สมาคมครูหนุ่มหล่อแห่งประเทศไทย
Group Blog
 
All Blogs
 

เป็นเพดาน หรือเปล่าครับ คงไม่เหมือนกับ 5% ที่ได้มาแล้วมาคูณกับเงินเดือนครับ ลองดูประกาศ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/

เป็นเพดาน หรือเปล่าครับ คงไม่เหมือนกับ 5% ที่ได้มาแล้วมาคูณกับเงินเดือนครับ ลองดูประกาศ //www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2554/A/021/1.PDF




 

Create Date : 31 มีนาคม 2554    
Last Update : 31 มีนาคม 2554 2:58:34 น.
Counter : 722 Pageviews.  

Put the right job on the right man :: แนวคิดการบริหารงานและบริหารคนยุคใหม่

Put the right job on the right man :: แนวคิดการบริหารงานและบริหารคนยุคใหม่
ใครเรียนวิชาการบริหารงานบุคคลมา อ่านหัวข้อเรื่องนี้แล้วคงจะคิดว่าผมเขียนผิด เพราะเราคุ้นเคยกับคำว่า “Put the right man on the right job” เพียงอย่างเดียว จริงๆ แล้วไม่ผิดหรอกครับ ผมตั้งใจจะสื่อปัญหาการบริหารคน และการบริหารงานในองค์กร ที่กำลังสร้างผลกระทบให้เกือบทุกองค์กรในปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าปัญหานี้จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

ในอดีต ภารกิจหรืองานขององค์กรต่างๆ มักจะนิ่งไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะผู้ผลิตเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เช่น ถ้าเป็นโรงงานผลิตสินค้า ส่วนใหญ่จะเป็นการผลิตแบบ Mass Production คือ ผลิตเป็นล๊อตใหญ่ๆ เพื่อขาย ผู้ผลิตมักจะเป็นผู้กำหนดว่า จะผลิตอะไร เท่าไหร่ เมื่อไหร่ ดังนั้น กระบวนการทำงานจึงถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน รูปแบบการบริหารคนแบบเดิม จึงใช้แนวคิดที่ว่า “Put the right man on the right job” คือ หาคนที่เหมาะสมมาทำงานที่ได้กำหนดไว้อย่างถูกต้องแล้ว

แต่....เมื่อ โลกเปลี่ยนไป ธุรกิจเปลี่ยนแปลง การแข่งขันรุนแรงขึ้น สภาพแวดล้อมมีความซับซ้อนมากขึ้น ทำให้องค์กรปัจจุบันและอนาคตต้องปรับตัว ภารกิจขององค์กรปรับบ่อยขึ้น ทำให้กระทบต่อโครงสร้างการบริหารงานที่ต้องปรับบ่อยขึ้น และตำแหน่งงานแต่ละตำแหน่ง ก็ต้องปรับเปลี่ยนตาม คนทำงานในหลายองค์กรเริ่มเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ได้ชัดเจนมากขึ้น โดยสังเกตง่ายๆ จากจำนวนครั้งที่มีการปรับผังการบริหารองค์กร หรือหน่วยงานต่างๆ ในแต่ละปี ปรากฏว่ามีการปรับเปลี่ยนบ่อยกว่าในอดีต บางคนเริ่มบ่นแล้วว่า ผังเก่ายังไม่ทันเข้าที่เลย ผังใหม่จะออกมาอีกแล้ว ผู้บริหารจะเอายังไงกันแน่ คนทำงานตามไม่ทันแล้ว

มีเหตุผล มากมายที่ทำให้องค์กรต้องมีการปรับผังการบริหารแบบใหม่ เช่น งานบางงานใช้บริการจากภายนอก (Outsource) จะมีประสิทธิภาพมากกว่า งานบางงานต้องปรับเพราะกลยุทธ์ขององค์กรเปลี่ยน แนวคิดการบริหารสมัยใหม่เข้ามาทำให้มีการรื้อโครงสร้างองค์กร บางครั้งปรับเปลี่ยนเพราะผังการบริหารงานแบบเดิมทำให้เกิดปัญหาหลายอย่าง ฯลฯ

