S'mores at Groove, CTW มาปิ้งมาร์ชเมลโลกันเถอะ

สวัสดีค่า 


ถ้าใครที่เคยแวะไปเดินแถวๆGroove น่าจะเคยเห็นร้านที่มีกระโจมเผ่าอินเดียแดงอยู่หน้าร้าน
ถ้าไปในตอนเย็นๆ คนจะแน่นร้านหาที่นั่งไม่ได้ แต่เพราะใครคนหนึ่งใน Line group chat ส่งรูปขนมหวานจากร้านสุดฮอตนี้มาให้ทำให้เราอดใจไม่ไหว บังเกิดทริปกินทันใด

และแน่นอนว่ามิ้นท์จะไม่ไปตบตีแย่งชิงที่นั่งกับใคร เพราะฉะนั้นไปกันตั้งแต่ห้างเปิดนี่แหละ!

ก่อนอื่น รีวิวนี้มีแขกรับเชิญทั้งหมด 5คน ซึ่งเป็นเพื่อนกินมิ้นท์ในวันนั้น
โดยมีสองแขกรับเชิญเก่า วีวี่ และ พริม จากตอนที่แล้วมาด้วย เย้!
ส่วนแขกรับเชิญใหม่ได้แก่ แนน, มิ้นจู และ ลูกแก้ว ขอเสียงปรบมือให้ห้าสาวด้วยครัชชช

ร้าน S’mores นี้ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของ Groove, Central World ถ้าเข้า CTW มาจาก Skywalk เดินตรงไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางแยกไป Groove แล้วร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ

หน้าร้านมีกระโจมแบบ Native Americans ให้ถ่ายรูปเล่น


ที่นั่งนอกร้าน


พอเข้ามาในร้านก็เป็นแบบนี้ ตกแต่งเป็นแนว cowboy เก่มากๆ


แสงสว่างดี


อันนี้เป็นมุมที่พวกเรานั่งค่ะ พรอบเพรือบจัดเต็ม เหมาะแก่การถ่ายรูปสุดๆ



มาดูเมนูดีกว่า







แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนแรกพวกเราไปที่ร้านตอนประมาณ 10.30 แต่ร้านยังไม่เปิดทั้งๆที่ CTW เปิดตั้งแต่ 10 โมง เราเลยกลับไปอีกทีตอน 11 โมง ไม่มีพนักงานยืนอยู่หน้าร้านซักคน มีแต่พนักงานสองคนนั่งเช็ดช้อนส้อมอยู่ลึกเข้าไป แต่ขนาดพวกเราเข้าไปยืนหัวโด่ในร้านแล้ว พวกนางยังไม่สังเกตเห็น หรือแกล้งทำเป็นไม่เห็นก็ไม่รู้ - - แถมพอรู้ตัวแล้วยังไม่เห็นจะกระตือรือร้นที่จะบริการเลย เอากับพวกนางสิ - -

และนี่คือเมนูที่พวกเราสั่งมา
1






เริ่มกันที่เมนูยอดฮิต S'mores set ซึ่งเป็นเหมือนยกการแคมปิ้งรอบกองไฟมาไว้ในเมืองหลวง ซึ่งเมนูนี้ประกอบไปด้วย

เตาถ่านจิ๋ว (ถ่านจริง กลิ่นไหม้ลอยมาเลย 555)
มาร์ชเมลโล พร้อมไม้เสียบลูกชิ้น
Melted Chocolate ช๊อคโกแลตเหลว
Melted Caramel คาราเมลเหลว
แคร็กเกอร์แบบนิ่ม
สตอร์เบอรรี่และแอปเปิ้ลเขียวสไลด์
กล้วยหอมเละๆ

วิธีกินคือ เอา marshmallow ไปปิ้งจนผิวมันเป็นสีน้ำตาล ซึ่งหมายความว่าข้างในละลาย ระวังอย่าเอาเข้าไปไกล้เกินเพราะมันจะไหม้ ทีนี้ก็หักแคร็กเกอร์เป็นสองท่อน เอา marshmallow วางแล้วก็ใส่เครื่องที่เค้าให้มา แล้วก็ประกบกับแคร็กเกอร์ แบบนี้


น่ากินใช่มั้ยล่า แต่ต้องรีบกินนะเพราะ marshmallow มันจะละลายเยิ้มออกมา

เวลากิน พอกัดผ่านแคร็กเกอร์ รสชาติหอมหวานของมาร์ชเมลโลจะผสมผสานกับเครื่องที่ใส่ไปออกมาอยู่ในปาก อืมมม

สำหรับมิ้นท์ มิ้นท์ว่าแคร๊กเกอร์มันไม่อร่อยอะ กลิ่นเหมือนเก็บไว้นานแล้ว กลบกลิ่นและรสชาติของตัว marshmallowไปพอสมควร รสชาติโดยรวมก็โอเค เฉยๆ ไม่ได้โอ้มายก๊อดอะไร พอหันไปดูราคาแล้วยิ่งรู้สึกว่ามันไม่ค่อยคุ้มเลยอะ

