เรียนรู้อดีต เพื่อสอนปัจจุบัน ให้ใช้อนาคตอย่างเหมาะสม
 
เป้เดี่ยวฯ ตอน Walk Rally ที่ตุรกี6

ตอนที่ 6 ชมดอกไม้ที่ Topkapi Palace

พวกเราเช็คเอาท์แต่เช้าตรู่ เพราะนัดแท็กซี่ให้มารับตอน 7 โมงเช้า ที่หมายก็คือสนามบิน Denizli ซึ่งห่างจากปามุคคาเล่ประมาณหนึ่งชั่วโมง วันนี้เราตั้งใจจะกลับอิสตันบูลโดยเครื่องบิน เพราะประหยัดเวลากว่ากันมาก (เพียงหนึ่งชั่วโมงเมื่อเทียบกับนั่งรถบัสสิบชั่วโมง) โดยใช้บริการของ Turkish Airlines ซึ่งจองผ่านเว็บไซด์ได้ไม่ยาก เสียดายที่ Denizli ไม่มีเครื่อง Pegasus Air เราเลยต้องเสียค่าโดยสารคนละสี่พันบาท

อากาศยามเช้าเย็นสบาย แท็กซี่ขับไม่ถึงชั่วโมงดี ก็ถึงสนามบิน Denisli สนามบินเล็กๆ ที่มีเครื่องบินมาลงเพียงวันละสองสามเที่ยวบิน


สนามบิน Denizli


Turkish Airlines

ราวเก้าโมงครึ่ง B737 ก็นำพวกเราย้อนกลับมายังสนามบินนานาชาติ Ataturk อีกครั้งหนึ่ง รับกระเป๋าแล้วก็เดินจากด้าน Domestic มายังส่วน International เพื่อโดยสาร Metro ไปยังตัวเมือง คราวนี้เราไม่พลาดเดินทางโดยวิธีที่ 1 (จำได้ไหมครับ) คือไปลงที่สถานี Seytinbernu แล้วไปต่อ Tram ในอาคารเดียวกัน นั่งจากต้นสายไปอีก 15 สถานี ก็กลับมาถึง สถานีสุลต่านอาเม็ตที่คุ้นเคยอีกครั้งหนึ่ง

เพราะสาวๆ อยากได้โรงแรมเงียบๆ ไม่มีเสียงเพลงดังยามดึก พวกเราจึงไปหาโรงแรมใหม่ ซึ่งหาไม่ยากเลย เพียงข้ามถนนหน้าสถานีสุลต่านอาเม็ต มองเข้าไปในซอยก็เจอแล้วหนึ่งโรงแรม มีชื่อว่า Akeniz Hotel

ผมเดินขึ้นไปสอบถามที่ล็อบบี้ซึ่งอยู่ชั้นสองว่ามีห้องว่างไหม ก็ได้คำตอบว่ามี ราคาคืนละ 50 ยูโร เราลองต่อราคาเพราะตั้งใจจะพักถึงสามคืน ผู้จัดการบอกว่า หากไม่รับอาหารเช้า คิดคืนละ 40 ยูโร ผมลองต่อเหลือ 35 ยูโร เมื่อไม่ได้ก็ใช้มุขเดินหนี ปรากฏว่าผจก.รีบกวักมือเรียกและบอกว่า “OK OK” เป็นอันว่าเราได้ห้องพักจากคืนละ 50 เหลือแค่ 35 ยูโร (มุขเดินหนี ใช้ได้เสมอ...หุหุ)


ห้องพักที่ Akeniz Hotel

เมื่อเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกมาเดินเที่ยว ที่หมายสำหรับ walk rally วันนี้คือเราจะไปเจาะลึก พระราชวัง Topkapi (อ่านว่า ท็อปกาปึ ครับ) กัน

