สมาคมครูหนุ่มหล่อแห่งประเทศไทย
Group Blog
 
All Blogs
 

ใจหาย แต่ยังต้อง หายใจ

เค้าทิ้งไป ลมหายใจยังเป็นของเรา
อย่าให้ใครบางคน นอกจากจะทำร้ายจิตใจเราแล้ว
ยังทำลายชีวิตเราด้วย
ฉันไม่ได้น่าสงสารขนาดนั้น
และ....
เค้าไม่ได้สำคัญมากพอ !!!!!

คนคิดสั้นหลายคนก็รักตัวเอง
รักมากซะจนไม่อยากให้ตัวเราเศร้ากับเรื่องอะไรต่อไปอีก
รักตัวเองมากซะจน.......ลืมมองคนอื่น ๆ ที่รักเรา
ว่าเค้าจะเศร้าแค่ไหน ถ้าเราจากโลกใบนี้..ไปแล้ว

"รัก" เป็นอีกเรื่องที่ทำให้คนหัวใจอ่อนล้า ถึงขั้นลาโลก


บางทีคนเราก็ลืมนึกไปว่า เราเกิดมาอย่างยากเย็น
จากความรักของคน 2 คน คือ พ่อกับแม่
จะตายทั้งทีเคยถามท่านหรือเปล่า

เรามักฆ่าตัวตายให้กับคนที่... ไม่ได้รักเราแล้ว
เพื่อมาทำร้ายจิตใจคนที่รักเราเท่าชีวิต


คิดให้สั้นทีละวันก่อน ให้รอดเป็นวัน ๆ
วันนี้รอด พรุ่งนี้รอด
จากวันที่เข้มแข็ง กลายเป็นอาทิตย์ที่เข้มแข็ง
ยาวนานเป็นเข้มแข็งตลอดทั้งเดือน

ไม่อยากอยู่ให้เห็นหรือว่า ใครกันนะ คือคนที่รักเราจริง ?????


เหมือนแกล้งกัน...ธรรมชาติของสมองของคนเราจะจดจำแต่เรื่องเจ็บๆ
ได้แม่นกว่าเรื่องสุข ๆ อยู่แล้ว

มันคือวิธีธรรมชาติที่ทำให้สิ่งมีชีวิตอยู่รอด
จำเรื่องเจ็บๆเอาไว้ คราวหน้าจะได้ไม่พาตัวเองไปเจ็บอีก

ร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 3 ใน 4 ส่วน
น้ำตามีให้ใช้มากพอ ไม่ต้องห่วง
ร้อง ๆ ล้างพิษออกไปซะ

ตายน่ะง่าย อยู่ให้ได้ยากกว่าเยอะ

.............................................

ไม่หย่อน.....ไม่ตึง....
ช่วยกันประคองไว้ ให้หัวใจเข้าที่เข้าทาง
หัวใจที่แข็งแรงจะอดทนและเข้าใจ
ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่.........

คือ ชนะหัวใจตัวเอง





 

Create Date : 03 เมษายน 2553    
Last Update : 3 เมษายน 2553 23:49:35 น.
Counter : 551 Pageviews.  

ชีวิตยังมีทิศตะวันออก

บ่อยครั้งที่ชีวิตผิดพลาด..ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่
เรามักจะเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับความผิดพลาดนั้น
ซ้ำเติมตัวเองให้ทุกข์...ให้เสียใจ...
และพยายามจะสร้างคำถามเพื่อค้นหาคำตอบให้ตัวเองอยู่เสมอ


ทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่าคำตอบที่สร้างขึ้นมานั้น มัน " ไม่ใช่ความจริง"...
ที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากความเสียใจนั้นได้เลย...


เราจึงยอมติดกับดักความเสียใจอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
และกลายเป็นทาสของมันอย่างรู้ตัว...


รู้ว่าเสียใจแต่ก็ไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นมา
และเราก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้
แต่ทำไมเรายังเป็นทุกข์กับการเลือกที่จะเสียใจ
และทำชีวิตให้มันแย่ลงกว่าเดิมทุกวันๆ...


ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ารสชาติของมันสุดแสนจะขมขื่นมากมายเพียงใด


เพราะ " เราเริ่มต้นใหม่ไม่เป็น"...
เราเลยยังทุกข์ระทมไปกับความผิดพลาดของชีวิต


สิ้นสุดแล้วแต่ก็เริ่มต้นใหม่ไม่ได้...
ไปไม่เป็น...เหมือนจะมองเห็นทาง...


แต่ก็เลือกที่จะปิดหู ปิดตา และไม่พยายามจะเปิดใจ
เราจึงต้องอยู่กับความเศร้าเสียใจอยู่ทุกคืนทุกวัน
ตอกย้ำความผิดพลาดให้ตัวเองอยู่อย่างนั้น...


ลองมองดูวิถีดอกทานตะวันบ้างสิ..ชีวิตมีแต่ความเบิกบาน
เพราะรู้จักที่จะใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับแสงตะวัน
แสงสว่างที่ส่องนำทางให้ชีวิตทุกชีวิต..." ยังคงมีชีวิต"...


แม้ยามที่ดอกทานตะวันร่วงโรย...
ก็ยังคงทิ้งเมล็ดพันธุ์ให้เจริญเติบโต...
งอกงามและรับแสงตะวันได้ใหม่อีกครั้ง


เพราะฉะนั้นเราต้องไม่ปิดตัวเอง...
แล้วจมอยู่กับความคิดที่ว่าชีวิตต้องเริ่มต้นใหม่ไม่ได้


อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการเศร้าเสียใจ...
แล้วปล่อยให้ชีวิตมันไหลไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีคุณค่าและไร้จุดมุ่งหมาย...


จงใช้ชีวิตให้เป็นดั่งเช่นดอกทานตะวัน...
แม้ยามผิดพลาด เสียใจ ก็จะมีทางออกของชีวิตเสมอ


อับจนหนทางอย่างไร แสงสว่างจากดวงตะวัน
ก็จะคอยส่องทางให้เราได้พบเจอทางออก


"ชีวิตเราจึงมีทางออก ตราบใดที่บนโลกใบนี้ยังมีทิศตะวันออก"...


แม้ว่าชีวิตจะยังมืดมน จะยังคงจมอยู่กับความผิดพลาด เศร้าใจ
ก็จงเศร้าให้ถึงที่ สุด เสียใจ ก็จงเสียใจเสียให้พอ


หากยังร้องไห้ ขอให้ระบายน้ำตาออกมา อย่ากักเก็บมันไว้ ...
เมื่อเราเสียใจอย่างถึงที่สุดแล้ว เราต้องกล้าลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง
และพร้อมที่จะเป็นคนใหม่ ที่ใช้บทเรียนจากอดีต...
เป็นเหมือนเข็มทิศคอยช่วยบอกทางแก่ชีวิต เพราะ...


" ความเศร้านั้นมีข้อดีข้อเสียในตัวมันเอง
ข้อเสียคือทำให้เราโศกาอาดูร
แต่ข้อดีของมันคือ...
สอนให้เรารู้ว่าเราจะไม่ผิดพลาดตรงนี้อีก
เราจะต้องไม่ร้องไห้ให้กับมันอีก..."


ใครบางคนเคยบอกเอาไว้ตอนที่เสียใจกับความผิดพลาดของชีวิต...
เพราะฉะนั้นแล้วเกิดเป็นคน มีความรู้สึกรู้สาเหมือนกันหมด
สามารถเศร้าเสียใจกับอดีตที่ผิดพลาดได้เหมือนกันหมด
และก็เริ่มต้นใหม่เหมือนกันหมดเช่นเดียวกัน...


ขอเพียงกล้าที่จะเป็นนกปีกหักที่พร้อมจะรักษาตัวเอง
และออกเดินทางได้โดยไม่กลัวว่าหนทางข้างหน้า...
จะผิด พลาดซ้ำสอง อย่าลืมนะว่า ...


" เรามีโอกาสผิดพลาดได้บ่อยครั้งเท่าไหร่ เราก็เดินถูกทางมากขึ้นเท่านั้น..."




 

Create Date : 03 เมษายน 2553    
Last Update : 3 เมษายน 2553 23:45:25 น.
Counter : 605 Pageviews.  

ข้อดีของความทุกข์

ความทุกข์แม้จะเป็นข้อเสีย แต่ก็มีข้อดีมิใช่น้อย?ดังนี้


๑. ทำให้เรา?เข้มแข็งขึ้น

๒. ทำให้เรา?รู้ถึงค่าของความสุข

๓. ทำให้เรา?มีความสามารถมากขึ้น

๔. ทำให้เรา?มีสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้หายทุกข์

๕. ทำให้เรา?มีประสบการณ์ในการแก้ปัญหามากขึ้น

๖. ทำให้เรา?มีความอดทนมากขึ้น

๗. ทำให้เรา?มองโลกกว้างมากขึ้น

๘. ทำให้เรา?เห็นได้ว่าใครคือคนที่เป็นที่พึ่งยามยากของเรา

๙. ทำให้เรา?ได้รู้ว่ามีใครบ้างที่ห่วงเรา

๑๐. ทำให้เรา?ได้รู้ว่าใครบ้างที่เป็นมิตรแท้ของเรา

๑๑. ทำให้เรา?ได้รู้ว่าเพื่อนของเรามีความสามารถแค่ไหน

๑๒. ทำให้เรา?ได้รู้ว่าใครมีความสามารถขนาดไหน

๑๓. ทำให้เรา?ได้รู้ว่ามีคนไหนที่รักเราจริง

๑๔. ทำให้เรา?ได้รู้ว่าการหัวเราะเป็นสิ่งจำเป็น

๑๕. ทำให้เรา?พยายามที่จะมองโลกในแง่ที่ดีมากขึ้น

๑๖. ทำให้เรา?ค้นหาข้อดีของความทุกข์

๑๗. ทำให้เรา?รู้ว่าความสุขจะมีค่ามากเพียงใด

๑๘. ทำให้เรา?มีความระมัดระวังมากขึ้น




 

Create Date : 03 เมษายน 2553    
Last Update : 3 เมษายน 2553 23:44:38 น.
Counter : 602 Pageviews.  

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเกย์

ปัจจุบันกลุ่มชายรักชาย (Mala Homosexual) ได้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นจนเป็นกลุ่มสังคมย่อยที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งเราอาจพบเห็นได้จากสังคมรอบข้าง เป็นภาพสะท้อนหนึ่งของสังคม ที่มิอาจปิดบังได้ นอกเหนือจากบทบาททางเพศที่แตกต่าง เราจะเห็นว่า กลุ่มชายรักชายยังมีกิจกรรม มีรูปแบบการดำเนินชีวิต มีพฤติกรรมการซื้อที่น่าศึกษา เพราะมีขนาดใหญ่พอที่จะเกิดเป็นตลาดได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคการทำตลาดแบบ Niche Market ที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม

ด้วยเหตุดังกล่าวได้มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาชีวิตของบุคคลกลุ่มนี้ เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของพวกเขา ซึ่งได้มีการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง ชายรักชาย (เกย์) ในเขตกรุงเทพมหานคร อายุระหว่าง 20-45 ปี จำนวน 300 คน

โดยอิงนิยามความหมายของ เกย์ (Gay) คือ ผู้ชายที่มีรสนิยมทางเพศชอบเพศชายด้วยกัน แต่ยังคงพึงพอใจในเพศชายของตนเอง การแต่งตัวเป็นผู้ชาย บุคลิกภายนอกอาจบ่งชี้ผู้เป็นเกย์ได้ลำบาก เพราะมีทั้งสุภาพเรียบร้อย จนถึงเหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป กลุ่มตัวอย่างนี้จึงไม่รวมถึงกลุ่มชายรักชายประเภทอื่นๆ คือ กลุ่มแปลงเพศ (Transsexual) และไม่รวมกลุ่มแต่งกายเลียนแบบเพศหญิง (Transvestitism)

ในการวิจัยครั้งนี้ ได้ทำการวิจัยแบบสอบถาม กระจายไปตามกลุ่มชายรักชาย ที่เป็น "เกย์" ทั่วกรุงเทพฯ โดยกระจายไปตามแหล่งปรากฏตัว เช่น บาร์ ดิสโก้เธค เซาน่า ใน 3 ทำเลหลัก คือ ย่านสีลม ย่านรามคำแหง-สุขุมวิท และย่านสะพานควาย รวมถึงจากการเปิดรับสื่อทางอินเทอร์เน็ต นิตยสารเกย์ และจากกลุ่มสังคมทั่วไป หลากอาชีพ เช่น ข้าราชการ พนักงานเอกชน นักศึกษา ผู้กำลังรองาน ฯลฯ ซึ่งเวลาในการเก็บข้อมูลในช่วงเดือน สิงหาคม 2542

