ตื่นดึกๆอีกแล้ว

เมื่อสองเดือนก่อนเราเลิกให้น้องจีกินนมแม่ตอนดึกๆ ตอนแรกก็เอาขวดนมใส่น้ำเปล่ามารอไว้ กับมีจุกปลอม ซึ่งน้องจีก็ไม่อยากได้ทั้งสองอย่าง โมโหที่ไม่ได้กินนม ต้องให้พ่อเค้าเอาไปกล่อมที่เก้าอี้โยก ใช้เวลาชั่วโมงนึงกว่าจะหลับต่อกันได้ ไม่กี่วันก็เลิกตื่นขึ้นมา ทำให้ทุกคนได้พักผ่อนดีขึ้น... ยกเว้นแต่เราที่หลายคืนแรกก็ยังนอนไม่หลับ ดันคิดถึงลูก อยากให้มากินนมอีก ประสาทมั้ยเีนี่ย แล้วก็รู้สึกเครียดมากๆ เดาว่าฮอร์โมนคงแปรปรวนเนื่องจากร่างกายปรับระดับการผลิตน้ำนม แต่ต่อมาก็หายไปเอง

แต่เดือนที่แล้วก็มีเหตุ คือต้องพาน้องจีไปงานศพของลุงเบิร์ต ซึ่งจัดกลางแจ้ว แล้วอากาศมันร้อนมาก ขนาดอยู่ในร่มก็ยังร้อน แต่เราก็ให้น้องจีกินน้ำ กินนม ตามเวลา แต่แล้วน้องจีก็มีอาการ heat exhaustion ตัวร้อนเป็นไข้อยู่ 2 วัน น้ำก็ไม่ยอมกิน เราก็เลยพยายามให้กินนมขวดตอนกลางคืนเป็นการเสริม แต่เรื่องก็ยังไม่จบง่ายๆ น้องจีไม่สบายต่อเนื่องมาเรื่อยๆจนถึงตอนนี้ เป็นสารพัด ท้องเสียอย่างหนัก ฟันกรามขึ้นเลยเจ็บเหงือก เป็นไวรัสที่กล่องเสียงจนหายใจไม่ได้ เป็นหวัด ตอนนี้ติดเชื้่อในช่องหู สรุปว่ากินนมกลางคืนมาเรื่อยๆ

ที่แย่ตอนนี้ก็คือว่า น้องจีตื่นขึ้นมาขอกินนมกลางดึกบางคืนแล้วเราไม่มีนมขวดเตรียมไว้ในห้องนอน ก็ต้องอุ้มน้องจีเดินไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมขวดนม แล้วกลับมานอนกินนมหลับต่อ อันนี้คงทำให้น้องจีรู้สึกสนุก แล้วก็อยากจะลงไปอีก ก็เลยเริ่มตื่นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกตื่นขึ้นมากินนม 1 ครั้งต่อคืน ก็กลายเป็น 2 ครั้ง กลายเป็นตื่นทุก 4 ชั่วโมง เมื่อคืนวานตื่นทุก 3.5 ชั่วโมง แล้วก็เมื่อคืนตื่นทุก 2.5 ชั่วโมง เทร็นด์นี้ คืนนี้คงตื่นทุก 2 ชั่วโมง เราว่าไม่ไหวแล้ว ต้องหย่านมขวดกลางดึกอีก

เดาว่าคงคล้ายๆตอนหย่านมแม่นั่นแหละ แต่ที่ยากขึ้นก็คือว่าตอนนี้น้องจีโตขึ้น (ผ่าน 18 เดือนมาแล้วมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก) เวลาไม่พอใจจะร้องไห้นานมาก บางทีโกรธมากๆก็สงบอารมณ์เองไม่เป็น อย่างเมื่อเช้านี้น้องจีตื่นมาตอนเกือบตี 5 ร้องจะเอานม เราบอกว่าตอนนี้ไม่มีนม นอนต่ออีกแป๊บ แล้วเดี๋ยวได้กิน น้องจีก็คงไม่เข้าใจคำพูดเรา แล้วก็ไม่รู้จักว่ารอเป็นยังไง ก็เลยร้องไห้ใหญ่ ไปตะกายอีริคด้วย ปลอบอยู่ 20 นาทีก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดร้องไห้ อีริคทนไม่ไหวเลยไปเอานมมาให้กิน เราเดาว่าคงต้องเป็นแบบนี้กลางดึกอีกหลายทีกว่าจะหย่าได้ เตรียมใจอดหลับอดนอนไว้ได้เลย เฮ้อ