อีกปัญหา หนึ่งที่หลายองค์กรกำลังประสบอยู่ นั่นก็คือ Put the wrong job on the right man หมายถึง การที่เรามีคนเก่ง มีความรู้ความสามารถสูง แต่เรามอบหมายงานที่ไม่เหมาะสมกับฝีมือให้เขา เรามอบหมายงานที่เขาไม่ถนัดให้ทำ ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นมากกับหลายองค์กร สาเหตุหลักๆ มาจาก
คนทำงานคิดอย่างเดียวว่าขอให้ได้งานไว้ก่อน ไม่สนใจว่างานนั้นเป็นสิ่งที่ตัวเองชอบหรือไม่
การหาคนให้เหมาะสมกับงาน ถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ยังใช้ได้อยู่ แต่ต้องไม่ลืมว่า คนหางานหลายคนมีความสามารถหลายด้าน เราอาจจะเห็นว่า เขามีความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่เรากำลังหาอยู่ แต่เราอาจจะไม่รู้ว่า คนๆ นั้น เขาอาจจะมีความสามารถในด้านอื่นๆ ที่โดดเด่นกว่า มีความสามารถที่เหมาะสมกับงานที่เรากำลังหาอยู่หรือไม่ ปัญหาที่ติดตามมาคือ เราได้คนที่ทำงานนั้นๆ ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ คนๆ นั้นก็จะรู้สึกเบื่องาน เพราะไม่ใช่สิ่งที่เขาชอบหรือถนัดมากที่สุด บางคนก็ทนทำไป แต่บางคนก็ทนไม่ไหวก็ลาออกไป ทำให้คนทำงานก็เสียเวลาที่มาจมอยู่กับงานที่ไม่ได้ใช้ความสามารถอย่างเต็ม ที่ องค์กรเองก็เสียเวลา ที่ไม่สามารถพัฒนาให้เขาเติบโตขึ้นไปในสายงานนั้นๆ ได้ ผมเชื่อว่าปัญหานี้มีเยอะมากในเกือบทุกองค์กร ถ้าอยากจะรู้ก็แค่สอบถามพนักงานทุกคนว่า คุณคิดว่าความสามารถที่โดด เด่นมากที่สุดของคุณคืออะไร? และถ้าให้เลือกได้ คุณอยากจะทำงานในตำแหน่งไหน?
การอนุรักษ์งานเดิมให้คงอยู่ โดยไม่สนใจว่าใครจะมาดำรงตำแหน่ง
เมื่อเรายึดแนวคิด Put the right man on the right job มากจนเกินไป คือยึดมั่นถือมั่นว่า ฝ่ายเราจะต้องมีตำแหน่งนี้ต่อไป การยุบตำแหน่งงานใดตำแหน่งงานหนึ่งของแต่ละหน่วยงาน ไม่เคยอยู่ในความคิดของคนที่เป็นหัวหน้าหน่วยงาน ยังไงก็จะพยายามรักษาตำแหน่งงานที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด เว้นเสียแต่ว่าผู้บริหารระดับสูงสั่งมา อยู่ดีๆ จะคิดยุบเองคงไม่มีทางเป็นไปได้ และตำแหน่งงานต่างๆ ในองค์กร มักจะมีอัตราการเกิดตำแหน่งใหม่สูงกว่าอัตราการตาย (ยุบ) ของตำแหน่งงานเก่า สุดท้ายตำแหน่งงานเยอะมาก ทั้งๆ ที่ภาระงานโดยรวมขององค์กรยังมีเท่าเดิม
มีงานฝากอยู่เรื่อยๆ จนงานฝากมากกว่างานที่ควรจะทำในตำแหน่งงานนั้นๆ
บางครั้งเราได้คนทำงานเก่งๆ มาดำรงตำแหน่งที่ถูกต้องและเหมาะสมในช่วงแรก แต่พอเวลาผ่านไปนานๆ งานบางงานไม่มีคนทำ งานบางงานขาดผู้ดำรงตำแหน่งชั่วคราว งานบางงานขาดผู้ดำรงตำแหน่งงานถาวร ก็จะมีเศษๆ งานของตำแหน่งต่างๆ โอนมาให้คนทำงานในตำแหน่งอื่น โอนไปโอนมา บางครั้งก็บอกว่าฝากไว้ก่อน มีทั้งประเภทฝากเผื่อเรียก(ออมทรัพย์) ฝากประจำ และงานบางงานฝากลืม(ไม่รู้จะเอาคืนเมื่อไหร่) สุดท้ายคนที่เก่งในตำแหน่งงานหนึ่ง จะต้องไปทำงานที่ตัวเองไม่เก่ง บางครั้งต้องใช้เวลาหมดไปกับงานที่ตัวเองไม่ถนัดมากกว่างานที่ตัวเองถนัด เหตุการณ์นี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีความสามารถ เพราะคนที่ไม่ค่อยเก่ง ผู้บริหารก็ไม่ค่อยมอบงานอะไรให้เพิ่ม ดังนั้น คนเก่งจึงได้รับงานเพิ่มเสมอ สุดท้าย วันๆ ก็นั่งทำแต่งานที่ตัวเองถนัดน้อย

