Group Blog
 
All Blogs
 
Phase 2 ย้อนรอย เส้นทางมรณะ

27 กันยายน 2549

วันที่สองของการเที่ยวในหน้าฝนที่น่าเบื่อ เพราะ แทบถ่ายไม่ได้เพราะกลัวกล้องพัง เช้าวันที่ 2 ต้องตื่นเช้ามาทานข้าว ชอบ ที่รีสอร์ทนี้ตรง รายการอาหารที่นี่ เรียกว่า ติไม่ได้ ให้เต็ม 10 อร่อยกว่าร้านอาหารดัง ๆ เสียอีก ดังนั้นแล้วจึงทำให้พุงที่โต 6 เดือน ตอนนี้เป็น 7 เดือนแล้ว แย่ะมัด ลองคิดดูสิ ก็เล่นกับข้าว 5 อย่าง น้ำแกง 1 ถ้วย ข้าวหอมมะลิ ที่ไม่ธรรมดาก็คือ ไม่อั้นครับอยากเติม ๆ ไป โอว ๆ ๆ ๆ แล้วยังมีตบท้ายด้วย ผลไม้ 2 อย่าง

ลองคิดดดูสิครับ 4 มื้อ หลัก ๆ ไม่อ้วนให้รู้ไป อ่ะ ต่อ ๆ รูปวันที่สองดีกว่า ...


วันนี้อาหารเช้าจากเจ้านี่ . . .เอ้ย~ เจ้านี่รอขอกินอยู่เลย


ที่นี่คือโรงอหารอีกจุดนึง จากโรงอาหารใหญ่ ซึ่งน่าจะเป้นจุดที่สวยที่สุดของที่นี่เพราะอยู่ริมแม่น้ำแควครับ


ด้วยความอ่อนในการถ่ายรูปจึงได้ภาพไม่โดนเล๊ยยยย

หลังจากที่ทานข้าวจนอิ่ม เวลา 9.30 น. มีรถตู้ ของทางรีสอร์ทนำเที่ยวรอบ ๆ ครับ ดังต่อไปนี้


อยากบอกว่าจำชื่อไม่ได้แต่เป็นน้ำตกที่อยู่ภายในบริเวณรีสอร์ท ครับ


อนุสรณ์สถาน เซอร์เอ็ดเวิร์ด ซึ่งเป็นเพื่อนของเจ้าของที่นี่ ที่สำคัญเป็น หนึ่งในผู้สร้างทางรถไฟสายมรณะ เป็นคนชาวออซซี่ได้กลับมาเที่ยวเมืองไทยได้ล่องแพ และขึ้นมาหาเบียร์กินจนเป็นที่ถูกคอกับเจ้าของที่นี่และได้มอบรูปภาพ และ สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับความโหดร้ายของของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อเชลยศึกไว้ ซึ่งในตอนนี้ ชายผู้นี้ไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่ได้ทำการลอยอังคารอัฐฐิไว้ ณ. ริมน้ำแห่งนี้


รถไฟที่ปลดระวางแล้ว จากสถานีรถไฟมักกะสัน มาเติมเต็มที่นี่ เค้าว่าค่าขนส่ง ล่อไปเป็นล้านเลยครับ


หนึ่งในปรัชญา ที่ยังใช้ได้ถึงคุณค่าของชีวิต


ภาพแสดงถึงการทำโทษเชลยศึกที่ทำงานหนักไม่พอ


ที่พักในสมัยปี พศ.2486 ท้ายซ้ายเป้นโรงครัว และที่เหลือคือกระท่องผ่าตัด


สภาพค่ายโรงพยาบายที่ช่องไก่ ผู้ป่วยโรคค่อย ๆ ตายจากไป อย่างทรมาน


หนึ่งในโรคร้ายที่มาจากความสกปรกคือ อหิวาตกโรค เยียวยาโดยใช้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือดโดยเอามาจากขวดและท่อยางจากเครื่องใช้หูฟัง



ต่อจากโรคข้างบน คือโรคแผลเน่าเปื่อย ที่ระบาดอย่างหนักโดยไม่มียารักษาและผ้าพันแผลเลย


ขาเทียมในสมัยนั้น ซึ่งการรักษาโรคนี้ต้องตดสถานเดียว และโอกาศรอดเพียง 20% เท่านั้นเอง


เตียงผ่าตัดจำลองขึ้นมาในสมัยญี่ปุ่นแพ้สงครามแล้ว


และ. . .เป็นเพียงแค่เศษส่วนเดียว จาก พิพิธพันธ์แห่งนี้ สงสัยว่าต้องเสียตังมาพักเพื่อดูเอาเองนะครับ อิอิ
จากนั้น เราก็เดินทางออกมาจาก อนุสรณ์ทางรถไฟสายมรณะ อ่ะ พอละ ๆ มาดู อ่ะไร สบายตามั่งดีกว่า