 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2553   
Last Update : 21 กรกฎาคม 2553 19:28:14 น.   
Counter : 729 Pageviews.  

ไปเที่ยว Chincoteague Island

เสาร์อาทิตย์นี้เราไปเที่ยวที่ Chincoteague Island กัน เกาะนี้อยู่ในรัฐเวอร์จิเนียเหมือนกัน ขับรถประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งถ้าไม่แวะ แต่เราต้องหยุดแวะกันบ่อยๆเพราะน้องจีเบื่อนั่งรถมาก ถ้าไม่หลับต้องแวะเกือบทุกชั่วโมง

ขาไปแวะกินข้าวกลางวันกันที่เมืองเล็กๆชื่อ Hebron ท่าทางทั้งเมืองจะมีร้านอาหารอยู่ร้านเดียว เจ้าของร้านเสิร์ฟเอง วิ่งวุ่น อาหารไม่แพง แต่โชคร้ายไปนิดที่พอพวกเราเข้าไปนั่งได้ไม่นานก็มีเด็กวัยรุ่นผู้ชาย 2 คนมานั่งที่โต๊ะใกล้ๆ และคนนึงคงจะไปเหยียบขี้หมามา กลิ่นตลบไปทั้งร้าน เราต้องกลั้นอกกลั้นใจกินอาหาร เลยบอกไม่ถูกว่าอร่อยหรือเปล่า

พอนั่งรถต่อไปอีกนิดก็เห็นไร่สตรอเบอรี่ข้างทาง เขียนว่าU-Pick (ให้คนซื้อเก็บเอง) พวกเราอยากไปเก็บผลไม้สดๆจากไร่มานานแล้วแต่ไม่ได้โอกาสเหมาะ วันนี้เลยรีบเลี้ยวรถเข้าไป พอเปิดประตูรถก็ได้กลิ่นสตรอเบอรี่สุกกรุ่นไปทั่วบริเวณ คุณลุงแก่ๆส่งกล่องกระดาษให้บอกว่ากล่องละ $1.35 ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าครึ่งราคาตามร้าน ถูกกว่าครึ่งด้วยซ้ำ ลุงบอกว่าไปเก็บเล้ย ในไร่มีเป็นล้านๆลูกได้มั้ง พวกเราก็เดินดุ่มๆไปตามแนวต้นสตรอเบอรี่ อีริคไปเก็บเดี่ยว ส่วนเรากับน้องจีช่วยกัน โดยเรามีหน้าที่เด็ดและน้องจีมีหน้าที่เอาใส่กล่อง... สตรอเบอรี่ที่นี่ลูกค่อนข้างเล็ก แต่แดงฉ่ำน่ากินมากๆ แต่ว่าเผลอแป๊บเดียวหันมาดู น้องจีแปลงร่างเป็นหนอน เอานิ้วชี้สองนิ้วเจาะสตรอเบอรี่เล่น น้ำแดงๆเปื้อนแขนขาเต็มไปหมด ... รีบไปจ่ายตังค์แล้วขับรถไปต่อดีกว่า