จากปัญหาที่ผม อธิบายมานี้ ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่า การบริหารคนและบริหารงานในปัจจุบันและอนาคต จะใช้เพียงแนวคิดเดิมที่ว่า “Put the right man on the right job” เพียงอย่างเดียวคงจะไม่ได้แล้ว แต่จะต้องบวกด้วยแนวคิดที่ว่า “Put the right job on the right man” เพราะการที่เรามีคนเก่งอยู่ในองค์กรแล้วเราไม่ได้ใช้เขาอย่าง เต็มที่ หรือใช้งานเขาผิดที่ผิดทาง อาจจะสูญเสียศักยภาพในการแข่งขันได้ แต่ถ้าเรามีคนเก่งอยู่แล้ว และไม่อยากเสียเขาไปให้กับองค์กรอื่น ผมคิดว่าเราอาจจะต้องหันมาพิจารณาแนวคิดที่ว่า หางานให้เหมาะสมกับคนเก่งๆ (Put the right job on the right man) ให้มากขึ้น เช่น มีคนบางคนทำงานในตำแหน่งงานที่รับเข้ามาดี แต่เขาเป็นคนที่คิดอะไรแปลกอยู่เรื่อย คิดไม่เหมือนคนอื่น แต่งานที่ทำอยู่ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรใหม่ องค์กรอาจจะพิจารณาหางานที่เหมาะสมกับความสามารถให้เขา ด้วยแนวทางต่างๆ เช่น ทำงานในตำแหน่งเดิมแต่เพิ่มงานด้านการพัฒนาทางความคิดสร้างสรรค์ให้เขาด้วย หรือสร้างงาน (ตำแหน่ง) ใหม่ ที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์และย้ายเขาไปทำงานนั้นแทน

การบริหารองค์กร ในปัจจุบัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาทั้งคนและงานควบคู่กันไป ถ้างานเหมาะสมกับภารกิจและกลยุทธ์ขององค์กรแล้ว ก็คงจะต้องมาพิจารณาดูว่า เรามีคนที่เหมาะสมกับงานนั้นหรือไม่ ในขณะเดียวกัน ถ้าเรามีคนที่เก่งๆ เหมาะสมกับกลยุทธ์ขององค์กร ก็คงจะต้องมาพิจารณาดูว่า งานต่างๆ ที่เรามีอยู่นั้นเหมาะสมกับคนเก่งๆ และเหมาะสมกับกลยุทธ์ขององค์กรในช่วงเวลานั้นๆ มากน้อยเพียงใด การที่จะพิจารณาว่าคนเก่งสำคัญกว่า หรืองานที่เหมาะสมสำคัญกว่า ในแต่ละช่วงเวลานั้น ให้ดูจากภารกิจและกลยุทธ์หลักขององค์กร แต่อยากจะฝากข้อคิดไว้ให้ทุกองค์กรคือ ถ้าวันนี้เราเอางานบางงานออกไป (จ้างคนข้างนอกทำ) พรุ่งนี้เราสามารถเอางานนั้นกลับมาทำใหม่ได้ แต่...ถ้าวันนี้เราเปลี่ยนเอาคนเก่งๆ ออกไป (เพราะไม่เหมาะกับงานวันนี้) พรุ่งนี้จะหาคนเก่งๆ มาใหม่นั้นทำได้ยาก จึงอยากให้ผู้บริหารองค์กรพิจารณาว่า การที่เรามีคนเก่งๆ อยู่กับองค์กรนั้น ถ้าวันนี้เรามีงานที่ไม่เหมาะสมให้เขาทำ แต่พรุ่งนี้ เดือนหน้าหรือปีหน้า งานที่เหมาะสมกับเขากำลังจะมีเข้ามาี เราควรจะให้เขาอยู่ต่อเพื่อรองานที่เหมาะสม หรือจะให้เขาออกไปก่อน แล้วค่อยหาคนใหม่เข้ามาทำเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

“งานดีๆ สร้างได้ภายในวันเดียว แต่คนเก่งๆ ต้องใช้เวลาพัฒนาเป็นปี”

ที่มา : //www.e-hrit.com/




 

Create Date : 28 มีนาคม 2554    
Last Update : 28 มีนาคม 2554 22:12:22 น.
Counter : 2142 Pageviews.  

