วังน้ำเขียว รอบที่3แล้วนะตัวเอง
8 Mar 2008หลังจากเป็นนังแจ๋ว ทำความสะอาดบ้านเรียบร้อย ก็เก็บข้าวของ มุ่งหน้าสู่วังน้ำเขียวตอนเที่ยงวันพอดีเลย ระหว่างทางก็โทรถามที่พักว่าที่ไหนว่าง? แต่เราก็มีรีสอร์ทในดวงใจแล้ว นั่นก็คือ Jungle View Restaurant & Homestayเอาของมาเก็บแล้วขอนั่งพักให้หายเหนื่อยหน้าบ้านสักครู่เกือบ5โมงเย็นแล้ว จึงออกเดินทางไป ผาเก็บตะวัน เส้นทางก็เป็นอย่างนี้ถึงแล้วครับ หลักกิโลอันนี้ ใครๆก็ต้องจ้องจะถ่ายรูปนี่คือผาชมตะวัน แต่ตะวันยังไม่ตกอ่ะนะยืมหนังสติ๊กแล้วก็ซื้อเม็ดมะค่า ถุงละ 10 บาท เราเห็นว่านอกจากหนังสติ๊ก ยังมีไม้กอล์ฟด้วยนะ ที่จะเป็นอุปกรณ์ในการปลูกป่าเพื่อมาปลูกป่ากันที่ผาเก็บตะวันแห่งนี้แต่เราจะเอามายิงไอ้ตัวนี้แทน มีหอชมวิวมุมสูงด้วยล่ะวิวที่ได้เริ่มเย็น อากาศก็เย็นลงด้วยสิพระอาทิตย์เริ่มตกแล้วเริ่มเย็นมากก็หิวมากแล้วด้วย ระหว่างทางพบหอส่องสัตว์อีกแล้วกลับมาร้านอาหารที่รีสอร์ทอย่างหิวโหย บรรยากาศดีจัง ตกค่ำลูกค้าก็เริ่มเยอะอาหารเย็นของเราวันนี้ขอรับ เริ่มด้วยไส้กรอก พร้อมเครื่องเคียง อร่อยมากพอร์คชอปก็อร่อยครับเอายำเห็ดหอมสดน้ำพริกเผา มาแก้เลี่ยนหน่อย อร่อยแซ่บหลายจานเด็ดวันนี้ ที่พลาดแล้วจะเสียใจ พิซซ่าซาลามี่ อร่อย10ดาวเลย ตระเวณกินมาหลายที่เจ้านี้อร่อยสุด แป้งบางพอดิบพอดี ไม่ต้องเติมซอสอะไรเลยก็อร่อยสุดๆอิ่มแปร้ พุงปลิ้น พร้อมน้องหมาของรีสอร์ทที่น่ารักข้างโต๊ะกินข้าวแล้วก็สลายตัวกลับบ้านพักดีกว่า อากาศเย็นมากเลย ไม่มีแอร์มีแต่พัดลม น้ำก็เย็นเอามาก ถูกใจจริงๆเลย9 Mar 2008เช้าแล้วน๊อ อากาศเย็นสบายและสดชื่นมาก ลมยังแรงอยู่เช่นเคยเดินเที่ยวรอบรีสอร์ทแล้วเจอน้องบูบูน้องนู๋(คา)สโนวี่ เค้าเป็นลำไส้อักเสบเลยหง๋อยๆหน่อยบรรยากาศในร้านอาหารจ้ะ เราชอบที่เค้าเอาขนมปังมาห้อยตกแต่งร้านอ่ะมีทั้งเบเกิ้ลและเพรสเซลอันใหญ่กว่าป้าแอ๊นท์อีกนะจะบอกให้มื้อเช้าวันนี้ขอเห็ดหอมผัดน้ำมันหอยอร่อยจังไก่ทอดเกลือ เค็มอร่อยกำลังดีอร่อยหรือไม่ เจ้าลาซาลญ่า บอกคุณได้เพราะนั่งรอเหงือกแห้งเลยอันนี้ขาดไม่ได้ ขอเบิ้ลถาดสองต่อจากมื้อเย็นวาน พิซซ่าซีฟู๊ด รสชาดดีนะ แต่เราว่าสู้พิซซ่าซาลามี่บ่ได้ก๊าบอาบน้ำอาบท่าก็ check out เที่ยงพอดี อยากจะฝากท้องที่รีสอร์ทเช่นเคยแต่ก็ยังอิ่มไม่หายจากมื้อเช้า เลยเดินทางต่อเลยดีกว่า เป้าหมายก็ อช.