Group Blog
 
All Blogs
 

มาฆบูชา

หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติ
หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติได้แก่ โอวาทปาติโมกข์ หมายถึง หลักคำสอนคำสำคัญของพระพุทธศาสนา อันเป็นไปเพื่อป้องกัน และแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตเป็นไปเพื่อความหลุดพ้น หรือคำสอน อันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา หลักธรรมประกอบด้วย หลักการ ๓ อุดมการณ์ ๔ วิธีการ ๖ ดังนี้
หลักการ ๓
๑. การไม่ทำบาปทั้งปวง ได้แก่การงดเว้น การลด ละเลิก ทำบาปทั้งปวง ซึ่งได้แก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ทางแห่งความชั่ว มีสิบประการ อันเป็น
ความชั่วทางกาย ทางวาจา และทางใจ ความชั่วทางกาย ได้แก่ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติ ผิดในกาม
ความชั่วทางวาจา ได้แก่ การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ
ความชั่วทางใจ ได้แก่ การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม
๒. การทำกุศลให้ถึงพร้อม ได้แก่ การทำความดีทุกอย่างซึ่งได้แก่ กุศลกรรมบถ ๑๐ เป็นแบบของการทำฝ่ายดีมี ๑๐ อย่าง อันเป็นความดีทางกาย ทางวาจาและทางใจ
ความดีทางกาย ได้แก่ การไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่นมีแต่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การไม่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการไม่ประพฤติผิดในกาม
การทำความดีทางวาจา ได้แก่ การไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ และไม่พูดเพ้อเจ้อพูดแต่คำจริง พูดคำอ่อนหวานพูดคำให้เกิดความสามัคคีและพูดถูกกาลเทศะ
การทำความดีทางใจ ได้แก่ การไม่โลภอยากได้ของของผู้อื่นมีแต่คิดเสียสละ การไม่ผูกอาฆาตพยาบาทมีแต่คิดเมตตาและ ปราถนาดีและมีความเห็นความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ตามทำนองคลองธรรม เช่น เห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
๓. การทำจิตให้ผ่องใส ได้แก่ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ปราศจากนวรณ์ซึ่งเป็นเครื่องขัดขวางจิตไม่ให้เข้าถึงความสงบ มี ๕ ประการ ได้แก่
๑. ความพอใจในกาม (กามฉันทะ)
๒. ความอาฆาตพยาบาท (พยาบาท)
๓. ความหดหู่ท้อแท้ ง่วงเหงาหาวนอน (ถีนะมิทธะ)
๔. ความฟุ้งซ่าน รำคาญ (อุทธัจจะกุกกุจจะ) และ
๕. ความลังเลสงสัย (วิกิจฉา) เช่น สงสัยในการทำความดีความชั่ว ว่ามีผลจริงหรือไม่ วิธีการทำจิตให้ปฏิบัติสมถะผ่องใส ที่แท้จริงเกิดขึ้นจากการละบาปทั้งปวง ด้วยการถือศืลและบำเพ็ญกุศล ให้ถึงพร้อมด้วยการ และวิปัสสนา จนได้บรรลุอรหัตผล อันเป็นความผ่องใสที่แท้จริง
อุดมการณ์ ๔
๑. ความอดทน ได้แก่ ความอดกลั้น ไม่ทำบาปทั้งทางกาย วาจา ใจ
๒. ความไม่เบียดเบียน ได้แก่ การงดเว้นจากการทำร้าย รบกวน หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
๓. ความสงบ ได้แก่ ปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ
๔. นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นได้จาการดำเนินชีวิตตามมรรคมีองค์ ๘
วิธีการ ๖
๑. ไม่ว่าร้าย ได้แก่ ไม่กล่าวให้ร้ายหรือ กล่าวโจมตีใคร
๒. ไม่ทำร้าย ได้แก่ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
๓. สำรวมในปาติโมกข์ ได้แก่ ความเคารพระเบียบวินัย กฎกติกา กฎหมาย รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีของสังคม
๔. รู้จักประมาณ ได้แก่ รู้จักความพอดีในการบริโภคอาหารหรือการใช้สอยสิ่งต่าง ๆ
๕. อยู่ในสถานที่ที่สงัด ได้แก่ อยู่ในสถานที่สงบมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
๖. ฝึกหัดจิตใจให้สงบ ได้แก่ฝึกหัดชำระจิตให้สงบมีสุขภาพคุณภาพและประสิทธิ
ภาพที่ดี

--------------------------------------------------------
ที่มา fwd mail




 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2554 10:34:51 น.
Counter : 885 Pageviews.  