พระราชวังท็อปกาปึอยู่ด้านหลังวิหารโซเฟีย เดินจากสถานีสุลต่านอาเม็ตเพียงสิบนาทีก็มาถึง ที่ต้องอ้างชื่อสถานี ก็เพราะผู้สร้างพระราชวังแห่งนี้คือ สุลต่านอาเม็ตที่ 2 (Mehmet the Conqueror) ผู้พิชิตกรุงคอนสแตนติโนเบิล ศูนย์กลางของไบเซนไทน์หรืออิสตันบูลในปัจจุบันนั่นเอง พระราชวังแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่ประทับขององค์สุลต่านกว่าห้าร้อยปี จวบจนสุลต่าน Abdulmecid สร้างพระราชวังโดลมาบาห์เชขึ้นทดแทนในศตวรรษที่ 19

พระราชวังท็อปกาปึ ตั้งอยู่บนเนิน เหนือจุดบรรจบของช่องแคบบอสฟอรัส ทะเลมาร์มารา และโกลเดนฮอร์น แม้ว่าจะมีการต่อเสริมเติมแต่งอาคารเพิ่มเติม และถูกไฟไหม้ไปถึงสี่ครั้ง แต่เขาแบ่งพื้นที่พระราชวังออกเป็น 4 คอร์ทด้วยกัน เรียงลำดับจากวิหารโซเฟียไปยังแหลมริมทะเล


แผนที่ พระราชวังท็อปกาปึ

คอร์ทแรกคือสวนโล่งประดับประดาด้วยดอกไม้ตามทางเดิน ติดต่อกับวิหารโซเฟีย มี Great Imperial Gate เป็นจุดเชื่อม ปัจจุบันใช้เป็นที่จัดคอนเสิร์ตงานประจำปีของอิสตันบูล


คอร์ทที่1 ทางเดินที่เต็มไปด้วยดอกไม้ และสถานที่ขายตั๋วเข้าพระราชวัง


ดอกไม้นานาพันธุ์ตลอดสองข้างทางเดิน


หมู่น้องแมวนอนอาบแดด ท่าทางน่าสบาย

เมื่อซื้อตั๋วราคา 20TL แล้วเราก็ผ่านประตูคารวะ (Gate of Salutation) เข้าสู่คอร์ทที่2 ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะผู้ที่จะผ่านประตูนี้ ต้องลงจากม้าเพื่อแสดงความเคารพก่อนจะผ่านประตูนี้ ยกเว้นเพียงองค์สุลต่านเท่านั้นที่ไม่ต้องลงจากม้า เมื่อผ่านประตูเข้ามาก็จะพบโมเดลจำลองของพระราชวัง และแผนที่แสดงอาณาเขตจักรวรรดิออตโตมันยุคต่างๆ ซึ่งในยุคที่รุ่งเรืองสุด อาณาเขตกินไปถึงสามทวีปคือ เอเซีย: ตุรกี ซีเรีย เลบานอน จอร์แดน อิสราเอล และอิรัก, แอฟริกาตอนบน: อียิปต์จรดมอร็อคโค, และยุโรป: กรีซและบางส่วนของยุโรปตะวันออก


โมเดลจำลองพระราชวัง


แผนที่อาณาจักรออตโตมัน

ในคอร์ทที่2 ประกอบด้วย Palace Kitchens, Imperial Council Chamber, Inner Treasury และส่วนที่น่าสนใจที่สุดคือ Harem ซึ่งเดี๋ยวผมจะย้อนพาไปชมอีกที


Palace Kitchens ที่ด้านหน้าประดับอักษรอาหรับที่สลักจากหินอ่อน


อักษรอาหรับที่สลักอย่างสวยงาม


Imperial Council Chamber

เมื่อผ่าน Gate of Felicity ก็เข้าสู่คอร์ทที่3 อาคารสำคัญในคอร์ทนี้คือ Imperial Treasury แสดงทรัพย์สมบัติต่างๆ ที่เด่นๆ ก็คือเครื่องประดับศีรษะที่ประกอบด้วยอัญมณีเม็ดเป้งๆ เสียดายที่จนท.ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ผมเลยไม่มีรูปมาฝาก แต่จะว่าไปศิลปะออตโตมันจะเน้นเพชรพลอยเม็ดใหญ่เข้าว่า ผมว่างานศิลปะของไทยละเอียดอ่อนช้อยสวยงามกว่าเยอะเลย