ทับลานแห่งนี้บริเวณที่ทำการอุทยานไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรนอกจากป่าลาน แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตวังน้ำเขียว อย่างเช่นน้ำตกสวนห้อมและผาเก็บตะวันมาเลือกซื้อของฝากจากผลิตภัณฑ์ต้นและใบลานของกลุ่มแม่บ้านดีกว่าจ้ะมีให้เลือกมากมายนะ อุดหนุนเค้าหน่อยละกันขากลับผ่านแถวนครนายก หน้าของมะยงชิดพอดีเลย เอาสักหน่อยละกันเห็นลูกสวยๆทั้งนั้น หวานอร่อยดีทริปนี้เป็นทริปพักผ่อนแบบสบายๆจริงๆจ้ะ กินๆนอนๆเลยอ่ะขอขอบคุณ-คนขับและเพื่อนร่วมทางคนเดิม-ร้านอาหารและบ้านพักของเรา เอื้อเฟื้อที่พักน่ารักๆและอาหาร(โคตร)อร่อย-น้องหมา3ตัวที่ Jungle View ลาซาลญ่า,สโนวี่ และ บูบู มาคอยป่วนทำให้ทริปนี้สนุกขึ้น-เจ้าหน้าที่อุทยานทับลานสนใจจองที่พักใน จ.นครราชสีมา ตรงนี้เลยจ้ะ
เหมารีสอร์ท ที่วังน้ำเขียว
ครั้งนี้ พวกเราชาวคณะรวมตัวกันมาพักผ่อนจริงๆเลย แทบไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลยออกเดินทางแต่เช้าจากปทุมธานี มุ่งสู่ อ.วังน้ำเขียว จ. นครราชสีมา เป้าหมายวันนี้มาสูดโอโซน(ที่เค้าเลื่องลือกันว่าที่นี่ติดอันดับโลก)ที่วังน้ำเขียวกัน มาถึงแถวๆอ่างเก็บน้ำ ลำพระเพลิงก็บ่ายโมงแล้ว เลยแวะกินข้าวเที่ยงกันที่ ครัวริมเขื่อน ร้านเดิมที่เคยมาคราก่อนค่ะที่นี่อาหารขึ้นชื่อพวกแฮมซี่โครง เห็ดหอมสด และปลาเขื่อนทั้งหลายจ้ะ พวกเราก็สั่งมาหลายอย่างเลยหมุบหมับหนุบหนับกันสักพักก็หมดค่ะ แต่เจ้าตัวนี้มาออดอ้อนขอกิน ก็เลยได้กระดูกท่อนตะกี๊ไปค่ะ ได้ปุ๊บรีบเอาไปฝังทรายเลยค่ะระหว่างรอย่อย ถ่ายรูปบรรยากาสหน้าร้านอาหารไปพลางๆออกเดินทางต่อค่ะ ไปรีสอร์ทกัน ระหว่างทางแถวๆตลาด79 เจอตำรวจตั้งด่านตรวจพวกรถหมด พรบ.อ่ะค่ะ ซวยเลย ทั้งๆที่ไปต่อแล้ว แต่มันยังไม่ได้ใบมาติดอ่ะค่า โดนไป 200 บาท ฟาดเคราะห์ไปค่ะและแล้วก็มาถึงรีสอร์ทของเราวันนี้ บ้านสวนห้อม หลังจากหลงทางได้พักนึง พอเลี้ยวรถเข้ามาในรีสอร์ท จะพบพนักงานตอนรับ ลาบราดอร์ตัวสีดำ อัธยาศัยดีมาก นามว่า "กี้"คืนนี้ เราพักที่บ้านสายน้ำผึ้ง ราคา 2,000 บาท บรรยากาศโดยรอบและห้องพัก ณ บ้านสวนห้อมพวกเราก็เดินสำรวจรอบๆรีสอร์ทกัน และพบว่า วันนี้มีเพียงคณะเราเท่านั้นที่เข้าพัก ว๊าว....ปิดรีสอร์ทเพื่อมิให้เสียเวลา ก็ออกเดินทางไปวิลเลจฟาร์มกัน เพราะกะจะไปทำSpaและนวดกันที่นั่นก่อนออก พี่ที่ดูแลรีสอร์ทก็มาถามว่าจะออกไปทานข้าวหรือ แต่เราบอกว่ายังค่ะ เค้าแนะนำว่าถ้าจะกินอะไรให้โทรสั่งมาที่บ้านพักได้ เค้ามีเมนูให้ พวกเราก็เลยกะว่าเย็นนี้มาปิ้งหมูกะทะกินกันหน้าบ้านดีกว่าและเมื่อเรามาถึงที่วิลเลจฟาร์ม