บล็อกเขียนตามใจ
หากเป็นวิชาการ ความรู้ ก๊อปได้ไม่หวง แต่ห้ามใช้ในการค้าหรือทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย
หากผู้รู้ท่านใดเห็นข้อผิดพลาดในสิ่งที่เราเขียนโดยเฉพาะพวกหัวข้อแนววิชาการ ขอให้ท่านบอกเราสักนิดนะคะ ในความคิดเห็นก็ได้ หลังไมค์ก็ได้ค่ะ เราจะได้ปรับปรุงบทความในโอกาสต่อไป
จริงๆอยากตั้งเป็นกระทู้แหละ แต่มันจะถูกลบใน2เดือน เขียนที่นี่มันอยู่นานกว่า บล็อกส่วนตัว มีไร้สาระบ้าง อะไรบ้าง อย่าว่ากันนะ
งดลงโฆษณาทุกชนิด ถ้าเจอลบอย่างเดียว
|
|||
ความไม่รู้+ความอดทน ทำไมเราถึงกลัวนักกับการลงทุนช่วงนี้ คิดไปคิดมาคำตอบคือเรากลัวคลื่นใต้น้ำ เราฟังข่าวเศรษฐกิจจีนระดับมหภาคตั้งแต่ต้นปี 2010 มาตอนนี้ก็เกือบ2ปีแล้ว เราได้ยินข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับจีนตั้งแต่ตอนนั้น ก่อนหน้านั้นเราก็เคยได้เรียนมาบ้าง ทำให้เราคุ้นชินกับปัญหาเศรษฐกิจจีน มากกว่าจะมองว่าจีนสามารถช่วยดึงเศรษฐกิจส่วนอื่นๆของโลกได้ ณ เวลาที่ข่าวร้ายจากจีนยังไม่ออกสู่โลกภายนอก เราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนระดับมหภาคเป็นภาษาจีน คนจีนอ่านและเห็นด้วยกับเรา แต่พอเราเขียนเป็นภาษาไทยลงในห้องสมุด คนมากมายแสดงความไม่เห็นด้วยเยอะเกินคาด ถามว่าทำไม ทำไมคนจีนเห็นด้วยกับเรา แบบไม่มีคนค้านเลย แต่คนไทยไม่เห็นด้วย คำตอบคือ เรากับคนจีนได้ข่าวจากแหล่งเดียวกัน คือรายการต่างๆที่รัฐบาลจีนจัด ส่วนคนไทยได้อาจจะได้จากฝรั่งอีกที ถามว่าเราเห็นแบบนี้แล้วอยากตามกระแสไหม คำตอบคือเราไม่กล้าค่ะ เรารู้ว่าข้อมูลที่เราได้รับ อาจจะช้ากว่าเหตุการณ์จริงเป็นปีๆ หรืออาจจะคลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน มันเป็นสิ่งที่เราเห็นจากการติดตามข่าวมากกว่า1ภาษา ทุกวันนี้ก็เจอข่าวที่ต่างกันออกจะบ่อย ยิ่งไม่แน่ใจในข้อมูลเข้าไปใหญ่ ถามว่าวิกฤติจะเกิดขึ้นไหม เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีวิกฤติอะไรเกิดขึ้น และไม่ขอเดา ถึงแม้จะเป็นของจีนก็ตามที เพราะเราไม่ได้เห็นเหตุการณ์จริง ไม่ได้เดินดูทั่วประเทศจีน ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในจีนอีกแล้ว ในส่วนของข้อมูลเล็กๆน้อยๆ เรายังขาดอยู่มากที่จะตัดสินได้ว่าอนาคตของจีนจะเป็นอย่างไร แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ เราไม่อาจไปตัดสินว่ายุโรป เมกา หรือส่วนอื่นๆของโลกจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเรามีข้อมูลน้อยกว่าของจีนอีก ไทยล่ะ เราก็ไม่กล้าเช่นกัน เราอยู่ที่นี่ เราอาจจะมองเห็นแค่ด้านเดียว สำคัญที่สุดคือ เรารู้ว่าสิ่งนี้เราไม่ถนัด เราไม่ถนัดในการคาดสภาวะเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นของที่ไหน สรุป เรารู้สึกว่าเราไม่รู้อีกเยอะ จึงยอมรอเวลาที่ทุกคน กลัวจริงๆ ในยามที่ทุกคนไม่มีเงิน เมื่อนั้นเราจะเอาเงินเก็บทั้งหมดของเราออกมาลงทุน เนื่องจากมันเป็นเงินทั้งหมดของเรา เราอาจจะเก็บได้ไม่เยอะขนาดนี้อีกเลยก็ได้ แน่นอน เราไม่เอามันมาล้อเล่นกับความไม่รู้ของตัวเองแน่ๆ สุดท้ายอาจจะเป็นนิสัยลูกแม่ค้า ที่ต้องการสินค้าที่ราคาถูกที่สุด หุ้นจะถูกที่สุดได้เมื่อไหร่??? เมื่อทุกคนไม่มีเงินในกระเป๋าจนต้องเทขายหุ้นเอาเงินไปใช้อย่างอื่น เมื่อตอนที่คนส่วนมากร้อนเงิน เมื่อนั้นแหละ คนส่วนน้อยที่มีเงินสดอยู่ จะได้เลือกซื้อหุ้นดีๆที่มีอยู่เต็มตลาด เราจำได้ ตอนที่เราไปเรียนที่กวางเจา เป็นครั้งแรกที่เราจากบ้านเกิน1เดือน หอพักที่เรากับพี่ๆคนไทยไปพัก เขาให้เราใช้ไฟเดือนละ200วัตต์(ไม่แน่ใจหน่วย แต่แน่ใจตัวเลข) เราเป็นคนประหยัด ก็เลยใช้ไฟไม่เคยเกิน ไม่เคยต้องกระเบียดกระเสียนช่วงกลางๆท้ายๆเดือนด้วย จำได้มีอยู่เดือนนึง ต้นเดือนฝนตก อากาศเย็น ปลายเดือน ฝนไม่ตก แดดออก อากาศร้อน คนไทยคนอื่นเปิดแอร์ช่วงต้นเดือน พอถึงช่วงกลางเดือนใช้ไฟปาเข้าไปเกินครึ่งที่เขาให้ใช้เยอะมาก ด้วยความกลัวที่จะถูกเก็บเงินเพิ่ม ตั้งแต่กลางเดือนเป็นต้นไป คนไทยส่วนมากไม่เปิดแอร์ ออกไปหาซื้อพัดลม ส่วนเราทำตรงข้าม เราไม่เปิดแอร์ตอนต้นเดือน กลางเดือนจนถึงท้ายเดือนเรามีแอร์ใช้ เปิดแอร์ได้ทุกวัน (ตอนนั้นไม่มีใครไม่อิจฉาเรา อิอิ) ถามว่าทำไม 1 ต้นเดือนเป็นช่วงที่ฝนตก สามารถปิดแอร์นอนได้ ถือเป็นการตุนไฟฟ้าไว้ใช้ปลายเดือนได้เป็นอย่างดี 2 ต้นเดือนอากาศชื้น ถ้าเปิดแอร์จะกินไฟมากกว่าปกติ เพราะแอร์จะใช้พลังงานมากมายเพื่อทำให้อากาศแห้ง เราชอบเหตุการณ์แบบนี้ เราคิดว่าถ้าเราอดทนรอซื้อตอนวิกฤติ มันก็จะเหมือนตอนเราเรียนที่กวางเจา 1 เราอดออม มีเงินสดจำนวนมาก 2 เราได้ซื้อหุ้นดีราคาถูก ถ้าอยากทำตามแผนที่วางไว้ งานนี้สงครามทางจิตใจครั้งใหญ่สำหรับเราเลย แต่เราคงมือบอนยากอ่ะ ขังเงินอย่างแน่นหนา โอนเข้าพอร์ทหุ้นไม่ง่าย คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร อีกอย่าง ตอนนี้ขี้เกียจหาข้อมูลไม่ได้ ถ้าไม่ขยันเตรียมตัว โอกาสมาก็ไม่รู้จักวิธีคว้า ไม่ได้เขียนไดอารี่มานานแล้ว หุหุ เขียนครั้งนี้ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เขียนอีก วันนี้ที่มาเขียนก็เพราะมีคนคุยหลังไมค์ แต่ด้วยความที่คำตอบเรามันยาวมาก เลยคิดว่าเขียนเป็นไดอารี่ แล้วส่งให้เขาอ่านดีกว่า ปล. รายการที่เราฟังเศรษฐกิจจีนระดับมหภาคได้ถูกปิดไปแล้ว ตอนนี้ฟังระดับจุลภาคแทน ฮือๆ หารายการอื่นมาแทนยังไม่ได้ |
นางสาวคานทอง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] All Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
แต่ก็พยายามแก้ปัญหาโดยการลดขนาดไม้ลง และซอยไม้ย่อยแทน ลดการคาดเดาลงน่ะครับ หวังว่าจะได้ผล อิอิ