แนน สาวติส ใจดี สาวก exteen.com สะบัดผมเบาๆบอกว่า “ทำเองก็ได้อะของอย่างนี้ มีเตา bbq ซะอย่าง วิ่งไปซื้อ marshmellow จากซูเปอร์มาร์เกตมาทันป้ะ”
เธอพูดถูกว่ะ เราไปกินกัน 6 คน มาร์ชเมลโล 8 ชิ้น ได้กินกันคนละชิ้นเดียว จากนั้นก็นั่งจิ้มสตอร์เบอร์รี่กับช๊อกโกแลตกินต่อด้วยความเสียดายเงิน

ราคา 320 บาท
คะแนนอาหมวย 7/10
คะแนนเผ่งอิ้ววี่ 8/10
คะแนนเผ่งอิ้วพริม 7/10
คะแนนเผ่งอิ้วแนน 8/10
คะแนนเผ่งอิ้วมิ้นจู 7/10
คะแนนเผ่งอิ้วลูกแก้ว 8/10

2

เมนูที่สอง French Fries Truffle ทางร้านโปรโมทว่ามันเป็นเฟรนซ์ฟรายที่ทอดในน้ำมันทรัฟเฟิล ทำให้หอมกลิ่นทรัฟเฟิล และ เมนูนี้ยังเป็นเมนูแนะนำ(recommened)ของทางร้านด้วย
แต่พอกัดกินแล้ว ทุกคนมีอาการทางสีหน้าเหมือนกันหมด นั่นคือ ขมวดคิ้วเหมือนนางเอกซีรียส์เกาหลีแล้วเหลือบมองหน้ากันและกัน

มันก็เฉยๆอะ ห้าสาวกล่าวยิ้มๆ ในขณะที่มิ้นท์ค้านหัวชนฝาว่า ไม่อร่อยเลย
มิ้นท์ไม่รู้หรอกนะว่าไอกลิ่นทรัฟเฟิลมันเป็นยังไง รู้แค่ว่ามันอร่อยหรือไม่อร่อย French fries truffle เนี่ยเข้าข่ายอย่างหลัง คือกลิ่นมันเหมือนเอาเฟรนซ์ฟรายไปทอดในน้ำมันที่ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน แบบประมาณน้ำมันร้านรถเข็นอะที่ทอดนู่นทอดนี่ทั้งวันจนเปลี่ยนเป็นสีดำ มีข้อดีนิดหน่อยคือมันไม่อมน้ำมัน

ราคา 130 บาท
คะแนนอาหมวย 3/10 (เอาเงินตรูคืนมา)
คะแนนเผ่งอิ้ววี่ 6/10
คะแนนเผ่งอิ้วพริม 6/10
คะแนนเผ่งอิ้วแนน 4/10
คะแนนเผ่งอิ้วมิ้นจู 8/10
คะแนนเผ่งอิ้วลูกแก้ว 7/10

3

เมนูสุดท้าย เมนูเบสิค สปาร์เก็ตตี้คาโบนารา ซึ่งเอ่อ... มีแต่เส้นกับเบคอน ไม่มีแฮม ไม่มีเห็ด และสปาร์เก็ตตี้จานนี้ไม่อร่อยค่ะ ตัวครีมซอสรสชาติแปลกๆและกลิ่นคาวๆแบบคาวไข่ แค่นี้สปาเก็ตตี้จานนี้พังมากละ

ราคา 220 บาท
คะแนนอาหมวย 4/10
คะแนนเผ่งอิ้ววี่ 4/10 (ไม่อร่อยเลยซักนิดดดด)
คะแนนเผ่งอิ้วพริม 4/10
คะแนนเผ่งอิ้วแนน 7/10 (มันก็กินได้นะแก)
คะแนนเผ่งอิ้วมิ้นจู 9/10 (ก็โอเคเหอะ)
คะแนนเผ่งอิ้วลูกแก้ว 7/10

ค่าเสียหายทั้งหมดคือ 877.40 บาท (ค่าอาหาร-ขนม + น้ำเปล่า + น้ำแข็ง + service charge 10% + vat 7 %)
ราคาสูงอยู่นะ แต่พอหารหกแล้วค่อยยังชั่ว ตอนเช็คบิลเห็นราคาน้ำเปล่า 30 บาทต่อขวดแล้วแอบอึ้ง

สรุป ร้านนี้สอบผ่านในเรื่องบรรยากาศร้าน แสงสว่าง เป็นหนึ่งในร้านที่น่านั่งเล่นมากๆ theme แต่งร้านก็เก๋มากๆ ซิกเนเจอร์เมนู S’mores set เป็นเมนูที่ไอเดียดีมากๆ สนุกดีตอนปิ้ง marshmallow ในไทยยังไม่ค่อยจะมีอะไรแบบนี้ เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี
อย่างไรก็ตาม S’mores สอบตกอย่างรุนแรงเรื่องการบริการลูกค้า ห่วยมาก มาก มาก ยังอุตส่าห์เก็บ service charge อีกเรอะ?! ไม่มีการเทรนด์พนักงานเลยหรอ?

อีกอย่าง ตัวห้าง CTW เปิดตั้งแต่ 10 โมง แต่ร้านเปิด 11 โมง มิ้นท์ว่าเปิดสายไป ยิ่งร้านมีเมนู Brunch (breakfast+lunch) ด้วยน่าจะเปิดพร้อมห้างไปเลย หรืออย่างเลทสิบโมงครึ่ง อ้อ ตอนแรกพวกมิ้นท์จะสั่งเมนูขนม มากินอีกแต่ร้านบอกว่าไอศครีมที่อยู่ในเมนูนี้ยังไม่มาส่งทั้งๆที่ตอนนั้นเวลาเลยเที่ยงแล้ว.... ถามจริง ตกลงร้านเปิดกี่โมงกันแน่จ้ะ?

