การพูดความจริง แม้ทำร้ายคน ...แต่ยังไม่เจ็บปวดเท่าการหลอกลวง
 

วิธีลดความขัดแย้งให้คู่รักอย่างสร้างสรรค์

วิธีลดความขัดแย้งให้คู่รักอย่างสร้างสรรค์....

วิธีลดความขัดแย้งให้คู่รักอย่างสร้างสรรค์.....ข้อมูลจากวารสารสถาบันครอบครัวไทย

1. สร้างบรรยากาศที่ช่วยลดความขัดแย้ง เช่น
-การเตรียมตัวเองให้พร้อม ด้วยการข่มใจและควบคุมจิตใจให้สงบ หากยังมีความโกรธหรือขุ่นข้องหมองใจ จงขจัดออกไปเสียก่อน
-เลือกเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเป็นเวลาทั้งคู่ผ่อนคลายที่สุด
-เลือกสถานที่ที่เหมาะสม เป็นสถานที่ที่ทั้งคู่สามารถพูดคุยกันได้อย่างเปิดเผยและไม่ถูกรบกวน เช่นห้องนอน

2. มุ่งเน้นที่เรื่องความขัดแย้ง ไม่ใช่ที่ตัวบุคคล..... พูดคุยกับอีกฝ่ายในเรื่องความขัดแย้งโดยไม่ต่อว่า ตำหนิ ก้าวร้าวหรือประชดประชัน พร้อมกันั้นควรยอมรับว่า บางครั้งความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองเข้าใจ จึงไม่ควรมั่นใจด่วนสรุปว่าความคิดของตนเองนั้นถูกต้องที่สุด แต่ควรพูดคุยและปรับความเข้าใจกันด้วยความรู้สึกของเราที่ปรารถนาจะให้อีก ฝ่ายหนึ่งเข้าใจ

3.ปฏิบัติต่อคู่สมรสด้วยความรักและให้เกียรติกัน ....ต้องจำไว้ว่า ถึงแม้จะมีความขัดแย้งเกิดขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้สถานภาพของคู่สมรสเปลี่ยนไป สามียังคงเป็นสามีและพ่อ ภรรยายังคงเป็นภรรยาและแม่ ความขัดแย้งเป็นเพียงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสามีและภรรยาอาจจะมองกันคนละมุม หรือต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตนเอง ดังนั้น แม้จะมีข้อขัดแย้งกัน แต่ทั้งคู่ควรปฏิบัติต่อกันด้วยความรักและให้เกียรติกัน

4.อย่า พยายามเอาชนะกัน......ไม่มีประโยชน์เลยที่สามีและภรรยาจะเอาชนะกันในความขัด แย้ง เพราะแม้จะมีผู้ชนะ ก็ต้องมีฝ่ายแพ้ที่เจ็บปวด หรือหากต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ผลที่ออกมาก็ทำให้เจ็บปวดทั้งคู่ก็ได้

5. ยกโทษให้แก่กันและกันและลืมความขัดแย้งนั้นเสีย....แม้ว่าความขัดแย้งจะผ่าน ไปแล้ว แต่หากทั้งคู่ยังไม่ยอมยกโทษให้แก่กัน ก็เปรียบเหมือนการฝังรากแห่งความทุกข์ให้เกิดขึ้นในวันหน้า และหากมีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก คุณก็อาจรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่ ซึ่งรังแต่จะสร้างความเจ็บปวด ดังนั้นควรยกโทษให้กันและกันและลืมความเจ็บปวดนั้นเสีย

6.มองไปข้าง หน้าและเรียนรู้บทเรียนจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา......ความขัดแย้งระหว่างสามี และภรรยาก็เป็นแค่เหตุการณ์หนึ่งในชีวิตคู่ จงเรียนรู้จากอดีตและไม่ยอมให้เรื่องนี้กลับมาทำให้คุณและคูสมรสของคุณขัด แย้งกันอีก

...เมื่อคนสองคนตัดสินใจลงเรือลำเดียวกันแล้ว คงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจและความสามารถประคับประคองให้เรือลอยไปได้ตลอดรอดฝั่ง
จงหมั่นเอาใจใส่และดูแลความรัก เพื่อการใช้ชีวิตคู่ที่มั่นคงและเป็นครอบครัวที่มีคุณภาพในสังคมต่อไป........




