ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ศึกษา สามก๊ก เรียนรู้ "ความพ่ายแพ้" ศึกษา "ขงเบ้ง"



เมื่อเอ่ยนามของ "ขงเบ้ง" ภาพลักษณ์ที่ปรากฏมันเป็นเรื่องของกลยุทธ์ เรื่องของเสนาธิการ นักวางแผน

นั่นก็เห็นได้จาก "แถลงการณ์หลงจ้ง"

อันขงเบ้งบรรยายให้เล่าปี่ฟัง ณ เขาโงลังกั๋ง สร้างความประทับใจเป็นอย่างสูง ที่สำคัญเป็นอย่างมาก คือ เป็นการ

คาดสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำ และถูกถ้วน

1 แยกแยะกำลังแต่ละฝ่าย

1 กำหนดแนวทางจะสามัคคีกับกำลังฝ่ายใด ทำการสัประยุทธ์ โค่นล้ม บ่อนทำลายและกำราบฝ่ายใด

ข้อเสนอคือให้สามัคคีซุนกวน พุ่งปลายหอกเข้าใส่โจโฉ

1 ความยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งก็คือ ภายหลังผ่านศึกเช็กเพ็ก หรือศึกผาแดง แผ่นดินจีนก็ได้เข้าสู่ยุคของ "สามก๊ก" อย่างเป็นจริง

ที่สำคัญก็คือ ก๊กของเล่าปี่เริ่มมีสถานะทางการเมือง

กระนั้น ผู้คนก็มักจะมองแต่ในด้าน "รุก" ทั้งทางการเมือง ทั้งการทหาร กระทั่งมองข้ามบทบาท 1 ซึ่งล้ำเลิศเป็นอย่างยิ่งของขงเบ้ง

นั่นก็คือ บทบาทใน "การถอย"


แท้จริงแล้วศึกระหว่างขงเบ้งกับสุมาอี้นั้นเหมือนกับขงเบ้งจะเป็นฝ่ายรุก เพราะเป็นฝ่ายยกกำลังจากเสฉวนไปปักหลักอยู่ที่เขากิสาน

จ่อคอหอยของราชวงศ์วุย

เหมือนกับการรุกจะเป็นจุดแข็ง แต่ต้องยอมรับว่ากำลังของขงเบ้งยกมาไกลอย่างยิ่ง ปัญหาที่ต้องประสบก็คือ เรื่องเสบียง

นั่นก็คือ เรื่องส่งกำลังบำรุง

กลยุทธ์ของสุมาอี้จึงดำเนินไปอย่างรู้เท่าทัน คือ ตั้งอยู่ในฐานที่มั่น ประวิงเวลา ไม่ยอมออก

อาศัย "เวลา" มาเป็น "อาวุธ"

เพราะยิ่งอยู่นานทัพของขงเบ้งยิ่งประสบความยากลำบาก ขวัญกำลังใจของกำลังพลรวนเรระส่ำระสาย คิดถึงบ้าน

ความพยายามของขงเบ้งคือยั่วยุให้อีกฝ่ายออกมาปะทะ

เป็นความพยายามอย่างแรงกล้ากระทั่งถึงกับส่งผ้าถุงไปให้สุมาอี้เพื่อหยามหยัน แต่แทนที่สุมาอี้จะตกเป็นเหยื่อ กลับสอบถามทหารที่เดินสารมาอย่างสุขุมเยือกเย็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของขงเบ้งกระทั่งรู้ว่าสุขภาพของขงเบ้งไม่น่าจะดี

ที่สุด 6 ครั้งที่ยกไปยังเขากิสานของขงเบ้งจึงลงเอยด้วย "การถอย"


หลี่ปิงเอี้ยน ซุนจิ้ง นักวิเคราะห์กลยุทธ์คนสำคัญของจีนศึกษาขงเบ้งและสรุปการถอย 6 ครั้งของขงเบ้งว่าดำเนินไปอย่างชาญฉลาดยิ่ง

ครั้งที่ 1 ใช้ยุทธวิธีทำให้ฉงน ถอนตัวออกมาอย่างปลอดภัย

ครั้งที่ 2 ใช้การซุ่มตีแทงทวนสวนกลับแล้วจึงถอย

ครั้งที่ 3 ใช้กลยุทธ์ "ถอยให้ 3 ช่วง" ตีข้าศึกพ่ายยับ สามารถถอยออกจากสนามรบได้อย่างราบรื่น

ครั้งที่ 4 ใช้วิธีเพิ่มเตาถอยอย่างมีจังหวะ

ครั้งที่ 5 ดักซุ่มตีที่บอกบุ๋น ทำลายล้างข้าศึกอันไล่ตามมาและนำทัพถอยกลับไปยังเสฉวนอย่างสะดวกดาย

ครั้งที่ 6 อันเป็นการถอยครั้งสุดท้าย

เพราะขงเบ้งแพ้ภัยตนเอง ล้มตายในสนามรบยังดำเนินกลยุทธ์ "ขงเบ้งตาย ขู่สุมาอี้จนขวัญบิน"

ขงเบ้งเคยกล่าว "เมื่อคิดถึงประโยชน์ต้องคำนึงถึงผลเสีย คิดถึงความสำเร็จต้องคำนึงถึงความล้มเหลว ดังเช่นศาลา 9 ชั้น แม้สูงก็ต้องพัง ฉะนั้น ผู้เงยหน้ามองสูงอย่างละเลยเบื้องล่าง มองไปข้างหน้าอย่าละเลยข้างหลัง"

และย้ำว่า "ผู้สันทัดในการแพ้จะไม่มีวันล่มสลาย"

ผู้คนศึกษาสามก๊ก ศึกษาขงเบ้ง มักจะศึกษาและชื่นชอบในด้านชัยชนะ

กระทั่งมองข้ามด้านพ่ายแพ้

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ชีวิตมักมี 2 ด้านวนเวียนไม่ขาดสาย เพราะเมื่อชนะก็มักฮึกเหิมกระทั่งประมาท ไม่นานต่อมาความล้มเหลวพ่ายแพ้ก็มาเยือน

ในความ "พ่ายแพ้" หากเรียนรู้ ไม่นานก็จะมีโอกาส "ชนะ" ได้

(ที่มา : มติชนรายวัน 31 พ.ค.2557)



ขอบคุณ มติชนออนไลน์ - มติชนรายวัน




Create Date : 02 มิถุนายน 2557
Last Update : 2 มิถุนายน 2557 7:48:48 น. 0 comments
Counter : 1007 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

thainewcar
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add thainewcar's blog to your web]