เพื่อนๆมิ้นท์บางคนประกาศต่อหน้ากระโจมอินเดียนแดงหน้าร้านว่าจะไม่กลับมากินอีกละ แต่บางคนก็บอกจะกลับไปลองเมนูอื่น
ส่วนมิ้นท์ มิ้นท์อาจจะกลับไปกินร้านนี้นะ แต่จะไม่สั่งซักเมนูที่สั่งไปในครั้งนี้แน่นอน

ใครเคยกินร้านนี้ กินอะไร มีความคิดเห็นอย่างไร มาแชร์กันนะ

รีวิวนี้จบแล้ว เจอกันใหม่รีวิวหน้านะ สวัสดีค่า


Pictures credits @nan_tise @vivionnalin @lukkaewp
ภาพหน้าร้านยืมมาจาก truelife.com รูปที่เหลือถ่ายจาก IPhone5

ปล.เจ๊ก หลังจากนั้นพวกเราก็ไปกินร้านอื่นต่อ เงิน 800 กว่าบาทไม่สามารถประทังความหิวได้
ปล.หนอ S’mores เป็นขนมอเมริกัน ทำกันเวลาไปตั้งแคมป์ S’mores มาจากคำว่า some more ที่แปลว่าเอาอีก
ปล.ซา ขอขอบคุณแขกรับเชิญที่มาช่วยกันรีวิว @nan_tise @vivionnalin @lukkaewp @primparima @mintju
ปล.สี่ ฝากบล๊อคของแนน @nan_tise ด้วยค่ะ เขียนเกี่ยวกับ lifestyleหนุกๆที่ //brilliantstar.exteen.com/
ปล.โหงว เผ่งอิ้ว แปลว่า เพื่อนในภาษาจีนแต้จิ๋ว
ปล.ลั๊ก เจ๊ก หนอ ซา สี่ โหงว ลั๊ก แปลว่า หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก ในภาษาจีนแต้จิ๋ว

IG: palita_t




 

Create Date : 12 สิงหาคม 2557   
Last Update : 12 สิงหาคม 2557 20:09:19 น.   
Counter : 2879 Pageviews.  


Lim Lao Ngow Bistro (ลิ้มเล้าโหงว)

หลังจากพุ่งตัวด้วยความเร็วสูงประหนึ่งเป็นเจอรรี่ส์วิ่งหนี่ทอมเข้าไปในรถตุ๊กตุ๊กที่จอดแหมะอยู่หน้าคณะหยั่งกะรู้ว่าฟ้าจะเทฝนลงมา
ใครคนหนึ่งรีบบอกคนขับว่าไปพารากอนก่อนที่ตุ๊กตุ๊กจะพาพวกเราฝ่าฝนไปยังห้างใหญ่ใจกลางเมืองโดย....เกือบสวัสดิภาพ

ไอถึงด้วยอวัยวะครบสามสิบสองอะใช่ แต่การนั่งตุ๊กตุ๊กที่ไม่มีกระจกปิดด้านข้างมาทำให้แต่ละคนเปียกปอนกันไปตามระเบียบ

เอาเถอะนั่นไม่ใช่ประเด็น

สวัสดีค่าคุณผู้อ่าน จขกท.ชื่อ มิ้นท์ ค่ะ

วันนั้นมิ้นท์ไปกับเพื่อนอีกสามคน แล้วทีนี้พวกเราหิวอะ แล้วคือวันนั้นพวกเราไปกับน้องสาวเจ้าของร้าน Lim-Lao-Ngow Bistro ก็เลยไม่ต้องคิดมากว่าจะกินอะไรดี

ร้าน Lim-Lao-Ngow Bistro (อ่านว่า ลิ้มเหล่าโหงว) อยู่บนชั้น 5 ของ Siam Square One ซึ่งติดกับ BTS Siam และพารากอน ร้านลิ้มเหล่าโหงวนี้ไม่ใช่เพิ่งเริ่มมีนะ ร้านก๋วยเตี่ยวลูกชิ้นปลาแห่งนี้ เค้าทำกันมา 80 ปีแล้วจ้า แต่ร้าน Bistro นี้เป็นร้านแรกที่ขึ้นห้าง ซึ่งนอกจากก๋วยเตี๋ยวดั้งเดิมแล้วยังมีเมนูแนวฟิวชั่นอีกด้วย



แน่นอนว่าเวลาก๋วยเตี๋ยวมาขึ้นห้างแล้ว ราคาก็สูงขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งคาดว่าสาเหตุคือมีค่านู่นค่านี่เยอะแยะไปหมด ฉะนั้นถ้าอยากจะกินก๋วยเตี๋ยวในห้างให้อร่อยก็ต้องทำใจก่อนกิน มองข้ามราคาหน่อย

ส่วนตัวแล้วก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่กินได้ เฉยๆค่อนไปทางลบ หมายถึงถ้าระดับความชอบก๋วยเตี๋ยวเต็มสิบ มิ้นท์จะอยู่ที่สี่ ปกติมิ้นท์ไม่กินก๋วยเตี๋ยวในห้าง เพราะรู้สึกว่ามันหากินได้ง่ายทั่วไป มาห้างแล้วกินอะไรที่มีแค่ในห้างดีกว่า 555 แต่ครั้งนี้มิ้นท์อยากมาลองร้านของพี่เพื่อนจริงๆนะ