ก็เงียบเอามากๆ เหมือนไม่มีแขกเลย เงี๊ยบเงียบพวกเราต่างแยกย้ายไปนวดและแช่ตัวกันใครจะนวดแผนไทยก็ไปเปลี่ยนเสื้อแบบนี้ 500 บาทต่อชั่วโมงของเราขอแช่ตัวด้วยอโรม่ากลิ่นโรสแมรี่ แล้วก็นวดตัวด้วยฟองนับแสนในอ่าง แถมวิวดีๆอีกต่างหาก 450 บาทต่อครึ่งชั่วโมง ส่วนเพื่อนอีกคนแช่ไวน์แดงใครที่ไม่ได้ทำอารายก็นั่งทำโน่นนี่ฆ่าเวลาไปละกันเสร็จแล้วก็สบายตัว วิวตอนเย็นๆแบบนี้ที่วิลเลจฟาร์มก็สวยไปอีกแบบทางเดินในนี้ก็ร่มรื่นย์ดี กลับไปบ้านพักกันดีกว่า พอกลับมาถึงบ้านสวนห้อม เจ้ากี้กำลังกินข้าวเย็นอย่างเอร็ดอร่อยก็รีบละปากจากอ่างข้าว มาต้อนรับพวกเราก่อนเลย ข้าวสีขาวเม็ดนึงติดจมูกดำๆของมันมาหาพวกเรา น่ารักดีแล้วพวกเราก็มาเก็บภาพและสำรวจรีสอร์ทเพิ่มเติมท่าน้ำ หน้าบ้านพัก (คาดว่าอันนี้เป็นบ้านพักส่วนตัวของเจ้าของรีสอร์ท)เบื้องหลังภาพนี้ มีใครบางคนท้องร้องดังมากๆเห็นภาพนี้แล้ว ดูพิก๊ลพิกลชัตเตอร์ กดติดวิญญาณวิวด้านหลังดูแล้วสดชื่นมาก อยากมีบ้านแถวนี้จังท่านี้มิมีพลาดไปนั่งเล่นสนามหญ้าส่วนตัวของบ้านสวนห้อม หลังใหญ่สุดของรีสอร์ทและแล้วเจ้าตัวป่วนก็มาถึง มันเป็นมิตรมากๆ แต่ควรปรับปรุงกลิ่นสักนิดเดินผ่านที่นั่งกินข้าวของรีสอร์ท ก็สวยอีกแบบเย็นนี้สั่งอาหารมากินที่บ้าน หมูกะทะ ปิ้งๆย่างๆ แล้วก็อารายต่อมิอารายเยอะเลย อิ่มมากๆ แล้วก็อร่อยได้อารมณ์ดีแท้ๆ แล้วก็เจ้ากี้ก็มาป่วนไม่เลิก ขอกินตลอดคืนนี้กินอิ่มนอนหลับกันแต่หัวค่ำ ง่วงจัดกันทุกคนตื่นมาก็สายแล้ว บรรยากาศยามเช้าของที่นี่ค่ะไม่รีบร้อนอะไร ซัดข้าวต้มเห็ดหอมอร่อยมากๆไป2ชาม ตามด้วยขนมปัง,โอวัลตินและปาท่องโก๋อารมณ์ชิลล์ๆกินไป อ่านนิตรสารดาราไปเรื่อยๆสายๆเราก็อาบน้ำ เก็บข้าวของ Check out อำลาบ้านสวนห้อม แต่ก็เกือบเที่ยงพวกเราเลยต้องรองท้องกันก่อนที่ร้านขนมจีนชาววังชื่อดังของวังน้ำเขียว นี่ขนาดยังไม่เที่ยง เส้นขนมจีนหมดแล้ว รอไปเอาอยู่ เหลือให้คณะพวกเราได้กินกันแต่คนละหัวเท่านั้น หมุบหมับกันใหญ่แกงไก่เหลือแค่ชามเดียว เลยต้องแบ่งกันกินส่วนอันนี้ ข้าวเกรียบปากหม้อ อร่อยดี ราดกะทิด้วย แป้งละลายในปากเลยแป๊บเดียวหมดหลังจากนั้นแวะไปซื้อเห็ดหอมสดกลับบ้านแถวๆบุไทรอ่ะค่ะ เห็นป้ายนี่แล้วมันขำๆดีทริปนี้ตั้งใจมาทำบุญด้วยค่ะ ซื้อถังสังฆทานมาจากสีคิ้วเลย อิอิ ก็เลยแวะวัดตรงข้ามร้านขนมจีนนี่ล่ะ คุ้นๆว่า วัดบุไผ่ น่ะค่ะ ตอนที่เรี่ยไรเงินใส่ซองเนี่ย ฟ้าร้องครืนๆตกใจมาก ทั้งๆที่ตอนนั้นแดดออกหลวงพ่อท่านคุยเก่งด้วย ให้ศีลให้พร