Genetic Counseling

เช้านี้เราไปหาหมอสูติเพื่อฝากท้อง อีริคขอไปด้วย เพื่อแสดงสปิริต พอไปถึงก็มีพยาบาลมาสัมภาษณ์ประวัติสุขภาพโดยทั่วไป ประวัติการทั้งท้อง แล้วก็ประวัติโรคทางพันธุกรรมของครอบครัว แล้วพยาบาลก็ถามว่าใครจะมาเข้าห้องคลอดด้วยหรือเปล่า อีริครีบบอกอย่างกระตือรือร้นว่าผมเองครับ พยาบาลก็ถามยิ้มๆว่าแล้วจะมีส่วนร่วมในการคลอดด้วยหรือเปล่า (ไม่รู้แกแกล้งกระเซ้าหรือเปล่า) อีริคก็รีบตอบเสียงดังฟังชัดว่าแน่นอนๆ ผมจะต้องมีส่วนร่วม เราแอบขำอ่ะ พี่แกเป็นคู่หูที่ดีจริงๆนะ ทำไรทำด้วยกันหมด ระหว่างที่สัมภาษณ์ก็มีใบอะไรต่ออะไรมาให้เซ็นรับทราบเป็นระยะๆ แล้วก็มีถุงใส่เอกสารใบเขื่องให้กลับไปอ่าน

เสร็จแล้วพยาบาลก็พาเราไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง เอาปัสสาวะไปตรวจ จากนั้นก็ไปเจาะเลือดสำหรับตรวจโรคต่างๆ เจาะไปตั้ง 4 หลอดแน่ะ เห็นแล้วแอบใจหวิวๆ

ต่อมาก็ไปคุยกับหมอ หมอที่คลีนิคนี้ติดอันดับหมอดีที่สุดในย่านวอชิงตันดีซีทีเดียว เราว่าโดยทั่วไปก็ดีจริงๆนะ พยาบาลและพนักงานทุกคนก็ดีทั้งนั้น หมอถามว่ามีคำถามอะไรหรือเปล่า เราก็ถามว่าเรื่อง genetic testing อ่ะค่ะ มันมีหลายชนิด ไม่รู้จะเลือกอันไหนดี หมอก็ถามกลับว่ามันขึ้นกับคุณก่อนเลย ว่าถ้าคุณไปตรวจแล้วพบว่าเด็กในท้องมีความผิดปกติทางโครโมโซมอย่างมาก คุณจะเก็บเด็กไว้ หรือจะเอาออก ...พอดีเราเคยคิดเรื่องนี้กันแล้วเมื่อตอนท้องคราวที่แล้ว เราก็เลยตอบได้เลย ว่าจะเอาออก หมอบอกว่างั้นต้องตรวจแบบที่รู้ผลแน่ๆ มีสองแบบ แบบนึงคือเอาเนื้อเยื่อที่มดลูกไปตรวจ กับอีกแบบคือเจาะน้ำคร่ำไปตรวจ แบบอื่นๆแค่รู้โอกาสที่จะมีความปกติ แต่ไม่รู้แน่ๆว่าเป็นหรือเปล่า ทั้งสองแบบที่ว่ามานี่มีโอกาสทำให้แท้งนิดหน่อย ประมาณ .25 - .5% ซึ่งแปลว่าถ้าไม่คิดจะทำแท้งเมื่อเจอความผิดปกติ ก็ไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยง หมอก็เลยบอกว่าจะส่งไปคุยกับคลินิคเฉพาะทาง แล้วเจ้าหน้าที่เค้าจะวิเคราะห์ความเสี่ยงของโรคต่างๆให้อย่างละเอียด แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะทำเทสต์ชนิดไหนดี

จากนั้นเราก็โดนจับตรวจภายใน กับตรวจฟังเสียงหายใจทั่วไป ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ หมอบอกว่าหัวใจเราเต้นช้าดี มดลูกก็เริ่มนิ่มแล้ว คือพอ 6 สัปดาห์มันจะเริ่มนิ่ม ต่อจากนั้นมันถึงจะขยายตัวได้ ก็ดีๆ แต่หมอบอกว่ามดลูกเอนมาด้านหน้า ...ที่จริงหมอที่ทำ IUI ก็เคยบอกเรา แต่แกทำท่าเฉยๆบอกว่าไม่เป็นปัญหากับการตั้งครรภ์ แต่ไม่รู้หมอนี้คิดยังไงอ่ะ แต่ไม่พูดไรคงไม่เป็นไรมั้ง ดันปากหนักไม่ได้ถาม

กลับมาก็เลยมีการบ้านมาคิดต่อเรื่อง genetic testing ว่ามันยังไงกันหว่า คือว่าเราอายุเกิน 35 โอกาสที่ลูกจะเป็นดาวซินโดรมก็ค่อนข้างสูง ประมาณ 1-3% แล้วไม่รู้มีโรคอะไรอีก แต่พูดถึงว่าโรคอื่นๆเคสเราก็คงไม่เสี่ยงเท่าไหร่เพราะพ่อกับแม่เป็นคนละเผ่าพันธุ์กัน โอกาสที่ทั้งคู่จะมียีนไม่ดีตรงกันคงน้อยหน่อย

รู้สึกใจฝ่อไปเยอะเหมือนกันเวลาคิดเรื่องนี้ นอกจากจะต้องลุ้นให้ติดแล้วยังต้องลุ้นให้ปกติดีอีกด้วยนะเนี่ย


Create Date : 17 พฤษภาคม 2551
Last Update : 17 พฤษภาคม 2551 0:58:20 น. 2 comments
Counter : 732 Pageviews.  

 
น้องไอน์สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: โอ IP: 125.24.215.99 วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:15:20 น.  

 
อ่านแล้วก็ลุ้นไปด้วย.. ตรวจเยอะแท้..

หมอเล่นดักถามคำถามเครียดๆไว้ตั้งแต่ต้น.. แบบนี้ก็เครียดล่วงหน้าเรย..
แต่ก็ดี.. มันเหมือนการวางแผนตั้งรับในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นแบบคาดเดาไม่ได้



โดย: อาเล้ง (King of Alan ) วันที่: 27 ตุลาคม 2551 เวลา:23:13:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Oreo's Mama
Location :
กรุงเทพ Virginia United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Lilypie Second Birthday tickers
[Add Oreo's Mama's blog to your web]