บรรยากาศในร้าน เรียบๆชิวๆ นั่งสบายๆ ไม่อึดอัด ไฟสว่างดีทำให้มองเห็นอาหารในจานชัดเจน


คนที่ยืนหันหลัง ใส่เสื้อสีฟ้าคือเจ้าของร้านจ้า


มีที่นั่งแบบเคาท์เตอร์ด้วยนา


บอร์ดเล่าถึงลูกชิ้นปลาเลื่องชื่อของร้าน แปะอยู่บนผนัง


เครื่องปรุงตั้งอยู่บนโต๊ะ แนะนำว่าน่าจะมีฝาปิดกันฝุ่นนะ


เมนูยาวเป็นหางว่าว มีก๋วยเตี๋ยวหลากหลายแบบให้เลือกมากมาย

เมนูมีเยอะจริงๆ ตอนแรกเลือกไม่ถูกเหมือนกัน

1






เมนูที่มิ้นท์สั่งคือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำเล่นไข่เส้นเล็กน้ำ
ต่อไปเราจะทำการชำแหละองค์ประกอบแต่ละองค์

เส้นเล็ก -อร่อย ไม่แข็งไม่นิ่มเกินไป เส้นไม่พันกัน แต่ไม่มีกลิ่นน้ำมันมากวนใจ

น้ำต้มยำ- เป็นต้มยำมะนาวน้ำใส ที่แปลกไปจากร้านอื่นก็คือ น้ำต้มยำของร้านนี้ไม่ได้เปรี้ยวสุดโด่งเหมือนร้านทั่วไป คือรสชาติของน้ำซุปจะออกกลมกล่อมแต่มีความเปรี้ยวและกลิ่นมะนาว

วีวี่ น้องสาวเจ้าของร้านและอดีตพนักงานเสริฟ ให้สัมภาษณ์ว่าระดับความชอบรสเปรี้ยวของลูกค้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน ให้รสชาติกลางๆแล้วให้ลูกค้าปรุงเองให้ถูกใจ

เครื่อง- เครื่องที่ใส่มาให้มีลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง เต้าหู้ทอด เกี๊ยวทอด ผัก ลูกชิ้นปลา และไข่

ลูกชิ้นปลา- อร่อยมากกกก(มิ้นท์มารู้ทีหลังว่าร้านนี้เค้าเด่นเรื่องลูกชิ้นปลา) เด้งดึ๋งๆอยู่ในปาก ไม่คาว รับรู้ถึงความสดและสะอาดเลย อร่อยจริงๆ

แต่ที่เด็ดสุดๆคือ ไข่!!!


ไข่ในก๋วยเตี๋ยวทั่วไปมักจะเป็นไข่ต้มต้มสุก อย่างมากก็ยางมะตูม แต่ร้านนี้ไข่เป็นลวกแบบ rare อยู่ คือไข่ขาวยังไม่แข็ง สภาพเป็นเหมือนถุงบางๆหุ้มไข่แดง ซึ่งพอเอาตะเกียบเจาะที ไข่แดงลาวาก็ไหลออกมา ผสมลงตัวกับตัวน้ำซุปที่ไม่เปรี้ยวไปได้พอดี ไม่คาวเลย โอยยย อร่อย

ส่วนเครื่องอื่นๆรสชาติไม่ได้ต่างจากร้านทั่วไปอะไร

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำเล่นชามนี้ถูกเสริฟในชามก๋วยเตี๋ยวซึ่งขนาดใหญ่กว่าร้านที่ขายข้างนอกทั่วไปประมาณเกือบเท่าตัว ตอนพนักงานมาเสริฟก๋วยเตี๋ยว วีวี่กรีดนิ้วไปที่ชามและพูดว่า
“ชามนี้เป็นชามที่ต้องใช้ความสามารถสูงในการเสริฟ เพราะมันหนักมาก”

ซึ่งชามก็หนักจริงๆ แต่ความหนาและความหนักของมันสามารถเก็บความร้อนได้ดีมาก
ขนาดตอนมิ้นท์(ซึ่งเป็นคนกินช้ามากๆ) กินเสร็จชามยังอุ่นๆอยู่เลย

โดยรวมแล้วมิ้นท์เฉยๆกับก๋วยเตี๋ยวต้มยำเล่นไข่ชามนี้ มิ้นท์ว่ามันกลมกล่อมในแบบของตัวมันเอง แต่คนชอบเปรี้ยวแบบมิ้นท์ อยากจะให้มันเปรี้ยวกว่านี้อีกหน่อย วีวี่ที่สั่งเมนูเดียวกันกระซิบว่าอยากให้เพิ่มปริมาณผัก

ราคา 85 บาท (ก๋วยเตี๋ยวในห้าง ก๋วยเตี๋ยวในห้าง ก๋วยเตี๋ยวในห้าง ในห้าง ในห้าง)

คะแนนอาหมวย 7/10
คะแนนเผ่งอิ้ววี่ 8/10


ต่อไป ขออัญเชิญนางสาว ณ สยาม เอ้ย เพื่อนสาวอีกสองนางออกมารีวิวเมนูของแต่ละคนด้วยจ้า