แบบทดสอบความรู้ด้านวินัย(ชุดที่ 1)

แบบทดสอบความรู้ด้านวินัย(ชุดที่ 1)

ตอบได้มากกว่า 1 ตัวเลือก

1. ข้อใดเป็นผิดวินัยร้ายแรง
ก. ละทิ้งหน้าที่ราชการ 15 วัน ข. ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกันคราวเดียวเกิน 15 วัน
ค. ละทิ้งหน้าที่ราชการในคราวเดียวเกิน 15 วันแต่มีเหตุสมควร
ง. ละทิ้งหน้าที่ราชการในคราวเดียวเกิน 15 วันโดยไม่มีเหตุอันสมควร
2. สถานโทษความผิดวินัยร้ายแรงได้แก่
ก. กักยาม ข. กักขัง ค. ตัดเงินเดือน ง. ไล่ออก จ. ปลดออก
3. สถานโทษความผิดวินัยไม่ร้ายแรงได้แก่
ก. ตัดเงินเดือน ข. กักยาม ง. กักขัง ง. ทัณฑกรรม จ. ถูกทุกข้อ
4. ส.ต.ท.สมศักดิ์ มีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้วแต่ต่อมาได้ไปอยู่กินกับนางสาวสมศรี (โสด) ถูกภรรยาร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชาว่าไม่ส่งเสียเลี้ยงดู เป็นความผิดหรือไม่ อย่างไร
ก. ไม่ผิดวินัย ข. ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ค. ผิดวินัยร้ายแรง ง. ผิดอาญา
5. ส.ต.ท.สมศักดิ์ มีภรรยาถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้วแต่ต่อมาได้ไปอยู่กินกับนางสมศรี ซึ่งมีสามีจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว ถูกสามีของนางสมศรี ร้องเรียนต่อผู้บังคับบัญชา เป็นความผิดหรือไม่ อย่างไร
ก. ผิดวินัยร้ายแรง ข. ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ค. ไม่ผิดวินัย ง. ผิดอาญา
6. อะไรไม่เป็นความผิดทางวินัย
ก. เล่นการพนันชนไก่ ข. เล่นการพนันปลากัด ค. เล่นการพนันปั่นแปะ ง. เล่นการพนันสลากกินแบ่งรัฐบาล
จ. เล่นการพนันสลากกินรวบ ฉ. เล่นการพนันป๊อกเด้งในบ้าน
7. อะไรไม่ใช่โทษทางวินัย
ก. ภาคทัณฑ์ ข. ทัณฑกรรม ค. กักยาม ง. ว่ากล่าวตักเตือน จ. ทำทัณฑ์บน
ฉ. ตัดเงินเดือน ช. ไล่ออก ซ. ปลดออก
8. ด.ต.สมาน ได้รับสิทธิเข้าพักอาศัยแฟลตลือชา แต่ไม่เข้าพักโดยให้นายสมพงษ์ เช่าเดือนละ 2,000 บาท ผิดวินัยหรือไม่ อย่างไร
ก. ไม่ผิดวินัย ข. ผิดวินัยร้ายแรง ค. ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ง. ผิดวินัยเล็กน้อยถูกว่ากล่าวตักเตือน
9. ข้าราชการตำรวจต้องหาคดีอาญา ถูกฟ้องคดีอาญา ถูกฟ้องคดีแพ่ง ต้องรายงานตนภายในกี่วันนับแต่มีเหตุต้องรายงาน
ก. 2 วัน ข. 3 วัน ค. 4 วัน ง. 5 วัน จ. 7 วัน
10. จ.ส.ต.นพดล เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ มาทำงานและลงชื่อตามเวลา แต่ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ ออกไปช๊อปปิ้ง 2 ชั่วโมง ผู้บังคับบัญชาเรียก แต่ไม่พบตัว เป็นความผิดฐานใด
ก. ละทิ้งหน้าที่ราชการ ข. ทอดทิ้งหน้าที่ราชการ ค. ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา
ง. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
11. ส.ต.ต.ประกิต เป็นเจ้าหน้าที่กำลังพลมาลงชื่อทำงาน นั่งประจำที่อยู่ที่ทำงานแต่ไม่สนใจปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบ เป็นความผิดฐานใด
ก. ละทิ้งหน้าที่ราชการ ข. ทอดทิ้งหน้าที่ราชการ ค. ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ง. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
12. เป็นข้าราชการตำรวจขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เป็นความผิดหรือไม่ อย่างไร
ก. ผิดอาญาตาม พ.ร.บ.จราจรฯ ข. ไม่ผิด ค. ผิดวินัยร้ายแรง ง. ผิดวินัยไม่ร้ายแรง
13. ด.ต.สุระ ขณะเข้าสิบเวร ได้เสพสุราในร้านอาหารข้าง สน. ผิดวินัยหรือไม่ อย่างไร