 

Create Date : 22 ธันวาคม 2552    
Last Update : 22 ธันวาคม 2552 9:03:23 น.
Counter : 713 Pageviews.  

ใคร...?...คือคนที่ใช่

ใคร..?...คนที่ใช่
ตามความหมายในพจนานุกรมฉบับจีบสาวแบบปราชญ์ มีลักษณะดังนี้

.......ใช่...ที่..เป้าหมายชีวิตของคนสองคนต้องสอดคล้องกัน อาจไม่ถึงกับตรงกันแต่ปรับเข้าหากันได้....

ใช่...ที่..พื้นภูมิ.....เรียกง่ายๆคือพูดจากันรู้เรื่อง ไม่ใช่แตกต่างกันจนไปกันได้ไม่กี่น้ำ....

ใช่...ที่..เสริมสร้างกัน คนหนึ่งมีเหตุผล คนหนึ่งมีอารมณ์ ต้องช่วยกันไม่ใช่ฉุดกันลงเหว....

ใช่...ที่..ความรัก สองคนต่างต้องรักกัน

แม้ใช่ทั้งหมดทุกข้อที่ผ่านมา แต่ รักฝ่ายเดียว ไม่อาจเป็นความรักยิ่งใหญ่

ต้องทั้งสอง ไม่ใช่แค่หนึ่ง.........

และ....

คนที่ใช่นั้น
ไม่ใช่คนที่อยู่ในอุดมคติ.........
ไม่ใช่คนที่ใกล้เคียงกับคนในอุดมคติ............
ไม่ใช่คนที่ไม่ใช่อยู่ในอุดมคติ..................

อาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยๆ...
อาจจะมีเวลาไม่มากนักในการพบปะ............

แต่....
คนที่ใช่คือ
............“คนที่จริงใจกับเราที่สุด”
...……….“หวังดีกับเรามากที่สุด”
...……….“ส่งเสริมเรามากที่สุด”
.....………“กล้าเตือนมากที่สุด”
.............และไม่เคยเปลี่ยนใจจากคุณ......

ที่มา : จากหนังสือพิมพ์ "ฅนเมืองเหนือ"(หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของจังหวัดลำปาง




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2552 11:34:49 น.
Counter : 260 Pageviews.  

มหัสจรรย์แห่งชีวิต หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี

บางส่วนจาก หนังสือ “มหัศจรรย์แห่งชีวิต ๗ หลักคิดจาก ว.วชิรเมธี”


๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ

๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงครามระหว่างคนไทยด้วยกันเอง

๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี
ปลาที่ยังเป็นอยู่ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข

๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน

๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา
โบราณ ว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง

๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี
(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ ไม่รักฉันอย่าทำให้ฉันเสียเวลา

๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้

๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี
(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ

๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยาจะรับมืออย่างไร
โบราณ ว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยายังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา

๑๐. ทำงานแทบตายเงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี
(๑) หางานใหม่
(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด จ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่

๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย
คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างในกำลังพัง คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่าแสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย

๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม
ถ้า ไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป แทนที่จะไถ่โคกระบือคุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า

๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน ถึงเธอจะติดหนังเกาหลีก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน

๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียนผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน ลูกค้าจู้จี้ได้แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ

๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร
(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร
(๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง

๑๖. สวดมนต์บทไหนดี
(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง

๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี
(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส
เนื่องเพราะหนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด

๑๘. โดนขับรถปาดหน้าโมโหมาก
(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใครเพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน

๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน

๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ
ผู้ รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆยังมีศิลป์ ดังนั้นในสิ่งที่คุณไม่ชอบย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบอย่างแน่นอน มองอย่างพินิจจะพบว่า ในดีมีเสีย ในเสียมีดี




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2552 11:15:32 น.
Counter : 227 Pageviews.  

ระยะห่างระหว่างกัน

๐ ระยะห่าง ระหว่างกัน ๐

ระยะห่าง ช่องว่าง ระหว่างกัน

ผ่านคืนวัน หมุนเวียน เปลี่ยนเสมอ

จากแปลกหน้า มาพบ ประสบเจอ

บ้างละเมอ เพ้อเห็น เป็นรักไป



ระยะห่าง ที่ว่าง ต่างความคิด

หาถูกผิด คิดครวญ ทวนกันได้

จากคนใกล้ อาจเปลี่ยน เป็นคนไกล

หรือห่วงใย คลายกลับ ปรับเฉยชา



ระยะห่าง เว้นว่าง ทางสักหน่อย

ดีไม่น้อย คอยสดับ ปรับทีท่า

เหลือที่ว่าง ตรงกลาง บางเวลา

เพื่อพบว่า ควรใกล้ หรือไกลกัน..