สองสาวยิ้ม เดินโบกมือออกมา หยุดโพสกลางเวทีด้วยการท้าวสะเอว เอนตัวไปข้างหลังสี่สิบแปดองศาประหนึ่งเมญ่ามาเอง

เออะ ออกจากมโนโหมดด้วยจ้ะ ช่วยเพื่อนทำมาหากินก่อน

ขอแนะนำเพื่อนก่อนนะ
คนแรกชื่อ พริม สาวลุคเรียบร้อยดีกรีนักเรียนจากประเทศสิงโตบ้วนน้ำ
คนที่สองชื่อ เบลล์ สาวหมวยผิวแทนจากโรงเรียนอินเตอร์ย่านเหม่งจ๋าย

2




เริ่มที่เมนูของพริมก่อน นี่คือ เย็นตาโฟร์เส้นเล็กเล่นไข่
เธอบอกว่ารสชาติก็เหมือนๆกับเย็นตาโฟร์ที่เคยกินๆมา
แต่ที่ประทับใจนางที่สุดคือลูกชิ้นกุ้งรสกลมกล่อม
และที่เป็นสิ่งที่ถูกใจนางคือ ขนาดชามที่ใหญ่กว่าก๋วยเตี๋ยวทั่วไป จึงทำให้รู้สึกคุ้มค่าเงิน
สุดท้าย พริมปลื้มบรรยากาศร้านน่ารักๆนั่งสบายๆ

ราคา 85 บาท
คะแนนเผ่งอิ้วพริม 8/10

3


ต่อไปเป็นเมนูของเบล เส้นใหญ่ลูกชิ้นปลา
ซึ่งนางบอกเลยว่า ลูกชิ้นปลาได้ใจเธอไปเต็มๆ และเธอฝากถึงทางร้านว่าถ้ามีผักเยอะกว่านี้จะเริ่ดมาก

ราคา 85 บาท

คะแนนเผ่งอิ้วเบลล์ 8/10

4




ก่อนจานหลักจะออก เราสั่ง เกี๊ยวหมูทอด มากินเป็นออเดิร์ฟด้วย ซึ่งรสชาติก็เหมือนกับเกี๊ยวทั่วๆไปแหละ

ราคา (ขออภัยลืมจดราคามา)

คะแนนอาหมวย 7/10


และเครื่องดื่ม

5




แก้วข้างหน้าคือ ชาแอปเปิ้ล แก้วข้างหลังคือ ชาลิ้นจี๋
สองแก้วนี้รสและกลิ่นของผลไม้ชัดมาก หอม อร่อย ควรลองค่ะ

ราคาแก้วละ 65 บาท

คะแนนอาหมวย 9/10


แก้วนี้คือ Mojito Tea รสหวานๆแต่สดชื่น มีกลิ่น mint จากใบสาระแหน่ซอย แต่ไม่รู้ว่าทางร้านใช้ใบสาระเเหน่แก่หรือยังไง เพราะมันเหม็นเขียว

ราคา 95 บาท

คะแนนอาหมวย 8/10


ร้าน Lim Lao Ngow Bistro นี้ถือว่าทำได้ผ่านเกณฑ์ร้านก๋วยเตี๋ยวในห้าง ดูจากรายเมนูแล้วเป็นอาหารสไตล์ฟิวชั่น มีเอกลักษณ์พอตัว ที่สำคัญอาหารสดและสะอาดมากๆๆๆ

สิ่งที่มิ้นท์ชอบที่สุดของร้านนี้คือความสะอาดของทั้งอาหารและตัวร้านนี่แหละ

อย่างไรก็ตามร้านนี้ราคาแรงค่ะและมิ้นท์เชื่อว่าการกินก๋วยเตี๋ยวชามละเกอบร้อย-บางชามเลยร้อยทำให้หลายคนรู้สึกตะหงิดๆใจ เสียอารมณ์ในการกินไม่มากก็น้อย

เอ้อ ชื่อร้านอ่านยากนะเวลาเขียนเป็นภาษาอังกฤษ อ่านยากไม่พอ ไม่รู้ด้วยว่าต้องออกเสียงยังไง มิ้นท์ว่าน่าจะเขียน Lim Lao Ngow เป็นภาษาไทยดีกว่า

ถามว่าจะกลับไปกินอีกมั้ย ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถ้ากลับไปกินอีกจะไปลองเมนูข้าวกับ Emperor ซึ่งเป็นคล้ายๆหม้อไฟเกาหลี ใส่เครื่องต่างๆในหม้อใหญ่ๆ

สำหรับคนที่อยากจะลองก๋วยเตี๋ยวในห้าง ร้านนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่หนึ่งเลยนะ แต่มิ้นท์ขอกลับไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างถนนเหมือนเดิมดีกว่า 5555

ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ สวัสดีค่า



pictures credits @vivionnalin @palita_t
ภาพทั้งหมดถ่ายจาก IPhone5

ปล.เจ๊ก ถึงจะไปกินกับน้องเจ้าของร้านแต่เราไม่ได้ส่วนลดแต่อย่างไร จ่ายราคาเต็ม
ปล.หนอ ขอขอบคุณแขกรับเชิญ @vivionnalin @bellbelle_nl @prim_parima
ปล.ซา เผ่งอิ้ว แปลว่า เพื่อนในภาษาจีนแต้จิ๋ว
ปล.สี่ เจ๊ก หนอ ซา สี่ แปลว่า หนึ่ง สอง สาม สี่ ในภาษาจีนแต้จิ๋ว




 

Create Date : 03 สิงหาคม 2557   
Last Update : 3 สิงหาคม 2557 16:35:28 น.   
Counter : 1814 Pageviews.  


