Group Blog
 
All blogs
 

Star Wars' Family Tree: เตรียมความพร้อมก่อนพบกับ Episode III: Revenge of the Sith

เชื่อว่ารุ่นพ่อ รุ่นอาของเราที่รักการชมภาพยนตร์จะต้องรู้จักโคตรมหากาพย์อวกาศไตรภาค Star Wars [Star Wars(1977), The Empire Strikes Back (1980) และ The Return of the Jedi (1983)] เป็นอย่างแน่นอน เพราะเป็นหนังอวกาศที่สุดยิ่งใหญ่เมื่อหลายสิบปีก่อน เราหลายๆ คนก็คงได้ทันดูในโรง หรือตื่นตาตื่นใจกันที่บ้านมาแล้ว

หลังจากได้เงินจากการฉายไตรภาคดังกล่าวมานอนนับเล่นประมาณ 1.3 พันล้าน ดอลลาร์สหรัฐ จอร์จ ลูคัสก็เกิดไอเดียในการหาเงิน และทำในสิ่งที่เขารักอีกครั้ง โดยการสร้างที่มาก่อนหน้าภาคแรกของยุคพ่อและอาของเรา ทำให้เกิด Star Wars Episode I: The Phantom Menace (1999) และ Episode II: Attack of the Clones (2002) ซึ่งเมื่อถึงตรงนี้ หนังไตรภาคในยุคเก่าก็ถูกใส่ชื่อใหม่เป็น Episode IV, V และ VI ตามลำดับ หมายความว่าเขาจะสร้างใหม่ออกมาอีก 3 ภาคนั่นเอง

และในปีนี้ วงจรชีวิตของมหากาพย์อวกาศเรื่องนี้ก็จะถูกทำให้ครบสมบูรณ์เสียที ด้วย Star Wars Episode III: Revenge of the Sith ซึ่งหลายๆ คนก็ต้องหน้าตั้งตารอกัน

หนังคงจะลงโรงในซัมเมอร์นี้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ลองมาดูที่มาที่ไปของตัวละครแต่ละตัวกันว่าเป็นใครมาจากไหน เพื่อจะได้ชมมหากาพย์ภาคสุดท้ายได้เข้าใจขึ้นครับ

Star Wars' Family Tree




ทีนี้จะคร่าวๆ เกี่ยวกับคาแรกเตอร์แต่ละตัวครับ ก่อนอื่นขอเกริ่นเรื่อง The Force แล้วกัน

The Force
ทฤษฎี Direct Force Control
Grand Admiral Thrawn ได้เสนอทฤษฎีนี้ในระหว่างการเจรจากับ Captain Pellaeon และ Joruus C'baoth โดยมีเนื้อหาที่อ้างสิ่งที่เกิดขึ้นจริงว่า เมื่อ The Emperor ควบคุมกองทัพทั้งหมด โดยอาศัยสิ่งที่เรียกว่า The Force และภายหลังเขาได้พ่ายแพ้ให้กับกลุ่มกบฎใน The Battle of Endor ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, ความแข็งแกร่ง, ประสิทธิภาพ และระเบียบวินัย ได้หมดสลายไปพร้อมกับการตายของ The Emperror ผบ.Thrawn กล่าวต่อไปว่า แต่ ณ ปัจจุบันนี้ the Imperial forces ซึ่งเคยอยู่ในความเป็นตัวตนของ The Emperror นั้นได้ถูกจำลองขึ้นและบันทึกลงไปในคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น The Emperror ก็ยังคงอำนาจนั้นอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนสถานะไปเป็นเพียงพลังงานรูปหนึ่งเท่านั้น ซึ่งนี่คือที่มาของ The Force ที่เป็นพลังที่เหล่าอัศวินเจไดต้องต่อกรด้วย


SHMI SKYWALKER
ปรากฏใน Episode I และ II
เป็นมารดาของ Anakin Skywalker มีสถานภาพเป็นทาสอพยพในความควบคุมของ Watto มีเชื้อสายชาวโลก เกิดและอาศัยอยู่บนดาว Tatooine ภายหลังถูกสังหารโดย Tusken Raiders