พอไปถึงโรงแรมมองไปฝั่งตรงข้ามถนนเล็กๆก็เห็นสนามเด็กเล่นท่าทางสะอาดสะอ้านน่าเล่นมาก พวกเราเลยพาน้องจีไปเล่นให้หายเบื่อที่ต้องนั่งรถมานาน ระหว่างน้องจีเล่น พ่อกับแม่ก็กินสตรอเบอรี่กันใหญ่ เพราะว่าเป็นสตรอเบอรี่ที่ทั้งหวานทั้งฉ่ำ แทบจะอร่อยที่สุดที่เคยกินมาเลยก็ว่าได้ (ปกติที่ขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตจะเป็นของที่เก็บมาตั้งแต่ยังไม่สุกดีเพราะต้องขนส่งข้ามประเทศมาจากรัฐฟลอริด้าหรือคาลิฟอร์เนีย ถึงข้างนอกจะดูเหมือนแดงดี แต่ข้างในจะยังมีสีขาวๆแล้วก็ไม่ค่อยหวาน) น่าเสียดายที่น้องจีไม่ยอมกิน(เอาแต่จะเจาะเล่น) น้องจีเล่นชิงช้าที่เป็นรูปปลาฉลามสนุกมาก ร้องว่า วี้ เวลาแกว่งสูงๆ เปลี่ยนเครื่องเ่ล่นไปหลายอัน ในที่สุดมาเล่นไม้โยก เราว่ามันน่ากลัวตกเพราะไม่มีอะไรช่วยกัน เราเลยไปยืนข้างๆน้องจี เผื่อว่ายังไงจะได้คว้าตัวไว้ ปรากฏว่าเล่นไปแป๊บนึงน้องจีก็ยกมือขึ้นมาทำ sign ว่าพอแล้ว แต่ sign นี้มันต้องยกทั้งสองมือขึ้นมาชู ก็เลยตกลงมา แถมตกไปอีกด้าน เราเลยจับไม่ทัน พอวิ่งไปอุ้มขึ้นมาพบว่าหน้าแปะดินไปเต็มๆ มีดินในปากด้วย ร้องไห้งอหายเลย พ่อกับแม่เลยพากันคอตกอุ้มลูกกลับโรงแรม



ตอนเย็นไปกินร้านอาหารทะเลข้างๆโรงแรม ซึ่งพอดีอ่านมาว่าอาหารค่อนข้างอร่อย ปรากฏว่าราคาค่อนข้างแพง อาหารสดมากก็จริงแต่ทำไม่เห็นอร่อยเลย แถมเราโชคร้ายเจอหอยกาบที่เหม็นเน่าตัวนึงด้วย

คืนนั้นนอนหลับกันสบายเพราะเลือกเตียงขนาดคิง ถึงน้องจีจะนอนขวางเตียงก็ยังมีที่เหลือให้คนอื่นนอนได้ด้วย

ตอนเช้าไปเที่ยวที่ Assateague Island ซึ่งอยู่ติดกับ Chincoteague แต่เป็นเขตป่าสงวน เป็นที่สำหรับนกที่บินย้ายถิ่นหนีร้อนหนีหนาวไว้พักระหว่างทาง เกาะนี้มีชายหาดด้วย ได้ยินว่าหาดสงบดีมากๆ ไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรเลย พอไปถึงก็พบว่าจริงอย่างว่า ห้องน้ำก็เป็นรุ่นตู้ชั่วคราว แต่ก็ยังดีที่มีจัดไว้บริการ อาหารก็ไม่มีขาย ต้องขับออกไปซื้อกินที่ Chincoteague ลืมบอกไปว่าแค่ขับรถข้ามสะพานเล็กๆก็ถึงกันแล้ว คือบริเวณนี้เป็นหนองน้ำ แล้วก็มีทุ่งหญ้าโผล่ขึ้นมาเป็นหย่อมๆ
เราอุตส่าห์หวังว่าจะได้เล่นน้ำทะเล แต่วันนี้น้ำเย็นเจี๊ยบ ฟ้าก็มีเมฆเยอะ ลมก็จัด และเป็นลมที่ค่อนข้างเย็นด้วย ก็เลยไม่ได้เปลี่ยนชุดว่ายน้ำกัน แค่ใส่เป็นขาสั้น แล้วก็เล่นทราย น้องจีกลัวทะเลอีกตามเคย คลื่นที่นี่ค่อนข้างแรงด้วย พอให้น้องจีเดินบนทรายแล้วทรายมันยวบๆก็ร้องไห้จ้า เราก็เลยไปเก็บกิ่งไม้แถวนั้นมาปักๆบนทราย แล้วให้น้องจีตีเล่นเผื่อจะผ่อนคลายหน่อย แล้วก็ไปวิ่งไล่นกนางนวลกัน จะขุดทรายหาหอยกาบ ซึ่งได้ยินว่าที่นี่มีเยอะ ขุดๆไปก็ไม่เห็นมีสิ่งมีชีวิตอะไร ไม่รู้เค้าต้องไปขุดที่ไหนกัน สุดท้ายชักจะหนาวก็เลยชวนกันขึ้นรถ