ต้นไก่ฟ้า ส่วนใหญ่มันจะไปอยู่บนต้น ปีนถ่ายมะไหวครับ


ต้น มิกกี้เมาส์ ครับ


เค้าเรียกว่า กุหลาบหินหรือเปล่าครับ


อันนี้ไม่รู้ครับ ใครรู้ช่วยบอกทีครับ


ส่วนต้นนี้ก็ไม่รู้จักเหมือนกันครับ 5 5 5


เมื่อเสร็จการทัวร์รอบ ๆ โฮมพุเตยแล้ว ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง จึงได้จัดกระเป๋าเพื่อเช็คเอาท์เตรียมอำลาที่นี่ สถานีต่อไป คงไถล ไปเรื่อย ๆ จากที่นี่ ไช่แล้ว .. . น้ำตกไทรโยกน้อย


น้ำตกไทรโยกน้อย อากาศอบ แต่น้ำเย็นเจี๊ยบบบบบ ปล.ที่นี่มีเกี๋ยวเตี๋ยวน้ำตกของแท้ด้วยแหละ


จากนั้น จึง เดินตามเส้นทางขึ้นเหนือไปทาง ตะวันออกเฉียงเหนือสู่ น้ำตกเอราวัณครับ


สู่อุทยานแห่งชาติเอราวัณครับ มีค่าเข้าคนละ 40 บาท และรถยนต์คันละ 50 บาทครับ


น้ำเย็นเชี๊ยบบบบบ สีกำลังน่าโดดซะจริง


ปลาพลวงครับ ปลาพลวง ลวก ปิ้งได้ ตัวละ 5000 เองครับ


เนื่องด้วยเรา กว่าจะมาถึงก็ปาเข้าไปเกือบ บ่าย 3 กว่า ๆ แล้ว จึงไปได้แค่ชั้น 3 เอง เพราะเดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะจับโยนออกไป ครับ จุดหมายต่อไปของเรา คือ เขื่อนศรีนครินทร์ ครับ


มาละก็ต้องปักเสาไว้เป็นหลักฐาน


องค์พระ ด้านเหนือสุดของเขื่อน


เขื่อนนี้จะทำการกั้นน้ำจากแม่น้ำแควใหญ่ และทำการปล่อยน้ำออกจางปล่องนี้เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าครับ


วันนี้น้ำในเขื่อนค่อนข้างสูงมาก(หรือปรกติ???) ดูจากเกจน้ำอยู่ที่ 156


หลังจากที่ออกจากเขื่อนศรีนครินทร์ ฝนก็กระหน่ำซัมเมอร์เซลแบบไม่ลืมหูลืมตา จึงไม่สามารถเที่ยวได้แล้ว เซ็งจริง ๆ จึงได้ ลู่เข้าตัวเมือง หาอ่ะไรลงท้องเสียที

ว่าแล้วเราก็เลือก กินร้าน ชุก กะ โดน เพราะ ร้านนี้ดังที่สุดแล้วครับ แต่เสียดายจังที่ไม่ได้ถ่ายรูปร้านเอาไว้ ส่วนเรื่องราคากับรสชาดถือว่าใช้ได้ ผมว่าร้านนี้ เจ้าของร้านค่อนข้างหัวพัฒนาดีจัง อย่างเช่น สั่งอาหารด้วย Pocket pc ผ่าน wireless lan หลังคาแพเปิดได้ยังกะสนามบอลเมืองนอก แถมด้วย plasma 50" หรูจริง ๆ แต่ต้มยำเห็ดโคนหม้อนึงเกือบ 300 แหนะ

หลังจากที่อิ่มจังตังหายไป 700 ก็คิดว่าจะหาแพนอน แต่เหมือนจะหาไม่ได้ดังใจ สุดท้ายลงเอยที่ โรงแรมริเวอร์แคว ห้องพิเศษ 1290 + บุฟเฟเช้า (ลืมถ่ายรูปมาอีกแล้ว) แต่ ภาพรวมดี น่านอนดีครับ เสียตรงด้านหน้าโรงแรมเป็นเธค เสียงจะดังมาก แต่มนเพลียมาก ๆ เลย หลับละ คร๊าบบบบบบบบบบบบบบ


Create Date : 30 กันยายน 2549
Last Update : 1 ตุลาคม 2549 0:54:03 น. 0 comments
Counter : 1286 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

meecom
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add meecom's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.