CLIEGG LARS
เป็นสามีของ Shmi Skywalker และเป็นบิดาของ Owen Lars อาศัยอยู่บนดาว Tatooine มีเชื้อสายชาวโลก


OWEN LARS
เป็นพี่น้องต่างมารดาของ Anakin Skywalker เป็นลูกของ Cliegg Lars และเป็นลูกบุญธรรมของ Shmi Skywalker ซึ่งภายหลังแต่งงานกับ Beru Lars และเป็นผู้ดูแลเลี้ยงดู Luke Skywalker หลานของเขาเอง สุดท้ายถูกฆ่าโดย Stormtroopers


BEN KENOBI (OBI-ONE KENOBI)
เป็นน้องชายแท้ๆ ของ Owen Lars และหนึ่งในอัศวินเจได เป็นลูกศิษย์ของ Qui-Gon Jinn และเป็นอาจารย์ของ Anakin Skywalker เป็นผู้พา Luke Skywalker ไปพบกับ The Force ภายหลังถูกฆ่าโดย Darth Vader


PADME NABERRIE AMIDALA
มีเชื้อสายมนุษย์ เกิดในครอบครัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ที่หมู่บ้าน เชิงเขา Naboo, Padme Naberrie มีทักษะในด้านเจรจาและการทูตมาตั้งแต่เล็ก พออายุ 14 เธอก็ได้รับเลือกเป็น Naboo's popularly elected Monarch โดยมีชื่อตามตำแหน่งว่า Queen Amidala เธอได้พาอาณาจักรของเธอผ่านวิกฤติเลวร้าย รวมถึงสงครามกับกลุ่มที่เรียกว่า The Trade Federation

สี่ปีต่อมา เธอได้เลื่อนตำแหน่งเป็นวุฒิสมาชิกของ The Galactic Republic และได้ออกตัวต่อต้านนโยบายทางหาร Galactic อย่างเต็มที่ เธอถูกริดรอนอำนาจโดยการปรากฏตัวของกองทัพ Clone Army โดยการบัญชาการของ Supreme Chancellor Palpatine ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้ปรากฏใน Episode II

ระหว่างนี้เองเธอก็ได้พบรักกับ Anakin Skywalker และได้แต่งงานกันหลังจาก The Battle of Geonosis สิ้นสุด Padme ให้กำเนิดลูกแฝดชื่อ Luke Skywalker และ Leia Organa แต่เธอต้องพาลูกๆ ของเธอไปซ่อน เมื่อพ่อของพวกเขา Anakin เริ่มถูกความชั่วร้ายครอบงำ โดยพลังของ Darth Sidious


ANAKIN SKYWALKER
Anakin Skywalker เป็นลูกของ Shmi Skywalker เกิดในทะเลทรายบนดาว Tatooine สถานะของผู้เป็นพ่อยังไม่ชัดเจน Shmi บอกไว้ในเรื่องว่า อนาคินเกิดโดยไม่มีพ่อ เธอท้องเขา ให้กำเนิด และก็เลี้ยงดูเขา ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ทราบว่าลูกคนนี้เกิดมาได้อย่างไร
Anakin เกิดมาก็เป็นทาสของ Gardulla the Hutt ซึ่งเขาก็ไถ่ตัวเองออกมาได้จากการชนะพนันแข่งยาน

Anakin มีทักษะด้านเครื่องยนต์ เพราะ Watto ให้เขาทำงานในโรงงานตั้งแต่เด็กๆ ผลงานชิ้นเอกคือหุ่นยนต์ C-3PO หุ่นเหล็กสีทองๆ ที่พูดมากๆ ในภาพยนตร์

Anakin ได้รับการฝึกฝนเจไดจาก Obi-wan Kennobi ตามความเชื่อของ Qui-Gon Jinn ที่เชื่อว่า Anakin จะเป็นอัศวินเจไดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ผลกลับตรงกันข้าม Anakin กลับถูกด้านมืดครอบงำและกลายเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดของเจไดในเวลาต่อมา


LUKE SKYWALKER
Luke Skywalker เกิดที่ดาว NE-18 เป็นลูกของ Padme Naberrie Amidala และ Anakin Skywalker ถูกเลี้ยงดูโดยคุณลุงของเขา Uncle Owen Lars ในทะเลทรายบนดาว Tatooine