ก. ผิดวินัยร้ายแรง ข. ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ค. ไม่ผิดวินัย ง. ผิดอาญา
14. ร.ต.ท.สมหวัง เดินทางไปราชการที่ จ.หนองคาย และได้นั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงไปเที่ยวที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดวินัยหรือไม่
ก. ผิดวินัยร้ายแรง ข. ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ค. ไม่ผิดวินัย ง. ผิดอาญา
15. พ.ต.ท.วีระ ไม่พอใจผู้บังคับบัญชากรณีไม่อนุมัติให้ไปราชการ จึงดื่มสุราและเมายิงปืน 1 นัด ที่หน้าบ้าน ผู้บังคับบัญชาไม่มีทรัพย์สินเสียหาย หรือผู้ใดบาดเจ็บ ได้รับโทษสถานใด
ก. กักขัง ข. ตัดเงินเดือน ค. กักยาม ง. ถูกดำเนินคดีอาญา จ. ไล่ออกหรือปลดออก
16. นาย ก. มาที่ สน.บุคคโล ขอคัดสำเนาประจำวัน ได้พบ ร.ต.อ. ข. ร้อยเวร เจ้าของคดีซึ่งได้สำเนาประจำวันให้แล้ว แต่ไม่ชัดเจน นาย ก. ไม่พอใจและเกิดมีปากเสียงกันขึ้น ร.ต.อ. ข. ได้บันดาลโทสะใช้มือตบศีรษะ นาย ก. 1 ครั้ง นาย ก. ได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ ร.ต.อ. ข. ในข้อหาทำร้ายร่างกาย
ก. ผิดวินัยร้ายแรง ฐานกดขี่ขมเหงทำร้ายประชาชนผู้มาติดต่อราชการ
ข. ผิดวินัยร้ายแรง ฐานกดขี่ขมเหงทำร้ายประชาชนผู้มาติดต่อราชการและถูกดำเนินคดีอาญา
ค. ผิดวินัยไม่ร้ายแรงกรณีประพฤติตนไม่สมควร ง. ถูกทุกข้อ
17. จ.ส.ต.กมล เป็นหน้าม้าอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นให้ผ่านการสอบบรรจุเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ ผู้เสียหายหลงเชื่อมอบเงินให้ 30,000 บาท แต่สอบไม่ได้ จ.ส.ต.กมล มีความผิดฐานใด
ก. ผิดวินัยร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ ข. ผิดวินัยไม่ร้ายแรงฐานประพฤติตนไม่สมควร
ค. ถูกดำเนินคดีอาญาข้อหาฉ้อโกงทรัพย์
ง. ผิดวินัยร้ายแรงฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
18. ร.ต.ท.วิชิต รอง สวป.สน.ดอนเมือง ออกตรวจท้องที่พบเหตุซึ่งหน้าลักทรัพย์ คนร้ายวิ่งหลบหนีเข้าบ้านนางเตือนใจ ร.ต.ท.วิชิต วิ่งติดตามเข้าไปในบ้านนางเตือนใจ ทำให้ประตูหน้าต่างแตกเสียหาย ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ถูกนางเตือนใจ แจ้งความร้องทุกข์ข้อหาบุกรุกฯ ร.ต.ท.วิชิต ต้องถูกดำเนินการทางวินัยหรือไม่ อย่างไร
ก. ถูกดำเนินการทางวินัยทันทีเนื่องจากต้องหาคดีอาญา
ข. ไม่ถูกดำเนินการทางวินัยเนื่องจากต้องหาคดีอาญาจากการปฏิบัติหน้าที่
ค. ไม่ถูกดำเนินการทางวินัยเนื่องจากเป็นความผิดเล็กน้อย
19. ส.ต.ท.มานะ มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยรัฐมนตรี ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งได้ช่วยแจกแผ่นพับหาเสียงให้กับรัฐมนตรีซึ่งตนรักษาความปลอดภัยอยู่ พฤติการณ์เป็นความผิดทางวินัยหรือไม่
ก. ไม่เป็นความผิดวินัย ข. ผิดวินัยฐานวางตัวไม่เป็นกลางทางการเมือง ค. ผิดวินัยฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
20. ร.ต.อ.สิงหา รอง สวป.สน.โชคชัย นำตู้แดงไปติดหน้าบ้านนางสมร และขอให้ช่วยค่าน้ำมันรถในการมาตรวจเซ็นชื่อ ตู้แดงทุกวัน 1,000 บาทต่อเดือน นางสมรยินดีให้ด้วยความเต็มใจ เป็นความผิดหรือไม่ อย่างไร
ก. ไม่ผิด ข. ผิดอาญา ค. ผิดวินัยไม่ร้ายแรง ง. ผิดวินัยร้ายแรงฐานอาศัยอำนาจหน้าที่หาประโยชน์ เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการและประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง




 

Create Date : 28 มีนาคม 2554    
Last Update : 28 มีนาคม 2554 19:00:50 น.
Counter : 3293 Pageviews.  

รวมแนวข้อสอบบรรจุครูผู้ช่วย เก็งข้อสอบครู แนวข้อสอบ สอบบรรจุครู

สรุปแนวข้อสอบ

1. เทคโนโลยีทางการศึกษา…..(ขบวนการ วิธีการ ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา)
2. เทคโนโลยีทางการศึกษามี 3 ชนิด (1.วัสดุ 2. เครื่องมือหรืออุปกรณ์ 3. วิธีการ)
3. เทคโนโลยีทางการศึกษาที่เป็นวัสดุ ได้แก่ ชอล์ค ดินสอ แผนที่)
4. เทคโนโลยีทางการศึกษาที่เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์….(คอมพิวเตอร์ สไลด์ เครื่องฉายภาพยนตร์)
5. เทคโนโลยีทางการศึกษาที่เป็นวิธีการ ได้แก่…(การทดลอง การสาธิต บทเรียนโปรแกรม)
6. MULTIMEDIA……….(สื่อประสม ได้แก่ SOUND ภาพ ข้อความ )........ออกสอบ สปจ. ปี 2546
7. ถ้าเปรียบเทคโนโลยีทางการศึกษาเหมือนต้นไผ่ นวัตกรรมจะหมาย……….(หน่อไม้)
8. การประเมินผลที่ สปช. ส่งเสริมให้โรงเรียนปฏิบัติคือ……………….(การตรวจผลงาน)
9. พบเด็กขาดเรียนบ่อย …. …(ปรับปรุงวิธีสอนให้น่าสนใจ ไม่ให้การบ้านมากเกินไป ไม่ลงโทษโดยวิธีให้อับอาย)
10. BIG BOOK อยู่ขั้นใดของ ม.ป.ภ………. (ขั้นที่ 4)
11. มปภ. มี 5 ขั้น (1. ครูอ่าน 2. นักเรียนเล่าเรื่อง 3. ครูและนักเรียนเขียน 4. นักเรียนทำหนังสือใหญ่ 5. ชื่นชมผลงาน)
12. กลุ่มประสบการณ์ใดที่มีอัตราเวลาเรียนตรงข้ามกับกลุ่มทักษะ……(กพอ. สปช.)
13. ความต้องการขั้นต่ำสุด และสูงสุดของ มาสโลว์…(ความต้องการด้านร่างกาย – ความสำเร็จ)
14. วิชาภาษาอังกฤษ ป. 1 เรียนกี่คาบ…..(120 คาบ)
15. วิชาภาษาอังกฤษ ป. 2 - 4 เรียนกี่คาบ…..(240 คาบ)
16. วิชาภาษาอังกฤษ ป. 5 – 6 เรียนกี่คาบ…..(600 คาบ)
17. ชั้น ป. 3 – 4 คัดลายมือแบบใด………..(ตัวบรรจงครึ่งบรรทัด - ตัวหวัดแกมบรรจง)
18. วิชา สปช. หน่วยการเรียนใดมีอยู่ตั้งแต่ชั้น ป.1 – ป.6 คือ…...(ข่าวเหตุการณ์สำคัญ)
19. ป. 02 คือ…..…..(แบบกรอกคะแนนการประเมินผลประจำปี)
20. ป. 02 - 2 คือ……….(สมุดประจำชั้น จะอยู่ในเล่มเดียวกันกับ ป.02)
21. ข้อใดไม่สัมพันธ์กัน….. (ป.01 รบ.1 ต.)
22. เกณฑ์การจบหลักสูตรมัธยมต้น ต้องเรียนไม่น้อยกว่ากี่หน่วย….(90 หน่วย)
23. PORT FOLIO หมายถึง…..(แฟ้มสะสมงาน)
24. กระบวนการประเมินผล PORT FOLIO…..(แฟ้มสะสมงาน)
(1) จัดเก็บชิ้นงาน
(2) คัดเลือกชิ้นงานที่ดี
(3) นำเสนอความคิด บุคลิกภาพลงในแฟ้ม
(4) สะท้อนความคิดเห็นความรู้สึกต่อชิ้นงาน
(5) ตรวจสอบความเหมาะสมของแฟ้มสะสมงาน
(6) ประเมินและปรับปรุงให้สมบูรณ์
(7) ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมเป็นปัจจุบัน
( แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและชื่นชมในความสำเร็จ
25. ขั้นสุดท้ายของ PORT FOLIO คือ….(จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและชื่นชมในความสำเร็จ)
26. มปภ. เน้นวิชาใด…(ภาษาไทย)
27. การเรียนการสอนปัจจุบัน เน้นสื่อการเรียนการประเภทใด (MULTI MEDIA)
28. ข้อใดคือคอมพิวเตอร์ช่วยสอน………………………...(CAI)
29. เวลาเรียนระดับประถมศึกษา 1 คาบมีกี่นาที…………. (20 นาที)
30. อำเภอหนึ่งมีกลุ่มโรงเรียน 9 กลุ่มโรงเรียน จะมี กปอ.กี่คน….(12 คน)
31. โรงเรียนขนาดเล็ก มีครูไม่ครบชั้น ควรใช้สื่อประเภทใด……(RIT)
32. I.Q คนปกติอยู่ในช่วงใด….(90 – 110)
35. ใครเป็นผู้อนุมัติผลการเรียน ม.ต้น……(สถานศึกษา)
36. การทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ มีกำหนดระยะเวลา….(1 ปี)
37. ในระหว่างปี นักเรียนคนใดมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีมากและมีวุฒิภาวะเหมาะสมที่จะ เลื่อนไปเรียนในชั้นที่สูงขึ้น ให้สั่งเลื่อนไปเรียนในชั้นที่สูงขึ้น ภายใน….(1 กันยายน ของปีการศึกษานั้น)
38. วิธีการประเมินผลการเรียน……….ออกสอบ ปี 2543
- ก่อนจัดการเรียนการสอน ….เพื่อตรวจสอบความรู้พื้นฐานและทักษะเบื้องของนักเรียน
- ระหว่างภาคเรียน ……….….เพื่อพัฒนาการเรียนของนักเรียน และเพื่อประเมินผลการผ่านจุดประสงค์
- ปลายภาคเรียน ………….….เพื่อตรวจสอบความรู้ความสามารถตามที่กำหนด
39. ประสบการณ์นามธรรมสูงสุดของ เอ็ดกา เดล คือ……..…(วัจนสัญลักษณ์).......ออกสอบ ปี 2543
40. ระบบการทำงานคอมพิวเตอร์…………… (Input - Process - Output)
41. การสอนวิทยาศาสตร์ควรจัดสอนที่ใดดีที่สุด…(ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์)
42. ห้อง Sound Lab ใช้ประโยชน์กับวิชาใด…… ทุกวิชา ………ออกสอบ
43. โครงสร้างวิชาคณิตศาสตร์…(จำนวน พีชคณิต การวัด เรขาคณิต สถิติ)
44. โครงสร้างวิชาคณิตศาสตร์ ป. 1 – 2 …( จำนวน - การวัด - เรขาคณิต)
45. ระดับผลการเรียน 2 หมายถึง… (ผลการเรียนปานกลาง)…….ออกสอบ
46. ถ้านักเรียนจะขอย้ายสถานศึกษา จะใช้เอกสารใด…… (ป. 04)
47. การอุทธรณ์ ให้อุทธรณ์อย่างไร…(ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง)
48. การร้องทุกด้วยวาจา ร้องทุกข์เมื่อใด………( )
49. ระดับใดไม่ต้องสอบปลายภาคเรียน….(ป. 1- 3 - 5 )
50. รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มีกี่มาตรา (336 มาตรา)

ดาวโหลดเพิ่มที่ //www.testthai1.com




 

Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2554 23:19:46 น.
Counter : 905 Pageviews.  