ขับต่อไปบริเวณป่าของเกาะ ที่เกาะนี้มีม้าป่าอยู่ด้วย แต่ไม่ใช่ม้าที่มีโดยธรรมชาิติ เพราะทวีปอเมริกาไม่มีม้า แต่สันนิษฐานกันว่าอาจจะเป็นม้าที่รอดมาจากเรือของนักสำรวจชาวสเปนที่แตกเมื่อประมาณ 300 ปีก่อน บางคนก็บอกว่าไม่ใช่ เป็นม้าที่ชาวบ้านเอาไปปล่อยให้กินหญ้าบนเกาะแล้วหนีไปออกลูกออกหลานกันเอง ยังไงก็ตามตอนนี้มันกลายเป็นม้าป่าไปแล้ว มีที่คนจับมาเลี้ยงไว้ให้ดูนิดหน่อยด้วย เราไปดูที่บริเวณคอกม้ากัน น้องจีสนใจมาก ไปเกาะรั้วดูอย่างจดจ่อ แล้วเราก็ไปเดินเข้าป่าเพื่อดูพวกม้าในธรรมชาิติด้วย

ทางเดินเข้าไปเป็นทางราดยางมะตอย สงสัยว่าสมัยก่อนคงให้เอารถเข้าได้ แต่ตอนนี้ได้แต่เดินหรือขี่จักรยานเข้าไป ปรากฏว่าอีริคเป็นตัวเรียกยุงป่า มีมาตอมแกเป็นร้อยๆ แต่เรากับน้องจีแทบไม่โดน ตอนแรกจะให้น้องจีเดินเอง แต่รู้สึกว่าถ้าเดินช้าแบบนั้นอีริคจะต้องโดนยุงหามไปแน่ อีริคก็เลยต้องอุ้มน้องจีขึ้นมา ส่วนเราคอยเดินตามไล่ยุงด้านหลังให้เค้า น้องจีเห็นพ่อกับแม่แกว่งแขนกันขวักไขว่ก็ขำมาก แถมยังจำกลับมาทำเลียนแบบที่บ้านด้วย โชคดีที่วันนี้พวกม้ามากินหญ้ากันใกล้ๆจุดชมวิวพอดี เลยได้ถ่ายรูปดีๆมาให้ดูด้วย มีป้ายถามว่าสงสัยหรือเปล่าว่าทำไมม้าพุงป่องๆ เฉลย...เป็นเพราะว่ามันกินหญ้าในหนองน้ำซึ่งอมน้ำไว้เยอะ มันเลยหนักท้อง ไม่ได้เป็นเพราะมันท้อง พอดูม้าเสร็จก็เดินไปดูประภาคาร แต่ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ




ตอนบ่ายไปเที่ยวในตัวเมือง Chincoteague มีร้าน gift shop หลายร้าน แล้วก็มีคอนเสิร์ตวงดนตรีเล็กๆที่สวนริมทะเลด้วย พอบ่ายแก่ๆพาน้องจีกลับไปเล่นที่ playground ที่เดิม คราวนี้กลายเป็นตาเราที่ตกเครื่องเ่ล่น นั่งอยู่บนชิงช้าดีๆ ดันขยับตัวจะล้วงเอามือถือกับพวงกุญแจในกระเป๋าออกมา แล้วก็หงายหลังลงไปกองอยู่ที่พื้น เราก็หัวเราะขำตัวเองที่เป็นแบบนี้เป็นประจำ แต่พอน้องจีหันมาเห็นแม่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้นก็ร้องไห้จ้า กลายเป็นต้องรีบปลอบน้องจีแทน ตอนหลังเรากับอีริคแอบสงสัยกันว่าน้องจีร้องทำไม อีริคเลยแกล้งตกจากเตียงลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่พื้น น้องจีก็ร้องไห้จ้าอีก ก็เลยคิดกันว่าเด็กๆอาจจะรู้สึกกลัวว่าถ้าพ่อแม่เป็นอะไรไปตัวเองจะไม่ปลอดภัยละมั้ง

เช้าวันจันทร์กินอาหารเช้าที่โรงแรมซึ่งรวมอยู่ในค่าห้องพัก เรากับอีริคต้องผลัดกันกิน(ตามเคย)เพราะว่าน้องจีอยากออกไปเดินเล่น เราเลยพาน้องจีออกมาเิดินข้างนอกห้องอาหาร พอดีมีแม่เป็ดตัวนึง ซึ่งท่าทางจะเป็นเป็ดที่อพยบหนีร้อนหนีหนาวเหมือนกัน กำลังนั่งไซ้ขนอยู่ในสวนตรงนั้น น้องจีสนใจมาก เดินไปดูใกล้ๆ มันก็ไม่หนีไป ซักพักมันลุกขึ้นมาเดิน น้องจีก็เลยเดินไล่จับมัน มันเดินหนีไปร้องก้าบๆๆๆไปด้วย น้องจีชอบใจมาก ร้องว่าก้าๆๆๆ(พูดไม่ชัด) พอถึงเวรเรากินข้าวเช้าก็มีคุณลุงแก่ๆคนนึงเข้ามากินอาหารเช้าในห้องนั้นด้วย นับเป็นโชคร้ายของเรา คือสงสัยว่าคุณลุงแกจะใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และทำธุรกิจตอนเช้าไว้ในผ้าอ้อมด้วย เหม็นมั่กๆ ประวัติศาสตร์ซ้ำสองต้องกินไปดมไปอีกแล้ว

จากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางกลับบ้านแบบไม่รีบร้อน แวะพักตามทางเป็นระยะ กว่าจะถึงบ้านก็บ่าย 3 กว่าๆแน่ะ




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2553   
Last Update : 26 พฤษภาคม 2553 19:38:21 น.   
Counter : 670 Pageviews.  

ไปเที่ยว Leesburg Animal Park กัน

อาทิตย์นี้อ้านท์ดีน่ากับอังเคิ้ลแพ็ทบินมาเยี่ยมจากโคโลราโ้ด ก็เลยพาไปเที่ยว Leesburg Animal Park ซึ่งเป็นสวนสัตว์เล็กๆไม่ไกลบ้าน ในพาร์คมีสัตว์ป่านิดหน่อย ส่วนมากจะเป็นสัตว์ฟาร์มพวกแพะแกะ เป็ด ไก่ แล้วก็มีบริเวณนึงเป็นลานใหญ่มากล้อมรั้วเอาไว้ แต่ให้คนเข้าไปได้ ในนั้นพวกสัตว์จะเดินกันเป็นอิสระ จะจับมันหรือให้อาหารมันก็ได้