ที่ NE+0 เขาเข้าร่วมเป็นนักบินของกลุ่มกบฎ และได้เข้ารับการฝึกฝนเป็นอัศวินเจได ที่ NE+4 เขาได้เป็นอัศวินเจได ภายใต้การฝึกฝนของ Yoda เขาเป็นคนเผชิญหน้ากับ The Emperor และช่วยพ่อของเขาให้พ้นจากการครอบงำของความชั่วร้าย

เขามีตำแหน่งสูงใน The New Republic ก่อนที่จะเข้าร่วม Academy for Jedi ที่ดาว Yavin 4 เขามีบทบาทสำคัญมากในการต่อต้านศัตรู และปกป้องกาแลกซี่ ซึ่งต่อมาได้แต่งงานกับ Mara Jade และมีลูกชาย 1 คน


LEIA ORGANA
Leia Organa เกิดที่ NE-18 เป็นลูกของ Padme Naberrie Amidala กับ Anakin Skywalker Obi-Wan Kenobi พาเธอไปซ่อนหลังจากที่ Anakin ถูกความมืดครอบงำ ซึ่งเอาไปฝากไว้กับเพื่อนชื่อ Bail Organa ต่อมาก็เลี้ยงดูเหมือนลูกแท้ๆ ของเขาที่ The Royal House of Alderaan

เมื่อเธอโตขึ้น เธอก็มีความสามารถทางการทูตไม่ต่างไปจากแม่เลย เธอกลายเป็นวุฒิสมาชิกที่มีอายุน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ The Imperial Senate แห่ง Alderaan แต่หลังจากอำนาจอธิปไตยของวุฒิสมาชิกล่มสลาย เธอได้ใช้อำนาจเดิมที่เธอมีแอบสร้างกองกำลังเล็กๆ ขึ้นมาเพื่อปกป้องเสรีภาพเรียกว่า Rebel Alliance

ที่ NE+0 เธอถูกจับโดย Darth Vader ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นพ่อของเธอ ภายหลัง Luke Skywalker และ Han Solo ได้ช่วยเธอออกมาได้ และเธอก็เข้าร่วมกองกำลังกบฏ และแต่งงานกับ Han Solo

หลังจากชัยชนะเหนือThe Emperor ที่ NE+4 Leia ก็เป็นหนึ่งในผู้สร้าง The New Republic ต่อมาเธอก็เข้ารับตำแหน่งด้านบริหารอีกครั้ง เธอมีลูก 3 คนชื่อ Anakin และแฝด Jaina and Jacen หลังจากเธอลงจากตำแหน่งทางการเมือง ก็ไยงด้มีส่วนช่วยเหลือในการวางแผนต่อสู้ในสงครามย่อยๆ ต่างๆ รวมไปถึงการสู้รบกับ The Yuuzhan Vong


HAN SOLO
เป็นชาวโลกแท้ๆ เกิดที่ดาว Corellia เดิมเป็นพวกลักเล็กขโมยน้อย แต่ด้วยฝีมือการขับยานอวกาศจึงได้เป็นกัปตันและเจ้าของยาน The Millenium Falcon มีเพื่อนคู่ใจชื่อ Chewbecca และก็เป็นเพื่อนของ Luke Skywalker ด้วย ภายหลังแต่งงานกับคนข้างบนและมีลูก 3 คนดังที่กล่าวไปแล้ว


ตัวละครหลักๆ และเหตุการณ์ที่กล่าวถึงข้างบน คาบเกี่ยวกันในหลายๆ ภาคทั้งเก่าและใหม่ หวังว่าคงจะทำให้ดู Star Wars Episode III: Revenge of the Sith ได้เข้าใจขึ้นไม่มากก็น้อยนะครับ

Enjoy the movie




 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2548    
Last Update : 30 มิถุนายน 2548 23:56:18 น.
Counter : 1020 Pageviews.  

