***...Morning Sickness & 1st Ultrasound of My Java...***
...คุณแม่ว่าการแพ้ท้องลูกจาวานี่เป็นอะไรที่ทรมานที่สุดในชีวิตคุณแม่แล้วล่ะ...หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจฝากท้องไปเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2552 คุณแม่ก็ได้เชิญคุณปู่ คุณย่า และป้าจอยไปฉลองปีใหม่พร้อมครอบครัวของคุณแม่ด้วยกันที่บ้านคุณตาแป๊ะที่สัตหีบ ตอนไปเดินเที่ยวสวนนงนุช คุณแม่รู้สึกได้เลยว่า ร่างกายเริ่มอ่อนแอลง คุณแม่เหนื่อยกว่าปกติเยอะเลย เดินนิดเดียวก็เหนื่อยแล้ว ทานอาหารก็ทานได้น้อยลง แถมเริ่มเวียนๆหัวอยากจะอาเจียนเมื่อได้กลิ่นกับข้าวแล้วด้วยยยยย ...นี่คืออาการแพ้ท้องใช่ไหม ???...พอกลับจากเที่ยวปีใหม่ อาการของคุณแม่ก็เริ่มแย่ลงทุกวันๆ ลางานบ่อยขึ้น เพราะปวดหัวอาเจียนไปทำงานไม่ไหว บางวันที่ไปทำงานก็อาเจียนและสลบบนโต๊ะทำงานไปเลย ใจก็กังวลเรื่องงานทำบุญบ้านที่กำลังจะมาถึง คือ วันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2553 เรื่องของเรื่องคือ คุณพ่ออยากจะทำบุญบ้านเพื่อเป็นศิริมงคลหลังจากที่ย้ายเข้ามาอยู่ 1 ปี และวันที่ 24 มกราคม 2553 ก็เป็นวันครบรอบแต่งงาน 1 ปีด้วย คุณพ่อเป็นคนตระเตรียมข้าวของทุกอย่าง ทั้งทำการ์ดเอง นิมนต์พระเอง ฯลฯ คุณตาก็ช่วยหาเต๊นท์ และน้ำแข็ง คุณปู่ คุณย่า และป้าจอยก็ช่วยเรื่องจัดหาโต๊ะจีน และมาช่วยเตรียมของถวายพระแต่เช้า สรุปคุณแม่ไม่ต้องทำอะไรเลย หุหุในวันงานคุณแม่ก็อาการดีขึ้นนะ รับแขกได้ทั้งวัน ไม่อาเจียนเลย คงสนุก + ตื่นเต้นด้วยล่ะมั๊ง...แต่ก็ยังทานไม่ได้อยู่ดี เฮ่อออ พอแขกกลับไปหมดก็ได้เรื่อง...ปวดหัวอาเจียนเหมือนเดิม หลังจากงานทำบุญบ้าน คุณแม่กลับมาทำงานอีกไม่กี่วันแล้วก็ลางานยาวเลย เพราะไปทำงานไม่ไหวแล้วคุณหมอนัดตรวจอีกทีวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 ปรากฏว่าน้ำหนักคุณแม่ลดลงไป 5 โล และคุณแม่ดูไม่ดีเลย คุณหมอเลยต้องจับคุณแม่ Admit นอนให้น้ำเกลือจนกว่าอาการจะดีขึ้น และนี่ก็เป็นการนอนโรงพยาบาลครั้งแรกของคุณแม่ (ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยนอนโรงพยาบาลเล้ยยยย) ยังดีที่ช่วงนี้คุณพ่อของลูกมาอบรมสารวัตรในกรุงเทพฯ เลยได้อยู่ดูแลใกล้ชิดคุณแม่ทุกวัน...ก่อนออกจากโรงพยาบาล (วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2553) คุณหมอก็ขอ Ultrasound ดูลูกในท้องของคุณแม่หน่อยว่าเป็นครรภ์แฝดหรือเปล่า และลูกหัวใจเต้นดีไหม คุณแม่ตื่นเต้นและอายมากกก เพราะไม่เคยขึ้นขาหย่าง แบบว่าคุณหมอ ultrasound ผ่านช่องคลอดง่ะ >.<" หลังจากซาวด์สรุปว่าทุกอย่าง OK คุณแม่รู้สึกดีใจมากกกก และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่คุณแม่ได้เห็นหนู...