คำแผ่เมตตา

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ



วันทามิ ภันเต เจติยัง สัพพัง สัพพัตถะฐาเน สุปะติฏฐิตัง สารีรังคะธาตุ
มะหาโพธิง พุทธะรูปัง สักการัตถัง อะระหังวันทามิ สัพพะทา



สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

พุทโธ อะโหสิ ธัมโม อะโหสิ สังโฆ อะโหสิ สาธุ สาธุ สาธุ

************************************

อะหัง สุขิโต โหมิ, นิททุกโข โหมิ, อะเวโร โหมิ, อัพพะยาปัชโฌ โหมิ,
อะนีโฆ โหมิ, สุขี อัตตานัง ปริหะรามิ นิพพาน ปัจจโย โหตุ

ขอให้ดวงจิตของข้าพเจ้าทุกดวง จงมีแต่ความสุข ความเจริญทั้งทางโลก ทางธรรม

ขอให้ดวงจิตของข้าพเจ้าทุกดวง จงปราศจากความทุกข์ยาก ลำบากกาย ลำบากใจ
และอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง จงปราศเคราะห์กรรมเหล่าเวร และเป็นผู้ไม่เบียดเบียนพยาบาท
ไม่อาฆาตจองเวรข่มเหงคะเนงร้าย ต่อผู้อื่นผู้ใดอีกต่อไป

ขอให้ดวงจิตของข้าพเจ้าทุกดวง จงได้มีดวงตาเห็นธรรม ได้รับรู้หนทางหลุดพ้น
จากความทุกข์ทั้งปวง ให้เจริญไปด้วยสติปัญญาญาณบารมีและให้ได้บรรลุถึงซึ่งโลกกุตตรธรรมเก้า

ตราบถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เทอญ



สัพเพ สัตตา สะทาโหตุ อะเวรา อัพญาปัชฌา สุขะ ชีวิโณ
ขอให้สัพพสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย ที่สละชีวิต ไม่ว่าด้วยถูกขืนใจ เข่นฆ่าหรือไม่ก็ดี
ที่ข้าพเจ้าได้นำมาปรุงเป็นอาหารเพื่อการดำรงชีวิตของข้าพเจ้า
ขอให้ท่านทั้งหลายทั้งปวงหลุดพ้นจากความทุกข์

อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย

ขอให้ท่านทั้งหลายจงดำรงค์ชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเถิด
กะตัง ปุญญัง พะลังมัยหัง สัพเพภาคี ภะวันตุเต
ขอให้สัพพสัตว์ทั้งหลาย พึงมีส่วนได้เสวยผลบุญที่ข้าพเจ้า
ได้ตั้งใจกระทำด้วยกาย วาจา ใจ แล้วนั้น จงทุกท่านทุกดวงจิตเทอญ



สัพเพ พุทธา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ ยัง พะลัง

อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส

พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ล้วนทรงพระกำลังทั้งสิ้น พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลายก็มีกำลังเช่นเดียวกัน
ขอท่านทั้งหลายจงผูกอำนาจแห่งกำลังเหล่านั้น ไว้เป็นเครื่องคุ้มครอง รักษาตัวท่าน ฯ

เต อัตถะลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธะสาสะเน

อะโรคา สุขิตา โหถะ สะหะ สัพเพหิ ญาติภิ
ขอพวกท่านทั้งหลายพร้อมทั้งหมู่ญาติ ผู้ได้ประโยชน์มีสุขเจริญงอกงามในพระศาสนา
จงปราศจากโรคาพยาธิ มีความสุขทุกคนเทอญ...

สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ

สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ทั้งปวง ขอความสวัสดี จงมีแก่ท่านทุกเมื่อเทอญ




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2554 16:45:20 น.
Counter : 627 Pageviews.  