Assult on Precinct 13 [2005]: ตำรวจกังฉิน, ความทรงจำเลวร้าย, พายุหิมะ และการฆ่าปิดปาก

ตำรวจกังฉิน เงินใต้โต๊ะ และการฆ่าปิดปาก ยังคงเอามาใช้เป็นพลอตหนังได้เสมอมา นี่ก็เป็นอีกครั้งที่เรื่องเก่าๆเล่าใหม่อย่าง Assult on Precinct 13 ได้มีโอกาสนำพลอตเรื่องเดิมๆ แต่ถูกใจคอแอ๊กชั่นสืบสวนมาให้เราได้ชมกัน

หนังเรื่องนี้เป็นหนังดัดแปลงจากหนังดังในปี คศ.1976 บทโดยจอห์น คาร์เพนเตอร์ ว่าด้วยเหตุการณ์ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ณ สถานีตำรวจเก่าๆ แห่งหนึ่ง ในดีทรอยท์ ท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก มีตำรวจเพียง 3 นายประจำอยู่ โดยที่พระเอกของเรา Sergeant Jake Roenick (Ethan Hawke) ที่มีความทรงจำเลวร้ายในการเสียเพื่อนร่วมงานในหน้าที่หลายเดือนก่อน เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มียศสูงสุดคอยกำกับดูแลสถานีตำรวจแห่งนี้

แลดูก็เป็นสถานีตำรวจเงียบๆ แห่งหนึ่งจนกระทั่งคืนสุดท้ายของปีนี่แหละที่ Marion Bishop (Laurence Fishburne) ฆาตรกรชื่อดัง ถูกขนย้ายมาพร้อมๆ กับนักโทษอื่นๆอีก 3 4 คน โดยรถขนนักโทษมาฝากขังไว้ที่สถานีตำรวจนี้เป็นเวลา 1 คืน เหตุเนื่องจากหิมะตกหนัก ไม่สามารถพาไปที่เรือนจำกลางได้ และในคืนนั้นเอง สถานีตำรวจเล็กๆ แห่งนี้ก็โดนถล่มด้วยอาวุธหนักต่างๆ จากกลุ่มคนที่ไม่ระบุที่มา เหตุการณ์คงไม่บานปลายถ้าพระเอกไม่ไปเกิดรู้ว่าพวกที่แห่กันมานั้นคือตำรวจที่ต้องการจะปิดปากนักโทษ ดังนั้นจากเดิมที่เป้าหมายมีเพีงแค่นักโทษ จึงกลายเป็นต้องฆ่าทุกคนในสถานีตำรวจเพื่อปิดปาก จากนี้ก็เป็นเรื่องของการที่ฝ่ายหนึ่งพยายามจะบุกเข้าไปข้างใน โดยมีฝ่ายที่จำนวนน้อยกว่าตั้งรับอยู่

ส่วนตัวหลังจากได้ดู พบว่าเป็นหนังที่ยิงกันสนุก แต่เนือย เนือยในที่นี้หมายความว่า ไม่มีเหตุการณ์อะไรสำคัญๆ ตื่นเต้นๆ มากนัก ไม่มีแทกติกที่ฉลาดล้ำ ไม่มีอาวุธทันสมัย ต่างฝ่ายต่างก็ตั้งหน้าตั้งตายิงกันท่ามกลางความมืด มืดจนมองอะไรไม่ค่อยเห็นในความคิดของผม หนังเป็นสูตรสำเร็จอย่างแรง และดูไปดูมาพาลให้นึกไปถึงเรื่อง Die Hard2 (หิมะ ปืน ตำรวจ กลางคืน และวันเฉลิมฉลองอะไรซักอย่าง)

Ethan Hawke เล่นได้ดีตามมาตรฐาน แต่ที่ผมรู้สึกตะหงิดๆ คือ Laurence Fishburne ที่หนังเรื่องเมทริกซ์ ทำให้คนดูอย่างเราสลัดคราบ มอเฟียสของเขาไม่ได้ซักที ยิ่งฉากแรกๆ ของหนังพี่แกพูดช้าๆ เสียงใหญ่ๆ ว่า I believe อะไรซักอย่าง.... ให้ตาย ผมนึกว่ามอเฟียสจริงๆ นะน่ะ

เช่นเคยหนังเรื่องนี้ก็คือหนังดูเอามัน ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย หักมุมเล็กน้อยทำนองคนดูพอจะเดาได้ แต่ขอแนะนำว่าอย่าเปิดไฟสว่างมากเวลาดู เพราะหนังมืดมากๆ กว่าจะสว่างก็ฉากสุดท้ายพอดี แต่ละคนก็หลบมุมกันเหมือนไม่อยากจะให้เราคนดูเห็น

