La princesse endormie...*
Group Blog
 
All blogs
 
++Welcome to San Francisco++

เป็นเวลาเกือบๆ 3 เดือนแล้ว
ที่สองเท้าของเราได้กลับมาเหยียบลงบนพื้นดินของลุงแซมอีกครั้ง
พื้นดินที่อยู่ไกลจากบ้านและครอบครัวอันเป็นที่รักเกือบๆหมื่นไมล์

ครั้งแรกที่มาอเมริกา ผ่านมาสี่ปีแล้ว
และมันก็แตกต่างจากการมาเยือนของเราในครั้งนี้อย่างสิ้นเชิง
ครั้งนั้นไม่ได้มาคนเดียว และก็ไม่ได้จะอยู่นาน
แต่ครั้งนี้มาคนเดียว ฉายเดี่ยว และ(มีแววว่า)จะได้อยู่นาน(กว่าที่คิด)

ครั้งที่แล้ว ไปฝั่งตะวันออกของประเทศ
ครั้งนี้ มาฝั่งตะวันตกมั่ง เปลี่ยนบรรยากาศ

ครั้งที่แล้ว ไปอยู่รัฐที่ขึ้นชื่อว่าหนาวยะเยือกเป็นอันดับต้นๆของเมกา
ครั้งนี้ มาอยู่เมืองที่ป็อปปูล่าเป็นอันดับต้นๆของเมกาเช่นเดียวกัน

"ซานฟรานซิสโก"

คือชื่อของเมืองที่เราจะต้องใช้ชีวิตอยู่ไปตลอด ในอีก3ปีข้างหน้า

.
.
.

วันแรกที่มาถึงซานฟรานฯ อากาศดีเริ่ดค่ะ
ขนาดเป็นเดือนม.ค. ที่ถ้าเป็นฝั่งตะวันออก คงหนาวจี๊ดกันไป
แต่วันที่เรามาถึง เหมือนเมกาจะยังปราณีคนมาจากประเทศร้อนตับแตกอย่างเราอยู่บ้าง
ก็เลยให้เราได้เจออาอากาศดีๆของซานฟราน วันท้องฟ้าแจ่มใส...

อยู่ๆไป พอเข้าเดือนกุมภาฯ
อ้าว ท้องฟ้าแจ่มใสของชั้นหายไปไหนซะแล้วเนี่ย?
ฝนมาซะงั้น เห้ย นี่มันฤดูไหนกันแน่นี่...
ที่นี่ ซานฟรานฯ ไม่มีหิมะค่ะ
แต่เรามีฝนให้คุณแทน ฮ่าๆๆ

ก่อนมาเจ้านายเก่าเคยบอกไว้ว่า
"แกจะไปซานฟรานเหรอ ไปทำไม ร้อนจะตาย เหมือนอยู่เมืองไทย"
ไอเราก็ เอ่อ..เอิ่ม..เหรอคะ?
นู๋นึกว่ามันก็พอเย็นๆซะอีก เห็นอยู่ค่อนไปทางเหนือของฝั่งตะวันตกแล้วนี่นา
"ม่ายยยยยยย ชั้นเคยอยู่เมกามาก่อน แกอย่าเถียง มันร้อน ร้อนพอๆกับแอลเอนั่นแหละ"

เราก็เลยคิดมาตลอดว่า
เอาล่ะไงตู อุตส่าห์มาเรียนเมืองนอกกะเค้า
เจือกเลือกเมืองที่อากาศไม่ต่างกับบ้านเราซะงั้น เฮ่อ นึกว่าจะได้มาเย็นสบายที่นี่ซักหน่อย

แต่พอมาอยู่ที่นี่จริงๆ
แรกๆก็ ว๊าย อากาศดีจัง ชอบๆๆๆ กำลังสบาย
แต่ไอความสบายที่ว่า ดันอยู่กับเราเพียงเดือนเดียว...
เพราะพอเข้าเดือนกุมภาฯปุ๊บ
อยากจะบอกว่าที่นี่มันหนาวนรกไม่แพ้ใครทีเดียวค่ะ
หนาวมากกกกกกกกกกกก หิมะน่ะไม่มี แต่ฝนที่นี่ยิ่งกว่าหิมะค่ะ
เพราะพอมีฝน ก็จะมีลมตามมา แล้วลมที่ซานฟรานฯนี่...
บอกได้คำเดียวว่า "ปราบเซียน" ค่ะ
ขนาดเราเป็นคนชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษ ยังแทบตายเมื่อเดือนกุมภาที่นี่
ทำไมมันหนาวยังงี้เว้ยยยยยยย

ที่อื่นเค้าเข้าหน้าหนาวกันปลายปี แล้วพอกุมภาฯก็จะเริ่มหนาวน้อยลง
แต่ที่นี่ ปลายปีก็เริ่มหนาวค่ะ แต่หนาวสุดเดือนกุมภาฯเนี่ยแหละ
หลังจากได้เผชิญความหนาวที่นี่ไปแบบเต็มๆในเดือนที่เพิ่งเปิดเทอม
เราก็รู้ซึ้งเลยว่า "เลือกมาไม่ผิดเมืองแล้ว" ฮ่าๆๆๆ
อยากได้หนาว ก็หนาวสมใจอยาก
ที่สำคัญ อยากจะโทรไป....เจ้านายเก่าจริงๆ
บอกมาได้ว่าร้อน อากาศเหมือนแอลเอ...
แอลเอบ้านป้าสิค่ะนี่