Audience Hall


ความงดงามภายใน

คอร์ทที่สี่ส่วนที่เด่นก็คือ Tulip Garden ไม่แน่ใจว่าเคยเล่าให้ฟังหรือยังว่า ตุรกีนี่แหละที่เป็นต้นกำเนิดดอกทิวลิป ก่อนที่จะไปฮิตในเนเธอร์แลนด์ ที่สวนแห่งนี้ประดับประดาด้วยดอกทิวลิป และดอกไม้สีสันสวยงามอื่นๆนานาชนิด


Tulip Garden


ดอกไม้นานาชนิด

ชมครบสี่คอร์ท ผมก็ย้อนกลับมาคอร์ทที่2 เพื่อเข้าชม Harem ส่วนนี้ต้องจ่ายค่าเข้าชมเพิ่มอีก 15TL ครับ


ทางเข้าHarem

ฮาเร็มดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนที่ลึกลับ และน่าสนใจในสายตาชาวยุโรปมากที่สุด ฮาเร็มมิใช่ที่ใช้สนองตัณหาขององค์สุลต่าน หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว ฮาเร็มเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวสุลต่าน ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากของจีนและอินเดีย ที่ไม่อนุญาตให้ชายอื่นนอกจากขันทีผ่าน เพียงแต่ผู้ที่อาศัยในฮาเร็มจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ผู้ที่เป็นใหญ่ที่สุดในฮาเร็ม ก็คือพระราชมารดาของสุลต่าน ซึ่งจะมีอำนาจกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างในนี้ รวมทั้งจัดหาคนมาปรนนิบัติองค์สุลต่านยามค่ำคืนด้วย

เมื่อเข้าสู่ภายใน ส่วนแรกคือที่พักอาศัยของขันที (Eunuch) ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นทาสผิวดำ ถัดมาก็เป็นที่พักของนางกำนัล และตำหนักของพระราชมารดาสุลต่าน (Valide Sultan)


ลวดลายบนพื้นทางเข้า


ที่พักของขันที


ที่พักของนางกำนัล


ที่ประทับของพระราชมารดา


ลวดลายที่สวยงามบนผนัง


หุ่นจำลองภายใน


ห้องบรรทมพระราชมารดา

ถัดมาคือส่วนสำคัญที่สุด นั่นก็คือ”สุขา” ทำด้วยหินอ่อน ประดับโลหะทาสีทอง ดูอลังการมาก และตามด้วยที่นั่งสันทนาการของสุลต่านและครอบครัว และที่ประทับส่วนตัวของสุลต่านองค์ต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามเป็นที่สุด แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป (อีกแล้ว)


สุขา


ทำจากหินอ่อน


ห้องสันทนาการ


โปรดสังเกตนาฬิกาในสถานที่สำคัญต่างๆ มักตั้งไว้ที่ 9.05 น. ไว้เสมอ อันเป็นเวลาที่ท่านอะตาเติร์กเสียชีวิต

ส่วนถัดไปคือ “กรงทอง” อันที่ประทับของเจ้าชายในวัยเยาว์ ก่อนที่จะถูกส่งไปอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ เมื่อมีพระชนม์มากขึ้น


กรงทอง


นกน้อยในกรงทองจริงๆ

ถัดไปเป็นที่อาศัยของ”คนโปรด” ขององค์สุลต่าน เมื่อ”คนโปรด”เหล่านี้ให้กำเนิดบุตร ก็จะได้เลื่อนขั้นสูงขึ้นๆ ตามลำดับ (คล้ายของจีนที่มีตำแหน่งสนมห้าขั้น แต่ไม่ทราบว่าของออตโตมันมีกี่ขั้นกันแน่)


