Group Blog
 
All Blogs
 
เกม กับ วัยเด็ก

เมื่อวานนี้ เห็นข่าวเล็กๆข่าวหนึ่ง เกี่ยวกับเด็กติดเกม แล้วหายไปจากบ้าน

ปัญหาติดเกม อาจจะไม่ร้ายแรงเท่ากับปัญหายาเสพติด แต่มันก็น่าจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของเด็กคนนั้นมากทีเดียว

เมื่อเห็นข่าวประเภทนี้แล้ว ทำให้คิดถึงตัวเองในสมัยเด็กๆขึ้นมาทันที...

ผมเป็นคนหนึ่งที่เล่นเกมมาตั้งแต่สมัยเด็ก จนถึงปัจจุบัน มีทั้งช่วงบ้ามาก บ้าน้อย และช่วงที่ไม่บ้าเลย

เกมประเภทแรกๆที่เริ่มเล่นสมัยเด็กๆก็คือเกมกด (เรียกง่ายๆอย่างนี้แหละ) แล้วพัฒนาเรื่อยมา สำหรับเกมประเภทมือถือนั้น ไม่เคยได้ครอบครองเกมบอยเลย ทั้งๆที่อยากได้ใจจะขาด ปัจจุบันนี้ก็ไม่มีโอกาสเหมือนเดิม

เครื่องแรกที่ผมได้สัมผัสในฐานะเจ้าของ ก็คือเครื่อง แฟมิคอม (แต่ตอนเด็กเรียก แฟมิลี่) เครื่องสีม่วง ที่จริงอยากได้เครื่องสีแดงมากกว่า แต่พ่อผมคงคิดว่าสีม่วงสวยกว่า หรือยังไงก็ไม่อาจทราบได้

ตลับเกมในสมัยนั้น เมื่อเทียบกับแผ่นซีดีหรือดีวีดีเกมสมัยนี้ ค่อนข้างจะแพงทีเดียว การจะซื้อเกมแต่ละเกมนั้น จึงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆเหมือนสมัยนี้

เกมส่วนใหญ่ที่พ่อผมมักจะซื้อให้ ก็เป็นตลับเกมรวม เพราะมันคุ้มดี ตลับเดียวมีให้เล่นตั้งหลายเกม ตลับเกมที่มีเกมเดียวมีน้อยมากๆ ที่จำได้ก็มี สตรีท ไฟท์เตอร์ ฉบับแฟมิคอม (ซึ่งไม่สนุกเลย และช่วงนั้นเกมนี้เครื่องของเครื่องซุปเปอร์ แฟมิคอมกำลังฮิต)

ต่อมาเมื่อเครื่องนี้เจ๊งไป พ่อก็ซื้อเครื่องใหม่ให้ แต่ไม่ใช่เครื่องซุปเปอร์ แฟมิคอมแต่อย่างใด เป็นเครื่องแฟมิลี่สีดำ(คล้ายๆเมกาไดรว์)

ช่วงนั้นเครื่องซุปเปอร์ แฟมิคอมกำลังฮิตในหมู่ร้านเกม(ซึ่งเริ่มผุดขึ้นมาเยอะแล้วเหมือนกัน) ผมก็เริ่มๆจะเบื่อเครื่องแฟมิลี่แล้ว เพราะเล่นแต่เกมซ้ำๆซากๆ ก็เลยแสวงหาที่จะเล่นเครื่องซุปเปอร์ แฟมิคอม

เมื่อไม่มีโอกาสเป็นเจ้าของเครื่องซุปเปอร์ แฟมิคอม ทางเดียวที่เล่นได้ก็คือ ไปเล่นที่ร้านนั่นเอง ช่วงนั้นผมเรียนอยู่ประมาณ ม.1 ถึง ม.2 ตอนม.1 นั้น ผลการเรียนของผมค่อนข้างใช้ได้ทีเดียว ได้เกรดเฉลี่ย 3.6 ในเทอมแรก และ 3.2 ในเทอม 2

พอขึ้นม.2 ผมเริ่มติดเกมมากขึ้น เลิกเรียนก็ไปร้านเกมทันที เสาร์-อาทิตย์ ก็ไป จนสนิทกับเจ้าของร้านเลยทีเดียว ถึงแม้จะติดเกมขนาดนี้ แต่ผมก็ไม่เคยโดดเรียนออกมาเล่น

แต่ถึงไม่เคยโดดเรียนออกมาเล่น ก็ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียน ผลการเรียนตอนม.2 ไม่รู้ทำอีท่าไหน หล่นมาถึง 1.3 !!! ตกหลายวิชา แม้กระทั่งวิชาพละหรือเกษตร

แต่พอขึ้นม.3 ผมก็เริ่มเล่นเกมน้อยลง และไม่ไปร้านเกมอีกทีเลย ไม่รู้เป็นเพราะอะไรถึงเลิกได้ อาจเป็นเพราะเครื่องซุปเปอร์ แฟมิคอมเริ่มจะดับแล้ว และเครื่องที่เข้ามาแทนก็คือเพลย์สเตชั่น 1 ซึ่งค่าเล่นตอนนั้นยังค่อนข้างแพงอยู่

ช่วงม.3 ถึง ม.4 ผมไม่ได้เล่นเกมอีกเลย ไม่ว่าจะเครื่องไหน จนกระทั่งราคาของเครื่องเพลย์ 1 เริ่มลดลง ผมจึงมีโอกาสเป็นเจ้าของเครื่องเกมอีกครั้ง

เครื่องเพลย์ 1 เป็นอะไรที่สวรรค์มากสำหรับผม มีเกมสนุกสนานมากมาย ราคาแผ่นก็อปก็ถูกมากๆ ซื้อมาเป็นร้อยๆเกม

แต่ถึงจะบ้าเกมในตอนนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผลการเรียนตกต่ำลงเหมือนม.2 แต่อย่างใด แต่กลับทำให้ดีขึ้นด้วยซ้ำ

ถามว่าเป็นไปได้อย่างไร ผมตอบได้เลยว่า มันต่างกับตอนที่ต้องไปเล่นที่ร้าน การที่เด็กต้องไปเล่นที่ร้าน มีผลกระทบหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะต้องเสียเงิน ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปหมกอยู่ร้านเกม เหมือนเป็นเด็กมีปัญหา ย่อมส่งผลกระทบต่อการเรียนอยู่แล้ว

สำหรับผม เมื่อได้นั่งเล่นเกมอยู่บ้าน มันทำให้สามารถแบ่งเวลาได้ ว่าจะเล่นตอนไหน ถึงจะหมุกมุ่นมากๆ แต่ยังไงก็ยังเล่นอยู่ที่บ้าน

ปัญหาเด็กไปเล่นเกมตามร้าน อาจจะแก้ไขได้โดยการซื้อเครื่องมาให้เด็กเล่นที่บ้าน แต่มันก็มีปัญหาอีก 2 ประการ คือ

1. พ่อแม่ทุกคน อาจจะไม่ได้มีงบประมาณสำหรับตรงนี้ เพราะฐานะทางครอบครัวไม่เอื้ออำนวย
2. เด็กบางคน ถึงจะมีเครื่องอยู่ที่บ้าน แต่ก็ไม่รู้จักแบ่งเวลาเล่น หมกมุ่นมากๆก็จะเลวร้ายไม่ต่างกับไปเล่นที่ร้าน

กลับมาที่สถานการณ์ของผมต่อ ช่วงที่เพลย์ 1 กำลังฮิตอยู่นั้นเอง เกมอีกประเภทหนึ่ง ที่ก้าวเข้ามาก็คือ PC ผมจำได้ว่า ผมซื้อแผ่นเกม PC ก่อนที่ ที่บ้านจะซื้อคอมเครื่องแรกมาเสียอีก เกมนั้นก็คือ Star Wars : Rogue Squadron เกมนี้จึงเป็นเกมแรกที่ผมเล่นบน PC

ต่อมาเมื่อเพลย์ 1 เริ่มมีเกมออกน้อยลง ผมก็เริ่มเล่นเกมน้อยลงเช่นกัน แต่ก็เล่นบ้างใน PC ข้อจำกัดผมในการเล่นเกม PC คือ มักจะตามสเปคเกมไม่ทัน มักจะได้เล่นแบบอืดๆเสมอ จนกว่าจะได้อัพเกรดเครื่องใหม่ ปัจจุบันนี้ก็เช่นกัน เล่นเกมใหม่ๆไม่ค่อยได้แล้ว

และเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว(2547) ผมก็ได้เป็นเจ้าของเพลย์ 2 จนได้ แต่การเล่นเพลย์ 2 นี้ ผมไม่เห่อเกมอีกต่อไป ซื้อเกมน้อยมากๆ ตอนนี้ก็มีแค่ไม่ถึง 20 เกมเท่านั้นเอง และมักจะเล่นแต่เกมเดียว คือวินนิ่ง ที่เล่นยังไงก็ไม่เบื่อ

ผมไม่ได้จริงจังกับการเล่นเกมอีกต่อไป ไม่รู้สึกกระสันที่จะอยากเล่นเหมือนแต่ก่อน......สงสัยจะแก่แล้วนะเนี่ย

มันทำให้ย้อนกลับไปดูถึงปัญหาเด็กติดเกมในปัจจุบันนี้ วัยเด็กนั้นจะมีช่วงๆหนึ่ง ที่เด็กจะเห่อเกม ไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะแยกแยะการเล่น กับการเรียน ผมเชื่อว่า ถ้าเด็กผ่านจุดนั้นมาได้ เมื่อโตขึ้น ลักษณะแบบนั้นก็จะหายไปเอง

อยู่ที่ตัวเด็กและสภาพแวดล้อม ว่าจะสามารถผ่านตรงนั้นมาได้อย่างราบรื่นหรือเปล่า


Create Date : 19 ตุลาคม 2548
Last Update : 19 ตุลาคม 2548 21:30:56 น. 10 comments
Counter : 184 Pageviews.

 
เออ เคยติดเกมเหมือนกัน Ragnarok นี่แหละ
ตอนม.4 ไปร้านเกมบ่อยมากๆ แทบทุกวัน
ผลสอบกลางภาคออกมาแทบสลบ
มี7วิชา ตก5วิชารวด แว๊กกกกกกกก

ตั้งแต่นั้นเลยเลิกไปเลย ผลการเรียนค่อยดีขึ้นหน่อย เฮ่อ..


โดย: ซินเด๋อฯ IP: 203.158.4.155 วันที่: 20 ตุลาคม 2548 เวลา:13:14:22 น.  

 
ใพ


โดย: 26 ตุลาคม 2548 IP: วันที่: 10:23:38 เวลา:161.200.255.163 น.  

 


โดย: น้อยหน่า IP: 202.176.91.19 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:48:28 น.  

 
วัสดี


โดย: ดอกไม้ IP: 202.5.87.159 วันที่: 1 เมษายน 2549 เวลา:12:06:32 น.  

 


โดย: ดา IP: 124.120.94.111 วันที่: 2 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:05:25 น.  

 


โดย: ม้ายมี IP: 124.120.202.201 วันที่: 2 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:31:20 น.  

 


โดย: นน01 IP: 125.24.153.20 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:52:50 น.  

 
เราชอบเล่นเกมส์กับเน็ตจากคนรักเกมส์


โดย: ไม่มีชื่อ IP: 203.172.151.10 วันที่: 18 ธันวาคม 2549 เวลา:15:09:25 น.  

 
5415151


โดย: tin IP: 124.121.189.76 วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:16:55:44 น.  

 
goy[upty


โดย: pop IP: 58.64.57.229 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:37:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ต้นขา
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ต้นขา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.