษา ก็เลยขอพักส่วนี้ไว้ก่อน ไว้รักษาส่วนอื่นให้คงที่เมื่อไหร่ + มีงบมาซื้อครีมพวกนี้เมื่อไหร่ ค่อยกลับมาว่ากันต่อค่ะ
   
   


5. น้ำหนักที่มากเกินไป หรือว่าอ้วนนั่นเอง อันนี้เป็นปัญหาโลกแตกของเรามาเป็นสิบปี คราวนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เราคิดจะพิชิตปัญหานี้ด้วยการออกกำลังกาย คือปกติเราจะใช้วิธีคุมอาหาร ซึ่งมันก็ไม่ค่อยได้ผลอะไรมากมายเพราะเราจะหลุดง่ายมาก แต่บางครั้งที่น้ำหนักเราลดอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก็จะตรงกับช่วงที่เรามีกิจกรรมที่ให้ร่างกายต้องออกแรงมากกว่าปกติ คราวนี้ก็เลยคิดจะลองใช้การออกกำลังกายมาเป็นตัวช่วยค่ะ
   
   สำหรับวิธีการออกกำลังกายที่เราเลือกก็คือการว่ายน้ำ เพราะอย่างแรก มันเป็นกิจกรรมที่เรารู้สึกสนุกที่จะทำ อย่างที่สองคือเราสามารถทำได้โดยไม่ต้องอาศัยคนอื่น คือถ้าเราจะตีแบด เล่นบาส เราก็จะต้องหาเพื่อนมาเล่นด้วยกัน แต่ถ้าเราจะว่ายน้ำ เราก็สามารถไปที่สระแล้วว่ายได้เลย
   
   เมื่อวานก็เป็นวันแรกที่เราไปว่ายน้ำ หลังจากที่ไม่ได้ว่ายมาร่วม 8 ปีเต็มๆ ถือได้ว่าเป็นการว่ายน้ำครั้งแรกในชีวิตที่เราเดินไปว่ายคนเดียว จริงๆเราก็มีอุปกรณ์และสถานที่ให้ว่ายมาตั้งแต่ 6-7 ปีที่แล้ว แต่บอกตรงๆว่าเขินที่จะต้องมาใส่ชุดว่ายน้ำแล้วไปลงสระที่มีผู้หญิงผู้ชายที่เราไม่รู้จักอยู่ด้วย เมื่อวานนี้ที่ไปว่ายมาได้ ถือเป็นการชนะใจตัวเองครั้งสำคัญจริงๆค่ะ พอได้ว่ายแล้วก็สนุกมาก เหนื่อยมาก แต่ก็ตั้งใจว่าจะไปว่ายทุกวัน ไม่รู้ว่าจะช่วยลดน้ำหนักไปได้แค่ไหน แต่ก็อยากให้ร่างกายเราแข็งแรง และถ้ารูปร่างจะดูกระชับสมส่วนมากขึ้นก็จะดีใจไม่น้อยค่ะ
   
   สถิติที่ทำไว้ คือเมื่อวานสามารถอยู่ในสระได้ 25 นาที ส่วนวันนี้ก็ไปว่ายน้ำมาอีก ก็อยู่ได้ 45 นาที ที่อยู่ได้นานขึ้นไม่ใช่เพราะร่างกายเราแข็งแรงข้ามคืน แต่เป็นเพราะเราว่ายไปหยุดไป ไม่ได้หักโหมอะไรเท่าเมื่อวานเพราะเราสังวรณ์ไว้ว่า เราไม่ได้ว่ายมา 8 ปี แล้วเราก็ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราว ฉะนั้นช่วงแรกๆนี้ก็เอาแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้คุ้นสถานที่ ให้ร่างกายค่อยๆปรับ จากนั้นเดี๋ยวเราค่อยไปว่ายแบบออกกำลังจริงจังให้เข้มข้นขึ้นค่ะ
   
   เรียกว่าเป็นการ diet ประเภทตามใจฉันจริงๆ คือตั้งใจทำเท่าที่ทำได้ ไม่ได้ยึดตามหลักใครเพราะเคยตามแล้ว แต่ก็ล้มแหลวเพราะเราไม่สามารถทำตามแผนเขาได้เป๊ะๆ หรือทำได้แต่ก็รู้สึกอึดอัด คราวนี้ก็เลยขอเริ่มด้วยการทำอะไรดีๆตามใจตัวเอง คิดว่าพอร่างกายแข็งแรงกว่านี้ เราคงทำตามสูตรลดน้ำหนักต่างๆได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ ร่างกายของเรา เราต้องดูแลด้วยสมองและสองมือของเราเองได้อยู่แล้วค่ะ