วิธีทำให้ผมดูหนาดกดำ ที่หนุ่ม ๆ ผมบางต้องจดไว้เลย
วิธีทำให้ผมดูหนา 8 เคล็ดลับดี ๆ เปลี่ยนผมบางให้กลับมาหนาดกดำและแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง จนเพื่อนบ้านทักว่าไปทำอะไรมา

          ปกติเส้นผมของคนเราจะร่วงเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว สังเกตได้จากเส้นผมที่ร่วงอยู่ตามพื้นห้อง บนโต๊ะ ในอ่างล้างหน้า หรือกระจุกผมที่ติดอยู่บนหวี แต่ทั้งนี้มีผู้ชายหลายคนเริ่มรู้สึกว่า ช่วงนี้เส้นผมของตัวเองหลุดร่วงมากผิดปกติ ส่องกระจกไปแล้วเห็นหนังศีรษะชัดขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังประสบปัญหาผมบางอยู่นั่นเอง

          ปัญหาผมบาง เป็นเหมือนจุดบกพร่องที่ทำให้ภาพลักษณ์ดูแย่และบั่นทอนความมั่นใจของผู้ชายสุด ๆ ซึ่งปัญหานี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่พันธุกรรมของแต่ละคน ช่วงอายุ อาหารการกิน รวมไปถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตด้วย ถ้ามีการทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง ก็อาจกู้ให้ผมกลับมาดูหนาเหมือนเดิมได้

          และนี่คือ 8 วิธีทำให้ผมดูหนาและกลับมาดกดำได้อีกครั้ง

ผมบาง


1. ตัดทรงผมสั้นดีที่สุด

          การเลือก ทรงผม ก็มีผลต่อภาพรวมของเส้นผมด้วยเช่นกัน ซึ่ง ทรงผมสั้น เป็นทรงผู้ชายสุดเบสิกที่ช่วยอำพรางสายตาและหลบซ่อนผมบางได้ดี เพราะยิ่งหนุ่ม ๆ ไว้ผมยาวมากเท่าไหร่ คนยิ่งสังเกตเห็นเส้นผมได้ง่ายขึ้นเท่านั้น แนะนำให้เลือกทรงผมสั้นเท่ ๆ เรียบง่ายเข้ากับรูปหน้า คนอื่นจะได้ไม่โฟกัสไปที่เส้นผมมากนัก แถมทรงผมสั้นยังช่วยลดปัญหาผมขาดหลุดร่วงได้อีกด้วย

2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม

          พยายามเลือกใช้ยาสระผม ครีมนวด หรือครีมบำรุงเส้นผมที่เป็นสูตรสำหรับคนผมบางโดยเฉพาะ เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะอ่อนโยนต่อหนังศีรษะ ช่วยเติมความชุ่มชื้นทำให้เส้นผมหนาและแข็งแรงขึ้น ถ้าเป็นไปได้ให้ลองมองผลิตภัณฑ์ที่เป็นออร์แกนิก เพราะจะช่วยลดปัญหาสารเคมีตกค้างผมหนังศีรษะ สาเหตุหลักที่ทำให้เส้นผมบางได้

ผมบาง
3. จัดแต่งทรงผมให้ถูกวิธี

          การปล่อยผมเรียบ ๆ จะทำให้ผมดูบางและไม่มีชีวิตชีวา ซึ่งการจัดแต่งเพิ่มวอลลุ่ม เติมเลเยอร์ให้ทรงผมเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผมดูหนาหลอกตาขึ้นมาได้ ทั้งนี้ ไม่แนะนำให้เซตผมติดต่อกันหลาย ๆ วัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์เซตผมต่าง ๆ จะมีเนื้อครีมที่ค่อนข้างเหนียว ทำให้ล้างทำความสะอาดได้ยาก ใช้บ่อย ๆ จะทิ้งสารเคมีตกค้างเป็นเหตุให้เส้นผมอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด

4. เลิกใช้ความร้อน

          ทั้งการสระผมด้วยน้ำอุ่น การใช้ลมร้อนเป่าผม ดัดผม เป็นตัวการหลักที่ทำให้เส้นผมแห้ง ลีบแบน และเปราะบาง สำหรับใครที่ผมบางอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ขาดร่วงง่ายเข้าไปใหญ่ ซึ่งปัญหานี้แก้ไม่ยาก แค่เลิกใช้ความร้อน ปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติ เท่านี้เส้นผมก็กลับมาสุขภาพดี หนาขึ้นเหมือนเดิมแล้ว

