หลังจาก  Mad Max: Fury Road นั้นใช้เวลายาววววนานแสนนานในกระบวนการผลิต และมีปัญหามากมาย แต่ผลตอบรับที่ได้มาก็คุ้มค่าเพราะหนังทำเงินไปได้ถึง 375.8 ล้านเหรียญ และได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

มิลเลอร์ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร EW ถึงไอเดียใหม่ของเขา ว่าเขาต้องการสร้างอีกโปรเจ็คที่แตกต่างก่อนจะนำกลับมารวมกับ  Mad Max ภาคหลัก

“ใช่ แน่นอนผมได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ผมยังไม่แน่ใจนักหรอกว่ามันจะเป็นหนังเรื่องต่อไปที่ผมจะทำเร็วๆนี้ ผมมีโปรเจ็คเล็กๆอีกงานหนึ่งที่ผมคิดจะทำก่อนจะกลับไปยังดินแดนรกร้างว่างเปล่า บางอย่างที่ร่วมสมัยที่เราจะทำสำเร็จได้เร็วกว่า และบางอย่างที่ไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษมากนัก บางอย่างที่เน้นเรื่องการปฎิบัติมากกว่า ผมอยากจะล้างกลิ่นไอเสียนะ”

มิลเลอร์ได้เผยบางส่วนของไอเดียเนื้อหาที่เกี่ยวกับตัวละครที่เป็นที่นิยมอย่าง Furiosa (แสดงโดย ชาร์ลิซ เธอรอน) เขากล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่จะเล่าเรื่องของเธอก่อนที่จะนำไปรวมกับเนื้อเรื่องหลักส่วนอื่นๆ

“เรื่องราวของเธอน่าตื่นเต้นมาก แต่เราทำได้เพียงกล่าวถึงเธอผ่านๆเพราะในหนังเรื่องนี้ (Fury Road) นั้นมีแต่การวิ่งๆๆ ผู้คนไม่มีเวลามาพักผ่อนหย่อนใจและนั่งคุยกัน แต่คุณก็จะสัมผัสได้อยู่ดีว่ามีบางอย่างในตัวเธอ”

อย่างไรก็ตาม Screenrant กล่าวว่ายังไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีภาค 2 อย่างแน่นอน ถึงแม้ตัว จอร์จ มิลเลอร์จะเอ่ยปากก็ตาม แต่ตัวเธอรอนเอง ยังบอกว่าเธอยังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับโปรเจ็คนี้อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด มิลเลอร์ยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงบทซึ่งอะไรๆก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้

Mad Max: Fury Road, ข่าวบันเทิงต่างประเทศ,จอร์จ มิลเลอร์, ชาร์ลิซ เธอรอน

“หากคุณอยู่ท่ามกลางลมพายุ และคุณยืนอยู่หน้าต้นไม้ และถ้าคุณจ้องมองที่กิ่งก้านของมัน คุณจะเห็นว่ามันจะร่วงหล่น แต่หากคุณมองที่ลำต้นของมัน คุณจะเห็นว่ามันมั่นคงแข็งแรง”

จากคำพูดที่ว่า ลมพายุไม่อาจเอาชนะต้นไม้ที่แข็งแรงได้ เปรียบเสมือนไม่มีสิ่งใดสามารถเอาชนะจิตใจที่แข็งแกร่งของคุณ ดังนั้น The Revenant  เป็นหนังที่สร้างได้สมชื่อเป็นอย่างยิ่ง Revenant ความหมายตรงตัวคือ ผู้กลับคืนมา นั่นแสดงถึงตัว Hugh Glass ผู้รอดพ้นจากความตายครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อแก้แค้นแทนผู้เป็นที่รัก

หนังเล่าถึงการสำรวจป่าอเมริกาของนายพรานป่า ฮิวจ์ กลาส (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) และเพื่อนร่วมทีมที่นำแสดงโดย ทอม ฮาร์ดี้, ดอมนัล กลีสัน,วิล โพลเตอร์ ท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างคนขาวกับชนเผ่าท้องถิ่ม กลาส ถูกจู่โจมโดยหมีร้าย ทำให้บาดเจ็บอย่างหนัก แต่แทนที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ (ทอม ฮาร์ดี้) จะให้ความช่วยเหลือ กลับพยายามทิ้งเขาไว้ให้ตาย  เขามีเพียงกำลังใจเป็นอาวุธในการต่อสู้ และวิธีในการเอาชีวิตรอดแบบต่างๆที่คุณจะต้องทึ่ง