หลวงตาพระมหาบัว 5

๑๕

“...จิตเป็นธรรมชาติไม่มีกาลสถานที่เป็นเวล่ำเวลา

เป็นธรรมชาติที่รู้อยู่ตลอดเวลาฉันใด สภาพทั้งหลายซึ่งจะเป็นของมีอยู่ตลอดเวลา

เมื่อเปิดใจออกรับกันแล้ว ทำไมจะรู้จะเห็นไม่ได้ ว่าใจจะหยั่งไม่ถึง มีที่ไหน

อะไรจะละเอียดแหลมคมยิ่งกว่าใจ

ขอให้ปรับใจให้ถึงเถิด ไม่เคยรู้ก็รู้ ไม่เคยเห็นก็เห็น

แต่จะพูดออกมาเสียทุกแง่ทุกมุมไม่คำนึงถึงเหตุถึงผลนั้น ไม่ใช่เรื่องของผู้รู้

ไม่ใช่เรื่องของปราชญ์ ไม่ใช่เรื่องของผู้รู้โดยอรรถโดยธรรม

ไม่ใช่ผู้ทรงธรรมโดยหลักธรรมชาติแท้ อันเป็นความสำคัญ...”



ความลึกลับซับซ้อนของจิตวิญญาณ (๑๒ เมษายน ๒๕๓๐)
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

คัดจากหนังสือ รุกขมูลเข้าป่า-เข้าเขา (๒๕๔๔) : หน้า ๒๗.




๑๖

“...ความสุขทุกข์ในทางโลกใครโกหกกันไม่ได้

เพราะใครก็มีเครื่องรับ(อายตนะ) เหมือนกัน และจะสุขทุกข์จะต้องผ่านอายตนะด้วยกัน

รู้ด้วยกัน เห็นสุขทุกข์ด้วยกัน ที่สุดของสุขทุกข์ ก็แค่ตายเท่านั้น

ไม่มีใครสามารถเลยไปได้ ถ้าผู้มีบุญอันได้สร้างไว้ดีแล้ว
ผู้นั้นแล จะมีโอกาสได้เห็นสุขแลทุกข์เยี่ยมกว่าโลกเขาเป็นชั้น ๆ ขึ้นไป

จนสามารถข้ามแดนแห่งทุกข์ ถึงบรมสุขคือ พระนิพพานได้แน่

ฉะนั้น ทาน ศีล ภาวนา จึงเป็นทางข้ามแดนแห่งทุกข์ได้โดยสวัสดี

ขอให้พากันอุตสาหะพยายามตามรอยพระพุทธเจ้าเสด็จไป
จะเห็นแดนแห่งความอัศจรรย์ในวันหนึ่งแน่ เอวํ...”



ธรรมะในลิขิต (ฉบับที่ ๓๙)
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

คัดจากหนังสือ ธรรมะในลิขิต (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์) : หน้า ๖๑-๖๒






ทั้งหมดนี้จาก fwd mail ขอขอบคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของผู้จัดทำ ท้่ายนี้ขออนุญาตคัดลอกส่วนท้ายเมล์มา ณ ที่นี้ด้วย

ขอโมทนา มหาโมทนาบุญทุกท่านในการศึกษาธรรม เพื่ออบรมปัญญานี้

กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม กรรมใดที่องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโนได้บำเพ็ญแล้ว ปฏิบัติแล้ว
ที่เป็นบุญเป็นกุศล ด้วยกาย วาจา จิต ลูกขอโมทนาซึ่งส่วนกุศลเหล่านั้น
ขอให้ลูกเป็นผู้ไม่ประมาท ปฏิบัติธรมข้อให้รู้แจ้งซึ่งธรรมทั้งปวง
ขอให้เป็นผู้สว่างไสวในบวรพระพุทธศาสนา ตลอดสิ้นกาลนาน
ตราบถึงที่สุดแห่งบรมสุข คือถึงซึ่งพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้เทอญ

อิทํ เม ธมฺมทานํ ปริสุทธิทานํ อาสวกฺขยาวหํ นิพฺพาน ปจฺจโย โหตุ

สาธุ สาธุ สาธุ มหาโมทามิ




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2554 16:44:22 น.
Counter : 1455 Pageviews.  

หลวงตาพระมหาบัว 4

๑๑

“...นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ ความรักอันเสมอด้วยตนไม่มี

นี่เป็นบทธรรมที่ซึ่งมาก

เข้ากันได้กับเจตนาของทุกท่านที่มุ่งมาปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์

เพราะความรักตนเป็นเหตุให้เสาะแสวงอรรถธรรมจากตำหรับตำรา

จากครูจากอาจารย์ ได้ทราบข่าวว่าครูอาจารย์องค์ใด

จะเป็นที่ให้ความร่มเย็นเป็นคติเครื่องเตือนใจ

เป็นอุบายพร่ำสอนเราได้ ย่อมเสาะแสวงหาครูอาจารย์องค์นั้น ๆ

เป็นธรรมดาของความรักตน...”