อาตี๋อาหมวยชวนเจี๊ยะ ภาค2- Sunrise Tacos (ร้านอาหาร Mexican)

สวัสดีค่า

ขอต้อนรับสู่ภาคสองของโปรเจคพิเศษรีวิวร้านอาหารของสองเพื่อนไฮสคูล มิ้นท์และบิ๊ก เย้

อ่านความเดิมตอนที่แล้วที่ อาตี๋อาหมวยชวนเจี๊ยะ ภาค1- Capri, K-Village //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=palitat&group=3

เนื่องจากว่าอาหารอิตาเลี่ยนสี่จานไม่อาจจะหยุดยั้งตับจากการผลิตน้ำย่อยได้
มิ้นท์กับบิ๊กเลยมองหาเป้าหมายต่อไปและตกลงเลือกร้าน Sunrise Tacos สาขา Emporium



ขออภัยในคุณภาพรูป

ร้าน Sunrise เป็นร้านอาหาร Mexican มีสาขาอยู่ประปรายตามห้าง เช่น พารากอน terminal21 ล่าสุดที่ Siam Square 1
เชื่อว่าหลายคนเคยเดินผ่านแต่ไม่เคยเข้า เพราะมิ้นท์ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่คุณบิ๊กนางแวะไปบางครั้งบางครา มิ้นท์เลยโยนหน้าที่สั่งอาหารให้บิ๊กรับผิดชอบ



และนี่คือเมนูที่อาตี๋สั่ง

1




เมนูแรก Nachos พูดเลยว่ามาเพื่อสิ่งนี้ สำหรับคนที่ไม่เคยกินนาโชส์ นาโชส์เป็นอาหารเม็กซิกัน เป็นแผ่นแป้งกรอบ ราดด้วยชีส น้ำซอสซาวซ่าใส่มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ เนื้อหมู ที่ร้านนี้มีใส่พริกแว่นมาให้แถมวิปครีมก้อนใหญ่ด้วย

รสชาติอร่อยมว้าก กลมกล่อมเข้ากันดี เวลาเอาเข้าปาก อย่างแรกที่รับรู้คือแป้งข้าวโพดกรอบๆตามมาด้วยกลิ่นชีสหอมๆ
และก่อนที่เราจะรู้สึกเลี่ยนรสของน้ำซอสเปรี้ยวๆอ่อนๆกับมะเขือเทศและหัวหอมจะมาเบรกความเลี่ยน สรุปง่ายๆ อร่อยครัช

เขียนถึงตรงนี้อาตี๋ค้านว่า “เจ๊ๆ salsa มันไม่อร่อยขนาดนั้น”
นางบอกว่าน้ำมะเขือเทศและตัวมะเขือเทศและหัวหอมของไม่สด ทำให้ salsa ไม่สด ทำให้เสียรสชาติของอาหารเม็กซิกันแบบต้นตำรับไป
อย่างไรก็ตามใครที่ไม่ชอบกินมะเขือเทศหรือหัวหอมสดอาจจะเปลี่ยนทัศนะคติหลังจากกินนาโชส์ก็ได้นา

ราคา: 220 บาท

คะแนนอาตี๋ 8/10

คะแนนอาหมวย 9/10

2




เมนูที่สอง Chicken Quesadilla เป็นแป้งบางๆสองอันประกบกัน สอดไส้ไก่และชีสกับผักอีกนิดหน่อย จานนึงมีสี่ชิ้น บิ๊กบอกอร่อยกินเอาๆ
แต่มิ้นท์ว่ามันเค็มไปหน่อย ยิ่งกินไปกินมาหร้อมนาโชส์มันจะเลี่ยนไป
คือตอนกัดไปก็จะโดนชีสเป็นอันดับแรกจากนั้นก็จะเจอเนื้อไก่เค็มๆจากนั้นก็เป็นรสชีสอีกแล้ว มันเลยไม่มีความหลากหลายในรสชาติเท่าไหร่ มีแต่เค็มๆ

ราคา: 195 บาท

คะแนนอาตี๋ 10/10 (ตั้งหน้าตั้งตาจวกกินต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย)

คะแนนอาหมวย 6/10 (ฉันโยนเงินเกือบสองร้อยบาททิ้งทะเลเกลือ)

3




เมนูที่สาม เฟรนซ์ฟรายด์ เสริฟในกระป๋องรดน้ำ (น่าร้าก หนึ่งในเพื่อนสาวนาม แพม กรีดร้องพร้อมกับโฉบเฟรนซ์ฟรายด์ไปหนึ่งแท่งเนียนๆ) มันอร่อย หอมกลิ่นมันฝรั่ง กรอบนอกนุ่มใน แต่ให้น้อยไปหน่อยนะ

ราคา: 50 บาท (ไซส์เล็ก), 100 บาทไซส์ใหญ่

คะแนนอาตี๋ 10/10

คะแนนอาหมวย 9/10 (หักราคา)