ผมบาง
5. ปรับอาหารการกิน

          มาถึงการบำรุงจากภายกันในบ้าง โดยเส้นผมของคนเราจะมีรากผมที่ฝังอยู่ในหนังศีรษะ ซึ่งคอยทำหน้าที่ดูดซับสารอาหารส่งไปเลี้ยงเส้นผมให้เจริญเติบโต ซึ่งสารอาหารหลัก ๆ ที่จำเป็น คือ โปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามิน และไบโอติน สามารถหาได้จาก เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่วเหลือง ธัญพืช กล้วย และผักชนิดต่าง ๆ

6. ถอยห่างจากบุหรี่

          สารนิโคตินและคาร์บอนมอนอกไซด์ในบุหรี่ไม่เพียงแต่กระตุ้นฮอร์โมนที่ทำให้ผมร่วงเท่านั้น ยังไปทำลายหลอดเลือดและรูขุมขนบนหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมเจริญเติบโตไม่เต็มที่และขาดร่วงง่าย เห็นอย่างนี้แล้วรีบโยนบุหรี่ลงถังขยะไปได้เลย ก่อนที่ผมจะบางและร่วงหมดหัว

ผมบาง
7. กำจัดความเครียด

          เข้าใจว่าทุกคนต่างมีเรื่องเครียดด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่ในสภาวะนั้นนานจนเกินไป เพราะความเครียดจะไปกระตุ้นฮอร์โมนที่ทำให้ผมร่วง และยิ่งฮอร์โมนตัวนี้ถูกกระตุ้นบ่อย ๆ ก็อาจส่งผลให้เส้นผมไม่เติบโตและหัวล้านก่อนวัยอันควรได้

8. หมดหนทางก็พบแพทย์

          บางคนพยายามทำทุกอย่างทุกวิถีทางแล้ว สุดท้ายผมก็ยังบางเหมือนเดิม ตัวเลือกสุดท้ายคือการเข้าพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อขอปรึกษาและหาทางแก้ ซึ่งปัจจุบันมีนวัตกรรมบำรุงเส้นผม ปลูกผม เกิดขึ้นมากมาย ลองให้แพทย์แนะนำวิธีที่มีประสิทธิภาพและเหมาะกับสภาพเส้นผมที่เป็นอยู่ จะได้ไม่ผิดพลาดและมีโอกาสกลับมาผมหนาอีกครั้ง

          อย่างไรก็ตาม วิธีที่นำเสนอไปอาจไม่ช่วยให้ผมกลับมาหนาสมบูรณ์แบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่รับประกันว่าเส้นผมแข็งแรง และดูดกดำขึ้นกว่าเดิมแน่นอนครับ ยังไงก็ลองนำไปปรับใช้กันได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก : menshealth.co.ukfashionbeans.comstylecaster.com

https://men.kapook.com/

ช่วยเสริมฮอร์โมนเพศชาย
www.smartboyshopping.com
testos, ฮuร์โมนเพศชาย, testosterone, ผู้ชายวัยทอง, ทอม, ftm, transman
 



Create Date : 27 พฤศจิกายน 2565
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2565 14:24:53 น.
Counter : 282 Pageviews.

0 comment
แรงบันดาลใจจาก Aquaman หนุ่มอ้วน 110 กก. เปลี่ยนตัวเองจนกล้ามแน่นหุ่นเฟิร์ม
แรงบันดาลใจจาก Aquaman หนุ่มอ้วน 110 กก. เปลี่ยนตัวเองจนกล้ามแน่นหุ่นเฟิร์ม
 

วันนี้มีอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้หนุ่มๆ ที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่ไฟเริ่มมอด กลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง โดยรายการคนแปลงร่าง แบ่งปันเรื่องราวของ ฮาย หนุ่มที่เริ่มอ้วนจากการออกกำลังกายแบบผิดวิธี ส่งผลให้ต้องพักการออกกำลังไป ชีวิตก็ช่วงนั้นก็เลยกินอย่างเดียว จนน้ำหนักพุ่งไปถึง 110 กก. จนวันหนึ่งเขาส่องกระจกรู้สึกไม่ไหวกับตัวเอ งประกอบกับได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Justice League และอยากหุ่นแบบ Aguaman ภารกิจเปลี่ยนแปลงตัวเองจึงเกิดขึ้น

"ก่อนหน้านั้นเป็นคนรูปร่างปกติ ไม่อ้วน ไม่ผอม ช่วงนั้นก็ออกกำลังกายทั่วไป แต่ว่าดันเล่นแบบผิดๆ ถูกๆ ก็เลยได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย อาการตอนแรกที่คอมันเจ็บจี๊ดๆ ลงมาถึงหลัง แล้วไปหาหมอคุณหมอบอกว่า เป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกคอข้อที่ C5 แตก คุณหมอสั่งห้ามออกกำลังกายทุกชนิดเลย อยู่ชิลๆ ไป 1 ปี แต่ช่วงเวลาชิลๆ คือกินกระจายเลยครับ กินตอนกลางคืน กินของอ้วนๆ กิน น้ำหนักก็เลยพุ่งมา 110 กก."

มีเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วยไหม

- ก็มีครับคือ นอนหายใจไม่ออกครับผม เจ็บที่คอบางครั้งมันก็ร้าวมาที่หลังบ้าง

ตอนนั้นร่างกายเป็นอย่างไร

- ก็อ้วน หอบง่าย เหนื่อย

ไม่ได้คิดเลยใช่ไหมครับ ตอนนั้นว่าเราจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อจะเปลี่ยนแปลง

- ไม่ได้คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนกระทั้งมาส่องตัวเองในกระจก  รู้สึกว่าไม่โอเคกับฮายคนนี้ บวกกับช่วงนั้นที่หนัง Justice League เพิ่งเข้า แล้วมีตัวละครที่เห็นแล้วอยากหุ่นแบบนี้มาก Aguaman

พอดู Justice League พอเริ่มไม่โอเคกับตัวเองแล้วทำอะไรต่อ

- โทรหารุ่นพี่ที่เป็นเทรนเนอร์ที่สนิทกัน ก็บอกว่าเนี่ย ไม่ไหวแล้วอยากหุ่นแบบนี้ Aguaman แบบนี้เลย ก็คุยกับเขา แล้วเสร็จแล้วเขาก็ให้ตารางการกิน การออกกำลังกายมา ก็เลยลองทำตามที่เขาให้มา กินตามเขา ออกกำลังกายตาม ทำตามแบบนั้นเป๊ะๆ เลย 

ใช้เวลานานไหมครับ

- 5 เดือนนี่คือเริ่มเห็นผล ก็คือจาก 110 กก. ลงมาเหลือ 85 กก. หุ่นเริ่มเข้าที่ก็เลี้ยงตัวเองไป ก็คือกินแบบรักษาหุ่นไปเรื่อยๆ พยายามไม่ให้น้ำหนักมันเด้งขึ้นมา เล่นไปเรื่อยๆ จนเข้าเดือนไดเอทครับ  อันนี้คือเดือนที่หนักที่สุดก็คือไดเอทลงมาเหลือกน้ำหนัก 74 กก.

อะไรที่ยากที่สุดในการเปลี่ยนแปลง

- ตอนแรก ครับ เพราะว่ามันเหนื่อยแล้วมันไม่ได้เห็นผลเร็วขนาดนั้น ตอนแรกๆ มันก็เลยรู้สึกท้อ เหนื่อย

แรงบันดาลใจที่มอบให้กับตัวเองคืออะไร

- ดูอยากคนที่เขาเคยอ้วนมาก่อน นักแสดงบางคนที่เขาเคยเปลี่บนแปลงตัวเองจากอ้วนมาผอม และก็บวกกับเห็นตัวเองในกระจกทุกวัน มันก็คอยเตือนตัวเองอยู่แล้วว่า จะเป็นแบบนี้ไม่ได้

ได้ร่างที่สมบูรณ์แบบเป๊ะๆ เลยเนี่ยเมื่อไหร่

- ปีกว่า แล้วครับ

งั้นเป้าหมายต่อไปของเราคืออะไร

- อยากเป็นนายแบบ ครับ

ทำไมถึงอยากเป็นนายแบบ

- มันดูดีเวลาเรามอง แล้วมันดูมีเสน่ห์

มีอะไรอยากจะบอกกับทุกคนที่อยู่ในสภาวะของความอ้วนของความพัง เพราะความเจ็บไข้ได้ป่วย และก็ไม่เห็นหนทางว่าจะออกจากตรงนี้ยังไง

- ผมก็อยากจะฝากถึงคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่นะครับ  อย่างผมอ้วนมาก่อนแบบนี้ แต่เรามีวินัย มีเป้าหมายที่ชัดเจน และสิ่งที่เราทำมารับรองว่า มันคุ้มค่าแน่นอน

https://www.sanook.com/men/70145/

ช่วยเสริมฮอร์โมนเพศชาย
www.smartboyshopping.com
testos, ฮuร์โมนเพศชาย, testosterone, ผู้ชายวัยทอง, ทอม, ftm, transman




Create Date : 27 พฤศจิกายน 2565
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2565 14:20:33 น.
Counter : 42 Pageviews.

0 comment
4 เคล็ดลับเพิ่ม “โกรทฮอร์โมน” ฮอร์โมนแห่งการชะลอวัย อยากแข็งแรง สดใส ต้องลอง!

หน้าที่ของ โกรทฮอร์โมน

เมื่อมีการศึกษา โกรทฮอร์โมน อย่างจริงจังพบว่า ฮอร์โมนชนิดนี้มีปริมาณสูงที่สุดเมื่อเข้าสู่อายุ 20 ปี ก่อนจะลดลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งเมื่ออายุ 40 ปี และเหลือกเพียงหนึ่งในสี่ของปริมาณสูงสุดเมื่ออายุ 60 ปี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า โกรทฮอร์โมน จะหมดความสำคัญเมื่ออายุเพิ่มขึ้น เพราะมันยังคงทำหน้าที่ซ่อมบำรุงส่วนต่างๆ ของร่างกาย

  • มีส่วนสร้างเซลล์ของอวัยวะภายในและเนื้อเยื่อต่างๆ รวมถึงซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
  • สร้างเซลล์ชั้นผิวหนังใหม่
  • สร้าง ซ่อมแซม และเสริมความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและกระดูก
  • เสริมภูมิคุ้มกันในแข็งแรง
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและการมองเห็น
  • ลดระดับคอเลสตอรอลในร่างกาย

ผิวเหี่ยวเสื่อมสภาพก่อนวัย อาจเป็นเพราะโกรทฮอร์โมน

ผู้สูงอายุหลายคนมักกังวลเรื่องสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป เช่น เหนื่อยตลอดเวลา หรือไร้เรี่ยวแรงโดยไม่มีสาเหตุ แต่ไม่เคยรู้เลยว่า ต้นเหตุที่แท้จริงมาจากการหลั่งโกรทฮอร์โมนลดลง จึงเป็นเหตุให้เซลล์ที่สึกหรอไม่ได้รับการซ่อมแซมอย่างเต็มที่

นอกจากนี้เมื่อปริมาณโกรทฮอร์โมนไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ประสิทธิภาพของวงจรการผลัดเซลล์ผิวลดลง คนวัยนี้จึงมักเผชิญปัญหาผิวหนังต่างๆ เช่น ผิวหย่อนคล้อย และผิวหนังหมองคล้ำ แต่ปัจจุบันคนวัยทำงานกลับมีปัญหาผิวหนังไม่ต่างจากผู้สูงอายุทั้งๆ ที่มีอายุ 30 กว่าๆ เท่านั้น เนื่องจากคนกลุ่มนี้ใช้ชีวิตปล่อยปละละเลย เป็นผลให้ฮอร์โมนลดลงไปเรื่อยๆ
 

นอน เพิ่มโกรทฮอร์โมน

สิ่งเดียวที่มีผลต่อการเพิ่มหรือลดลงของปริมาณโกรทฮอร์โมน คือ คุณภาพการนอน หากร่างกายพักผ่อนไม่เต็มที่ ความสามารถของโกรทฮอร์โมนจะลดลงทันที

งานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระบุว่า โกรทฮอร์โมนจะผลิตและหลั่งออกมามากที่สุดช่วงนอนหลับสนิทระหว่าง 23.00 – 7.00 น. ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนทำงานเป็นกะ แต่สำหรับคนทั่วไป หากได้นอนตามนี้ก็จะช่วยกระตุ้นให้โกรทฮอร์โมนผลิตออกมาอย่างพอเหมาะ

