แผ่นดินไหวที่ไครสเชิร์ช
ว่าจะเขียนไดเป็นภาษาไทยมาหลายวัน วันนี้ได้เวลาละ และเขียนลงพันทิปเป็นวันแรกเลยละกัน (ลงของเอ็มเอสเอ็นด้วย)

เขียนเล่าเรื่องแผ่นดินไหวดีกว่า ตอนนี้เราอยู่ไครสเชิร์ชค่ะ ทุกคนคงรู้แล้วว่ามีแผ่นดิวไหวเมื่อเช้าวันเสาร์ที่แล้ว(๔กันยา)ตามเวลาของที่นี่ ก่อนเกิดแผ่นดิวไหวนั้นเราตื่นนอนสักพักแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมวันนั้นตื่นได้เร็วขนาดนั้น นอนไปนอนมาสักพักก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้น เปิดไฟดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จู่ๆไฟก็ดับซะงั้น เราตกใจมากอ่ะกลัวบ้านถล่มสุดๆ กะหนีออกไปนอกบ้าน แต่เราไม่สามารถเดินออกนอกห้องได้ด้วยซ้ำ เพราะมันไหวแรงมาก ยืนยังไม่ตรงเลย แถมเพิ่งตื่นนอนอีกต่างหาก แต่มันไหวแค่แป๊บเดียวก็หยุด

พอหยุดแล้วเจ้าของบ้าน(เจ้าของบ้านชื่อเกลค่ะ เป็นคนนิวซีแลนด์)ก็ออกมาจากห้องเขา พร้อมกับเริ่มสำรวจบ้านด้วยไฟฉาย ผลคือแจกันตกแตกหนึ่งใบ แถมเตรียมที่หลบภัยด้วยนะ เขาบอกว่าให้หลบระหว่างโซฟากับผนัง มันช่วยกันของตกใส่ได้ (โดนแม่เราหาว่าต๊อง ฮ่าๆ) เจ้าของบ้านสำรวจบ้านสักพัก แล้วก็เริ่มโทรหาเพื่อนๆและญาติๆของเขาที่อยู่ในเมือง ผลคือมีบ้านญาติคนหนึ่งพังในชั่วพริบตา สักพักเขาก็กลับไปห้องนอน นอนบ้าง โทรศัพท์บ้าง ตอนนั้นต้องใช้มือถือโทรอย่างเดียว เพราะโทรศัพท์ที่นี่เป็นแบบไร้สายต้องใช้ไฟฟ้า แล้วตอนนั้นไฟดับ ส่วนตัวเราเองก็กลัวนะ แต่กลัวหนาวมากกว่า ตอนที่เจ้าของบ้านสำรวจบ้านนั้น เราก็พยายามหาเสื้อผ้ามาใส่เพิ่ม แล้วก็ไปงัดไฟฉายที่ติดไว้กับรถจักรยานมาเตรียมไว้ใช้เอง

เช้านั้นทั้งเช้าหลังจากเจ้าของบ้านกลับเข้าห้องนอนแล้วเราออกกำลังกายตลอด เพราะเราคิดว่าให้เรานอนบนเตียงนี่ไม่อุ่นพอแน่ๆ เพราะไม่มีไฟฟ้า เปิดผ้าห่มไฟฟ้าหรือต้มน้ำใส่ถุงน้ำร้อนไม่ได้ พอฟ้าสว่างเมทเก่า(เคยอยู่บ้านเดียวกัน ชื่อชานดี เป็นคนศรีลังกา)ก็มา แล้วเขาก็จุดไฟในเตาผิงแล้วค่อยออกไปดูว่าเพื่อนๆกับลูกสาวเจ้าของบ้านเป็นอย่างไรกันบ้าง ทุกคนก็สบายดีค่ะ แต่ลูกสาวคนเล็กเขากลัวมากๆเลย ทุกวันนี้ก็ยังกลัวอยู่ ลูกสาวเขามีลูกชายด้วยหนึ่งคน เกิดเมื่อประมาณสองสามเดือนก่อน หลานของเจ้าของบ้านคนนี้มีความสุขมากตอนแผ่นดินไหว (แน่ไหมคะเด็กทารกคนนี้ สมกับเกิดปีเสือจริงๆ ฮ่าๆ)