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2552 11:12:40 น.
Counter : 244 Pageviews.  

***มิตรภาพไร้พรมแดน***

***มิตรภาพไร้พรมแดน***

วันเวลาที่ผ่านมา ชั่วระยะเวลาหนึ่งของชีวิต
ผู้คนมากมายผ่านเข้ามา
บางคนผ่านมาเพียงเพื่อจะผ่านไป

..................

แต่บางคนกลับไม่เป็นเช่นนั้น...

จากคนแปลกหน้า กลายเป็นคนรู้จัก คนคุ้นเคย ล่วงเลย ไปถึงกลายเป็นคนรักกัน

เวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน
สถานภาพทางความรู้สึกของเราก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

..................

บางคนยังคงความเป็นคนแปลกหน้า
ยังรักษาระยะห่างของการเป็นคนรู้จัก คนคุ้นเคย หรือ
คนรักกันไว้ได้อย่างคงที่...

..................

บางคน เปลี่ยนแปลงจากคนแปลกหน้า
กลายเป็นคนคุ้นเคย...

...................

จากคนเคยคุ้น กลายมาเป็น คนรักกัน ..
ทำลายระยะห่างของความรู้สึกให้สั้นลงอย่างรู้สึกได้ ...
และเมื่อนั้น เรื่องราวดี ๆ สวยงามทางความรู้สึกจึงเกิดขึ้น ..

....................

แต่ในทางกลับกัน..
ระยะห่างของบางคน อาจห่างไกลออกไปจนสุดหูสุดตา
จากคนเคยรัก คนเคยคุ้น กลายเป็นแค่คนเคยรู้จัก ..
กลายเป็นคนแปลกหน้าทางความรู้สึกไป ..

......................

แน่นอนว่า ระยะห่างของคนรู้จัก กับ คนรัก ย่อมไม่เท่ากันเป็นแน่ ..
แต่นั่นแหละ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ..
ฉันเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของเวลา
พอ ๆ กับเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก..

....................

ไม่มีมาตราวัดใด ๆ ที่จะใช้วัดระยะห่างของความรู้สึกได้
และระยะห่างในแต่ละสถานภาพทางความรู้สึกในแต่ละคนก็คงจะไม่เท่ากัน..

เราระบุชัดไม่ได้ว่า 1 เท่ากับ 1 ในความรู้สึกของอีกคน
1 ในความรู้สึกของคนหนึ่ง อาจจะเป็น 100 ในความรู้สึกของอีกคนก็เป็นได้ ..

และในเมื่อการคบหากันเป็นปฏิสัมพันธ์ของคนสองคน
เราจึงมองเห็นความไม่ลงตัว เห็นระยะห่างที่ไม่เท่ากันของคนสองคนได้เสมอ..

....................

กับคนบางคน เราอยากเป็นมากกว่าคนรู้จัก
เราก็จะพยายามที่จะทำให้ระยะห่างของเรามันสั้นลง

กับคนบางคน เราอยากเป็นน้อยกว่าที่เป็นอยู่
เราก็จะพยายามที่จะทำให้ระยะห่างของเรายาวไกลออกไป..

แต่กลับบางคนเรากลับอยากจะรักษา ระยะห่าง ตรงกลาง ไว้ให้คงที่
ไม่ให้ห่างหาย จางหนี หรือ เข้ามาใกล้จนเรารู้สึกอึดอัด..

.....................

เคยรู้สึกใช่ไหมว่า ..
ขณะที่เราเดินเข้าหา บางคนกลับกำลังเดินหนี
กับบางคนเรากำลังเดินหนี บางคนกลับเดินตาม...
กับบางคนเราก็ต้องการระยะห่างประมาณหนึ่ง ไม่ต้องใกล้มาก
แต่ไม่ต้องการห่างหายไปไหน..

.....................

ขณะที่บางคนวิ่งตาม
ล้มลุกคลุกคลานและเจ็บปวดกับระยะห่างของอีกคนที่ทิ้งไว้ตรงหน้า
และขณะเดียวกันกับที่อีกคนก็วิ่งหนี
โดยไม่คิดจะหันกลับมามองความเจ็บปวดของอีกคน
อะไรก็เกิดขึ้นได้ กับความรู้สึกคน..