พอพวกเราไปถึงบริเวณนั้น ยังไม่ทันเปิดประตูรั้วเข้าไป ประตูรั้วชั้นสองก็เปิดออก(เค้าทำประตู 2 ชั้นกันสัตว์หนีออกมา) แล้วม้าแกลบสีนวลตัวนึงกับแพะสีตุ่นๆตัวนึงก็เดินมารอต้อนรับ อีริคเปิดถุงอาหารสัตว์ที่ได้มาตอนซื้อตั๋วเข้าชมออกมาให้มัน พอผ่านเข้าประตูชั้นสองไปถึงตรงลานใหญ่ได้พวกแพะก็มาออกันใหญ่ ตอนที่อีริคเผลอมัวแต่ให้อาหารแพะตัวนึง แพะตัวดำๆตัวนึงก็ลุกขึ้นมายืน 2 ขา กัดถุงอาหารขาด อาหารหกกระจาย พวกสัตว์ก็เลยมารุมกินกันใหญ่ ท่าทางพวกนี้มันแอบเถื่อน โชคดีที่เราไม่ได้ถืออาหารอยู่ แต่ถึงอย่างนั้น ตอนที่ยืนดูอีริคโดนแพะรุม ม้าแกลบตัวสีนวลก็แอบงับขาเราไปทีนึง แล้วก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

พอเดินต่อไปอีกหน่อยพวกแพะก็มารุมเราบ้าง คงกะว่าเราก็ต้องมีอาหาร แต่พอพบว่าไม่มีอะไร แพะตัวนึงก็เคี้ยวขากางเกงเราใหญ่ ขณะที่เรากำลังดูแพะตัวนั้น อีกตัวก็ตะกายขึ้นมาเึคี้ยวสายที่ผูกกางเกงเรา หยา แอบไม่สนุกนะเนี่ย

แต่น้องจีชอบที่ได้ลูบหลังแพะ แพะพวกนี้เป็นแพะแคระ ตัวมันเลยเล็กๆไม่น่ากลัว

ช่วงนี้มีลูกสัตว์เล็กๆ่น่ารักให้ดูเยอะ มีทั้งลูกแกะ ลูกแพะ ลูกหมู ลูกกระต่าย

พอเที่ยวตากลมกันจนหนาวได้ที่ก็กลับบ้านกัน


โปรดสังเกตุเต่ายักษ์ที่มุมซ้ายบน




 

Create Date : 11 พฤษภาคม 2553   
Last Update : 11 พฤษภาคม 2553 0:51:53 น.   
Counter : 674 Pageviews.  

ไม่ตีแม่

2-3 อาทิตย์มานี้น้องจีเริ่มตีแม่ สงสัยว่าจะจำมาจากเพื่อนที่โรงเรียน ตีเพื่อเรียกความสนใจ แต่ก็กึ่งๆโกรธที่ไม่ได้อย่างใจ ก็ไม่ได้เจ็บอะไรเพราะเด็กยังแรงน้อย แต่บางทีถ้าเอาของเล่นมาตีก็เจ็บเหมือนกัน ฉันก็ดุน้องจีเพื่อให้ไม่ติดนิสัยชอบตีแล้วไปตีคนอื่น แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเพราะน้องจียังตีอยู่

เมื่อวันเสาร์ น้องจีตีฉันอีก ฉันก็ส่งเสียงดังเพื่อแสดงความโกรธก่อน แต่แล้วก็สังเกตุเห็นน้องจียกนิ้วชี้ขึ้นมาแกว่งขึ้นๆลงๆ และพูดเสียงเข้มๆพร้อมกับทำคิ้วขมวดว่า "ไม่...." คือฟังออกแต่คำว่าไม่ ที่เหลือเป็นภาษา่มนุษย์ต่างดาว แล้วฉันก็เหลือไปเห็นมือตัวเองที่ยกนิ้วชี้ขึ้นมา จังหวะนั้นก็เลยรู้ว่ามันเลียนแบบตูนี่หว่า ขำมากจนดุต่อไม่สำเร็จ พูดคำหัวเราะคำ เลยยอมแพ้ไป ไปเล่าให้อีริคฟัง เค้าไม่ได้พูดว่าอะไร แต่มองหน้่าเราด้วยสายตาราวกับจะพูดว่าเธอมันห่วยจริงๆ สอนลูกแค่นี้ไม่สำเร็จ