ห้องคนโปรด

เสร็จจากชมพระราชวังท็อปกาปึ พวกเราก็ออกมาหาไอศกรีมทานกัน เพราะไอศกรีมตุรกีได้ชื่อว่ามีเนื้อเหนียวเข้มข้นมาก ประมาณว่าคนขายสามารถใช้พายตักไอศกรีมก้อนโตประมาณลูกตระกร้อ เหวี่ยงโยนไปมาหยอกล้อลูกค้าโดยไม่หกให้ได้เห็นเสมอๆ (งานนี้เดลี่ควีนอายไปเลย)

ตอนค่ำ สาวๆอยากดูโชว์ระบำหน้าทอง ผมจึงจัดให้โดยพาไปชม Turkish Dance Night ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักของเรานัก ค่าเข้าชม 50TL มีการเสิร์ฟเครื่องดื่ม และของว่างให้ทานเล่นระหว่างรอชมด้วย การแสดงประกอบด้วยระบำพื้นเมืองต่างๆ หลายชุด แต่ไฮไลท์อยู่ที่การโชว์เดี่ยว “Belly Dance” ที่นักแสดงทั้งสวย หุ่นดี และเต้นได้เซ็กซี่มาก หวานใจยังออกปากว่า “เซ็กซี่มั่กๆ ขนาดเป็นผู้หญิงแต่เห็นแล้วยังใจเต้นแรง” เสียดายที่ผมโหลดคลิปลงบล็อกไม่ได้ ไม่งั้นจะให้ทุกท่านชมว่าน่าดูขนาดไหน


นักดนตรีโหมโรงก่อนแสดง


ระบำฉลองการแต่งงาน


ระบำผู้ชายเราไม่สน


Modern Folk Dance


Traditional Folk Dance


ไฮไลท์คือสาวชุดแดงโชว์เดี่ยว Belly Dance


ต่อด้วย Belly Dance หมู่

จบจากชม Turkish Dance Night ราวสี่ทุ่ม เราเดินกลับโรงแรม พลางชมความงามยามค่ำคืนของ Blue Mosque และสวนสาธารณะข้างๆ วันพรุ่งนี้ผมจะพาไปชม Blue Mosque และ Aya Sofya ต่อ ติดตามชมให้ได้นะครับ


Blue Mosque ยามค่ำ


น้ำพุกลางสวนสาธารณะ


Create Date : 08 พฤษภาคม 2553
Last Update : 8 พฤษภาคม 2553 7:34:11 น. 5 comments
Counter : 1541 Pageviews.  
 
 
 
 
ทักทายยามเช้าวันเสาร์ ขอให้สนุกกับการพักผ่อนนะค่ะ ^_____^

 
 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:54:25 น.  

 
 
 
Hi,everyone.
It's my honor here to introduce an useful web to u



www.findsoso.com
There are thousands of brand handbags and wallets.
and the price are absolutely reasonable.
Ladies and gentlemen,
I'm sure u will like it at ur first sight.
YES,THIS IS IT.
www.findsoso.com



Free shipping!
Paypal accept!
 
 

โดย: seven IP: 120.33.240.159 วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:22:41 น.  

 
 
 
สวยค่ะ
 
 

โดย: หนูภัส IP: 207.131.6.58, 180.222.150.3 วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:47:28 น.  

 
 
 

 
 

โดย: tongsehow วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:3:23:29 น.  

 
 
 
สวยดีนะคะ...แต่สุขาดูแปลกๆอ่ะ
 
 

โดย: noinanai วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:46:37 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

adept
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




แม้สายน้ำมิอาจไหลย้อนกลับ แต่เราสามารถแลหลัง เหลียวดูมันได้
[Add adept's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com