ใครชอบหนังแอ็กชั่น ตำรวจดียิงกับตำรวจโกง โดยตำรวจดีจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ร้าย แล้วสุดท้ายก็ขอบคุณที่ช่วยชีวิตกันและกัน (ไม่รู้จะเรียกสั้นๆว่าแนวอะไร) ก็ลองหาเช่ามาดูนะครับ ดูเอามันก็โอเคครับ

Rated: *** (งั้นๆ)




 

Create Date : 30 เมษายน 2548    
Last Update : 30 เมษายน 2548 12:48:26 น.
Counter : 788 Pageviews.  

Hotel Rwanda (2004): เฉียดออสการ์ แต่โดนใจคนดูเต็มๆ

Paul Rusesabagina (Don Cheadle) ผู้จัดการโรงแรมชื่อดังในประเทศรวันดา ที่ปฏิบัติงานได้อย่างยอดเยี่ยม ดูแลแขกทุกคนอย่างดี หาทุกอย่างที่พวกเขาต้องการมาให้ ทั้งของฝากของขวัญ ถึงแม้เขาจะไม่ได้อะไรพิเศษตอบแทนเลยก็ตาม เขาเชื่อว่าการสร้างพันธมิตรทั้งในระดับชุมชนและรัฐบาล จะทำให้เขาและครอบครัว เพียงอยู่รอดท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย

หลักๆของเรื่องก็คือความขัดแย้งระหว่างสองชนเผ่าในประเทศรวันดา ช่วงแรกๆ ดูเหมือนพวกกบฎจะยอมอ่อนข้อต่อ UN ในการเจรจาสันติภาพ แต่หลังจากเกิดเหตุที่คาดไม่ถึง โดยกลุ่มปฏิวัติหัวรุนแรง ทำให้ฝ่ายรัฐบาลออกมาล้างเผ่าพันธ์ชนเผ่าตรงข้ามอย่างป่าเถื่อนและโหดร้าย พระเอกของเราด้วยความมีมนุษยธรรม จึงเข้าช่วยเหลือชนเผ่าตรงข้ามที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ให้รอดพ้นต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น จนตัวเองก็แทบเอาตัวไม่รอด เรื่องราวส่วนใหญ่ไม่ได้เสนอที่มาที่ไปของความขัดแย้งเท่าไหร่ แต่นำเสนอความกล้าหาญของคนๆ หนึ่งที่มีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ ท่ามกลางไฟสงครามล้างเผ่าพันธ์ที่เกิดขึ้นจริงเมื่อ 11 ปีก่อน

เมื่อบทหนังส่งแบบนี้ แน่นอนเลยว่านี่คือหนังที่ Don Cheadle เล่นได้สุดยอดจริงๆ หนังจากเล่นหนังไปหลายเรื่อง ไม่ดีจริงคงไม่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ (เสียดายที่มาปีเดียวกับ Jamie Foxx จาก Ray ซึ่งทางโน้นต้องยอมเขาจริงๆ) เนื้อหาค่อนข้างเครียด หดหู่ ตามแบบหนังสงครามกลางเมืองที่ฆ่าแกงกันอย่างไร้มนุษยธรรม แต่ก็มีความเป็นดรามาอยู่มาก มากกว่าจะเป็นหนังสงครามหรือแอ๊กชั่นที่เราเห็นกัน ในอเมริกาเอง หนังเรื่องนี้ได้เรท PG-13 ซึ่งก็หมายความว่ามันไม่โหดเหี้ยมมากมายนัก

ผมชอบตรงที่เราได้เห็นความพยายามอย่างน่าชื่นชมของคนๆ หนึ่งที่พยายามปกป้องคนบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นคนเผ่าพันธ์เดียวกันหรือไม่ก็ตาม, ได้เห็นเจ้าหน้าที่ UN ออกมาปกป้องประชาชนในท้องถิ่น ได้แบบถวายชีวิตเรื่องนี้ก็เรื่องแรก, และเห็นความโหดร้ายของสังคม ที่เกิดขึ้นจริง ในบางแห่งที่เราไม่มีวันรู้ ทั้งหมดนี้ผ่านการแสดงอันยอดเยี่ยมของนักแสดงหลักทุกๆ คน

Hotel Rwanda เป็นภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบ ถ่ายทอดดัดแปลงเรื่องราวที่มาจากเหตุการณ์จริงได้อย่างมีพลัง ไม่โหดเหี้ยมอำมหิตจนเกินทน แต่กลับซึ้งและกินใจอย่างบอกไม่ถูก เป็นหนังที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่งของปีครับ

**** 1/3

//www.mgm.com/ua/hotelrwanda/intro.html

แง่คิดจากภาพยนตร์ “When people see this footage, they will probably say, ‘Oh my god. That’s horrible’, and then go and finish their dinner”.
เมื่อคนทั่วโลกได้ดูบันทึกภาพเหล่านี้(การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ในประเทศรวันดา) พวกเขาก็จะพูดว่า "พระเจ้า มันช่างโหดเหี้ยมทารุณเหลือเกิน" จากนั้นพวกเขาก็จะกลับไปทานข้าวเย็นของพวกเขาต่อ




 

Create Date : 06 เมษายน 2548    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2548 3:35:51 น.
Counter : 842 Pageviews.  

The Flight of the Phoenix (2004): เครื่องบินเดิม ตกอีกที

หนังที่นำมาทำใหม่หรือที่เรียกว่า remake คงจะคิดว่าความสำเร็จจากการทำหนังครั้งแรก จะส่งผลให้อย่างน้อยผู้ชมจะหันมาสนใจบ้าง ซึ่งก็ได้ผลอยู่บ่อยไป แต่ในแง่ของความแปลกใหม่และไอเดียนั้น แน่นอนมันย่อมเหลือเพียงเสษเสี้ยวเล็กๆ ในการผลิตหนังอย่างที่ว่านี้ เพราะไหนจะเรื่องลิขสิทธ์บทประพันธ์ ความยุ่งยากในการขอดัดแปลงหนัง ต่างๆนานา

Flight of the Phoenix เคยเป็นภาพยนตร์มาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปี ค.ศ.1965 เป็นเรื่องราวของเครื่องบินที่บรรทุกคนจากบริษัทที่ปิดตัวเองลงแห่งหนึ่ง แล้วก็โดนพายุซัดตกลงกลางทะเลทราย แต่ละคนที่มีหน้าที่ตำแหน่งต่างๆ กัน เช่นหัวหน้าแผนก นักบัญชี พ่อครัว ช่าง ต้องหาทางเอาตัวรอดจากความร้อนระอุ และอันตรายต่างๆ ที่ คาดไม่ถึงจากทะเลทรายที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

เป็นหนังแอ็กชั่นดราม่า ที่กล่าวถึงการเอาตัวรอดในเวลาร่วมเดือนในสถานการณ์ที่กดดัน อาหารที่จำกัด ความคิดที่แตกแยก และความเครียด นักแสดงแต่ละคนเล่นได้ดีพอใช้ ผมชอบ Denis Quaid อยู่แล้วและก็คิดว่าเขาเล่นได้มาตรฐาน นักแสดงคนอื่นค่อนข้างโนเนมในประเทศไทย แต่ก็เห็นแว้บๆ กันในหนังเรื่องอื่นๆ มาบ้าง

จุดด้อยของหนังคือพลอตเรื่อง ที่แทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยซักนิดเดียวจากปี 1965 เงินรายได้นี่น่าจะยกให้ผู้ประพันธ์เรื่องซักครึ่งหนึ่งก็ไม่น่าเกลียด แต่หากจะดูเอามัน หนังเรื่องนี้สนุกใช้ได้เลย ทั้งสเปเชี่ยลเอฟเฟค ฉากทะเลทราย หรือการดำเนินเรื่องคล้ายๆ reality show คือจับคนจากที่ไหนไม่รู้มาอยู่ด้วยกัน แล้วก็เถียงกันไปเถียงกันมา และสุดท้ายก็จบลงด้วยคำว่า สามัคคีคือพลัง