อิ่มบุญถ้วนหน้าพวกเราออกเดินทางต่อไปยังเป้าหมายที่แท้จริงของทริปนี้เสียที นั่นก็คือ ร้านแดรี่โฮมนั่นเอง จากทริปเขาใหญ่คราก่อนหลายคนติดใจอยากมากินอีกวันนี้ขอลอง เนื้อย่างแดรี่โฮม เหมือนยำเนื้อย่าง อร่อยมากมายไส้กรอกหมู5รส อร่อยดีสั่งกันหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทีโบน พอร์คชอพ สเต็กกวาง แกะ ซี่โครงย่าง อร่อยถ้วนหน้าเจ้าภาพของเราหน้าเสีย เพราะอะไร..........ก็เจ๊หัวมุมโต๊ะ ที่บอกว่าไม่กินสเต็ก กลับขอเบิ้ล2ขอเบิ้ลซี่โครงกะสปาเก็ตตี้ โดยให้เหตุผลว่าเห็นเพื่อนๆกินแล้วอยากกินบ้าง แต่กลัวว่าสปาเก็ตตี้จานเดียวจะไม่อิ่มทริปนี้ พักผ่อนจริงๆ ไปกินกะนอนลูกเดียวเลย อิ่มกาย อิ่มใจ ทุกคนสนใจจองที่พักใน จ.นครราชสีมา ตรงนี้เลยจ้ะ
ทริปนี้ที่ไม่เดียวดาย
วันนี้ พวกเราออกเดินทางกันเช้าวันเสาร์ที่ 3 Feb 2007 จุดหมายแรกวันนี้อยู่ที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เราใช้เส้นทาง รังสิต-นครนายก-ปราจีน ใช้เส้นทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่งปราจีนแล้วไม่ชันค่ะ สบายๆทีเดียว หลังจากผ่านด่านจ่ายค่าธรรมเนียวคนละ 40 บาท รถสี่ล้อคันละ 50 บาท พวกเราก็ดิ่งตรงมาที่ ผาเดียวดาย จอดรถไปตรงนี้แล้วต้องเดินเท้าเข้าไปค่ะเดินลงไปอีกสักนิดนึงค่ะ เห็นแดดเปรี้ยงใกล้ๆ5โมงเช้าแบบนี้ หนาวนะคะอันนี้เป็นผาแรกที่พบ ดีใจมากนึกว่าถึงแล้วเดินไปอีกนิดก็มาถึงผาเดียวดายแล้วมองอีกมุม ก็ได้อารมณ์เหงาๆสมชื่อผาแต่ขอบอกก่อนว่า แม้จะมา ผาเดียวดาย พวกเราก็ไม่เหงาเพราะมากัน 16 คนแหน่ะกลับดีกว่า เพราะปวดฉี่กันมากเลย อากาศเย็นมากๆหลังจากเข้าห้องน้ำกันที่ จุดกางเต๊นท์ผากล้วยไม้แล้ว ก็ออกเดินทางมายัง น้ำตกเหวสุวัต กันต่อเลยค่ะเห็นน้ำแล้วไม่กล้าเล่นอ่ะ ดูมันดำๆชอบกล แต่ก็มีเชือกให้โหนเล่นแก้เบื่อนะหลังจากเดินขึ้นบันไดจากน้ำตกมาก็หอบแห่กๆ รีบขับรถไปทานข้าวกลางวันกันดีกว่า นี่ก็บ่าย2ครึ่งแล้วเที่ยงนี้ฝากท้องอันหิวโหยที่ ครัวเขาใหญ่ แบบว่าคนหิวอ่ะนะ สั่งกันไม่ยั้งเลยอ่ะได้เจ้า ฟองเต้าหู้ทอดกรอบ มารองท้องเป็นอันดับแรกอร่อยดีค่ะ ไม่เคยกินมาก่อนแล้วก็ตามด้วยปลาช่อดทอดยำมะม่วง เห็ดหอมสดผัดน้ำมันหอย ต้มยำ แฮมขาหมู ลาบหมูทอด ผัดผักรวมมิตร อร่อยทุกอย่างเลยค่ะอิ่มแล้วก็เคลื่อนพล มุ่งสู่ที่พักในคืนนี้ นั่นก็คือ บ้านภูนรินทร์ //www.banphunarin.comวันนี้พวกเรานอนบ้านร่มไม้ นอนได้เป็นสิบครับพ้ม ส่วนเพื่อนบางกลุ่มไปนอนบ้านอมรเบิกฟ้าและพวงแสดครับภาพนี้หน้าบ้านร่มไม้จ้ะมี4ห้องนอนใหญ่(นอนได้ห้องละ4-5คน) และ2ห้องโถง(มีทีวีทุกห้องเลย) และเป็นบ้าน2ชั้นจ้ะ เห็นวิวและรับลมเหมือนกันทุกห้อง ห้องน้ำแบ่งแยกเป็นส่วนแห้งและเปียก สะอาดดีจัง งานนี้เค้าคิดรายหัวจ้ะ 600 บาท/คน รวมอาหารเช้า-เย็น แต่ถ้าใครอยากเป็นส่วนตัวนอน2คนต่อห้อง ก็คิด 1,500บาท/ห้องวิวที่มองออกไปจากรีสอร์ทเยี่ยมจิงๆมาถึงกิจกรรมภายในที่พักวันนี้ คือ สไลเดอร์หญ้าก็สนุกสนานกันไปเหนื่อยแล้วก็มานั่งพักผ่อน ชมวิวไปเรื่อยและแล้วเราก็ยก studio มาอยู่ที่เขาใหญ่ก็บอกแล้วว่าทริปนี้ ไม่เดียวดายแต่อบอุ่นด้วยไอรักมากันเป็นคู่ๆบ่มรักเต็มที่ก็ถึงเวลาแต่งงานท่านี้มิมีพลาดเห็นกองไฟนึกถึงตอนเข้าค่ายลูกเสือ ครั้นวัยเยาว์และแล้ว เพลงสามัคคีชุมนุมก็บรรเลงเย็นแล้วอ่ะ ได้เวลาอาหารแว้วมีเบียร์เย็นๆกับอากาศเย็นๆ แหม...สุขดีแท้มื้อเย็นวันนี้เติมไม่อั้น ยำไข่ต้ม ผัดเผ็ดปลา ผัดผักรวม น้ำพริก และต้มแซ่บกระดูกอ่อน รสชาดพอทานได้ค่ะสำหรับเรา ยำไข่อร่อยสุดราตรีนี้อีกยาวไกล นั่งเล่าเรื่องสยองและเล่นไพ่ก่อนนอนหลังจากนอนหลับสบาย(รึเปล่า?)เพราะอากาศหนาวมากๆ ผ้าห่มบางไปค่ะ เอาไม่อยู่เลยบรรยากาศยามเช้ากับวิวดีๆที่โต๊ะกินข้าวเช้านี้มีข้าวต้มหมู/ไก่ เติมไม่อั้นเช่นเคย (รสชาดพอทานได้) กาแฟและโอวัลตินก็บริการตัวเองคร้าบไม่อิ่มเหรอคร้าบกลับไปอาบน้ำแต่งตัวเก็บข้าวของ อำลาบ้านภูนรินทร์ มุ่งสู่ The Greenery Resort กันค่ะ วันนี้เราจะมาทำกิจกรรมมันส์ๆที่นี่วันนี้เพื่อนๆส่วนใหญ่เลือกเล่น Zorb Ball กันค่ะ เข้า2คนต่อรอบ ราคา250บาท/คน แต่ถ้าเข้าเดี่ยวก็ 340 บาทได้มั๊ง ตอนนี้เพื่อนๆหลายๆคนรอเป็นกำลังใจอยู่ด้านล่างสูงเหมือนกันนะ ต้องขึ้นบันไดไปชั้นบน เหมือนแข่งเกมส์อารายสักอย่าง (ดูเท่ห์เชียว)กลิ้งลงมาแว้วออกมาจากลูกบอลก็โซซัดโซเซไปตามระเบียบ เพื่อนๆบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสนุกแล้วก็ไปเล่นอย่างอื่นบ้าง 150 บาทต่อรอบ ทุกกิจกรรมครับ อันนี้ก็ขับรถ ATV มันส์ดีอ่ะบางคนปีนผาอันนี้ ไม่ใช่จาพนม (เพราะใช้สลิง)น้ำหนักน้อยๆก็ขับ Nano Bicycleใครอยากเป็น กามเทพ เชิญทางนี้ต้องอำลาเขาใหญ่ซะแล้ว ขากลับแวะทานข้าวเที่ยงกันที่ร้าน แดรี่โฮม (หาตั้งนาน) มาถึงก็เกือบบ่าย2 แต่คนก็ยังเยอะอยู่ เลยต้องนั่งกินโยเกิร์ตรองท้องไปก่อน อร่อยดีอ่ะบางโต๊ะ ได้ไส้กรอกหมู มายาไส้ อร่อยดีจังและแล้วแต่ละคนก็ได้อาหารของตัวเอง อันนี้แซลม่อนสเต็กทีโบนสเต็ก ของใครหลายๆคนของเราเอง รอคนสุดท้ายเลย นิวยอร์กสเต็ก อร่อยมากๆ เฉพาะของเรา สนนราคาที่ จานละ 295 บาทอิ่มอร่อยทุกคน เราว่าสเต็กร้านนี้ อร่อยและถูกกว่าที่ร้าน เล็กซ์สเต็กนะเนี่ยตบท้ายด้วยของหวาน ไอศครีมโฮมเมด เลือกได้2รสต่อถ้วย ถ้วยละ 50 บาท มีถ้วยน่ารักๆให้ติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยด้านหน้ามีนมและโยเกิร์ตแสนอร่อย ซื้อฝากคนที่บ้านก็ได้นะก่อนกลับเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อยก่อน ห้องน้ำที่นี่น่ารักและสะอาดมากค่ะอำลาทริปนี้ด้วยความชื่นมื่น ต้อนรับเดือนแห่งความรักที่กำลังจะมาถึง กลับมาเผชิญโลกอันโหดร้ายในวันจันทร์อีกเช่นเคย ขอขอบใจเพื่อนๆร่วมทริปทุกท่านนะคร้าบสนใจจองที่พักใน จ.นครราชสีมา ตรงนี้เลยจ้ะ
ทุ่งดอกกระเจียวที่ชัยภูมิ
พวกเราเลือกเสาร์-อาทิตย์ ธรรมดาๆมาเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวกันที่ จ.ชัยภูมิ โดยใช้เส้นทางสีคิ้ว-ด่านขุนทด-หนองบัวระเหว ตอนเช้าพวกเราแวะทานข้าวแกงกันที่ร้านข้าวสามสี หลังจากนั้นก็ไปแวะรับเพื่อนที่สีคิ้ว ก่อนที่จะบึ่งตรงไปยัง อุทยานแห่งชาติไทรทอง จ.ชัยภูมิ ถึงที่นั่นก็เที่ยงกว่าๆ ระหว่างรอเพื่อนอีกกลุ่มที่ใช้เส้นทางเพชรบูรณ์ พวกเราก็ทานข้าวที่ร้านค้าสวัสดิการของทางอุทยาน รสชาดอาหารพอใช้ได้ค่ะ ไม่แพงแถมบริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ต้องขอโทษที่ไม่มีรูปเพราะว่าหิวกันจนตาลาย ถ่ายรูปอาหารมาโชว์ไม่ทัน หลังจากอิ่มแล้วก็มานั่งพักใน ที่ทำการอุทยานเจ้าหน้าที่ของที่นี่อัธยาศัยดีและเป็นมิตรมากๆ เราเช่ารถของอุทยานในราคา 500 บาท นั่งได้ประมาณ 10 คนเจ้าหน้าที่พาเรามาที่จุดกลางเต้นท์ พวกเราต้องเดินเท้าเข้าไปเที่ยวตามจุดต่างๆเองที่แรกคือแนวผาพ่อเมืองวิวเบื้องล่างก็สวยดีแล้วเราก็กะลังจะไป ผาหำหดมาถึงแว้วเห็นแล้วก็เสียวหลังจากนั้นก็เดินไปทุ่งบัวสวรรค์กันวิวระหว่างทางที่เดินไปทุ่งบัวสวรรค์ทุ่งบัวสวรรค์3ไม่ค่อยมีไรเลยอ่ะ เราเลยเดินไปทุงบัวสวรรค์ 2 กัน อย่างที่เห็นเรามาดูก็บ่ายๆแล้ว ดอกอาจดูไม่สดสวยเท่าไหร่รึว่ามันบานมานานแล้วก็ไม่รู้หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่อยากไปดูทุ่ง1กันแล้วเพราะเมื่อยขามาก ไม่รู้ว่าจะเดินกลับกันไหวมั๊ย แต่อยากแวะทุ่ง4ไปดูกระเจียวขาว ก่อนกลับ ซึ่งทางเดินค่อนข้างลื่นมากๆเลยกระเจียวขาวจะดอกเล็กกว่าสีชมพู เลยเห็นเป็นจุดเล็กๆหลังจากขาลากแล้วก็หมดแรง เดินทางกลับกันเราอำลาอช.ไทรทอง มุ่งสู่ที่พักคืนนี้ คือ ไร่ภูเทพพิมาน //www.phutheppiman.comซึ่งอยู่ใกล้ๆกับ อช.ป่าหินงาม กว่าจะไปถึงก็ทุ่มครึ่งแล้ว อาหารเป็นบุฟเฟ่ หิวกันสุดๆ เลยไม่มีรูปอาหารมาโชว์ แต่รสชาดใช้ได้ค่ะเนื่องจากมาก็มืดแล้ว เลยไม่ได้ถ่ายภาพภายในรีสอร์ทมาให้ชมกัน แต่ธรรมชาติและร่มรื่นมาก บ้านพักที่นี่แบบชาวบ้านๆง่ายๆ บ้านเราไม่มีพัดลมแต่หนาวมากเลย อากาศเย็นมากต้องติดเสื้อกันหนาวไปด้วยนะ ห้องพักเป็นแบบยกพื้นแล้วปูเบาะแบบนี้ มีถุงนอนให้ด้วยห้องน้ำก็แบบนี้คืนนี้พวกเราก็มีกิจกรรมคำนวณเลขบางคนก็ไปดูบอล รุ่งขึ้นต้องตื่นแต่เช้า พวกเราตื่นกันตี5ครึ่ง หนาวมั่กๆหมอกเต็ม มองไม่เห็นอารายเลย แล้วก็รีบนั่งรถไปดูกระเจียวที่ อช.ป่าหินงาม ตอน 6โมงเช้าถึงที่ อช. แล้วคนเยอะมากๆ หมอกหนาจิงๆที่นี่เค้าทำทางเดินไว้อย่างดี จะได้ไม่ไปเหยียบดอกกระเจียวเข้าดอกกระเจียวสีชมพู ท่ามกลางสายหมอกมาดูวิวอื่นๆบ้างพยายามถ่ายรูปกันใหญ่ แต่รูปออกมาไม่ค่อยชัด หมอกเต็มไปหมด ระหว่างเดินไป หากลมพัดแรง ละอองน้ำค้างก็ร่วงมาใส่หัวเต็มเลยจากนั้นเราก็เดินไปจนสุด ก็เจอ จุดชมวิว สุดแผ่นดินหนาวก็หนาว หมอกเยอะมาก ไม่เห็นวิวเล้ยเวลาล่วงเลยไปจน 8.30 น. แล้วล่ะ หิวข้าวมากๆ เลยไม่ได้ไปเดินป่าหินงามเล้ยแต่ก็ต้องรีบกลับมากินข้าวก่อน ระหว่างทางแวะทรงที่ทำการอุทยานซื้อของฝากพวกเราก็กลับมากินข้าวเช้า มื้อนี้มีพวกต้มเลือดหมู เติมไม่อั้น เครื่องดื่มร้อนพวก กาแฟ โอวัลตินก็บริการตนเอง อิ่มแล้ว พวกเราก็ลุยต่อ โดยการเหมารถอีแต๋น ไปเที่ยวที่ต่างๆใกล้ๆไร่ ราคา 20 บาท/คนจุดแรกพาไปดู โครงการบ้านดิน ซึ่งจะ ใช้ดินล้วนๆมาสร้างบ้าน เห็นว่าจะทำให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนอกจากนี้ตรงบ้านดินมีผาด้วย ชื่อ ผาบ้านดินหลังจากบ้านดิน พวกก็นั่งอีแต๋นขึ้นเขาไปเรื่อยๆ หมอกลงหนามาก แม้ว่าจะ 5โมงกว่า(ตอนเช้า)แล้วก็ตาม ระหว่างทางก็ต้องคอยหลบกิ่งไม้ กิ่งหนามตามทาง สนุกดีและก็มาถึงจุดที่ลงไปดู ผาน้ำย้อย แต่เนื่องจากหมอกหนามาก มองไม่เห็นวิวข้างล่างเลย จิงๆต้องเดินเท้าลงไปอีก แต่พวกเราก็ขี้เกียจซะแล้ว เลยนั่งพักผ่อนๆเล่นๆกันหลังกลับมาถึงที่พักก็รีบอาบน้ำเก็บของกลับบ้านกัน วิวนี้อยู่หน้าบ้านพักเลย มีศาลาคนเศร้าด้วยอีกรูปบ้านเล็กๆนั่นก็คือที่หลับนอนของพวกเรา (มีนางแบบรับเชิญด้วย)ขากลับพวกเราแวะทานข้าวกลางวัน+เย็น กันที่ ร้านอาหารริมเขื่อนลำตะคอง ชื่อ สวนเมืองพร อาหารอร่อย ราคาไม่แพงและนี่ก็วิวหน้าร้านอาหาร บรรยากาศดีมากๆทริปนี้กลับมาไม่อ้วนเลย เพราะไม่เน้นกินเน้นเที่ยวอย่างเดียว เสียเวลาอยู่บนรถเยอะไปหน่อยแต่ก็ happy เพราะเจอหมอกและอากาศเย็นๆแทน