วันอาทิตย์ตอนบ่าย อีริคเห็นน้องจีตีฉันอีก ก็เลยจะดุน้องจี น้องจีก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมาแกว่งพร้อมกับพูดเสียงเข้มๆอีก อีริคถึงกับยกนิ้วชี้ค้าง (ที่แท้ทำท่านี้ทั้งพ่อทั้งแม่นี่เอง) ต้องหันไปแอบหัวเราะอยู่หลายที เหอะๆ ตัวเองก็ดุไม่สำเร็จเหมือนกันนี่

ต่อจากนั้น ฉันแอบเห็นน้องจีเวลานั่งเ่ล่นคนเดียวก็แกว่งนิ้วชี้แล้วพูดว่าไม่อะไรๆอีก แบบนี้แปลว่าลูกจำที่พวกเราสอนได้มั้ยเนี่ย

พูดถึงว่าถ้าตีเพื่อเรียกร้องความสนใจแล้วไปดุ ก็คือให้ความสนใจ แบบนี้ก็ยิ่งส่งเสริมให้ตีสินะ




 

Create Date : 10 พฤษภาคม 2553   
Last Update : 10 พฤษภาคม 2553 21:09:33 น.   
Counter : 430 Pageviews.  

อากาศดีฤดูใบไม้ผลิ

เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาอากาศดีมากๆ ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสด มีเมฆน้อยๆพองาม อุณหภูมิก็กำลังดี ทำให้คนแถวนี้รู้สึกอยากออกไปทำอะไรๆนอกบ้านให้คุ้มกับที่ต้องจับเจ่าอยู่ในบ้านมาตลอดฤดูหนาว

วันเสาร์พวกเราออกไปกับกลุ่มครอบครัวทำงาน ขับรถไป 45 นาทีก็ถึงพาร์คแห่งหนึ่งซึ่งมีจัดโปรแกรมเดินสำรวจชีวิตสัตว์ป่าสำหรับเด็ก ไปถึงก่อนเวลา น้องจีเลยได้เล่นชิงช้าตรงสนามเด็กเล่นด้วย



เส้นทางสำรวจนี้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ค่อยๆเดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็มีการหยุดแวะให้เด็กๆพลิกก้อนหินพลิกขอนไม้เผื่อเจอสัตว์อะไรซ่อนอยู่ น้องจีก็ได้ลงเดินกับเค้าด้วยเหมือนกัน สลับกับให้แดดดี้อุ้ม อากาศเพิ่งจะเริ่มอุ่น ต้นไม้ก็เลยยังไม่มีใบ ไปตรงไหนก็เป็นสีน้ำตาลแห้งๆ นานๆจะมีต้นสน ต้นเฟิร์น แล้วก็มอสเป็นสีเขียวให้ดู สัตว์ที่พบก็มีแมงมุม ไส้เดือน แมงด้วง แล้วก็มีหมาที่คนแถวนั้นพามาเดินเล่นหลายชนิด แ่ต่อากาศดีจัดๆแบบนี้ทุกคนก็เลยแฮปปี้ดี



พอเดินป่าเสร็จก็ไปกินข้่าวกันต่อ จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

วันอาทิตย์ออกไปซื้อกับข้าวกัน


แล้วน้องจีก็ไปเล่นไม้ลื่นที่สนามเด็กเล่นแถวๆบ้าน ตอนแรกก็นั่งลงมาดีๆ ต่อมาเปลี่ยนเป็นท่าคว่ำหน้าลง รู้สึกว่าจะชอบท่านี้มากกว่าเพราะพอลงมาถึงข้างล่างแล้วยืนทรงตัวได้ง่ายกว่า


และแล้ววันหยุดก็จบลง หวังว่าเสาร์อาทิตย์หน้าจะอากาศดีแบบนี้อีกนะ




 

Create Date : 23 มีนาคม 2553   
Last Update : 23 มีนาคม 2553 2:32:14 น.   
Counter : 903 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  

Oreo's Mama
Location :
กรุงเทพ Virginia United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Lilypie Second Birthday tickers
[Add Oreo's Mama's blog to your web]