คนวัย 40 – 50 ปี ที่มีอาการนอนหลับยากหรือนอนหลับไม่สนิท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนกระตุ้นการนอนลดลง ด้วยเหตุนี้การนอนหลับในช่วงหลับลึกและช่วงหลับฝันจึงสั้นลง ตื่นบ่อย หรือลุกเข้าห้องน้ำกลางดึกบ่อย ทำให้ร่างกายตื่นบ่อยตามไปด้วย พอกลับมานอนเท่ากับต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่

ปัญหาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการทำงานของฮอร์โมนแอนติไดยูเรติก (antidiuretic hormone) หรือวาโซเพรสซิน (vasopressin) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมปริมาณปัสสาวะ เมื่ออายุย่างเข้า 50 ปี อัตราการหลั่งฮอร์โมนชนิดนี้กลับลดลงฮวบฮาบ เป็นเหตุให้กลไกควบคุมปัสสาวะเสื่อมยิ่งกว่าเดิม

หากผู้ใหญ่วัยสูงอายุพยายามปรับพฤติกรรมให้การนอนหลับมีคุณภาพดีขึ้น จะช่วยให้การหลั่งโกรทฮอร์โมนเพิ่มมากขึ้นด้วยหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เพราะเมื่อโกรทฮอร์โมนในวัยสูงอายุลดลงแล้ว การปรับพฤติกรรมการนอนไม่สมารถช่วยให้ฮอร์โมนเพิ่มขึ้นแบบกระทันหันได้

เคล็ดลับเพิ่มโกรทฮอร์โมน

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเคล็ดลับที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมนให้เพิ่มขึ้น  คือ ปล่อยให้ท้องว่างและหิวปานกลาง รู้สึกเครียดเล็กน้อย และออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ

การปล่อยให้หิวปานกลางเป็นวิธีกระตุ้นให้การหลั่งโกร๊ธฮอร์โมนทำงานได้ดี โดยปกติร่างกายใช้เวลาย่อยอาหารประมาณ 3-4 ชั่วโมง จากนั้นท้องจะว่าง การเว้นช่วงระหว่างมื้อราว 5 ชั่วโมงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด แต่ไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างนานกว่านั้น เพราะร่างกายจะคิดว่ากำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลนอาหาร ก่อให้เกิดความเครียดกับร่างกายโดยไม่จำเป็น

วิธีปล่อยให้หิวปานกลางแบบง่ายๆ ได้แก่ งดกินจุบจิบช่วงระหว่างมื้อ กินอาหารครบสามมื้อและตรงเวลา และอย่าปล่อยให้ท้องร้อง ควรปฏิบัติเป็นประจำเพื่อให้ร่างกายหลั่งโกร๊ธฮอร์โมนอย่างสม่ำเสมอ

ส่วนการปล่อยให้ร่างกายเครียดนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าความเครียดมีหลายรูปแบบ หากเป็นความเครียดที่มาจากความหวาดกลัวอันตรายหรือความโกรธ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจแน่นอน แต่ความเครียดที่เกิดจากความเหนื่อยล้าจากการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่เหนื่อยสนุก นั่นแหละคือตัวกระตุ้นการหลั่งโกร๊ธฮอร์โมน

ลองตั้งเป้าหมายสักอย่างในการทำงานหรืองานอดิเรกเพื่อให้ร่างกายรู้สึกเครียดเล็กน้อย พร้อมกันนี้ควรออกกำลังกายเพื่อช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าให้ชีวิต เมื่อกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวเซลล์กล้ามเนื้อจะเกิดความเสียหาย ร่างกายจึงหลั่งโกร๊ธฮอร์โมนซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เช่นเดียวกับช่วงที่เรารู้สึกเครียด

การออกกำลังกายที่ส่งผลดีต่อการกระตุ้นโกร๊ธฮอร์โมน คือ การออกกำลังกายแบบแอโรบิก คือการออกกำลังกายที่ต้องใช้อากาศเป็นตัวช่วยเผาผลาญ  ผสมกับแบบแอนโรบิก คือการออกกำลังกายแบบไม่ต้องใช้อากาศในการเผาผลาญ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ ดีต่อหัวใจและปอด
 

ข้อมูลประกอบจากหนังสือ อ่อนวัยแน่แค่ปรับฮอร์โมน

สำนักพิมพ์ Amarin Healt

https://goodlifeupdate.com/lifestyle/102750.html




Create Date : 27 พฤศจิกายน 2565
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2565 14:18:30 น.
Counter : 124 Pageviews.

0 comment

naizeezaa
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]