พักผ่อนที่เขาแผงม้า
เนื่องจากวันหยุดพิเศษ 12-13 June 2006 คนเมืองอย่างเราก็หาที่พักผ่อนใกล้กรุงหน่อย ตอนนี้วังน้ำเขียวกำลังฮิต ต้องลองไปดูป้ายเหล่านี้อยู่ทางไป ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว รีสอร์ท ที่พักราคาประหยัดมากมายวิวริมน้ำ บริเวณ ต.ไทยสามัคคีตั้งใจจะไปกินที่ Jungle View แต่ต้องถอดใจเพราะเจอถนนลูกรังและไม่ดี อุตส่าห์ถ่อไปเกือบถึง ในที่สุดก็มาฝากท้องที่ ร้านครัวข้าวหอมต้องรีบไปที่พักดีกว่า เห็นเหมือนฝนตั้งเค้ามาแว้วร้านนี้กะแวะซื้อข้าวเกรียบปากหม้อมากิน แต่เค้าก็ขายดีเกินไปหมดซะแล้ว อดเลยเราคืนนี้ มาพักที่ วิลล่า เขาแผงม้าศาลาอันแรกที่พบ นั่งสบายดีแท้นอกจากนี้แอบไปนอนเล่นที่ห้องนั่งเล่น ของบ้านพักหมู่คณะด้วย ออกไปดูกระทิง ที่ คลองปลากั้ง กันเถอะแต่ไปแล้วมันก็เย็นไปอ่ะ กลัวว่าดูเสร็จแล้วมืดไป กลับที่พักลำบาก เลยไม่ดู รองวดหน้าแล้วกันจากนั้นก็มาเที่ยวอ่างเก็บน้ำ ลำพระเพลิงมาแวะทานข้าวที่ ครัว ริมเขื่อน ใกล้ๆลำพระเพลิง อิ่มอร่อย แซ่บหลายกันแล้ว รีบกลับที่พักดีกว่า เดี๋ยวจะมืดซะก่อน ขากลับเจอทุ่งดอกหญ้าคา สวยดี เลยเก็บภาพเป็นที่ระลึกกลับมานั่งตากลมเย็นๆที่รีสอร์ท ที่นี่พอ6โมงเย็นอากาศก็เริ่มหนาวๆแล้วล่ะกลางคืนที่นี่ลมแรงและหนาวมากจ้ะ อากาศยามเช้าก็เย็นสบายจิงๆเช้านี้อาหารมีให้เลือกแบบข้าวต้มหรือABF ก็ได้ เราขอเลือกข้าวต้มซึ่งอร่อยมาก นอกจากนี้มีผลไม้ ขนมปัง น้ำผลไม้และกาแฟ โอวัลตินด้วยจ้ะ อาหารเช้าที่นี่อร่อยดีอำลาเขาแผงม้า แวะเยี่ยมชมไร่องุ่น ที่ วิลเลจฟาร์ม ทางเข้าค่อนข้างลำบากนิดๆ ถนนลูกรัง แต่วิวที่ได้ก็ประทับใจค่ะ ภาพนี้แปลงองุ่นบรรยากาศแบบโรงนา สบายๆวิวด้านหน้าวิลเลจฟาร์มหลังจากแวะซื้อของฝากจากที่นี่ เรากะไปแวะทานข้าวร้านอื่น แต่ก็เลยไปซะทุกทีจนคิดไปฝากท้องกับ steak ที่ฟาร์มโชคชัย แต่ก็คนเยอะมาก ในร้านคนแน่นแม้ไม่ใช่วันหยุด ตัดใจมากินที่มวกเหล็กดีกว่า ตามคำแนะนำใน pantip ต้องร้าน Lex Steak อาหารอร่อยมากๆ สมคำร่ำลือว่า พลาดสเต็กที่โชคชัยได้ แต่อย่าพลาดที่ร้าน เล็กซ์สเต็กเนื่องจากเนื้อชิ้นใหญ่มาก กินไม่หมด ทั้งๆที่อร่อย เลยเสร็จพรรคพวก4ขาที่บ้านเลยทริปนี้เน้นพักผ่อน(อีกแล้ว) แต่วังน้ำเขียว อากาศดีจิงๆค่ะ ใกล้กรุงแบบนี้ แนะนำให้ไปกันสนใจจองที่พักใน จ.นครราชสีมา ตรงนี้เลยจ้ะ