ตัวหนูเหมือนถั่วงอกเลยลูก อิอิในรูปนี้หนูมีอายุ 10 weeks 4 daysวันที่ 10 มีนาคม 2553 คุณหมอนัดตรวจครรภ์ครั้งถัดไป คุณแม่ก็ยังอาการไม่ดีขึ้น น้ำหนักลดลงไปอีก 3 โล รวมกับเดือนที่แล้วก็เป็น 8 โล คุณหมอก็จับ Admit อีกรอบ ฮือๆๆ เป็นอะไรที่ทรมานที่สุดในชีวิตแล้วตั้งแต่เกิดมา คุณแม่ทานอะไรไม่ได้เลย เหม็นไปทุกอย่าง อาเจียนตลอดเวลา ไปไหนก็ไม่ได้ เพราะแค่ขึ้นรถมาเปิดแอร์ ก็อ้วกแล้ว (แบบว่าเหม็นแอร์ในรถด้วย เหอๆ) ไม่คิดเลยว่าการแพ้ท้องจะทรมานอย่างนี้...พอเข้าใกล้สงกรานต์ คุณแม่ก็เริ่มอาการดีขึ้น...วันที่ 9 เมษายน 2553 คุณพ่อเรียนจบหลักสูตรสารวัตรรุ่น 100 พอดี เป็นวันที่คุณแม่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตาในห้างเองแบบเต็มที่ครั้งแรกหลังจากแพ้ท้องมานาน (ไปเดิน Central ลาดพร้าว รอคุณพ่อทำพิธีรับเครื่องหมาย) คุณแม่ยังทานได้ไม่เยอะเท่าไหร่ แต่คุณแม่ก็พยายามทาน เพื่อลูกในท้องของคุณแม่ คุณแม่ได้ไปทำบุญในเทศกาลสงกรานต์ที่บ้านคุณยายทวด แล้วคุณแม่ก็กลับมาเริ่มต้นทำงานในวันที่ 19 เมษายน 2553 ทุกคนใน office ต่างยินดีที่คุณแม่กลับมาทำงานอีกครั้ง ส่วนใหญ่จะทักคุณแม่ว่า "ท้องแล้วผอม" เหอะๆ (จะดีใจดีไหม) แต่เอาล่ะ และแล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี (นึกว่าจะแพ้ยันคลอดอย่างที่ใครๆ เค้าว่าซะแล้ว >.<")จนมาถึงวันนี้คุณแม่ก็ยังไม่ค่อยชอบทานอาหารคาวเท่าไหร่นะ ความรู้สึกคือมันไม่อร่อยเหมือนเดิมอีกแล้วๆ ก็กลายเป็นคนที่เกลียดกระเทียมไปเลย ทั้งที่ตะก่อนชอบกินมากกกก ตอนนี้ชอบอยู่อย่างเดียวคือ ทุเรียน คุณตาคุณยายซื้อให้คุณแม่ทานทุกวันมาเป็นระยะเวลาเดือนกว่าแล้วล่ะ แต่ตอนนี้มันใกล้จะวายแล้วอ่า (อดกินมา 3 วันแล้ววว) ณ วันนี้คุณแม่มีอายุครรภ์ 32 สัปดาห์ กับอีก 1 วัน น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาแล้ว 6 โลจากตอนก่อนท้อง...คุณแม่จะสู้เพื่อลูกต่อไปน้า ...หนูคือดวงใจของแม่...
+.+...Beginning of My Java...+.+
...เช้าวันที่ 23 ธันวาคม 2552 เวลาประมาณ 7 น. เราตื่นแต่เช้ามาเข้าห้องน้ำด้วยความตื่นเต้น เพราะแอบซื้อ Pregnancy Test มาตรวจ อิอิ (ประมาณว่า ปจด ขาดไป 1 week แล้ว) ตื่นเต้นจริงๆ อิอิ และแล้วววววว...ผลก็ออกมาเป็นเช่นนี้...นี่เรากำลังจะเป็นแม่คนแล้วหรือนี่ ??? Woww!!! มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงๆ......แล้วเราจะไปฝากท้องที่ไหนดีน้ออออ??? เราเคยตั้งใจไว้ว่า ถ้ามีลูกอยากจะฝากท้องและให้ลูกคลอดที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะเคยได้ยินมาว่าหมอทำคลอดที่นี่เก่ง และอีกอย่างคือ พ่อของลูกเป็นตำรวจด้วย หุหุ (เกี่ยวกันป่าวหว่า...) ...ถัดมาอีก 1 สัปดาห์ เช้าวันพุธที่ 30 ธันวาคม 2552 เป็นวันที่คุณสามีจะพาไปฝากท้องที่โรงพยาบาลตำรวจ และไปแก้บนด้วยเลยในคราวเดียวกัน หุหุ ...ขอย้อนอดีตกลับไปหน่อยนะ...เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 เราได้พา supplier on tour ที่วัดพระแก้ว ตลาดน้ำดอนหวาย พอตกเย็นเค้าก็ขอให้เราพาไปไหว้สักการะพระพรหมเอราวัณ (คือแบบว่าตานี่เพิ่งอกหักมา...สงสัยจะบนขอให้แฟนกลับมา นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ไปไหว้สักการะพระพรหมเอราวัณ บรรยากาศก็เต็มไปด้วยผู้คนที่มาแก้บน (ในใจเราคิด...พระพรหมท่านศักดิ์สิทธิ์แฮะ คนมาแก้บนเต็มเลย นางรำๆ ตลอดไม่มีเว้นช่วงเลย) เราเองไม่รู้จะขออะไร แต่ในใจคิดถึงเรื่องลูกขึ้นมา ประมาณว่าเราก็เลิกกินยาคุมมาประมาณ 6 เดือนแล้วนะ ยังไม่ท้องสักทีแฮะ เจอหน้าพ่อแม่สามีทีไรท่านก็ถามแต่เรื่องหลาน (...กดดันนะเนี่ย...>.<") สรุปคือเราก็ได้บนกับพระพรหมไปว่า "ขอให้มีผู้มีบุญมาเกิดกับลูกภายใน 3 เดือน ถ้าสัมฤทธิ์ผล ลูกจะถวายไข่ต้ม 50 ลูกและพวงมาลัยดอกดาวเรือง 50 พวง" พอผล Pregnancy Test ออกมา ณ ตอนนั้น เรานึกถึงเรื่งที่เราบนไว้ขึ้นมาทันที เรารู้แล้วว่า...ท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ สาธุ เรารีบโทรบอกสามีเรื่อง Test Result พร้อมกับเล่าเรื่องนี้ให้เค้าฟัง เค้าดีใจมากกกกกก...เลยอาสาเป็นคนเตรียมข้าวของแก้บนให้เราเอง เรื่องแบบนี่เชื่อไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เมื่อเราบนอะไรไปแล้วประสบผลสำเร็จ เราก็ต้องทำตามที่เราพูดไว้ เพื่อความสบายใจ อิอิ สรุปเพื่อความสบายใจของเราๆ เตรียมก็ของแก้บนเป็น 4 sets ด้วยล่ะ สามีสุดที่รักหอบหิ้วมาจากพัทยาในคืนวันที่ 29 ธันวาคม 2552...ย้อนกลับมาเรื่องฝากท้องครั้งแรกต่อ ตอนเช้าพอออกจากบ้านคลอง 3 ก็แวะรับคุณพ่อคุณแม่ของพี่จุ๊บที่บ้านก่อน เพราะท่านขอตามไปด้วย ท่านตื่นเต้นดีใจมากที่จะได้หลาน (สมปารถนาสักที) พอเจอหน้าเราก็ยิ้มร่าหอบนมแอนลีนยื่นมาให้หลายแพคเลย บอกว่าให้บำรุงเยอะๆ กว่าจะไปถึงโรงพยาบาลก็ 10 โมงครึ่งแน่ะ ต้องรีบไปทำบัตรผู้ป่วยให้เสร็จแล้วก็กลับไปตึกสูติเพื่อฝากท้องให้ทัน 11 โมง...ขอบอกว่าเหนื่อยมากๆ พยาบาลดูเหมือนจะรีบๆ แต่เราก็เข้าใจเค้าอ่านะ เพราะวันนั้นเป็นวันที่คนเค้าไม่ทำงานกันแล้ว แบบว่าเตรียมจะกลับ ตจว ไปฉลองปีใหม่กันอะพอซักประวัติเสร็จก็โดนกินน้ำตาลไปหนึ่งแก้วใหญ่ๆ เพื่อเตรียมเจาะเลือดอีก 1 ช.ม.ถัดไป เพราะเราน้ำหนักเกิน กร๊ากกก ในระหว่างรอครบ 1 ช.ม. เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทุกคนเลยช่วยกันหอบข้าวของที่เตรียมมาแก้บนเดินไปแก้บนกัน พอถึงกำหนดบ่ายโมงที่พยาบาลนัด เราก็รีบกลับมาเจาะเลือด แฮกๆๆๆ เหนื่อยและร้อนมากกกกกก หัวใจเต้นเร็วสุดๆ พยาบาลนัดมาตรวจครั้งถัดไปคือวันพุธที่ 6 มกราคม 2552พอเสร็จภารกิจฝากท้องแล้ว ก็แวะทานอาหารกลางวันที่ IT Square ในขณะที่กินอยู่ก็บังเอิญเจอป๊า แม่ แหม่ม เอกด้วย ทุกคนเลยมารวมตัวกันที่โต๊ะเดียวกัน พูดคุยเรื่องหลานที่กำลังจะเกิดมาอย่างหน้าชื่นตาบานนนนนน +.+.+...Happy Ending...+.+.+
~..*..My 1st Blog..*..~