ความรักเสมอตนไม่มี(๑๐ กรกฏาคม ๒๕๒๓)
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

คัดจากหนังสือ ความรักเสมอตนไม่มี (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์) : หน้า ๒๖.





๑๒

“…จวนตายเท่าไรยิ่งเป็นห่วงโลกมากสงสารโลกมาก เป็นอยู่ในหัวใจนี่

ท่วมท้นล้นฟ้าล้นแผ่นดิน อำนาจแห่งเมตตา

พระพุทธเจ้าท่านสอนโลกสอนด้วยความเมตตาล้วน ๆ ไม่มีโลกามิสอะไรเข้าเจือปนเลย

มันรู้ชัดนี่ รู้ชัดในหัวใจของเราซึ่งตัวเท่าหนูนี่ มันรู้นี่ มันไม่ได้หวังอะไรในโลกนี้

ไปไหนมาไหนไม่ได้หวังอะไรแหละ หวังแต่หัวใจโลกเท่านั้น
สงเคราะห์สงหาไปตามกำลังความสามารถของเรา
ตัวของเราเองเราไม่ได้หวัง เราพอเสียทุกอย่างก็บอกพอ

มันพออยู่นี้ประจำจะว่าไง พอเป็นอนันตกาล

นิพพานเที่ยงจะผิดไปไหนเมื่อหัวใจพอแล้ว นิพพานเที่ยงเท่านั้นเอง...”



พูดเสียบ้าง ไม่ใช่คุย (๑๘ ตุลาคม ๒๕๔๐)ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

คัดจากหนังสือ พูดเสียบ้าง ไม่ใช่คุย (๒๕๔๑) : หน้า ๒๘.




๑๓

“...ถ้าพูดถึงเรื่องของใจเรา เราก็บริสุทธิ์เต็มที่แล้ว หากิเลสตัวใดมาแทรกไม่มีแล้วเวลานี้

ถึงจะประกาศเป็นว่าเรานี้คือพระอรหันต์ก็จะผิดไปไหนถ้าจะพูด
พระพุทธเจ้ายังพูดได้ ครั้งพุทธกาลยังพูดได้

ธรรมอันเดียวกัน ผู้รู้ผู้เห็นธรรม ธรรมแบบเดียวกัน ทำไมเราจะพูดไม่ได้

กิเลสตัวไหนจะมาเย็บปากหลวงตามหาบัวให้มาเย็บ เราจะฟาดให้มันหงายลงไปเลย

เราปฏิบัติ เราแทบเป็นแทบตาย เราก็รู้ของเรา ผลเราได้มากน้อยเพียงไรเรารู้ของเรา

ความบริสุทธิ์วิมุตติหลุดพ้นเราก็เห็นในหัวใจของเราแล้วจะนำออกมาพูดไม่ได้เหรอ

จะใหเกิเลสเย็บปากหมดเหรอ ไม่เชื่อถือกันหาว่าโอ้อวดหรือ...”



พระอรหันต์แห่งประวัติศาสตร์ (๓ กันยายน ๒๕๔๑)

ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

คัดจากหนังสือ พระอรหันต์ไม่สูญจากโลก (๒๕๔๑) : หน้า ๑๕๓.




๑๔

“...ฟังให้ชัดเสียท่านทั้งหลายมาฟังธรรมเรา เราปฏิบัติมา

ไม่ปฏิบัติมาเพื่อโกหกท่านทั้งหลาย

อะไรในโลกอันนี้จะเหนือธรรมกับใจเป็นอันเดียวกัน นี่ละ เลิศเลออยู่ตรงนี้

นินทา สรรเสริญ โลกธรรม ๘ ไม่มีในจิตของพระอรหันต์
มันตกไปเองเหมือนหยดน้ำลงใบบัว
ตกพับไหลกลิ้งไปเลย ๆ ไม่ขึมขาบกัน

นี่ละจิตที่บริสุทธิ์เต็มที่แล้วกับโลกทั้งหลาย...”