หลังจากได้ใช้ชีวิตที่นี่มาเกือบๆ 3 เดือน
เราก็ค้นพบแล้วว่า เราชอบเมืองนี้อยู่พอตัว และคงจะชอบเพิ่มไปอีกเมื่อได้อยู่นานกว่านี้ และทำความรู้จักคุ้นเคยกับมันให้มากกว่านี้

หลายอย่างที่เราชอบเกี่ยวกับเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็นอากาศ บรรยากาศเมือง หรือแม้แต่ไชน่าทาวน์
ทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุข โดยไม่เกิดอาการ homesick
งานนี้คงต้องขอบคุณไชน่าทาวน์เป็นพิเศษ เพราะไปทีไร รู้สึกคล้ายๆไปเยาวราช ฮ่าๆ
มีของแทบทุกอย่างที่เยาวราชมี เพราะงั้นเมื่อไหร่ที่เริ่มๆจะมีอาการคิดถึงบ้านกะเค้า อยากกินอาหารไทย ก็ไปซื้อของจากไชน่าทาวน์มาทำกินได้สบาย แถมที่นี่เราว่าติ่มซำอร่อยกว่าเมืองไทย อาจเป็นเพราะส่วนใหญ่เป็นคนจีนกวางตุ้งมาเปิดร้านกัน รสชาติก็เลยไปทางฮ่องกงแท้ๆซะมาก หวานสิค่ะงานนี้ เพราะเรายิ่งชอบกินอาหารฮ่องกงอยู่แล้วด้วย ไชน่าทาวน์ที่นี่มีทุกอย่างให้เลือกสรรจริงๆ

เสียอย่างเดียวก็ตรงที่คนขายส่วนใหญ่ไม่ค่อยพูดภาษาอังกฤษเนี่ยแหละ เลยก่อให้เกิดความลำบากในการจับจ่ายบ้างเป็นบางครั้ง
เพราะเมื่อไหร่ที่พวกเค้าเห็นหน้าเรา ก็จะยิงกวางตุ้งใส่มาเป็นชุดทันที คือเห็นหน้าหมวยๆปุ๊บ
เอาล่ะวะ มันต้องเป็นคนจีน(ที่พูดจีนได้)ชัวร์ป้าด งั้นเราพูดกวางตุ้งใส่ซะเลย
กลุ้มสิคะงานนี้ คือหน้าหมวยก็จริง แต่ตูพูดกวางตุ้งไม่ได้เฟร้ยยยยยยยยยย
แล้วที่ยิ่งทำให้รู้สึกง่อยเปลี้ยไปกันใหญ่ก็เพราะ ถึงจะพูดไม่ได้ แต่ดัน(เจือก)ฟังรู้เรื่องซะนี่ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นใบ้ แต่หูไม่หนวกยังไงยังงั้น

แต่ไปๆมาๆเราก็ช่างมันล่ะค่ะ แกไม่ฟังชั้นพูดอังกฤษก็ช่างเถอะ ใช้ภาษามือเอาละกัน ไม่ต้องพูดมาก ตราบใดที่กวางตุ้งชั้นยังไม่กระดิก ก็ภาษามือเนี่ยแหละช่วยชีวิตไปพลางๆ
แต่ก็นั่นละคะ ใช้ภาษามือ มันก็ไม่ได้ดั่งใจ จะเอาหนมจีบสามเข่ง ดันหยิบให้แค่สามลูก อะไรประมาณนั้น (แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้กินค่ะ คิดซะแบบนี้เพื่อความสบายใจ ฮ่าๆ)

อีกอย่างที่เราชอบเกี่ยวกับเมืองนี้ก็คือ มันเป็นเมืองที่อยู่ติดทะเลลลลลลลล นี่เอง...
ทำให้รู้สึกหายคิดถึงเมืองไทยไปได้บ้าง แม้ทะเลที่นี่จะไม่สวยเท่าเมืองไทยก็ตาม...
แต่ก็ยังดีที่มีทะเล เราจึงมีอาหารทะเลกินอย่างอุดมสมบูรณ์ เย่ๆๆๆ
ขอบอกว่าปูยักษ์ที่นี่ อร่อยมากค่ะ กินทีลืมตายกันไปเลยทีเดียว
ความอร่อยนี่พิสูจน์มาแล้ว ส่วนราคาก็อย่าไปคิดเป็นเงินไทยให้เสียอารมณ์ เพราะไม่งั้นคงจะกินไม่ค่อยลงเท่าไหร่

สรุปแล้ว เราว่าโดยรวม เมืองนี้น่าอยู่ทีเดียวค่ะ ไม่น่ากลัวเหมือน NYC คือย่านที่มันน่ากลัวแนวๆเดียวกันก็คงมีอยู่ แต่เราก็เลี่ยงไม่ไปซะ
แต่บรรยากาศโดยรวม ที่นี่น่าอยู่ค่ะ อากาศดีตลอดปี(ไม่นับกุมภานะ) อาหารการกินอูฟูมากซะจนเราคิดว่า อยู่ๆไปคงต้องอ้วนเป็นหมูแน่ๆเลย ฮือๆ

ที่สำคัญ คิดว่ามันคงจะกลายเป็นเมืองที่เปลี่ยนชีวิตเราไปหลังจาก 3 ปีแน่ๆเลย...

.
.
.

Even though this is just the beginning of a journey...
but you've got my first impression already, San Francisco...














Create Date : 28 มีนาคม 2552
Last Update : 28 มีนาคม 2552 7:10:39 น. 0 comments
Counter : 352 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

pampoentjie
Location :
San Francisco United States

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add pampoentjie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.