หลังจากแผ่นดินไหวครั้งแรกแล้วก็ไม่มีอะไรมาก เกิดอาฟเตอร์ช็อคเป็นระยะๆแต่รุนแรงน้อยกว่า แต่ละครั้งเกิดไม่เท่ากันนะคะ เล็กบ้างใหญ่บ้าง แต่มันจะจำนวนน้อยลง และสั่นน้อยลงเรื่อยๆ

วันจันทร์กับวันอังคารไปโรงเรียนไม่ได้ วันพุธถึงได้ไป โอ้แม่เจ้า คนกลัวแผ่นดิวไหวเยอะกว่าที่เราคาดไว้อ่ะ โดยเฉพาะสองสาวเกาหลีเพื่อนร่วมชั้นของเรา มีอยู่คนนึงถึงขนาดเตรียมของหนีแผ่นดิวไหวทุกคืน (เราก็ทำนะ แต่ทำแค่คืนแรกเท่านั้นแหละ หลังจากนั้นก็เหมือนเดิม) แม่เราจะมาหลังจากเราเรียนภาษาจบแล้ว กำหนดการก็คือพรุ่งนี้(เช้าวันเสาร์ที่๑๑ของที่นี่) แต่พอเราเห็นคนกลัวแผ่นดินไหวเยอะเกินที่ประมาณไว้ก็เปลี่ยนใจ เราเดาว่าแม่เราคงไม่ชอบเหมือนกัน กลับบ้านก็เลยลองจองตั๋วไปโอ๊คแลนด์ดู แต่จองยากอ่ะ เพราะต้องแน่ใจเรื่องประกันก่อน เจ้าของบ้านบอกว่าให้ไปสอบถามพรุ่งนี้ เราว่ามันเสี่ยงไป ถ้าจองไม่ได้เราจะยกเลิกตั๋วมานิวซีแลนด์ของแม่เราไม่ทัน ได้เสียเงินเยอะกว่าเดิมแน่ๆ เราเลยตัดสินใจโทรไปถามพี่ที่ของตั๋วให้(พี่โบว์) พี่เขาบอกว่าสามารถยกเลิกได้ เสียแค่หกพันเท่านั้นเอง ถ้ายกเลิกพรุ่งนี้เสียอีกเท่าตัว เราโทรไปถามแม่เรานิดหน่อย กะว่าจะยกเลิกอ่ะแหละ เราไม่ให้แม่เรามาหรอก เรียกกว่ากล่อมไม่ให้แม่มาจะถูกกว่า แม่บอกว่ายกเลิกก็ได้ แล้วกลับมาเร็วหน่อย แต่พี่โบว์บอกว่าจองตั๋วขากลับยาก เหอะๆ

วันพฤหัส(เมื่อวาน)ก็ไปยกเลิกตั๋วที่เราซื้อไว้เตรียมพาแม่เที่ยว ตอนแรกเราไม่รู้ว่าจะไปยกเลิกที่ไหน เราซื้อมาจากจุดบริการนักท่องเที่ยวในตัวเมือง เห็นเขาบอกว่าในตัวเมืองปิดหลายวันแล้ว เราก็ไม่กล้าไปกลัวเสียเที่ยว เลยเอาตั๋วไปให้ประชาสัมพันธ์ของโรงเรียนดู เขาก็ช่วยโทรไปหาบริษัทรถทัวร์ให้ ถามว่าสามารถยกเลิกตั๋วได้ที่ไหน บ.ก็บอกว่ายกเลิกได้ที่สนามบิน เพราะมีจุดบริการนักท่องเที่ยวที่นั่น พอเลิกเรียนก็ไปสนามบินค่ะ แต่ขอโทษ จุดบริการนักท่องเที่ยวที่สนามบินบอกว่าไม่สามารถยกเลิกให้ได้ เพราะเราจ่ายสด จุดบริการสองจุดนี้เป็นคนละบริษัทกัน ต้องให้บริษัทเดิมเป็นคนจ่ายเงินคืน เอาละสิ เราก็ให้เขาโทรถามให้หน่อยว่าของที่ในเมืองเปิดอยู่ไหม เขาก็โทรถามให้ ผลคือเปิดจนถึงห้าโมง เราเดินออกมาคิดอย่างหนักเลย อยากไปเอาเงินคืนแต่กลัวไปไม่ทัน มองดูนาฬิกามีเวลาประมาณห้าสิบนาทีในการเดินทางไปถึงที่นั่น เอาว่ะ ลองเสี่ยงดู ผลคือไปทันก่อนปิดสิบห้านาที รอดตาย ฮ่าๆ

เจ้าหน้าที่ที่จัดการให้เราครั้งนี้เป็นคนเดียวกับจัดการซื้อตั๋วให้เราคราวที่แล้ว เราชอบเขามากอ่ะ เขาเป็นผู้หญิงแก่ใจดีมากๆ แถมรู้ข้อมูลช่วยในเรื่องลดราคาได้ด้วย อิอิ ดีใจที่คนนี้จัดการให้ แล้วเขาก็จัดการให้เรียบร้อยจริงๆ ถึงแม้ว่าตั๋วบางตั๋วนั้นไม่สามารถคืนเงินได้ เพราะซื้อมาในราคาถูกเขาก็โทรถามให้จนได้เงินคืนมาครบทุกเซนต์ ดีใจเกือบร้องกรี๊ดอ่ะ ฮ่าๆ อยากกระโดดกอดเขาสุดๆ เขาบอกว่าขอให้เดินทางโดนสวัสดิภาพนะ แล้วเขาเดินออกมาเปิดประตูให้ จากนั้นก็ฉลองด้วยกันไปซื้ออาหารจีนกล่องมากิน ประมาณเก้าดอลต่อกล่องค่ะ กล่องเดียวกินได้สองมื้อ ต่อไปจะซื้ออาหารแบบกล่องมากินมากขึ้นละ สั่งลาก่อนจาก

ต่อจากนี้คงไม่มีอะไรแล้วค่ะ เรียนก็จบแล้ว รอกลับบ้าน เตรียมสอบภาษา หางานอย่างเดียว เย้ๆ



Create Date : 10 กันยายน 2553
Last Update : 10 กันยายน 2553 14:56:10 น.
Counter : 346 Pageviews.

6 comments
  
ขอให้โชคดีในการสมัครงานนะคะ
แต่ช่วงนี้อาจจะหางานยากสักหน่อยเพราะใกล้สิ้นปี
หลายคนรอโบนัสค่ะ^^
ชอบcomment ในเกระทู้3G(ห้องศาลาฯ)
เลยเข้ามาชม blog ค่ะ^^
โดย: Tae^^ IP: 180.180.1.129 วันที่: 18 กันยายน 2553 เวลา:19:29:19 น.
  
ขอบคุณค่ะ
โดย: ขวัญ (khumchalong ) วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:13:17:43 น.
  
น้องจบเอกอะไร วุฒิอะไร และถนัดทางด้านไหน
(คร่าวๆก็ไดค่ะ ไม่ต้องมีรายละเอียดเยอะ เพราะบล็อคค่อนข้างเปิดเผย) ก็เขียนไว้ในบล็อคก็ได้นะคะ จะถามเพื่อนๆให้ค่ะ^^ แล้วจะแวะมาส่งข่าวค่ะ^^
โดย: P'tae IP: 125.24.87.101 วันที่: 19 กันยายน 2553 เวลา:18:04:44 น.
  
ขอบคุณค่ะ จบอักษรศาตร์ภาษาจีน ชอบพวกงานข่าวค่ะ แต่ไม่ได้เรียนด้านนี้มาโดยตรง ถนัดอะไรบ้าง บอกไม่ถูกค่ะ เพราะไม่เคยทำงาน แต่ชอบพวกงานค้นคว้าค่ะ สนุกดี

ขวัญเขียนตามที่ถนัด ปกติเขียนเป็นภาษาจีนให้เพื่อนที่รู้จักอยู่แล้วอ่านค่ะ เพื่อนคนไทยเหมือนไม่ค่อยอ่านไดอารี่เท่าไหร่ เลยเขียนจีนฝึกภาษาด้วย ให้เพื่อนต่างชาติอ่านด้วย นี่เพิ่งเริ่มเขียนภาษาไทย แต่ก็ติดความเคยชินตอนเขียนไดอารี่ภาษาจีนมา
โดย: ขวัญ (khumchalong ) วันที่: 29 กันยายน 2553 เวลา:21:17:33 น.
  
อักษร จุฬา ป่าวคะ ภ้าใช่เรียนนรุ่นไหนค้า
โดย: ABC IP: 125.26.36.19 วันที่: 23 มกราคม 2554 เวลา:22:24:39 น.
  
ไม่ได้จบจากจุฬาค่ะ
แหะๆ ไม่ได้เข้าบล็อคนานมากกกกกกก
โดย: ขวัญ (khumchalong ) วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:21:01:47 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นางสาวคานทอง
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog