......บันทึกการเดินทางของชีวิต แบบเรื่อยเปื่อยตามแรงอารมณ์......


แม่เจ้าเมฯ
Location :
Great Yarmouth United Kingdom

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





แม่ของลูก 3 เมฯ
เมธัส เมฑิรา เมษวีร์
...รวบรวมบันทึกรูปภาพและเรื่องราว
ของวันดีๆในช่วงชีวิตที่ประทับใจ...
ชีวิตครอบครัว...มิตรภาพ-เพื่อนฝูง...
อาหารการกิน...เรื่องราวท่องเที่ยว...
สิ่งแปลกใหม่ในสถานที่แปลกตา
และสิ่งจรรโลงใจทั้งหลายทั้งมวล...
...ไม่มาก-ไม่น้อย แต่ไม่พอดี???
...ไม่ขาด-แต่ไม่เกิน ไม่เต็ม-แต่ไม่ล้น...

Enjoy your life while you can.




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่เจ้าเมฯ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 

ข้าวผัดสะตอมันกุ้ง


เมื่อวานเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งเพิ่งกลับมาจากเมืองไทย
แวะมาเยี่ยมถึงบ้านพร้อมหอบหิ้วของฝากจากไทยมาให้เราด้วย
ทำให้รู้สึกเหมือนมีบุญยังไงก็ไม่รู้???
ก็เรากำลังนึกเสียดายที่ไม่ได้ซื้อสะตอมาจากลอนดอนเมื่อ
สัปดาห์ที่แล้วอยู่พอดีอ่ะ...พี่คนนี้ก็หอบสะตอสดๆแบบ
ยังแอบอยู่ในฝักอยู่เลยมาให้ถึงบ้าน...ขอบคุณนะคะพี่ฤดี...
เมื่อคืนเลยนั่งปอกซะมือเปื่อยไปเลย...แหะ แหะ...
พอเช้ามาเลยรี่เข้าครัวทำจานโปรดทันที...
"ข้าวผัดสะตอ-มันกุ้ง"




พอดีมีข้าวเย็นอยู่แล้วอะไรๆเลยดูง่ายขึ้นเยอะ...
ก็แค่หั่นสะตอแบ่งครึ่งตามยาวทุกเม็ด เพื่อให้สะดวก
เวลาเคี้ยว ถ้าหั่นเล็กไปกว่านี้จะไม่ได้รสชาติกรุบกรอบ
ตำพริกกับกระเทียมรอไว้ ล้างและปอกกุ้งสด
เตรียมน้ำมัน น้ำปลา น้ำตาล และมันกุ้ง...




เทน้ำมันลงผัดพริกกับกระเทียมพอหอม
ใส่กุ้งลงผัดพอเกือบสุก เติมสะตอลงไป
เติมเครื่องปรุงรสและมันกุ้ง...




ใส่ข้าวเย็นลงเป็นขั้นตอนสุดท้าย...
ผัดและคนจนทุกอย่างเข้ากันดีและข้าวไม่ติดตังเป็นก้อนๆ
ตอนนี้จะเห็นว่าข้าวผัดได้สีสวยหลากสีเชียวล่ะ...
มีสีขาวจากข้าวสวยเป็นพื้นหลัง
สีแดงๆจากพริกผัด
สีชมพูสดใสจากกุ้ง
สีส้มอมแดงจากมันกุ้ง
และสีเขียวที่ตัดกันจากสะตอ...
เหมือนภาพวาดของจิตรกรที่น่าอร่อย




นาทีนี้ไม่ขออะไรมาก...
ขอแค่น้ำปลาพริกถ้วยเดียว...
หรือไข่ดาวร้อนๆโป่ะหน้าข้าวผัดซะหน่อยน๊า...
สวรรค์ก็อยู่ไม่ไกลแล้วล่ะค่ะ...









 

Create Date : 31 สิงหาคม 2550    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 18:29:21 น.
Counter : 2431 Pageviews.  

พ่อครัวตัวกลม ตอน Toad-in-the-hole



บางวันก็เกิดอารมณ์ไม่อยากทำกับข้าวขึ้นมาซะงั้น...
เรามันคนง่ายๆ (และออกจะขี้เกียจอ่ะ...)
คุณพ่อบ้านเลยต้องลุกขึ้นมาทำอาหารกินเองบ้าง อย่างวันนี้...
เทคนิคการเลี้ยงสามีแบบบุฟเฟ่ท์(ให้หากินเอาเอง)นี้ไม่หวงห้ามนะคะ
ใครอยากนำไปใช้ก็ตามสบายเลยค่ะ...

...วันนี้พ่อครัวตัวกลมเลยจะมาเสนอวิธีทำอาหารจานโปรดอีกจาน
Toad-in-the-hole
อาหารจานนี้คนที่อยู่อังกฤษคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว
หาทานตามร้านอาหารไม่ค่อยได้ แต่เป็นอาหารที่เกือบทุกบ้าน
ทำกันเองได้ หรือซื้อแบบแช่แข็งจากซุปเปอร์มาเก็ตมาอุ่นเอาเอง
พ่อครัวตัวกลมบอกเราว่าเคยเรียนการทำอาหารจานนี้มาจาก
ที่โรงเรียน (คาดว่าคงจะคล้ายๆกับวิชาคหกรรมการทำอาหารแบบ
บ้านเรา) คงจะเป็นหลักสูตรให้เอาตัวรอดได้ในยามคับขันที่มีเมีย
แสนขี้เกียจอย่างเรานี่ก็ได้มั๊ง...

เอาล่ะมาดูส่วนผสมและวิธทำกันเลยดีกว่า...
-ไส้กรอก 2 อัน (เลือกรสชาติตามความนิยมของคุณ)
-น้ำมันหรือเนยเล็กน้อย
-แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
-ไข่ไก่ 1 ฟอง
-นมสด 1/2 ถ้วย
-พริกไทและเกลืออย่างละนิดหน่อย
-ผงเครื่องเทศแห้งเพื่อปรุงรส




***เพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจควรผสมแป้งไว้ล่วงหน้าก่อนลงมือเตรียมอย่างอื่นนะคะ...
โดยเทแป้งลงในถ้วยผสมตามด้วยพริกไท,
เกลือและผงเครื่องเทศแห้ง ตอกไข่ใส่ลงตรงกลาง
คนให้เข้ากันระหว่างนั้นค่อยๆเทนมเติมลงไปทีละน้อย
คนจนส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว วางทิ้งไว้ประมาณ 1/2 ชม.




เปิดไฟเตาอบรอให้ร้อนที่ไฟ 220 องศาเซลเซียส
ระหว่างนี้ก็นำไส้กรอกมาทอดในกะทะ จนสุกเกรียมดี
ทาถาดอบด้วยเนยหรือน้ำมันพอกันติดก้นถาด
แล้วนำเข้าเตาอบจนถาดร้อนจัด นำถาดออกมาเทส่วนผสม
แป้งที่เตรียมไว้ลงในถาด และวางไส้กรอกลงตรงกลาง
นำเข้าอบต่อประมาณ 1/2 ชม.- 40 นาที.......




เพื่อเพิ่มสีสรรและรสชาติให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากผัก
คุณสามารถเตรียมผักต้ม เช่น กล่ำ บล็อคโคลี่ แครอท ฯลฯ
แต่พอดีวันนั้นที่บ้านเราไม่มีผักอะไรเหลือเลย...
แย่มากเลยยัยแม่บ้านคนนี้...
พ่อครัวตัวกลมของเราเลยพลิกแพลงโดยใช้ถั่วพีส์มาต้ม
กินแทนผักค่ะ...ใส่ยอดใบสะระแหน่เพิ่มกลิ่นหอมลงไปด้วย




ทีนี้เราก็มาดูความคืบหน้าของตัวแป้งในถาดอบ...
พอได้ที่แล้วจะออกมาเหลืองกรอบ น่ากินแบบนี้แหละค่ะ...




แล้วก็กรองถั่วพีส์ที่ต้มสุกแล้วโรยบนหน้า
เทน้ำเกรวี่ตาม...อ้อ...น้ำเกรวี่วันนั้นเป็นแบบผงผสมกับ
น้ำแล้วต้มเอาน่ะค่ะ...ไม่ใช่เกรวี่แท้ๆ
เมนูนี้เน้นความสะดวกและรวดเร็วค่ะ...




วิธีการไม่ยุ่งยากมากมาย เป็นจานเด็ดมื้อค่ำ
ที่ใครๆก็ทำได้...




ว่างๆก็ลองทำให้คุณพ่อบ้านทานกันนะคะ...
ได้ผลลัพธ์ยังไงช่วยแวะมาบอกกันมั่งนะจ๊ะ...









 

Create Date : 31 สิงหาคม 2550    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 18:29:47 น.
Counter : 1152 Pageviews.  

ก๋วยเตี๋ยวบก-ก๋วยเตี๋ยวน้ำ




ก๋วยเตี๋ยวผัดขี้เมา

บ้านเรานี้ชอบกินก๋วยเตี๋ยวกันเป็นพิเศษ...
ทั้งก๋วยเตี๋ยวแห้ง-ก๋วยเตี๋ยวน้ำ จะต้องทำทุกสัปดาห์
ถ้าทำแบบแห้งคุณผู้ชายเธอก็จะกินได้แต่ "ผัดซีอิ๊ว"
ของชอบเขาล่ะ เราจะผัดกะทะใหญ่ๆไปเลย
ถ้าเหลือเขาก็จะใส่กล่องไปกินเป็นมื้อเที่ยงของวันรุ่งขึ้นได้อีก
แต่เราชอบแบบรสจัดกินแบบแม่ค้าค้อนเพราะเติมพริกเกินพิกัด
เชื่อว่าใครๆก็ทำผัดซีอิ๊วกันได้สบายบรื๋ออยู่แล้ว
วันนี้เลยมาแนะนำสูตรง่ายๆกับการทำก๋วยเตี๋ยวขี้เมากันนะจ๊ะ




ส่วนประกอบไม่ยุ่งยากมากมาย

-เส้นก๋วยเตี๋ยว (ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละบุคคล จะเส้นเล็ก,เส้นใหญ่,เส้นหมี่หรือบะหมี่ก็แล้วแต่)

-ถั่วฝักยาวหั่นท่อน,หอมใหญ่หั่น,ต้นหอมหั่นยาว,พริกไทอ่อน,ใบกระเพรา,ผักชีไว้โรยหน้าพองาม

-เนื้อสัตว์ (อันนี้ก็แล้วแต่ท่านอีกแหละค่ะ แต่เราชอบอาหารทะเลขอใส่กุ้งกับปลาหมึกและปูอัดก็พอ)

-พริกขี้หนู,พริกชี้ฟ้า,หอมแดง,กระเทียม (กะๆเอานะคะจะให้เผ็ดมาก-เผ็ดน้อยก็แล้วแต่)

-เครื่องปรุงรส น้ำตาลทราย,น้ำปลา,ซีอิ๊วดำ,น้ำมันหอย,รสดีหรือผงชูรสก็ว่ากันไป...




หั่นพริก-หั่นหอมจนแสบตากันดีแล้วก็เอาไปตำหรือปั่นให้ละเอียด
ผัดกับน้ำมันเล็กน้อย พอพริกเริ่มสุกก็โยนเนื้อสัตว์ตามลงไป
สักพักก็ตามด้วยถั่ว,พริกไทอ่อนและหอมใหญ่ อีกพักก็ใส่เส้นแล้วปรุงรส
เติมจนได้ที่แล้วก็ใส่ต้นหอมกับและใบกระเพรา...
คนให้ทั่วสักพักจนแน่ใจว่าทุกอย่างสุกดีแล้วปิดไฟ
ตักใส่จาน...โซ๊ยกันได้เลยค่ะ...




ก๋วยเตี๋ยวน้ำ

คุณผู้ชายที่บ้านชอบกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อมาก...
มากจนกลายเป็นอาหารจานหลักอีกจานของที่บ้านไปแล้ว
นอกจากข้าวเหนียว-เนื้อแดดเดียว,ไก่ย่าง
ก็ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนี่แหละที่เราจะต้องทำกินกันทุกสัปดาห์
ที่สำคัญมันไม่ยุ่งยากมากความเท่าไหร่
ก็เลยได้กินกันบ๊อยบ่อย...
ปกติเราจะเตรียมต้มน้ำก๋วยเตี๋ยวเองในตอนเช้า
พอกลับมาจากทำงานตอนเย็นก็ลวกเส้น ลวกผัก ลวกเนื้อ
กินกันได้เลย...มาเดี๋ยวนี้สะดวกมากขึ้นไปอีก
เพราะไปเจอหนทางแห่งสว่างเข้าแล้ว...

ตอนไปเที่ยวบ้านสาวเกตุที่ Zurich เธอแนะนำให้รู้จักกับ
ผงทำน้ำก๋วยเตี๋ยวของ ก๊อซโต้ เข้าอิฉันมันราชินีมาม่า
เลยหอบกลับบ้านมาครบทุกรสเลยค่ะ....




แต่เราก็ยังทำน้ำก๋วยเตี๋ยวเองอยู่ดี
แล้วมาเติมผงเพิ่มรสให้เข้มข้นมากขึ้นไปอีกนิด...

สูตรต้มน้ำก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่ง่ายๆมีดังนี้ค่ะ

-รากผักชี,รากต้นหอมและคึ่นช่ายหรือเซลารี่
-กระเทียมสด,กระเทียมดอง
-ดอกจันทร์,ข่าแก่,พริกไทดำ
-ผงลูกผักชี,ผงอบเชย
-ซีอิ๊วดำ,ซีอิ๊วขาว,น้ำตาลทราย
แค่นี้แหละค่ะ ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่ทุกอย่างลงไป
เคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณครึ่งชั่วโมงก็ได้น้ำก๋วยเตี๋ยวแล้ว



เราชอบกินตับสดกับลูกชิ้น ส่วนคุณผู้ชายชอบเนื้อสด
ก็หั่นหมักไว้ก่อนลวกผักและเส้น...
หมักด้วยน้ำตาลทราย,ซีอิ๊วขาวและน้ำมันหอย
อย่างละนิดอย่างละหน่อย แค่นี้ล่ะ
ที่สำคัญคุณผู้ชายติดใจในรสก๋วยเตี๋ยวเรือมาจากเมืองไทย
เลยต้องมีถั่วงอกสดและแค๊บหมูเป็นเครื่องเคียงด้วยเสมอ




โรยหน้าด้วยต้นหอม-ผักชีและพริกไทป่น..หอมฉุย
เราทำกระเทียมเจียว,พริกป่น,พริกน้ำส้มติดบ้านไว้
เพราะกินกันบ่อยอย่างที่บอก เลยขาดบ้านไม่ได้...
ได้ก๋วยเตี๋ยวมาแล้วก็ปรุงรสกันให้แซ่บสุดๆ ยั่มยั่ม...




ถ้าไม่มีเวลาทำน้ำก๋วยเตี๋ยวเราก็กินแบบแห้งได้อีก
จะครึ่งบก-ครึ่งน้ำก็อร่อยได้เหมือนๆกัน...












 

Create Date : 24 สิงหาคม 2550    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 18:30:08 น.
Counter : 1100 Pageviews.  

พ่อครัวตัวกลม ตอน Quiche Lorraine


Quiche Lorraine
"คีช" คือพายไส้เค็มเปิดหน้าที่มีสูตรต้นตำรับมาจากฝรั่งเศส....
สามารถจัดเป็นอาหารว่างระหว่างมื้อ อาหารปิคนิค อาหารปาร์ตี้...
หรือจัดเป็นมื้อเย็นที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนได้อีกด้วย
วันนี้เป็นการประลองฝีมือการทำคีชครั้งแรก
ของพ่อครัวตัวกลมเขาล่ะค่ะ

ส่วนประกอบก็ไม่ยุ่งยากมากมาย เพราะเราใช้แป้งพายสำเร็จรูป
ที่มีขายตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป แต่ถ้าใครอยากลองทำแป้งพายเอง
เดี๋ยวจะลงสูตรไว้ให้ท้ายบล๊อกนะคะ.......




-แป้งพายสำเร็จรูปหนึ่งอัน
-ไข่ไก่ 2 ฟอง
-เบค่อนหั่นลูกเต๋าเล็ก 1/2 ถ้วย
-Leek หรือหอมใหญ่สับละเอียด1/2 ถ้วย
-เห็ดหั่นละเอียด 1/2 ถ้วย
-ชีสหั่นหยาบหรือจะใช้ชีสขูดก็ได้ค่ะ
-นมสด 1/4 ไพน์
-น้ำมันหรือเนยเล็กน้อย
-พริกไทและเกลือเพื่อปรุงรส




เมื่อเตรียมเครื่องปรุงทั้งหมดเรียบร้อยแล้วก็เริ่มขั้นตอนแรกเลยค่ะ...
ผัดหอมใหญ่หรือลีคด้วยน้ำมันหรือเนยเล็กน้อย จนพอนิ่มแล้วเติมเบค่อน
กับเห็ดผัดให้เข้ากันดี...ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไท...




ปิดไฟ รอให้หายร้อนแล้วเทไส้ที่ผัดลงในพาย....



ตีไข่กับนมให้เข้ากันเป็นเนื้อสีครีมสวย



โรยชีสขูดลงบนหน้าพายแล้วเทนมที่ผสมกับไข่ลงจนเต็มพายพอดี



นำเข้าอบด้วยไฟ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-35 นาที...
จะออกมาหอมกรุ่นหน้าตาแบบนี้ล่ะค่ะ...




ดูหน้าตาพ่อครัวก็รู้...ว่าปลาบปลื้มในสีมือตัวเองขนาดไหน????
นั่งพุงกลม นมห้อย หน้าบาน
ชื่นชมตัวเองอยู่ได้นานสองนาน.. เออแน่ะ...




ทีนี้ก็มาถึงวิธีการเตรียมแป้งพัฟฟ์เพสตี้กัน...
ร่อนแป้งสาลีเอนกประสงค์ 2 ถ้วยลงในชามผสม เติมน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ...
เนย 100 กรัม นวดเบามือพอให้เข้ากัน ระหว่างนวดพรมน้ำเย็นลงไปทีละน้อย
ให้แป้งเกาะกันจนเนียนมือดีแล้ว ห่อด้วยแผ่นฟอยล์เก็บในช่องฟรีซสักครึ่งชั่วโมง

แล้วนำแป้งออกมาวางให้อ่อนตัวลงสักพัก คลึงแผ่ออกเป็นแผ่นบางกลม
วางลงในพิมพ์แก้วหรือถาดโลหะ ใช้ส้อมจิ้มๆให้ทั่ว ทาด้วยไข่ขาวดิบ
นำเข้าอบด้วยไฟ 180 องศา ประมาณ 20 นาที...แค่นี้แหละค่ะ...




มื้อเย็นวันนี้เราเลยมี โฮมเมดคีช มากินคู่กับสลัดและมันทอดกัน...




 

Create Date : 25 มิถุนายน 2550    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 18:30:29 น.
Counter : 1504 Pageviews.  

แกงป่าปลากระเบน




ไปได้เนื้อปลากระเบนมาจากร้านค้าในการ์เด้นเซ็นเตอร์มาชิ้นนึง...
ที่นี่เขาเรียกว่า
Skate Wing ค่ะ เพราะมันเป็นส่วนปีกของปลากระเบน
นึกอยู่หลายวันว่าจะทำอะไรกะมันดีหนอ??? พอดีมีเพื่อนพูดถึงแกงป่าขึ้นมา
เอาล่ะ...ลองเอาเจ้าปลานี่มาแกงป่าดูซิ จะเป็นไงก็ยังไม่รู้...เตรียมเครื่องไว้ก่อน...




เราใช้น้ำพริกแกงป่าสำเร็จรูปของนิตยาก็เลยไม่ต้องวุ่นเรื่องเครื่องแกง....
ก็มีถั่วฝักยาวหั่นสั้นๆ กระชายหั่นฝอย พริกไทอ่อน ใบมะกรูด ใบกระเพรา
ที่จริงถ้าจะใส่มะเขือเปราะหรือมะเขือพวงด้วยก็จะยิ่งอร่อย แต่วันนี้ไม่มีเลย
ต้องเพิ่มถั่วฝักยาวเยอะหน่อย เติมด้วยพริกสดเป็นลูกโดดเพิ่มรสเผ็ด........
ปีกปลากระเบนจะมีกระดูกอ่อนอยู่เป็นแผงๆ เวลาหั่นจึงควรใช้มีดใหญ่หน่อย




เสร็จแล้วค่ะ หอมกลิ่นสมุนไพรชื่นใจนัก ทั้งเผ็ดทั้งร้อนสะใจ.....
อ้อ...ไม่ควรเคี่ยวน้ำแกงนานนักเพราะจะทำให้เนื้อปลาเปื่อยยุ่ยละลาย
ไปกับน้ำแกงจนหากันไม่เจอ....งานนี้มีไข่เจียวซักจานมาแก้เลี่ยนกับข้าวร้อนๆ
...อร่อยลืมอิ่มไปเลยค่ะ




ปลากระเบนกินได้ค่ะ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด...ตอนอยู่เมืองไทยเคยเห็น
ปลากระเบนย่างสีแดงๆเหมือนกันค่ะ แต่ไม่เคยลองซักที คนอังกฤษเขา
เอามาชุบแป้งทอดกันค่ะ มีขายทั่วไปตามร้าน Fish & Chips...





 

Create Date : 09 มิถุนายน 2550    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 18:30:52 น.
Counter : 2899 Pageviews.  

1  2  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.