เนื้อหาหนังแทบจะดูเหมือนไม่มีอะไรซับซ้อนเลย สรุปจบได้สั้นๆแค่ว่า พระเอกไปเข้าป่าถูกหมีทำร้าย เพื่อนทิ้งให้ตาย แต่ก็รอด แล้วแก้ค้น จบ! แถมต้องบอกว่ามีบางจุดที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้หลายครั้งกับการรอดตายของเพราะเอก แต่ตัวหนังกลับแสดงออกมาได้อย่างดีเยี่ยมจนกลบส่วนอื่นๆไปได้หมด ต้องยกความดีให้นักแสดงอย่าง ลีโอนาโด ที่ต้องยอมรับว่าการแสดงของเขาเรื่องนี้ลึกซึ้งกินใจ เรียกได้ว่าถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้จากทุกอณูในร่างกาย บางฉากที่ กลาส แค่ใช้สายตามองแต่กลับสื่ออารมณ์ให้คนดูเข้าใจได้มากกว่าบทพูดใดๆ จะสังเกตได้ว่าหนังเรื่องนี้ ลีโอเนาโด มีบทพูดน้อยมากๆ

ไม่เพียงเท่านั้น แม้ทั้งเรื่องเราอาจจะได้ยินแต่เสียงลมหายใจของตัวละคร แต่ทุกฉาก กลับแทรกซาวน์ที่พอเหมาะพอเจาะเป็นอย่างมาก การนำเสนอของ ผกก อเลฮังโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตู นั้นดูเหมือนหลายๆฉากจะสื่อว่า ไม่มีผู้ใดมีพลังอำนาจเหนือผู้ใด หลายฉากที่ผู้เหนือกว่ากลับต้องตายลงง่ายๆหากประมาท ตรงกันข้ามกับใจที่เข้มแข็งและแน่วแน่ ที่สามารถนำพาตนเองมาจากโลกแห่งความตายได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

คนที่กำลังลังเลว่าจะดู The Revenant เรื่องนี้ดีหรือไม่ บอกได้เลยว่าคุ้มค่า เอาเป็นว่าแค่ฉากเชือดเฉือนกันระหว่าง ลีโอนาโด กับ ทอม ฮาร์ดี้ (ซึ่งอีตานี่ก็กวนสุดๆ) และฉากที่พระเอกลุยกับหมียักษ์ ก็พีคสมจริง และคุ้มสุดๆกับการตีตั๋วไปดูแน่นอน

คะแนนรวม = 8.6/10

• บท = 6/10
• ภาพ + เสียง = 10/10
• การแสดง = 10/10

หนังจะเข้าฉาย 12 กุมภาพันธ์ 2016

โดยล่าสุดตัวนักแสดงอย่าง เกวน กับ จัสติน และ รัซเซล ได้ทวีตภาพตัวเองกับตัวละครอนิเมชั่นต่างๆในเรื่อง พร้อมกับคำแคปชั่น Hair we go!

เกวนให้เสียงพากย์ DJ Suki จัสตินพากย์เป็น Branch แอนนาพากย์เสียง Princess Poppy รัซเซลพากย์เสียง Creek และ เจมส์พากย์เสียง Diamond

นอกจาก จัสติน ทิมเบอร์เลก จะมีส่วนร่วมในการแสดงในอนิเมชั่นเรื่องนี้แล้ว เขายังมีส่วนร่วมในการเขียนเพลงประกอบให้กับตัวหนังอีกด้วย โดยจัสตินนั่งเก้าอี้  Executive Produce Music โดยอนิเมชั่นเรื่องนี้มีแปลนจะลงโรงฉายวันที่ 4 พฤศจิกายน 2016

โดยทางฝั่งดรีมเวิร์คส์ ได้กล่าวถึงจัสตินว่า “จัสตินเป็นศิลปินที่มีความหลากหลายอย่างน่ามหัศจรรย์มาก และเป็นผู้ผลิตที่มีความสร้างสรรค์เป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ยังให้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับหนังของเรา”

Trolls, จัสติน ทิมเบอร์เลก, รัซเซล แบรนด์, หนังอนิเมชั่น,เกวน สเตฟานี่, เจมส์ คอร์เดน, แอนนา เคนดริก