การกินครั้งนี้เสียหายรวม 594.39 บาท (ค่าอาหาร+น้ำเปล่า+ service charge 10% +VAT 7%)
โดยรวมแล้ว ร้านนี้ก็แพงตามสไตล์อาหารฝรั่งทั่วไป ทำใจค่ะ 555

พวกเรากลับไปกินร้านนี้อีกแน่ๆ โดยเฉพาะ nachos
สำหรับคนที่อยากจะลองกินอาหารเม็กซิกันแต่ไม่รู้จะเริ่มที่เมนูไหนดีก็แนะนำ nachos เลย เป็นเมนูที่ไม่เลี่ยน กลิ่นไม่แรงไป

จบแล้วค่ะรีวิวนี้ เจอกันภาคต่อไป สวัสดีค่า


Pictures credits @bigism @sasipimpam @palita_t
ภาพถ่ายจากกล้อง Iphone5 (รูปที่สีสดกว่า) และ Samsung S4


ปล.บางคนกินอาหารเม็กซิกันแล้วท้องเสีย เค้าว่าเป็นเพราะเครื่องเทศ แต่มิ้นท์กับบิ๊กกินแล้วไม่เป็นไร อาหารอินเดียกลิ่นแรงกว่า
ปล2. ติชม คอมเม้น เมาท์มอยส์กันได้เลยน้า




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 29 กรกฎาคม 2557 17:48:41 น.   
Counter : 1666 Pageviews.  


อาตี๋อาหมวยชวนเจี๊ยะ ภาค1- Capri, K-Village

สวัสดีค่า

ก่อนจะเริ่มในส่วนของการรีวิว ขอท้าวความที่มาของกระทู้นี้ัซักหน่อย เริ่มจาก จขบ.ชื่อ มิ้นท์ น้า

ช่วงหลังๆมานี้มิ้นท์มีโอกาสได้ไปร้านอาหารที่ไม่เคยไปมาก่อน กินๆไปแล้วก็อยากจะลองเขียนรีวิว แต่พอจะเริ่มเขียนทีก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง
จนกระทั่งวันนึงนัดกินข้าวกับเพื่อนมัธยมที่ไม่ได้เจอมาสองเดือนที่ K-village ร้าน Caprio เวลาอาหารแต่ละจานถูกเสริฟ เพื่อนที่เพิ่งสึกมาก็มักจะควักมือถือออกมาแชะรูปแต่ละจานจนเราอดถามไม่ได้ว่า

“จะถ่ายรูปไปทำรีวิวหรอ”

“ไม่ๆ ถ่ายไว้เฉยๆ รู้ป้ะว่าร้านนี้ในวงในเขาบอกกันว่าอร่อย” อ๋อ ลืมบอกอินี่เป็นเด็กวงใน

“อ๋อๆ เราเคยเข้าไปแว๊บๆ”

“ในวงในเขียนรีวิวสามครั้งได้เสื้ออะ ฮ่าๆๆๆๆ”

“งั้นเราเขียนให้ป่ะล่ะ แกจะได้เสื้อ”

“จริง?”

โปรเจ็ครีวิว อาตี๋อาหมวยชวนเจี๊ยะ(เพื่อเสื้อ) จึงเกิดขึ้นเช่นนี้แล

รีวิวนี้บิ๊กเป็นคนถ่ายรูปและให้ความคิดเห็นเรื่องอาหาร ส่วนคนละเลงคีย์บอร์ดมีนาม ว่ามิ้นท์
อ้อๆ ที่มาของชื่อโปรเจ็คคือ เราทั้งสองเป็นคนที่จัดอยู่ในหมวดหมู่จีนแต้ๆ(กรุณาออกสำเนียงจีน)ตามสูตร โดยเฉพาะขนาดตา 5555

โอเคค่ะหลังจากที่เล่าซะนานมาเริ่มรีวิวันเลย
---------------------------------------------------------------------------------------
ร้านนี้อยู่ที่ K-village ตรงซอยสุขุมวิท 26
วิธีไปคือขับรถไปชิวๆ (นั่งชิวๆท่ามกลางจราจรกทม.)
ร้านนี้อยู่ที่ K-village ตรงซอยสุขุมวิท 26 วิธีไปคือขับรถไปชิวๆ(นั่งชิวๆท่ามกลางจราจรกทม.)
หรือ ออกทางออกที่ 3 เดินย้อนขึ้นมาเข้าซอย 26 แล้วนั่งวินมอร์เตอร์ไซต์ 10-15 บาทเข้าไป ระยะทางจากปากซอยถึง K-village ประมาณหนึ่งกิโลกว่าๆ


การนัดในวันนี้เป็นการนัดกินข้าวก่อนที่บิ๊กจะลัดฟ้าไปเรียนต่อที่อเมริกาซึ่งเราไปด้วยกันทั้งหมด 6 คนค่ะ



ร้านนี้อยู่บนชั้นหนึ่ง เดินๆหาเดี๋ยวก็เจอ 55555 บรรยากาศก็มืดๆไฟเหลืองๆเหมือนร้านอาหารอิตาเลี่ยนทั่วไป มีเมนูเยอะให้เลือกพอสมควร

ก่อนที่อาหารที่เราสั่งจะมา ทางร้านมีให้ฟรอกกาเซียกินรองท้องด้วย ฟรอกกาเซียนี้เป็นแผ่นกรอบๆสดๆร้อนๆจากเตา อืมม...อร่อย หอมกรุ่นกลิ่นเนย มีน้ำมันมะกอกให้ราดด้วยนา แต่มิ้นท์กับบิ๊กกินเปล่าๆ

และนี่คือเมนูที่เราสั่งมา

1






จานแรก Calamari เป็นจานของทอด มีทั้งปลาหมึกทอด มันฝรั่งทอด หัวหอมทอด เฟรนซ์ฟราย และเฟรนซ์ฟรายแบบวาฟเฟิล
เสริฟพร้อมกับซอสสีส้มอ่อนๆรสชาติคล้ายๆซาวครีม (sour cream)แต่จืดกว่า
ทุกอย่างทอดกรอบอร่อยมาก จิ้มน้ำจิ้มก็อร่อย ไม่จิ้มก็อร่อย จานนี้เป็นตัวเดินน้ำย่อยที่ดีมาก

คะแนนอาตี๋ 8/10

คะแนนอาหมวย 10/10

2




จานที่สอง สปาร์เก็ตตี้คาโบนารา (spaghetti carbonara) เมนูคลาสสิกของร้านอาหารอิตาเลี่ยนและเมนูสิ้นคิดของลูกค้า ซึ่งถือว่าทำออกมาได้อร่อยตามมาตราฐานของสปาร์เก็ตตี้คาโบนาร่าทั่วไป
แต่ที่ดีคือมันไม่เหลวหรือข้น(แห้ง)จนเกินไปทำให้ไม่เลี่ยนมาก
กินเพลินๆ คาโบนาราของร้านนี้มีแต่เบคอนกับแฮม แต่ไม่มีเห็ด?!

แพม หนึ่งในสมาชิกร่วมกินเอียงคอสามสิบห้าองศาและพูดว่า “เราเข้าใจว่าคาโบนาร่าต้องใส่เห็ด”

เออนั่นดิ...

เชื่อว่าถ้ามีเห็ดคาโบนาร่าจานนี้จะสมบูรณ์มากขึ้น

คะแนนอาตี๋ 10/10 (ไม่มีเห็ดไม่เป็นไร)

คะแนนอาหมวย 7/10 (เห็ดเอ๋ยเจ้าอยู่หนใด)

คะแนนโคอาล่า(แพม) 7/10 (หักที่ไม่มีเห็ด)

3




จานที่สาม พิซซ่า หน้า 4 season cheese และ meat ซึ่งมีเบคอนและเนื้อหมูนุ่มๆ ถาดนึงมี 8 ชิ้น เป็นพิซซ่าแป้งบาง มิ้นท์กับบิ๊กลงความเห็นตรงกันว่า รสชาติก็เหมือนพิซซ่าทั่วไปอะนะ อาจจะต่างออกไปที่เนื้อแป้ง

คะแนนอาตี๋ 7/10

คะแนนอาหมวย 6/10

4




จานสุดท้าย รีซอตโต้ไส้กรอก (Sausage Risotto) ข้าวอบชีสใส่แฮม ไส้หรอก และชีสโรยหน้า เป็นจานที่กินแล้วเป็นต้องนิ่วหน้า บิ๊กผู้ไม่ค่อบได้เข้าครัวบอกว่ารสชาติเหมือนชีสไม่สด ส่วนมิ้นท์ผู้เข้าครัวบ่อยๆขอบอกว่ารสชาติหยั่งกะใช้มาการีนแบบเดียวกับร้านขายเครปยี่ปุ่นที่เป็นรถเข็นตามท้องถนน กินข้าวเปล่าๆไปคำแรกนี่มีสะดุ้ง กินกับแฮมและไส้กรอกแล้วค่อยยังชั่ว

ในจานนี้ที่รอดอย่างเดียวคือไส้กรอก อร่อย มันน้อยดี เนื้อแน่น

คะแนนอาตี๋ 4/10

คะแนนอาหมวย 4/10


ราคาทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1800 บาท (รวมค่าน้ำ+ service charge) ขออภัยที่ไม่ได้จดราคาของแต่ละจานมาเนื่องจากรีวิวในครั้งนี้เกิดขึ้นกระทันหันจนเราลืมจดราคามา อย่างไรก็ตามมิ้นท์ว่าราคามันแพงเกินคุณภาพกับรสชาติที่ได้ไปหน่อยนะ ร้าน Capri นี้โดยรวมก็อร่อยดีนะ แต่ไม่ได้โดดเด่น standout อะไร

ขอจบรีวิวนี้แต่เพียงเท่านี้ ฝากติดตามภาคต่อไปด้วยเน้อ สวัสดีค่า

pictures
์รูปหน้าร้านขอยืมมาจาก //travel.truelife.com/detail/1745171
รูปอาหารทั้งหมด ถ่ายจากกล้อง IPhone5 (รูปที่สีสดกว่า) และ Samsung S4
The food pictures belong to @bigism @palita_t @sasipimpam

ปล. ขอขอบคุณแขกรับเชิญ @sasipimpam
ปล2. มีคำติชมอะไรคอมเม้นได้เลยน้า




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 29 กรกฎาคม 2557 17:25:26 น.   
Counter : 726 Pageviews.  



สมาชิกหมายเลข 1442994
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 1442994's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com