เหนื่อยแสนเหนื่อย ล้าแสนล้า แต่สุดท้ายก็ยังพยายาม
พยายามที่จะยื้อยุดฉุดดึงอยู่เช่นนั้น

บางคนปล่อยความรู้สึกของอีกคนไว้ บนความห่าง ห่างจนลับตา ..
ไม่เคยหันกลับมามองหรือรับรู้ความเป็นไปของอีกคน ..
ไม่เคยรับรู้ว่า

ระยะห่างที่เขาทิ้งไว้อีกคนมันสร้างความเจ็บปวดได้ประมาณไหน
แต่ก็มีบางคนที่เหนื่อยล้ากับระยะห่างที่พยายามรักษาไว้เพียงแค่นั้น
ไม่ต้องห่างไป แต่ เข้าใกล้กว่านี้ไม่ได้ ..
ต้องการเพียงเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบ ....

.............................

การทำลายระยะห่างของคนสองคนอาจไม่ใช่เรื่องยาก
แต่ก็ไม่ได้ง่ายดายนักสำหรับอีกหลาย ๆ คน...

บางคนพยายามมาเกือบทั้งชีวิต..
ระยะห่างที่ว่าก็ยังคงห่างอยู่เช่นเดิม..

ขณะที่บางคนอยู่นิ่ง ๆ ไม่วิ่งหนี ไม่วิ่งตาม
ปล่อยทุกอย่าง! ให้เป็นหน้าที่ของเวลา

ไม่เรียกร้องให้เกิดความคาดหวัง
ไม่ปล่อยละเลยจนเหมือนชาเฉย...
ระยะห่างนั้นกลับขยับเข้ามาใกล้ราวปฏิหารย์..

.................................

เอาใจช่วยสำหรับคนที่กำลังพยายามเดินเข้าหา
ให้อีกคนหันกลับมามองบ้าง ระยะห่างจะได้สั้นลง พยายามต่อไป

เพราะวันหนึ่งคุณอาจรู้สึกว่าความพยายามของคุณมิได้ไร้ค่า
ร้องขอสำหรับคนที่กำลังเดินหนี ให้หันกลับมามองความรู้สึกของอีกคนบ้าง

เพราะบางทีคุณอาจจะสูญเสียอะไรดี ๆ ไปเพราะระยะห่างที่คุณทิ้งไว้ให้อีกคน
เห็นใจกับการรักษาระยะห่างให้คงที่สำหรับบางคน
เพราะบางทีมันก็ทรมานมากกว่า การพยายามเดินเข้าใกล้หรือห่างหนี..เสียอีก..

........................................

แล้วคุณ ๆ เล่า เคยนึกย้อนกลับมามอง ระยะห่าง
ของคุณกับผู้คนรอบตัวกันบ้างไหม..

เคยรู้สึกไหมว่า บางที ความห่างไกล กับ ระยะห่างของความรู้สึก
กลับเป็นตัวแปรผกผันกัน

เคยรู้สึกได้ถึงระยะห่างทั้งที่ตัวอยู่ใกล้ ๆ
หรือรู้สึกใกล้กันแล้วทางความรู้สึกทั้งที่ตัวอยู่แสนไกล กันบ้างไหม.???

เคยคิดกันบ้างไหมว่า ระหว่างคนพยายามเดินหนี คนที่พยายามเดินตาม
และคนที่พยายามยังไงระยะห่างกลับ! เท่าเดิม คนไหนเจ็บปวดไปกว่ากัน ...

อาจเป็นเพราะ .... โลกกว้างเกินไป
หรือไม่ .... หัวใจเราแคบเกิน




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2552    
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2552 11:13:15 น.
Counter : 228 Pageviews.  

1  2  
 
 

Mem125
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นแฟนคลับ pantip.com มาหลายปีแล้ว ส่วนมากมักจะอ่านข้อมูลมากว่า และในโอกาสนี้ขอลองใช้บริการ bloggang ดูบ้าง ขอฝากตัวเป็นสมาชิกใหม่ด้วยนะคะ ช่วงนี้ขอเวลาศึกษาก่อน แล้วจะพยายามมาอัพเดทบ่อยๆ (เท่าที่ทำได้) รบกวนแนะนำหรือติชมได้ค่ะ ยินดี
[Add Mem125's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com