รำอวยพร ให้ครูทุกท่านสอบผ่าน

ระบำกฤดาภินิหาร

ปราโมทย์แสน...................ดังอัปสรอมรแมนแดนสวรรค์
ยินกฤดาภินิหารมหัศจรรย์...................เกียรติไทยลือลั่นเรืองรูจี
ต่างเต็มตื้นชื่นชมโสมนัส...................อษฐ์เอื้อนอรรถอวยพรสุนทรศรี
แจ้วจำเรียงเสียงเพลงสดุดี...................ดนตรีรี่เรื่อยประโคมประโลมลาน
แล้วลีลาศเริงรำระบำร่าย...................กรกรีดกรายโปรยมาลีสีประสาน
พรมน้ำทิพย์ปรุงปนสุคนธาร...................จักรวาลฉ่ำชื่นรื่นรมย์ครัน

------------------------------------

ระบำเทพบันเทิง

เหล่าข้าพระบาท...................ขอวโรกาสเทวฤทธิ์อดิศร
ขอฟ้อนกราย...................รำร่ายถวายกร
บำเรอปิ่นอมร...................ปะตาระกาหลา
ผู้ทรงพระคุณ...................ยิ่งบุญบารมี
เพื่อเทวบดี...................สุขสมรมยา
เถลิงเทพสิมา...................พิมานสำราญฤทัย
สุรศักดิ์ประสิทธิ์...................สุรฤทธิ์กำจาย
ทรงสราญพระกาย...................ทรงสบายพระทัย
ถวายอินทรีย...................ต่างมาลีบูชา
ถวายดวงตา...................ต่างประทีปจำรัสไข
ถ้อยคำอำไพ...................ต่างธูปหอมจุณจันทน์
ถวายดวงจิต...................อัญชลิตวรคุณ
ที่ทรงการุณย์...................ผองข้ามาแต่บรรพ์
ถวายชีวัน...................รองบาทจนบรรลัย
ร่วมกันร้องทำนองลำนำ...................มาฟ้อนมารำให้รื่นเริงใจ (ซ้ำ)
ให้พร้อมให้เพรียงเรียงระดับ...................เปลี่ยนสับท่วงทีหนีไล่เวียนไปได้จังหวะกัน
อัปสรฟ้อนส่าย...................กรีดกรายออกมา
ฝ่ายฝูงเทวา...................ทำท่ากางกั้น (ซ้ำ)
เข้าทอดสนิท...................ไม่บิดไม่ผัน (ซ้ำ)
ผูกพันสุดเกษม...................ปลื้มเปรมปรีดา

------------------------------------

ระบำดาวดึงส์
คำร้อง: สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

ดาวดึงส์เทวโลกมโหฬาร...................เป็นที่อยู่สำราญฤทัยหรรษ์
สารพัดงามจริงทุกสิ่งอัน...................สารพันอุดมสมใจปอง
เทพบุตรผุดพรรณโฉมยง...................งามทรงอาภรณ์ไม่มีหมอง
นางอัปสรงอนสงวนนวลละออง...................งามทรงเครื่องทองและเพชรนิล
สมเด็จพระอัมรินทร์ปิ่นมงกุฎ...................ทรงวชิราวุธธนูศิลป์
รักษาเทวสีมาเป็นอาจิณ...................อสุรินทร์อสุรีไม่บีฑา
อันอินทรปราสาททั้งสาม*...................ทรงงามสูงเงื้อมกลางเวหา
สี่มุขหุ้มมาศสะอาดตา...................ใบระกาแกมแก้วประกอบกัน
ช่อฟ้าช้อยเฟื้อยเฉี่อยชด*...................บราลีที่ลดมุขกระสัน*
มุขเด็ดทองคาดกนกพัน*...................บุษบกสุวรรณชามพูนุท*
ราชยานเวชยันต์รถแก้ว*...................เพริศแพร้วกำกงอลงกต*
แอกงอนอ่อนสลวยชวยชด*...................เครือขดช่อตั้งบัลลังก์ลอย*
รายรูปสิงห์อัดหยัดยัน*...................สุบรรณจับนาคหิ้วเศียรห้อย*
ดุมพราววาววับประดับพลอย...................แปรกแก้วกาบช้อยสะบัดบัง
เทียมด้วยสินธพเทพบุตร...................ทั้งสี่บริสุทธิ์ดั่งสีสังข์
มาตลีอาจขี่ขับประดัง...................ให้รีบรุดสุดกำลังดังลมพา

* = ซ้ำ
ท่อนส่ง อสุรินทร์อสุรีไม่บีฑา ไม่แน่ใจว่าอสุรีหรืออรีเฉยๆ เพราะฟังของพระราชวังพญาไทใช้อสุรี




 

Create Date : 27 มกราคม 2554    
Last Update : 27 มกราคม 2554 23:52:01 น.
Counter : 1117 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

hangclub
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]




Friends' blogs
[Add hangclub's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.