ธรรมธาตุ (๒๔ กันยายน ๒๕๕๐) : ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

คัดจากหนังสือ ธรรมเปิดโลก (๒๕๔๒) : หน้า ๑๑๘-๑๑๙




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2554 16:41:08 น.
Counter : 2167 Pageviews.  

หลวงตาพระมหาบัว 3



“...มัคคาวรณ์ สัคคาวรณ์ (สิ่งกีดขวางสวรรค์ นิพพาน) ไม่มี

เพศตั้งขึ้นแล้ว ทางสังคมยอมรับกันทั้งธรรมยุติ และมหานิกาย

นี่เป็นความยอมรับกันทั่วหน้ากันแล้วในสังคม

ส่วนธรรมวินัยก็เป็นที่เปิดทางให้แล้วสำหรับผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ไม่มีคำว่านิกายนั้นนิกายนี้

ขอให้เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบเท่านั้น

เป็นศากยบุตรของพระพุทธเจ้าได้เสมอหน้ากันหมด...”



ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

คัดจากหนังสือ หยดน้ำบนใบบัว พิมพ์ครั้งที่ ๑๕ : หน้า ๑๖๕.



“...เราเป็นนักบวช มีความมุ่งหวังอย่างแรงกล้า

มุ่งหน้าต่อมรรคผลนิพพาน

จงเห็นงานประจำเพศและความประสงค์ของตน

คืองานเพื่อนิพพาน ว่าเป็นงานจำเป็นเหนือชีวิต

เพราะงานนี้เป็นงานเพื่อไปแล้วไม่กลับมา ผลที่เกิดจากงานนี้คือ วิมุตติ

หลุดพ้นไปแล้วหมดความวกเวียน

โปรดพากันพากเพียรจนสุดกำลังของตน

จะต้องเห็นผลเป็นประจักษ์ใจ ในวันนี้วันหน้าไม่ต้องสงสัย...”



เทศน์ในที่ประชุมสงฆ์ วัดป่าบ้านตาด ๒๑ กันยายน ๒๕๐๕ :
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

คัดจากหนังสือ ทางร่มเย็น ๑๕๓๗ : หน้า ๑๒๑.






“...ความทุกข์เพราะงานทั้งหลายที่ผ่านมา ไม่มีทุกข์ใดมากยิ่งกว่างานฆ่ากิเลส

งานนี้ยอมรับว่าทุกข์มากจริง ๆ

แต่เวลาตีผ่านมันไปแล้ว ไม่มีอะไรที่จะเลิศยิ่งกว่า

พูดง่าย ๆ ก็ว่ามันคุ้มกัน ไม่ได้เสียดายกำลังเลย ที่ร่างกายทรุดโทรมมานี้ผมก็รู้

อย่างท้องเสียเป็นต้น ผมก็ทราบเรื่องของมัน

นิสัยผมมันหยาบและผาดโผนจริงจังกับทุกข์อย่าง ไม่มีคำว่าพอดี

ฉะนั้น เวลาประกอบความเพียรฆ่ากิเลสจึงผาดโผนไปตามนิสัย

ไม่งั้นก็ไม่ทันกับความหยาบที่เป็นฝ่ายต่ำของตน...”



ศาสนาคือน้ำดับไฟ (๒๓ กรกฏาคม ๒๕๒๔)
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

คัดจากหนังสือ ทางพักใจ ๒๕๒๔ : หน้า ๖๙.



๑๐

“...การฆ่ากิเลสทุกประเภท เราพูดได้อย่างเต็มปากว่า

ต้องใช้ปัญญาทั้งมวล สมาธิเป็นแต่เพียงว่าตะล่อมกิเลสให้เข้าสู่จุดรวมตัว

ไม่ฟุ้งซ่านรบกวนใจเท่านั้น

ที่เรียกว่าจิตสงบ ก็คือกิเลสมันนอนก้น

เหมือนกับตะกอนนอนก้นโอ่ง นอนกองอยู่ในนั้น

แล้วจะปฏิบัติต่อตะกอนอย่างไรบ้าง

นั่นเป็นอีกแง่หนึ่ง นั้นเป็นเรื่องของ ปัญญา...”



นิพพานมิใช่อัตตา มิใช่อนัตตา (๓๐ สิงหาคม ๒๕๒๓)
ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

คัดจากหนังสือ นิพพานคือนิพพาน (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์) : หน้า ๒๖.




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2554 16:36:55 น.
Counter : 773 Pageviews.  

1  2  3  

jenas79
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add jenas79's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.