ไม่ถึงกับเป็นหนังที่ต้องซื้อเก็บ ความชั่วไม่มีความดีไม่ปรากฎ เป็นหนังรีเมค และไม่ได้ให้อะไรใหม่ๆ กับคนดู แต่จุดอ่อนตรงนี้มันก็เป็นแค่ลาภปากนักวิจารณ์เท่านั้น คนดูหนังอย่างเราๆ ดูเอามันก็โอเคครับ

***

//www.flightofthephoenix.com/




 

Create Date : 06 เมษายน 2548    
Last Update : 7 พฤษภาคม 2548 3:34:41 น.
Counter : 4434 Pageviews.  

2 Fast 2Furious (2003): มอเตอร์โชว์ฮอลลิวูด

เป็นหนังภาคต่อทำนอง คงไม่ได้คิดจะทำตั้งแต่แรก แต่เพราะรายได้ภาคแรกที่มหาศาล ทำให้ 2 Fast 2 Furious เกิดขึ้น ซึ่งถึงแม้ว่าตัวหลักอย่าง วิน ดีเซลล์ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในภาคแรก จะไม่ได้มาร่วมสังฆกรรมในภาคนี้ แต่สำหรับคนดู ขอรถแรงๆ ซัก 5 6 คันก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว

ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้นักซิ่งทั้งหลายผิดหวัง ภาคนี้ก็จะได้ เห็นทั้ง Mitsubishi Evolution VII, Mitsubishi Eclipse Spider, Ford Mustang, Nissan Skyline ฯลฯ มาเร่งเครื่อง ปาดซ้ายปาดขวา ยิงไนตรัสกันให้วุ่นวาย

ในดีวีดีจะมีการพูดถึงรอยต่อระหว่างภาคต่อกับภาคนี้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระเอกของเรา (รู้สึกว่าในโรงจะไม่มี) ซึ่งภาคนี้ก็กลายเป็นว่าต้องมาทำงานให้กับ fbi เพื่อลบความผิดของตัวเองซะงั้น เนื้อเรื่องรวมๆดูจะธรรมดาๆ เข้าไม่ถึงกลุ่ม Street Racer อย่างในภาคแรก ภาคนี้หนังมันไปเข้าทำนองตำรวจจับผู้ร้ายซะมากกว่า

special effect ต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเกินจริงไปนิด และไปไปมามา ก็กลายเป็นหนังโชว์รถซะมากกว่าจะพยายามดึงอารมณ์คนรักรถออกมา ยิ่งช่วงหลังๆ ของหนังนี่ออกมาวิ่งกันให้เต็มถนนไปหมด พอดูจบก็คิดว่า นี่มันน่าจะเป็นหนังดูเอามันอย่างเดียวจริงๆ

อย่างที่ว่าคือถ้าคุณบ้าแต่งรถ หนังชื่อนี้ ถึงจะมีแต่แข่งรถกันทั้งเรื่องคุณก็คงไปดู ถือว่าเป็นหนังภาคต่อที่อาศัยบารมีภาคแรก และก็ทำได้ไม่ดีไม่แย่ ส่วนตัวผมว่าภาคแรกทำได้ดีกว่าและเหมาะกับคนรักรถ แต่ภาคสองมันกว่าและเหมาะกับคนทั่วไปครับ

***1/2




 

Create Date : 20 มีนาคม 2548    
Last Update : 2 กรกฎาคม 2548 15:03:54 น.
Counter : 402 Pageviews.  

1  2  3  

nsk
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีชาวโลก...

Bangkok


Los Angeles


-/ -
id=objMediaPlayer1 width=150 viewastext>




















width="150" height="64" bgcolor="ffffff" autoplay="true" cache="true" enablejavascript="true" controller="true">


sniper/ หนึ่งในล้าน
id=objMediaPlayer1 width=150 viewastext>




















width="150" height="64" bgcolor="ffffff" autoplay="true" cache="true" enablejavascript="true" controller="true">


เจย์ โชว/ Cloudess Day
id=objMediaPlayer1 width=150 viewastext>




















width="150" height="64" bgcolor="ffffff" autoplay="true" cache="true" enablejavascript="true" controller="true">


Friends' blogs
[Add nsk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.