ผลการวิจัยพบว่า ในการเปิดเผยความเป็นเกย์ กลุ่มตัวอย่างเกย์ส่วนใหญ่ มีเพื่อนสนิทรู้ว่า เป็นเกย์มากที่สุด คือ 77% สังคมทั่วไป เช่น สถานที่ทำงาน หรือสถานศึกษารู้ว่าเป็นเกย์ 43% ขณะที่สมาชิกในครอบครัวรู้ว่าเป็นเกย์เพียง 33% เท่านั้น

แสดงให้เห็นว่า ในสังคมทั่วไป การบ่งบอกว่าใครเป็นเกย์ทำได้ยาก และการไม่กล้าเปิดเผยความเป็นเกย์ต่อสถาบันครอบครัว อาจเป็นเพราะค่านิยมที่สืบทอดกันมาว่า เป็นเรื่องที่น่าอับอาย หรือไม่ต้องการให้พ่อแม่เสียใจ จึงเป็นที่มาของปัญหาการถูกบังคับให้แต่งงาน หรือการแต่งงานเพื่อบังหน้า จากการสำรวจพบว่า มีเกย์บางคนที่แต่งงานมีครอบครัว มีลูก แต่มักแอบภรรยามาหาความสุขกับเพศเดียวกัน




 

Create Date : 03 เมษายน 2553    
Last Update : 3 เมษายน 2553 23:42:05 น.
Counter : 1381 Pageviews.  

กะเทย, สาวประเภทสอง หรือ ตุ๊ด[1] คือ

กะเทย, สาวประเภทสอง หรือ ตุ๊ด[1] คือ
กะเทย, สาวประเภทสอง หรือ ตุ๊ด[1] คือ บุคคลเพศชายที่แสดงลักษณะและพฤติกรรมออกมาในลักษณะท่าทางใกล้เคียงกับลักษณะของเพศหญิง กะเทยโดยทั่วไปต้องการเป็นเพศหญิง ทั้งทางด้าน กาย วาจา และใจ ต้องการให้คนในสังคมปฏิบัติกับตนเองดังเช่นผู้หญิงคนหนึ่ง กะเทยโดยส่วนมากจะรักและชอบเพศเดียวกัน (ผู้ชาย)

กะเทย เป็นคำยืมมาจากภาษาเขมร คำว่า ខ្ទើយ (เขฺทิย) อ่านว่า ขฺเตย และในกฎหมายตราสามดวง บันทึกการเขียนไว้ว่า "กระเทย" แต่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 และ 2542 ใช้คำว่า กะเทย ซึ่งมีความหมายว่า “คนที่มีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง, คนที่มีจิตใจและกิริยาตรงข้ามกับเพศของตนเอง; ผลไม้ที่เมล็ดลีบ เช่น ลำไยกะเทย. (อะหม ว่า เทย) ”

ปรีชา พิณทอง ให้ความหมายไว้ใน สารานุกรมภาษาอีสาน ไทย อังกฤษ ไว้ว่า “คนสองเพศ ข้างขึ้นเพศชายปรากฏ พอถึงข้างแรมเพศชายหายไปเพศหญิงปรากฏ เป็นอยู่อย่างนี้ตลอดชีวิต เรียก กะเทย คนเช่นนี้ทางพระศาสนาห้ามไม่ให้บวช ถ้าบวชจะเป็นอันตรายต่อพรหมจรรย์”

James Caswell (สมัยรัชกาลที่ 3) ระบุไว้ในพจนานุกรมคำไทยขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1846 หรือ พ.ศ. 2389 คำว่ากะเทย ไว้ว่า “กะเทยนั้น คือ บุทคลที่มีประเทษที่ลับเปนหญิงก็ใช่ เปนชายใช่นั้น เรียกว่า คนกะเทย” ส่วนหมอบรัดเลได้ให้คำนิยามไว้ว่า “คนไม่เปนเภษชาย, ไม่เปนเภษหญิง, มีแต่ทางปัศสาวะ”[2]

"พะจะนะพาสาไท" เขียนโดย บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ ในปี พ.ศ. 2397 ระบุคำว่ากะเทย (เขียนว่า "กเทย") โดยแปลมาจากภาษาอังกฤษว่า "Hermaphrodite"[3]




 

Create Date : 03 เมษายน 2553    
Last Update : 3 เมษายน 2553 23:38:10 น.
Counter : 1120 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  

hangclub
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]




Friends' blogs
[Add hangclub's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.